ฉีดโบท็อกไมเกรน แก้ปวดหัวเรื้อรัง เห็นผลมากแค่ไหน ต้องฉีดกี่ครั้ง ?

ฉีดโบท็อกไมเกรน

ไมเกรน (Chronic Migraine) หรือ อาการปวดศีรษะจากความเครียด (Tension Headache) เป็นโรคที่หลายคนอาจไม่รู้ว่าสามารถบรรเทาได้ด้วยการ ‘ฉีดโบท็อกไมเกรน’ เพราะจะคุ้นเคยกับการฉีดโบท็อกเพื่อความงามมากกว่า

ในบทความนี้หมอมีความรู้เกี่ยวกับการฉีดโบท็อกไมเกรนมาแนะนำครับ ว่าช่วยได้มากแค่ไหน? ต้องฉีดกี่ครั้ง? อันตรายไหม? หลังฉีดดูแลตัวเองอย่างไร เพื่อรักษาอาการปวดไมเกรนอย่างยั่งยืน

ฉีดโบท็อกไมเกรน คืออะไร ?

ฉีดโบท็อกไมเกรน คือ การฉีดสาร Botulinum toxin Type A หรือที่คุ้นเคยกันในชื่อโบท็อก ช่วยบรรเทาอาการปวดหัวเรื้อรัง ปวดไมเกรนได้ โดยวิธีนี้ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา US.FDA ในปี 2010 และอย.ไทย ว่าสามารถลดอาการปวดศีรษะได้จริง ซึ่งมีการใช้อย่างแพร่หลายทั่วโลกครับ

ฉีดโบท็อกไมเกรน เหมาะกับใคร ?

คนไข้ที่ต้องป้องกันอาการปวดหัวด้วยโบท็อกไมเกรน คือผู้ที่มีอาการปวดศีรษะไมเกรนรุนแรง รู้สึกปวดหัวบ่อย ๆ และไม่สามารถบรรเทาอาการด้วยการทานยาแก้ปวด หรือปวดศีรษะจากการทานยาแก้ปวดมากเกินไป รวมไปถึงผู้ที่มีความกังวลเกี่ยวกับการใช้ยามาก ๆ ซึ่งเสี่ยงต่อภาวะโรคกระเพาะอาหารอักเสบ แผลในกระเพาะอาหาร และความผิดปกติของค่าตับและไต

ลักษณะของอาการปวดหัวไมเกรน

ลักษณะของคนที่เป็นไมเกรน คือคนไข้ที่ปวดศีรษะอย่างน้อย 14 วัน/เดือน ขึ้นไปครับ โดยสามารถระบุอาการได้ ดังนี้

1. ปวดหัวบริเวณขมับตุบ ๆ หรือปวดร้าวมากบริเวณกระบอกตา, ท้ายทอย, ปวดหัวข้างเดียว (ไม่จำเป็นต้องปวดข้างเดียวเสมอไป บางรายอาจพบว่าปวดหัวทั้งสองข้าง)
2. รู้สึกปวดหัวเป็นครั้งคราว แต่เป็นบ่อย และมีความสัมพันธ์กับรอบประจำเดือน
3. คลื่นไส้อาเจียน
4. แพ้แสงจ้า แพ้เสียงดัง
5. ในบางกรณีอาจพบว่ามีอาการมองเห็นผิดปก หรือที่เรียกว่า อาการออร่า (migraine aura) โดยเห็นแสงระยิบระยับ เห็นแสงไฟสีขาว ๆ มีขอบหยึกหยัก (พบได้ก่อนเริ่มมีปวดหัวตามมา)

ฉีดโบท็อกไมเกรน ช่วยอะไรบ้าง ?

การฉีดโบท็อกไมเกรน ช่วยลดอาการปวดศีรษะ แม้ไม่ใช่วิธีการรักษาโรคแบบถาวร แต่ช่วยบรรเทาอาการได้มากครับ ซึ่งจะเห็นผลว่าอาการปวดศีรษะลดลง 60-70% หลังฉีด ช่วยลดความถี่ของอาการปวดไมเกรนได้ อีกทั้งยังได้ผลของการลดริ้วรอยร่วมด้วยครับ

กระบวนการรักษาไมเกรนด้วยการฉีดโบท็อกไมเกรน

สาเหตุที่ทำให้เป็นไมเกรน เกิดจากความผิดปกติทางพันธุกรรม สมองมีความไวต่อสิ่งกระตุ้น หรือเกิดการอักเสบของเส้นเลือด เส้นประสาท สมอง มักพบในคนที่อายุ 25-55 ปี และพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายครับ

การฉีดโบท็อกไมเกรน จะออกฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของปลายประสาทที่ทำหน้าที่ส่งสัญญาณความเจ็บปวดไปยังสมอง จึงช่วยบรรเทาและลดความรู้สึกปวดศีรษะได้ เมื่อใช้การฉีดโบท็อกไมเกรนแล้วอาจไม่จำเป็นต้องรับประทานยาแก้ปวดเป็นประจำอีก ปริมาณตัวยาที่ใช้ในการฉีดโบท็อกไมเกรนคือ 100 ยูนิต

จุดที่ใช้ฉีดโบท็อกไมเกรน : การฉีดโบท็อกไมเกรนหมอจะฉีดโบท็อกบริเวณรอบ ๆ ศีรษะ ระหว่างคิ้ว หน้าผาก ท้ายทอย ต้นคอ และบ่า

ฉีดโบท็อกไมเกรน ยี่ห้อไหนดี ?

โบท็อกมีหลายยี่ห้อทั้งจากประเทศอเมริกา อังกฤษ เยอรมัน เกาหลี ซึ่งยี่ห้อที่ได้รับความนิยมในไทย คือโบท็อกเกาหลี เช่น Nabota ที่ราคาไม่แพง ผ่านการรับรองจาก U.S.FDA approved ทั้งนี้ก่อนฉีดโบท็อก หมอจะแนะนำยี่ห้อที่เหมาะสมกับปัญหาและความต้องการของแต่ละเคส ส่วนข้อแตกต่างของโบท็อกแต่ละยี่ห้อ สามารถอ่านได้ในบทความ เลือกโบท็อกยี่ห้อไหนดี แต่ละยี่ห้อต่างกันอย่างไร ยี่ห้อไหนดี?

ฉีดโบท็อกไมเกรน อันตรายไหม ?

การฉีดโบท็อกไมเกรนได้รับการรับรองว่าได้ผล ช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะได้ จากทั้งองค์การอาหารและยาไทยและอเมริกา มีการใช้อย่างแพร่หลายทั่วโลก มั่นใจได้ว่าเป็นวิธีที่ปลอดภัย ไม่เป็นอันตรายครับ

โดยขั้นตอนการรักษาต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ที่มีประสบการณ์ และไม่ใช่แพทย์ทุกคนที่สามารถฉีดโบท็อกไมเกรนได้ครับ ต้องผ่านการอบรมหรือศึกษาเรื่องการฉีดเพื่อลดอาการไมเกรนโดยเฉพาะ เพื่อให้ฉีดได้ถูกตำแหน่ง และต้องใช้โบท็อกแท้เท่านั้น เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและมีความปลอดภัย

อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดโบท็อกอันตรายไหม ? ก่อนฉีด Botox ควรระวังอะไรบ้าง ?

ฉีดโบท็อกไมเกรน ต้องฉีดกี่ครั้ง ?

สามารถเห็นผลการฉีดโบท็อกไมเกรนได้ตั้งแต่การฉีดครั้งแรก และสามารถกลับมาฉีดซ้ำได้เมื่อยาหมดฤทธิ์ครับ แต่ไม่ควรฉีดโบท็อกถี่เกินไป อย่างต่ำควรเว้น 3 เดือน ตามที่แพทย์แนะนำ เนื่องจากโบท็อกติดต่อกันเป็นเวลานานและบ่อยเกินไป จะทำให้เกิดอาการดื้อโบท็อก ซึ่งในปัจจุบันหากดื้อโบท็อกแล้วยังไม่มีวิธีการรักษา จะฉีดโบท็อกไม่ได้ผลตลอดไปครับ

ฉีดโบท็อกไมเกรน กี่วันเห็นผล ?

การฉีดโบท็อกไมเกรน จะเห็นผลเต็มที่ใน 2 สัปดาห์หลังฉีด แต่ระหว่างนั้นจะเริ่มเห็นผลตั้งแต่ 3-4 วันแรก โดยผลการฉีดโบท็อกจะอยู่ได้นานประมาณ 3-4 เดือน ก่อนตัวยาจะหมดฤทธิ์

การดูแลหลังฉีดโบท็อกไมเกรน

แม้การฉีดโบท็อกจะช่วยบรรเทาอาการปวดได้ แต่เพื่อลดการแสดงอาการของโรค ควรดูแลตัวเองและหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่จะกระตุ้นให้ไมเกรนกำเริบขึ้น ดังนี้

1. หลีกเลี่ยงปัจจัยที่กระตุ้นให้ปวดไมเกรน
   • แสงไฟที่สว่างมาก แสงจ้า แสงแดด ไฟกระพริบ
   • อากาศร้อนมาก ๆ อากาศร้อนชื้น
   • พฤติกรรมที่ทำให้เป็นออฟฟิศซินโดรม เช่น ก้มหน้า เพ่งหน้าจอคอมฯ มือถือนาน ๆ จนกล้ามเนื้อบริเวณคอตึง ปวดร้าวกระบอกตา

2. หลีกเลี่ยงอาหารประเภท ชีส ผงชูรส แอลกอฮอล์ บุหรี่ น้ำตาลเทียม คาเฟอีน (ชา, กาแฟ)
3. พักผ่อนให้เพียงพอ ลดความเครียดลง
4. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ช่วยลดอาการปวดศีรษะไมเกรนให้ลดน้อยลงได้
5. รับประทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่

ฉีดโบท็อกไมเกรน ที่ไหนดี ?

การเป็นไมเกรนถือเป็นกลุ่มโรคที่ค่อนข้างรุนแรง ส่งผลต่อการใช้ชีวิต ไม่ควรซื้อยาทานเอง เพราะการปวดหัวอาจมาจากการทานยาแก้ปวดติดต่อกันมากเกินไปได้ รวมถึงการปวดศีรษะในบางครั้งอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงโรคร้ายแรงอื่น ๆ เช่น เลือดออกในสมอง เนื้องอก จึงควรอยู่ในความดูแลของแพทย์ที่มีความชำนาญครับ

1. คลินิกที่ได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข
2. แพทย์มีประสบการณ์ในการฉีดโบท็อกไมเกรน
3. ใช้โบท็อกแท้ ตรวจสอบได้ มีการนำเข้าอย่างถูกต้อง

อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดโบท็อกที่ไหนดี เลือกคลินิกอย่างไรให้ปลอดภัย ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ

อ้างอิง
https://americanheadachesociety.org/wp-content/uploads/2018/05/onabot-April-2014.pdf
https://www.accessdata.fda.gov/drugsatfda_docs/label/2011/103000s5236lbl.pdf