ฉีดปากกระจับอันตรายไหม ? ต่างจากการผ่าตัดอย่างไร ก่อนตัดสินใจควรรู้อะไรบ้าง ?

ฉีดปากกระจับอันตรายไหม ?

ฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับอันตรายไหม ?  ข้อสงสัยนี้หมอมีคำตอบมาให้ครับ 

การฉีดปากกระจับ คือการใช้ฟิลเลอร์ (Hyaluronic acid) ฉีดเติมไปที่ริมฝีปาก ปรับจัดทรงให้เป็นปากกระจับ หรือรูปทรงปากที่มีลักษณะเนื้อบริเวณริมฝีปาก ทั้งส่วนบนและล่าง ได้รูปสวยงามรับกับใบหน้า  รูปทรงปากมีความโค้งเรียวสวย ช่วยให้รูปปากสวยงามรับกับใบหน้า

การฉีดปากกระจับเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน เพราะเห็นผลเร็ว ไม่มีแผล ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น  แต่ความนิยมมักมาพร้อมข้อสงสัยครับ หลังฉีดมีผลข้างเคียงหรือไม่ ? รวมถึงอะไรบ้างที่ต้องระวัง ? ทุกข้อมูลที่ควรรู้พร้อมแนวทางการเตรียมตัวก่อนตัดสินใจฉีดหมอรวบรวมมาไว้ให้แล้วครับ 

ฉีดปากกระจับอันตรายไหม ?

ฉีดปากกระจับ อันตรายไหม ? คำตอบคือไม่อันตรายครับ หากฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ ใช้ฟิลเลอร์แท้ เนื้อที่เหมาะสม ภายใต้คลินิกที่ได้มาตรฐาน สะอาด ปลอดเชื้อ

การฉีดปากกระจับในวงการความงามจะใช้ฟิลเลอร์แท้ สารไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) หรือ “HA” เท่านั้น เพราะมีความปลอดภัยสูง สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ 100% หรือถ้าไม่พอใจ อยากปรับรูปทรงปากแบบอื่น ๆ เช่น ฉีดปากเกาหลี หรือฉีดปากสายฝอ ก็สามารถฉีดสลายได้ทันทีครับ

ทำปากกระจับแบบไหนที่อันตราย ?

วิธีการทำปากกระจับในปัจจุบัน มี 2 วิธี คือ 1. ฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับ 2. ผ่าตัดศัลยกรรมปรับทรงปากกระจับ ซึ่งทั้ง 2 วิธี มีความปลอดภัยครับ หากทำอย่างเหมาะสม ถูกต้อง เพียงแต่มีความเสี่ยงที่มากน้อยต่างกัน

• ฉีดฟิลเลอร์ปาก

ข้อดี ของการฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับคือมีความปลอดภัยสูง ความเสี่ยงน้อย เพราะเป็นหัตถการที่ไม่มีแผล ไม่ทำให้รูปปากเสียทรงหากต้องการแก้ไขเปลี่ยนทรงใหม่ หลังทำไม่ต้องกังวลกับการดูแล โดยหลังฉีดสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันที และสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ

ข้อเสีย ของการฉีดฟิลเลอร์คือไม่ถาวรครับ การฉีดฟิลเลอร์ปากสามารถคงผลลัพธ์ได้นานประมาณ 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์ และวิธีการดูแลตัวเองหลังฉีด 

ฉีดปากกระจับแบบไหนอันตราย ?

การฉีดฟิลเลอร์ปากต้องมั่นใจว่าฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ ใช้ฟิลเลอร์แท้ประเภท HA เท่านั้นถึงจะมีความปลอดภัย ซึ่งต่างจากการฉีดฟิลเลอร์ปลอม (ซิลิโคนเหลว) ที่อันตรายมาก ๆ เพราะไม่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ เสี่ยงปากเน่า ปากเสียทรง ในที่นี้ยังรวมถึงฟิลเลอร์หิ้ว แอบนำเข้ามาอย่างผิดกฎหมาย ที่แม้จะเป็น HA แต่เสื่อมสภาพครับ เพราะไม่มีการควบคุมอุณหภูมิตัวยา เมื่อนำมาฉีด อาจทำให้อักเสบ ติดเชื้อได้ อ่านเพิ่มเติมได้ในบทความ รวมข้อที่ควรรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์ครั้งแรก มีความเสี่ยงอะไรบ้าง [ อัพเดท2024 ]

• ผ่าตัดศัลยกรรมปาก

ข้อดี การผ่าตัดศัลยกรรมปากกระจับ เป็นวิธีปรับทรงปากให้เป็นกระจับได้อย่างถาวร สามารถทำให้ผู้ที่มีปัญหาปากหนา ปากใหญ่ได้ ช่วยให้รูปปากเล็กลง เป็นกระจับสวยได้อย่างเห็นผล

ข้อเสีย หลังผ่าตัดปากจะมีรอยแผลจากการผ่าตัด คนไข้ต้องเจ็บตัว และต้องใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นนาน และต้องกลับไปตัดไหม พร้อมทั้งดูแลแผลผ่าตัดเป็นอย่างดีเพื่อลดโอกาสแผลอักเสบติดเชื้อ 

ผ่าตัดปากแบบไหนอันตราย ?

การทำปากกระจับโดยการผ่าตัดต้องใช้เทคนิค ความชำนาญทางด้านการศัลยกรรมของแพทย์ หากแพทย์ไม่เก่ง คลินิกไม่ได้มาตรฐาน จะอันตรายมากครับ อาจตัดเนื้อปากไม่เหมาะสม เย็บแผลไม่สวย ทำให้ปากบางไป  เสียทรง ปากไม่เท่ากัน รวมถึงหากดูแลแผลไม่ดี อาจติดเชื้อ แผลเน่า ทำให้ใช้เวลาพักฟื้นนานกว่าเดิมครับ

หากใครอยากเห็นผลลัพธ์ทันที ไม่อยากมีแผล ไม่อยากเสียเวลาพักฟื้น หรือยุ่งยากในการดูแลแผล กลับมาเติมฟิลเลอร์ได้เรื่อย ๆ การฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับ ถือเป็นทางเลือกที่ดีครับ และการฉีดฟิลเลอร์ปากราคา ไม่สูงมาก โดยฟิลเลอร์ปากที่ได้ความนิยมคือฟิลเลอร์ Restylane Kysse อยู่ได้นาน 12 เดือน ครับ

ข้อควรระวังหลังฉีดปากกระจับ

หลังฉีดฟิลเลอร์ปากจะมีอาการบวมเล็กน้อยเป็นปกติ สามารถหายได้เอง ประมาณ 4-5 วัน ไม่ต้องพักฟื้น โดยคนไข้ควรดูแลตัวเอง และระมัดระวังสิ่งเหล่านี้ร่วมด้วย เพื่อรักษาให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น

1. ระวังการกด จับ นวด คลึง และสัมผัสบริเวณปาก

หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ไม่ควรนวด คลึง บีบ หรือปั้นทรงปากด้วยตัวเองครับ เพราะอาจทำให้อักเสบ เนื่องจากยังมีรอยเข็ม รอยช้ำ และเนื้อฟิลเลอร์ยังไม่เข้าที่ดี หากสัมผัสแรง ๆ อาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ และปากเสียรูปทรงได้

2. ระวังการใช้หลอดดูดน้ำ และงดสูบบุหรี่

การฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับ ให้ได้รูปทรงที่สวยงาม สิ่งสำคัญคือการจัดหรือปั้นทรงปากของหมอ ดังนั้นหลังฉีดควรระวังการขยับรูปปาก เช่น การดูดน้ำจากหลอด การสูบบุหรี่ การจูบ เพราะอาจทำให้ปากที่ปั้นมาเสียทรงได้ แนะนำให้งดอย่างน้อย 12 ชั่วโมง

3. ระวังการดึงหรือลอกหนังริมฝีปาก

หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ไม่ควรดึง แกะ ลอก หนังริมฝีปากครับ เพราะจะเป็นการทำร้ายผิวริมฝีปาก ส่งผลให้ผิวกักเก็บน้ำและความชุ่มชื้นไว้ได้น้อยลง ทำให้ปากแห้ง ปากแตกและเสียรูปทรง

4. ระวังแสงแดด และความร้อน

หลังฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับ ควรหลีกเลี่ยงความร้อนทั้งแสงแดด อาหาร เครื่องดื่มร้อน ๆ อย่างน้อย 48 ชั่วโมง เนื่องจากความร้อนจะส่งผลต่อการยืด-หด ของผิว และกระทบต่อการเซ็ตตัวของฟิลเลอร์ รวมถึงทำให้ผิวปากเสียความชุ่มชื้น หรือเกิดอาการเจ็บหรืออักเสบได้ครับ

5. ระวังการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์

เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ว่าจะเป็น เหล้า เบียร์ ไวน์ ยาดอง วอดก้า วิสกี้มีผลทำให้หลอดเลือดขยายตัว มีเลือดสูบฉีดมากขึ้น อาการบวมจากเข็มก็จะหายช้าลง นอกจากนี้ยังทำให้ขาดสติ คนไข้อาจเผลอตัวแล้วทำให้รูปปากเสียทรงได้ครับ

ในส่วนของการดูแลตัวเอง สิ่งที่หมอแนะนำหลังฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับคือ ดื่มน้ำให้มาก ๆ ครับ เพราะ น้ำเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ฟิลเลอร์ฟูสวย อยู่ได้นาน เนื่องจากคุณสมบัติของฟิลเลอร์ที่เป็นสารอุ้มน้ำ หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน 8-10 แก้ว (1.5-2 ลิตร) ไม่ปล่อยให้ปากแห้ง ก็จะช่วยให้การฉีดฟิลเลอร์เห็นผลได้เต็มประสิทธิภาพ ดูเป็นธรรมชาติ และอยู่ได้นานขึ้น

ผลข้างเคียงหลังฉีดปากกระจับที่อาจเกิดขึ้นได้

หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก อาจมีอาการบวมได้ ถือเป็นอาการปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้ครับ เนื่องจากผิวริมฝีบางค่อนข้างบาง เมื่อฉีดฟิลเลอร์จึงมีอาการบวมเข็ม แต่จะค่อย ๆ หายไปเองใน 4-5 วัน ก่อนจะยุบบวมและหายเป็นปกติใน 2 สัปดาห์ครับ

สรุป

การฉีดปากกระจับไม่อันตรายเหมือนอย่างที่หลายคนกังวลครับ หากศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด เลือกฉีดกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน แพทย์มีประสบการณ์ และใช้ฟิลเลอร์แท้ที่สามารถตรวจสอบได้ มีรีวิวการฉีดฟิลเลอร์ให้ดู ก็จะช่วยเพิ่มความมั่นใจก่อนเข้าใช้บริการได้ครับ