ร้อยไหมก้างปลา ที่ไหนดี
ร้อยไหมก้างปลา ที่ไหนดี? อยากปรับรูปหน้าให้เรียว ยกกระชับแก้มที่หย่อน เห็นผลลัพธ์หลังทำทันที โดยที่ราคาไม่แพง และยังไม่ทราบว่าต้องเลือกคลินิกอย่างไรจึงจะปลอดภัย และไม่ต้องกังวลกับผลข้างเคียง
บทความนี้หมอมีหลักการพิจารณาคลินิกมาแนะนำครับ เพื่อเป็นแนวทางในการเลือกคลินิกร้อยไหมก้างปลา ให้ได้มาตรฐาน และปลอดภัยมากที่สุด
ร้อยไหมก้างปลา เลือกคลินิกอย่างไร ให้ปลอดภัย เชื่อถือได้ ได้มาตรฐาน ?
เมื่อตัดสินใจว่าจะร้อยไหมก้างปลา แต่ยังลังเลว่าจะร้อยไหมก้างปลา ที่ไหนดี ที่ผลลัพธ์จะออกมาดูดี คุ้มค่ากับราคาที่จ่าย และปลอดภัย หมอแนะนำให้พิจารณาตามเช็คลิสต์ต่อไปนี้ครับ
การเลือกคลินิก
- คลินิกควรแสดง ชื่อ ภาพถ่าย รวมทั้งเลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก ของผู้ประกอบการ ให้เห็นได้อย่างชัดเจน
- คลินิกสะอาด เป็นระเบียบเรียบร้อย มีแสงสว่างเพียงพอ มองเห็นชัดเจน ห้องหัตถการกว้างขวาง
- อุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ที่ใช้ในการร้อยไหมในคลินิกจะต้องผ่านการฆ่าเชื้อ ถูกต้องตามหลักอนามัย
- คลินิกควรมีคุณหมอแบบ FullTime ประจำอยู่ด้วย
- สถานที่ตั้งของคลินิก ควรอยู่ในห้างสรรพสินค้า หรืออยู่ในบริเวณที่มีผู้คนผ่านเยอะในแต่ละวัน มีความปลอดภัย และเดินทางไปได้สะดวก โดยเฉพาะกรณีที่เกิดปัญหาที่ต้องรีบเข้ามาติดต่อที่คลินิก
- คลินิกควรมีช่องทางติดต่อ เบอร์โทรศัพท์ และช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ เช่น Line@ หรือ Facebook สำหรับให้คนไข้สามารถสอบถามข้อสงสัยกับคุณหมอที่ทำเคสของตนเองโดยตรงได้อย่างสะดวก
- ควรมีรีวิวจากผู้ที่เคยใช้บริการจริง เปรียบเทียบผลการรักษา ก่อนทำ-หลังทำ เพื่อประกอบการตัดสินใจ
การเลือกแพทย์ที่ทำการร้อยไหม
- มีป้ายประจำตัวเแพทย์ และเลขที่ใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม นำชื่อ – นามสกุลของหมอไปตรวจสอบกับเว็บไซต์แพทยสภาได้
- มีประสบการณ์ร้อยไหมก้างปลา อย่างน้อย 5 ปี
- เป็นแพทย์ประจำของคลินิก ไม่ใช่แพทย์ Part-time เพราะแพทย์ประจำจะสามารถดูแลเคสได้ต่อเนื่อง สามารถติดตามตัวได้ และย่อมที่จะรักษาชื่อเสียงของคลินิก
- พิจารณาจากรีวิวในแหล่งที่เชื่อถือได้ เช่น pantip, facebook ที่คลินิกไม่สามารถลบข้อความได้ ว่ามีที่ผ่านมาเคยมีผู้ที่เข้ารับการร้อยไหมจากคุณหมอท่านนั้นมากน้อยเพียงใด และคุณหมอเคยมีประสบการณ์ด้านร้อยไหมเพื่อปรับรูปหน้ามาเยอะหรือไม่ และคำบอกเล่าประสบการณ์จากผู้ใช้บริการจริง
- หากมีคลิปรีวิว ที่ไม่ได้มีการแต่งภาพเพิ่ม จะยิ่งเพิ่มความน่าเชื่อถือได้ครับ
- สามารถเข้าไปปรึกษาและตรวจประเมินอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจทำได้
ร้อยไหมก้างปลากับแพทย์ที่มีประสบการณ์ ดีอย่างไร ?
แพทย์ที่มีประสบการณ์ จะสามารถประเมินโครงสร้างใบหน้า และแก้ปัญหาได้ตรงจุด เลือกใช้ชนิดของไหมและคำนวณปริมาณไหมที่ต้องใช้ได้อย่างถูกต้องเหมาะสม จากประสบการณ์ที่ดูแลคนไข้มาหลายเคส
เช่นในกรณีที่คนไข้มีอายุมาก โครงสร้างผิวมักจะขาดคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ก่อนที่ไหมจะละลายไปหมดผิวอาจจะหลุดออกจากเส้นไหมไปได้ การยกพยุงจึงอยู่ได้เป็นระยะเวลาที่สั้นลงกว่าที่ควรหมอที่มีประสบการณ์จะสามารถวางแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสมกับปัญหาที่คนไข้กังวลใจ
นอกจากนี้ หมอจะประเมินและแนะนำได้ว่าควรทำหัตถการใดเพิ่มเติมควบคู่กัน เช่น การเติมฟิลเลอร์ โบท็อกลดริ้วรอย การทำ Hifu ยกกระชับ ฯลฯ เพื่อให้ใบหน้าโดยรวมออกมาดูดีที่สุดครับ
ข้อดีของการร้อยไหมก้างปลา
ร้อยไหมก้างปลา เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาแก้มหย่อนคล้อย ไม่กระชับ หมอจะใช้เส้นไหมที่มีลักษณะเป็นเงี่ยง ร้อยดึงแก้มส่วนล่างจนถึงไรผมบริเวณขมับ ทำให้เห็นว่ายกกระชับขึ้นได้ทันที ซึ่งการร้อยไหมก้างปลามีข้อดีดังต่อไปนี้
- ใช้เวลาทำ 30 – 45 นาที ไม่ต้องพักฟื้น
- โอกาสบวมช้ำขึ้นกับเทคนิคของแพทย์ จะหายได้เองใน 7 – 14 วัน
- เห็นผลหลังทำทันที จะเข้าที่เต็มที่ภายใน 1 เดือน
- อยู่ได้ 4 – 12 เดือน ขึ้นกับชนิดของไหมที่ใช้ การดูแลตนเองหลังทำ และปริมาณอิลาสตินในผิวหนังคนไข้เอง ไหมละลายได้เอง 100% ไม่มีสารตกค้าง
- สามารถร้อยไหมเพิ่มได้เรื่อยๆ
- ถ้าร้อยไหมมาแล้วไม่ชอบ ไม่มีวิธีสลายออก ต้องรอให้สลายไปเองตามธรรมชาติ
ไหมแต่ละชนิดต่างกันอย่างไร ?
ไหมก้างปลา PDO (Polydioxanone)
- เป็นไหมชนิดแรกที่นำมาใช้ในวงการเสริมความงาม เป็นที่นิยมใช้มากที่สุดในปัจจุบัน
- ยืดหยุ่นปานกลาง นิ่ม ไม่เปราะ
- ขณะที่ร้อย จะไม่รู้สึกระคายเคือง
- ไหมละลายหมดประมาณ 6 เดือน แต่สามารถกระตุ้นในเกิดการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวได้ดี จึงอาจเห็นว่าผิวยกกระชับขึ้นกว่าตอนก่อนร้อยได้ถึง 12 เดือนในบางราย
ไหมก้างปลา PLLA (Poly-L-Lactic Acid)
- ทนต่อแรงดึงได้ดีที่สุด แต่ไม่ค่อยยืดหยุ่น บาง เปราะ ขาดง่าย
- ไหมจะอยู่ได้ประมาณ 1 ปี แต่ด้วยคุณสมบัติที่เปราะ ขาดง่าย จากการนำมาใช้จริงพบว่าอยู่ได้ไม่ถึง 1 ปี
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ดีที่สุด สามารถใช้แทนฟิลเลอร์หรือโบท็อกเพื่อลดริ้วรอย แต่มีความเสี่ยงในการใช้ จึงไม่เป็นที่นิยม
ไหมก้างปลา PLLA (Poly-L-Lactic Acid)
- เป็นไหมใหม่ล่าสุด เส้นไหมสีขาว ขนาด USP2 เส้นใหญ่ที่สุด
- จุดเด่นคือมีความยืดหยุ่นสูงที่สุด แข็งทน ไม่เปราะหักง่าย
- ไหมจะละลายหมดใน 12 – 18 เดือน แต่ในบางเคสที่ผิวขาดคอลลาเจนหรืออิลาสตินมากๆ ผิวจะหลุดจากเส้นไหมก่อนที่ไหมละลายหมด อาจเห็นผลได้ไม่นานถึง 18 เดือน
- ในปัจจุบัน ได้มีการนำ PLLA มาผสมในไหม PCL รุ่นล่าสุด เพื่อนำคุณสมบัติการสร้างคอลลาเจนได้ดี มาช่วยให้โครงสร้างผิวแข็งแรงขึ้นหลังจากที่ร้อยไหมและสามารถอยู่ได้นาน ไหม PCL+PLLA จึงเป็นไหมที่ดีที่สุดในขณะนี้ครับ
ร้อยไหมก้างปลา ราคา
โปรโมชั่น ร้อยไหมหน้าเรียว ราคาพิเศษ จาก V Square Clinic
ร้อยไหม ก้างปลา วัสดุPDO (อยู่ได้ 4-5 เดือน)
6 เส้น ร้อยไหม ราคา 8,900.-
10 เส้น ร้อยไหม ราคา 13,000.-
ร้อยไหม ก้างปลา วัสดุ PCL (อยู่ได้ 1 ปี)
4 เส้น ร้อยไหม ราคา 14,000.-
6 เส้น ร้อยไหม ราคา 18,000.-
10 เส้น ร้อยไหม ราคา 25,000.-
อ่านบทความเพิ่มเติม : ร้อยไหม ราคา ที่ V Square Clinic โปรโมชั่นพิเศษ เพื่อใบหน้าเรียวสวย ยกกระชับ
รีวิว ร้อยไหมก้างปลา
ตัวอย่างภาพรีวิวร้อยไหมก้างปลา
ร้อยไหมก้างปลา ที่ไหนดี ก่อนตัดสินใจร้อยไหมกับคลินิกแห่งใดก็ตาม คนไข้ควรศึกษาข้อมูลและพิจารณารายละเอียดต่าง ๆ ดังที่คุณหมอได้แนะนำไว้ด้านบนนี้ โดยเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและหมอที่มีความเชี่ยวชาญเป็นหลัก เพื่อมั่นใจได้ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นที่น่าพึงพอใจ และปลอดภัยมากที่สุดครับ
V square clinic เป็นคลินิกที่สั่งสมประสบการณ์ด้านการปรับรูปหน้ามาอย่างยาวนาน เน้นย้ำด้านความปลอดภัยและการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน แพทย์มีประสบการณ์มากกว่า 15 ปี มั่นใจได้ว่าร้อยไหมก้างปลาแล้วจะได้ผลลัพธ์สวยถูกใจ ปลอดภัยและคุ้มค่าแน่นอนครับ
สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้ง 30 สาขา หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ