ไหมโครงตาข่าย

ไหมโครงตาข่าย

ใครที่อยู่ในแวดวงเสริมความงามหรือสนใจปรับรูปหน้าเรียว ลดริ้วรอย ดูแลรูปหน้าของตนเองอยู่เป็นประจำ คงจะเคยได้ยินการร้อยไหมที่เรียกว่า “ไหมตาข่าย” กันมาบ้างแล้ว ซึ่งกำลังเป็นที่พูดถึงกันเป็นอย่างมาก ในด้านของการยกกระชับ ลดความหย่อนคล้อยของใบหน้า การปรับรูปหน้าเรียว รวมถึงการยกหางตา ยกคิ้ว

แต่หลายคนก็ยังไม่ทราบว่าไหมตาข่ายคืออะไร ? ดีไหม ? อันตรายหรือไม่ ? ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ? เหมาะกับรูปหน้าแบบไหน ? ราคาเท่าไหร่ ? หมอจะมาอธิบายให้กระจ่างในบทความนี้ครับ รวมถึงแนะนำวิธีการเลือกคลินิกและการดูแลตนเองก่อน-หลังร้อยไหมตาข่ายครับ

ไหมโครงตาข่าย คืออะไร ?

ไหมโครงตาข่าย (Mesh Scaffold Thread Lift) หรือ ไหม Tesslift เป็นนวัตกรรมการร้อยไหมแบบใหม่จากประเทศเกาหลี ตัวเส้นไหมทำจากวัสดุ PDO (Polydioxanone) สลายได้เองตามธรรมชาติ และใช้หลัก Biomedical engineering ในการออกแบบโครงสร้างเส้นไหมเป็น ไหมเป็นรูปแบบโครงตาข่าย (Mesh threads)

ไหมโครงตาข่าย เป็นการร้อยไหมก้างปลาชนิดหนึ่งครับ โดยจะใช้ไหมเงี่ยงหรือไหมก้างปลาเส้นยาว มีเงี่ยงโดยรอบเส้นไหมทั้ง 360 องศา และมีโครงสร้างพิเศษคือมีไหมแบบตาข่ายคลุมรอบเส้นไหมอีกชั้น เพื่อเพิ่มความแข็งแรงในการดึงยกกระชับผิว และเพิ่มพื้นที่ผิวสำหรับการสร้างคอลลาเจน

เมื่อไหมถูกสอดเข้าผิว เนื้อเยื่อ คอลลาเจน อิลาสตินที่ร่างกายสร้างขึ้นมาใหม่จะแทรกเข้าช่องว่างของตาข่ายได้รอบทิศทาง ทำให้เนื้อเยื่อเกิดการประสานและเกิดแรงยึดเกาะของผิวกับเส้นไหมได้มากขึ้น เกิดการยกกระชับได้ดีและอยู่ได้นานขึ้นครับ

ไหมโครงตาข่าย พัฒนาและผลิตโดยบริษัท Tesslift ในประเทศเกาหลี เป็นการร้อยไหมหน้าเรียว ใช้ร้อยเพื่อยกกระชับแก้มที่มีความหย่อนคล้อย ช่วยให้หน้าเรียว วีเชฟ หรือปรับสมดุลของใบหน้าซ้ายขวาให้สมดุลกันมากขึ้นได้ นอกจากนี้ ยังสามารถนำไปร้อยบริเวณหางตา บริเวณคิ้ว เพื่อยกคิ้ว ยกหางตา ทำ foxy eyes ได้อีกด้วยครับ

ไหมโครงตาข่าย ปลอดภัยไหม ?

ไหมโครงตาข่าย ผลิตจากวัสดุ PDO ที่มีความปลอดภัย เป็นไหมละลายที่สามารถสลายได้เองและเป็นที่ยอมรับในวงการแพทย์ ผลิตภัณฑ์ผ่านการรับรองโดยสำนักงานอาหารและยาประเทศเกาหลี (Korean FDA) และ สำนักงานอาหารและยาประเทศไทย (Thai FDA) ครับ

ลักษณะของไหมโครงตาข่าย

หากจะอธิบายถึงลักษณะของไหมโครงตาข่าย หมอจะแยกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนของไหมเงี่ยงและส่วนของโครงตาข่าย ครับ

ส่วนไหมเงี่ยง (Barb threads) คือส่วนที่อยู่แกนกลางของไหม Tesslift soft (Central barb threads) เป็นไหมเส้นยาวสีน้ำเงิน มีเงี่ยงเรียงกันโดยรอบทั้ง 360 องศา เมื่อร้อยเข้าชั้นผิว เงี่ยงจะเกี่ยวและดึงยกผิวให้เกิดความกระชับครับ

ส่วนโครงตาข่าย (Mesh treads) ทำจากวัสดุ PDO เช่นเดียวกัน ผลิตจากการสังเคราะห์เส้นใยพอลิเมอร์เส้นเดี่ยว แล้วนำมาทอแบบพิเศษให้เป็นโครงตาข่าย ตามหลัก Biomedical engineering และนำมาคลุมรอบไหมเงี่ยง เพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับเส้นไหม ทนแรงต้านได้ดีกว่าไหมเงี่ยงทั่วไปถึง 80 เท่า และช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้มากขึ้น เพิ่มแรงยกกระชับให้คงผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้นครับ

โครงสร้างไหมโครงตาข่าย

ไหมโครงตาข่าย แตกต่างกับไหมชนิดอื่นอย่างไร ?

ไหมโครงตาข่ายจัดอยู่ในกลุ่มไหมที่มีเงี่ยง ต่างจากการร้อยไหมคอลลาเจน ไหมเกลียว ไหมเรียบ ที่เป็นไหมเส้นตรงยาว ไม่มีเงี่ยงหรือส่วนที่แยกออกมาจากแกนกลางไหมครับ ไหมโครงตาข่ายจึงเหมาะกับการยกกระชับหน้าเรียว ดึงแก้มที่หย่อนคล้อยให้ตึงกระชับหน้าวีเชฟมากขึ้น

นอกจากนี้ ไหมโครงตาข่ายยังแตกต่างจากไหมก้างปลาแบบอื่น ๆ เช่น ไหมก้างปลา ไหมมิ้น คือจะมีโครงสร้าง 2 ส่วน คือ ส่วนที่เป็นไหมก้างปลา และส่วนที่เป็นตาข่ายคลุมรอบเส้นไหมอีกชั้น ทำให้เกิดแรงยกกระชับมากขึ้น กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวได้มากขึ้น และคงผลลัพธ์ได้นานมากขึ้นครับ ซึ่งไหมก้างปลาโดยทั่วไปจะไม่มีโครงตาข่ายคลุมรอบเส้นไหมนี้ครับ

เทคนิคการร้อยไหมโครงตาข่าย

เทคนิคการร้อยไหมโครงตาข่าย มีส่วนสำคัญที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการร้อยไหม โดยหมอจะมีขั้นตอนหลัก ๆ ในการร้อยไหมโครงตาข่าย ดังนี้ครับ

เทคนิคการร้อยไหมโครงตาข่าย
  1. หมอจะประเมินปัญหาของแต่ละเคส ประเมินโครงสร้างใบหน้า และวางแนวทางการร้อยไหมก่อน จากนั้นจะทำการสอดเข็มที่มีไหมโครงตาข่ายเข้าไปยังชั้นใต้ผิว (Subcutaneous layers)
  2. ทำการดึงเข็มกลับทิศทางเดิมและวางแนวไหมจนถึงตำแหน่งที่ต้องการ จะเกิดตำแหน่งขนานกันของเส้นไหม เรียกว่า Double Parallel positioning of 3D mesh ในบริเวณที่ขนานกันนี้จะเกิดการสร้างเนื้อเยื่อผิวขึ้นมาใหม่รอบทิศทาง ทำให้เส้นไหมยึดเกาะกับผิวได้ดียิ่งขึ้น
  3. ดึงเข็มออกจนพ้นชั้นบนของผิว เพื่อเตรียมการร้อยในแนวที่ 2
  4. สอดเข็มกลับเพื่อนำเส้นไหมส่วนที่เหลือเข้าชั้นผิว จะทำให้เกิดแนวไหมอีกแนวหนึ่ง
  5. ดึงเข็มออกจนพ้นชั้นบนของผิวอีกครั้ง จะทำให้เกิดจุดที่เส้นไหมขนานกัน 3 เส้น เรียกว่า Triple Parallel positioning of 3D mesh เพื่อเพิ่มความแข็งแรงในการตรึง และการวางไหมลักษณะนี้มีส่วนสำคัญทำให้เกิดการกระจายแรงของเส้นไหมทั้งเส้น ส่งผลให้คนไข้รู้สึกตึงหรือเจ็บน้อยลง เบาสบายผิวมากขึ้น

ไหมโครงตาข่าย ใช้กับตำแหน่งไหนได้บ้าง ?

  • ร้อยไหมโครงตาข่ายยกแก้ม เก็บกรอบหน้าเรียว
  • ร้อยไหมโครงตาข่ายลดแก้มตอบ
  • ร้อยไหมโครงตาข่ายในจุดที่ผิวที่ไม่กระชับ มีความหย่อนคล้อย
  • ร้อยไหมโครงตาข่ายยกหางตา Foxy eyes
  • ร้อยไหมโครงตาข่ายยกหนังตา ยกเปลือกตา
  • ร้อยไหมโครงตาข่ายจมูก ปีกจมูก สันจมูก

ไหมโครงตาข่าย เหมาะกับใคร ?

  • คนที่ต้องการยกแก้มที่หย่อนคล้อยตามวัย อยากปรับรูปหน้าเรียว หน้าวีเชฟ
  • คนที่ต้องการแก้แก้มตอบ มีไขมันแก้มหย่อนคล้อย ขาดคอลลาเจน
  • คนที่มีปัญหาผิวที่ไม่กระชับ มีริ้วรอยบางบริเวณ เช่น หน้าผาก ร่องแก้ม ร่องมุมปาก สามารถร้อยไหมโครงตาข่ายเสริมกับการฉีดฟิลเลอร์เพื่อเติมเต็มร่องลึก หรือเพิ่มความแน่นกระชับให้ผิว
  • คนที่ตาตก หางตาตก ต้องการยกหางตา ทำ Foxy eyes เพิ่มความสดใสให้ใบหน้า
  • คนที่หนังตาตก เปลือกตาตก หย่อนคล้อย ใบหน้าดูเศร้า สามารถใช้การร้อยไหมโครงตาข่ายเพื่อยกหนังตา ดวงตากลมโต ดูสดใสขึ้น
  • คนที่ต้องการสันจมูกชัด ปีกจมูกกว้าง โดยต้องใช้ไหม Tesslift soft สำหรับจมูกโดยเฉพาะ

ผลลัพธ์หลังร้อยไหมโครงตาข่าย

หลังเข้ารับการร้อยไหมโครงตาข่าย จะเห็นได้ว่าบริเวณที่ร้อยไหม โดยเฉพาะแก้มที่หย่อนคล้อยจะถูกยกกระชับขึ้นทันที หน้าเรียวขึ้น ร่องแก้ม ร่องมุมปาก จะดูตื้นขึ้นเพราะแรงดึงของเส้นไหมครับ

หลังจากนั้น 3-4 ชั่วโมง บางรายจะมีอาการบวมจากการร้อยไหม และอาจบวมได้ถึง 7-14 วัน ในช่วงนี้จึงไม่สามารถประเมินรูปหน้าที่แท้จริงได้ครับ ต้องรอยุบบวมและร้อยไหมเข้าที่เต็มที่ประมาณ 1 เดือน

ในช่วง 1 เดือนหลังร้อยไหมโครงตาข่าย จะเป็นช่วงที่ผิวมีการสร้างคอลลาเจนได้เต็มที่ ผิวบริเวณที่ร้อยไหมจะแน่นกระชับขึ้น อาการบวมยุบลงหายสนิท จึงเป็นช่วงที่จะเห็นผลลัพธ์หลังร้อยไหมตาข่ายได้ชัดเจนที่สุดครับ

อ่านบทความเพิ่มเติม : ร้อยไหมกี่วันเห็นผล ? อยู่ได้นานไหม กี่ปี กี่วันเข้าที่ หายบวม

ขั้นตอนการร้อยไหมโครงตาข่าย

  1. หมอประเมินรูปหน้าและซักประวัติเดิม สอบถามความต้องการของคนไข้ ให้คำปรึกษาและแนะนำวิธีแก้ไขปัญหาจุดที่คนไข้มีความกังวล
  2. หลังจากการประเมิน หากผู้เข้ารับบริการมีความพร้อมและตัดสินใจร้อยไหมโครงตาข่าย ก็สามารถเข้าสู่กระบวนการร้อยไหมได้เลยครับ และควรแจ้งประวัติการแพ้ยา วิตามินและยาที่ทานประจำ (ก่อนร้อยไหมควรงดยาและวิตามิน เช่น แอสไพริน, NSAIDs, ginseng และ Vitamin E) พร้อมแจ้งประวัติการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด
  3. ทายาชาบริเวณผิวเพื่อลดความเจ็บก่อนได้
  4. แพทย์จะทำการฉีดยาชาและร้อยไหมตามแนวที่ได้วางแผนไว้ โดยจะใช้เวลาร้อยไหมโครงตาข่ายทั้งหมดรวมประมาณ 45-60 นาทีครับ

รีวิวหลังร้อยไหมโครงตาข่าย

รีวิวร้อยไหมโครงตาข่ายที่ V Square Clinic

รีวิวร้อยไหมตาข่าย 1
รีวิวร้อยไหมตาข่าย 2

(หลังร้อยไหมยกหางตา Foxy yes ด้วยไหมโครงตาข่าย เห็นผลว่าหางตา หนังตา ยกขึ้นหลังทำทันที)

ไหมโครงตาข่าย ราคาเท่าไหร่ ?

ร้อยไหมราคาเท่าไหร่ ร้อยไหมโครงตาข่ายราคาต่างจากไหมชนิดอื่นไหม ? คำตอบของหมอคือ ร้อยไหมโครงตาข่ายจะมีราคาสูงเมื่อเทียบกับไหมแบบอื่นที่ใช้วัสดุเดียวกันครับ แต่ก็ได้มาด้วยการคงผลลัพธ์ที่ยาวนานขึ้น กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ดีมากขึ้นครับ

ราคาร้อยไหมตาข่าย

ราคาโปรโมชั่น ไหมโครงตาข่าย Tesslift soft

4 เส้น 20,000.-
6 เส้น 28,000.-
8 เส้น 35,000.-

ราคาโปรโมชั่น ไหมโครงตาข่าย Tesslift soft Foxy eyes

2 เส้น 25,000.-
4 เส้น 40,000.-

การดูแลหลังไหมโครงตาข่าย

หากต้องการคงผลลัพธ์หลังร้อยไหมโครงตาข่ายให้อยู่ได้นานขึ้น และลดอาการบวมช้ำหลังร้อยไหม หมอแนะนำให้ปฏิบัติตามนี้ครับ

  1. งดการอ้าปากกว้าง ๆ เช่น การแปรงฟันแรง ๆ หรือ การอ้าปากทำฟัน ทั้งนี้ เพื่อลดความเสี่ยงการดึงรั้งของเส้นไหมในผิว ในช่วง 1 เดือนแรก
  2. งด หรือ หลีกเลี่ยง การสูบบุหรี่และแอลกอฮอล์ เพราะเป็นตัวการทำร้ายผิว ทำให้ผิวเสื่อมสภาพเร็วยิ่งขึ้น
  3. งดนวดหน้าหรือทำทรีทเม้นต์ ในระยะ 14 วันหลังร้อยไหม หรือ 48 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย
  4. แนะนำให้ดื่มน้ำปริมาณมาก ๆ ประมาณ 1.5 – 2 ลิตรต่อวัน เพื่อช่วยให้ผิวเต่งตึง สุขภาพดี และรักษาสภาพผิวให้มีความชุ่มชื้นอยู่เสมอ

ข้อดี ข้อเสีย ไหมโครงตาข่าย

ข้อดีไหมโครงตาข่าย

  1. เห็นการเปลี่ยนแปลงหลังทำทันที
  2. ไหมโครงตาข่ายเป็นวัสดุที่ละลายได้หมด 100% ตามระยะเวลา ไม่มีส่วนผสมของโลหะ ไม่มีสารตกค้าง
  3. ไหมวัสดุ PDO ได้รับการรับรองจาก อย. ทั้งไทยและต่างประเทศ
  4. ไหมจะกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินขึ้นมาด้วย จึงช่วยประคองผิวต่อได้หลังไหมละลายหมด
  5. ร้อยไหมโครงตาข่ายยกแก้มอยู่ได้นาน 8-12 เดือน ส่วนร้อยไหมโครงตาข่ายยกหางตาจะอยู่ได้ 4-5 เดือน ซึ่งอยู่ได้นานกว่าไหมก้างปลา PDO แบบอื่น ๆ

ข้อเสียไหมโครงตาข่าย

  1. หากร้อยไหมด้วยเทคนิคที่ไม่ถูกต้องหรือร้อยตื้นเกินไป จะเกิดรอยบุ๋ม รอยยุบผิวตามแนวที่ร้อยไหมได้
  2. หากร้อยซ้อนทับกันหลายเส้นมากเกินไปและอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ถูกต้อง อาจทำให้เกิด พังผืด (fibrosis) ได้ หรือถ้าร้อยผิวชั้นตื้นเกินไป ก็จะดึงรั้งผิวให้ผิดรูปได้ และมีโอกาสเกิดไหมขาด ไหมหัก ถ้าแพทย์ไม่ชำนาญมากพอ
  3. มีความเสี่ยงที่จะเกิดการบวมช้ำหลังทำค่อนข้างสูง ทั้งจากการฉีดยาชา และเลือดที่ออกใต้ผิวหนัง
  4. ราคาสูงกว่าไหมก้างปลาแบบอื่น ๆ แต่ก็อยู่ได้นานกว่าและผิวยกกระชับได้นานกว่าจากคอลลาเจนที่สร้างรอบเส้นไหมตาข่าย

สรุปร้อยไหมโครงตาข่ายดีไหม

ร้อยไหมโครงตาข่ายเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการปรับหน้าเรียว ยกกระชับแก้มที่หย่อนคล้อย ช่วยให้ผิวกระชับแน่นขึ้นและอยู่ได้นานกว่าร้อยไหมก้างปลาวัสดุ PDO แบบอื่น ๆ แต่การร้อยไหมโครงตาข่ายให้เห็นผลลัพธ์ที่ดีและโอกาสเกิดผลข้างเคียงน้อย ควรทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ในการปรับรูปหน้าสูง และทำในคลินิกที่ได้มาตรฐานเท่านั้นครับ

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้ง 30 สาขา หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ สามารถศึกษานโยบายความเป็นส่วนตัวและจัดการความเป็นส่วนตัว ได้ที่ปุ่มตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า