exosome
ในยุคที่ Anti-aging มาแรงและได้รับความนิยมมาก คนต้องการรักษาความอ่อนเยาว์ ให้ผิวดูเด็ก ดูเป็นธรรมชาติ เทคโนโลยีและการวิจัยทางการแพทย์ก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว เราก็เริ่มได้ยินคำว่า “exosome” ที่ช่วยฟื้นฟูผิวได้จากระดับเซลล์บ่อยมากขึ้น แต่เอ็กซ์โซโซม คืออะไร ? มีประโยชน์อะไรบ้าง ?ทำงานอย่างไร ? ดีอย่างไร ? หมอสรุปให้ในบทความนี้ครับ
exosome คืออะไร ?
exosome คือ นวัตกรรมที่จะช่วยฟื้นฟูผิว ด้วยสารชีวโมเลกุลที่มีอนุภาคขนาดเล็ก ประมาณ 30-100 นาโนเมตร ที่ถูกปล่อยออกมาจากสเต็มเซลล์ (Stem Cell) ช่วยฟื้นฟูและบำรุง บูสต์ผิวให้ดูเด็ก
ซึ่ง exosome มีขนาดเล็กกว่าเซลล์ทั่วไปถึง 1,000 เท่า เป็นสารสำคัญในระบบภูมิคุ้มกันและกระบวนการชีวภาพอื่น ๆ ในร่างกาย โดยเซลล์จะสร้าง exosome ขึ้นมาเพื่อสื่อสารกับเซลล์อื่น ๆ กระตุ้นให้เซลล์ทำงานอย่างเหมาะสม ทำให้เข้าไปซ่อมแซมโครงสร้างผิวที่สึกหรอได้อย่างตรงจุด ลงลึกถึงระดับการแสดงออกของยีน (Epigenetic) เข้าถึงเซลล์ต่าง ๆ ได้ดีกว่า PRP และ Stem Cell รวมถึงยังออกฤทธิ์ช่วยชะลอการเสื่อมของผิว
แต่ก็มีข้อจำกัดเรื่องจำนวนของ exosome จึงมีการสกัดเอกซ์โซโซมออกจากจาก Stem Cell เพื่อให้เราสามารถทราบถึงจำนวนเอกซ์โซโซมที่ทำในแต่ละครั้ง วางแผนการฟื้นฟูผิวได้อย่างเหมาะสม และปลอดภัย
ล่าสุด 2023 Exosome คือ ? งานผิวล่าสุดจากเกาหลี ช่วยเรื่องอะไรบ้าง l หมอ V Square แชร์หมดเปลือก
ส่วนประกอบของ exosome
exosome ประกอบด้วยสารชีวโมเลกุลกว่า 1,000 ชนิด ที่จะช่วยกระตุ้นและฟื้นฟูเซลล์ต่าง ๆ เช่น Protein, Nucleic Acid, Lipids หมอยกตัวอย่างสารสำคัญที่ประกอบอยู่ในเอ็กโซโซมมาดังนี้
- Growth Factor
Growth Factor เป็นส่วนประกอบที่สำคัญใน exosome เป็นโปรตีนที่มีบทบาทในการส่งเสริมและกระตุ้นกระบวนการเซลล์เติบโตและฟื้นฟู การมี Growth Factor ใน exosome ช่วยในการเร่งความยืดหยุ่นและความแข็งแรงของผิวหนัง เสริมสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน และช่วยในกระบวนการฟื้นฟูผิวหนังที่เสียหาย
- Epidermal Growth Factor (EGF)
ทำหน้าที่กระตุ้นการสร้าง collagen, elastin, hyaluronic acid ในชั้นผิว เพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว (skin elasticity) สามารถช่วยให้ผิวหน้าดูเต่งตึงและสดชื่นมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในกรณีที่ผิวมีปัญหาเรื่องริ้วรอย สิว หรือผิวขาดความชุ่มชื้น
- Fibroblast Growth Factors
กระตุ้น Superoxide Dismutase (SOD) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) ต้านแก่ ช่วยในกระบวนการเร่งความแข็งแรงของเนื้อเยื่อผิวหนัง สร้างเซลล์ผิวใหม่ และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เซลล์ใหม่ที่เกิดขึ้นจากกระบวนการนี้จะช่วยให้ผิวหน้าดูอ่อนเยาว์ มีความยืดหยุ่น
- Peptides หรือ โปรตีนชนิดย่อย
ประกอบด้วยกรดอะมิโนที่ช่วยเสริมการเพิ่มจำนวนและการทำงานจำนวนเซลล์ผิวหนัง นอกจากนี้ยังมีกลูตาไธโอน (glutathione) ซึ่งเป็นหนึ่งในเปปไทด์ที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดจุดด่างดำ หน้าหมองคล้ำ ใบหน้าโทรมไม่สดใส ช่วยในการบำรุงและปรับสภาพผิวหน้าให้เนียนเรียบ ลดริ้วรอย รวมถึงสร้างเนื้อเยื่อผิวที่มีความสม่ำเสมอและมีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น
- Amino Acids หรือ กรดอะมิโน
เป็นองค์ประกอบหลักของโปรตีนที่ช่วยในการสร้างเนื้อเยื่อผิวหนังที่มีความแข็งแรงและยืดหยุ่น จะช่วยให้ผิวหน้ามีสุขภาพดี กระชับ และเรียบเนียน ผิวหน้าจะดูอ่อนเยาว์และมีความยืดหยุ่นอย่างสม่ำเสมอ
- Coenzymes
ช่วยเสริมสร้างกระบวนการเคมีภายในร่างกาย เป็นการกระตุ้นสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับเซลล์และเนื้อเยื่อ และยังมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ชะลอการเสื่อมของเซลล์ผิวหนังจากแสงแดด ลดการเกิดริ้วรอย นอกจากนี้ Coenzymes ยังมีบทบาทในกระบวนการสร้างพลังงาน บำรุงและปรับสภาพผิวหน้าให้มีความเรียบเนียน ความสม่ำเสมอและมีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น
- Hyaluronic Acid (HA)
Hyaluronic Acid เป็นสารธรรมชาติ ที่สามารถกักเก็บน้ำได้มากถึง 1,000 เท่าของน้ำหนักของตัวเองช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นและความอ่อนนุ่มให้กับผิวหน้า ช่วยสร้างเซลล์ใหม่ เพิ่ม Skin Barrier เสริมเกราะป้องกันผิว ทำให้ผิวหน้าดูสดใสและมีความอ่อนเยาว์มากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ exosome ยังสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันโรคระหว่างเซลล์และกระบวนการทางชีวภาพอื่น ๆ ในร่างกาย การศึกษาและการวิจัยทางวิทยาศาสตร์กำลังผลักดันให้เรารู้จัก exosome มากขึ้น มีงานวิจัยที่กำลังพยายามใช้ exosome เป็นเครื่องมือในการวินิจฉัยโรคหรือเพื่อใช้ในการกระจายตัวยาหรือกำจัดเซลล์ที่ไม่พึงประสงค์ในร่างกาย (Exosomes and Cancer: A Newly Described Pathway of Immune Suppression) รวมถึงมีศักยภาพในการปรับปรุงระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งอาจช่วยให้เกิดการฟื้นฟูร่างกายที่รวดเร็วมากยิ่งขึ้น
สำหรับการพัฒนานำ exosome มาใช้ในการบำรุงผิวหน้า ลดริ้วรอย คือจะช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ โดยกระตุ้นกระบวนการซ่อมแซมเซลล์ผิวหนัง กระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว สร้างเซลล์ผิวใหม่ ช่วยให้ผิวหน้าดูมีความอ่อนเยาว์และมีเนื้อเยื่อผิวที่แข็งแรง ชะลอการเสื่อมโทรมของเซลล์ผิว และเติมความชุ่มชื้น ทำให้ผิวเปล่งปลั่ง
ตัวอย่างงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
ทำ exosome จุดไหนได้บ้าง ?
- Scar Removal ช่วยลดรอยแผลและกระตุ้นกระบวนการฟื้นฟูของเนื้อเยื่อ
- Skin Rejuvenation ฟื้นฟูสภาพผิว ใต้ตา หน้าผาก แก้ม ร่องแก้ม ลำคอ กรอบหน้า
- Pigmentation Regulation ปรับสมดุลสีผิวของผิวหนัง ช่วยลดความเข้มข้นของสีผิว
- Hair Growth การงอกของเส้นผม ช่วยบำรุงเส้นผมและป้องกันการหลุดร่วง
(exosome สำหรับบำรุงผิว)
exosome เป็นของประเทศอะไร ?
ASCEplus exosome เป็นผลิตภัณฑ์จากประเทศเกาหลี ผลิตโดย ExoCoBio Inc. ครับ เป็นบริษัทเวชสำอาง/ชีวเวชภัณฑ์แห่งแรกที่ใช้ exosomes (exosome COsmeceuticals & BIOpharmaceuticals) สำหรับในประเทศไทย นำเข้าโดยผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ด้านความงามและการแพทย์ Aesthetics by Ampex
กระบวนการทำงานของ exosome
โดยปกติแล้วเซลล์ในร่างกายสามารถสร้าง exosome ขึ้นมาเพื่อสื่อสารกับเซลล์อื่น ๆ ครับ เมื่อถูกสร้างขึ้นมาแล้ว exosome สามารถถูกส่งออกจากเซลล์และเดินทางไปยังเซลล์เป้าหมายผ่านทางระบบหลอดเลือดและเนื้อเยื่อต่าง ๆ ในร่างกาย
เมื่อเซลล์ผิวหน้าของเราเสียหายหรือถูกทำลาย การใช้ exosome จะช่วยในการฟื้นฟู ช่วยกระตุ้นกระบวนการซ่อมแซมและเจริญเติบโตของเซลล์ผิวหน้าได้ดีกว่าเดิม ซึ่งจะช่วยให้ผิวหน้าดูอ่อนเยาว์และมีความกระจ่างใสมากขึ้น
นอกจากนี้ exosome ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดการเสื่อมสภาพของผิวหน้า และส่งเสริมกระบวนการผลัดเซลล์ผิวหน้าใหม่ ซึ่งจะช่วยให้ผิวหน้าดูกระชับและลดริ้วรอยที่เกิดจากสภาวะเสื่อมสภาพของผิวหน้าได้ด้วย
exosome ช่วยในเรื่องอะไรบ้าง ?
- ช่วยในการรักษาโรค เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ช่วยลดการอักเสบ และส่งเสริมกระบวนการฟื้นฟูของเซลล์ exosome สามารถแยกได้จากเลือด (exosome isolation from blood) ปัสสาวะ น้ำลาย หรือของเหลวในร่างกาย นักวิจัยใช้ exosome เพื่อศึกษาและปรับปรุงกระบวนการรักษาโรคต่าง ๆ และใช้ในการส่งสารยาหรือสารกำจัดเซลล์มะเร็ง
- ช่วยฟื้นฟูและบำรุงผิวหนัง เช่น Scar Removal, Skin Rejuvenation, Pigmentation Regulation
- exosome hair loss therapy กระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม กระตุ้นเซลล์เส้นผมให้เจริญเติบโตแข็งแรง ลดปัญหาผมบางหรือผมร่วง
- ฟื้นฟูเนื้อเยื่อ เร่งกระบวนการฟื้นฟูเนื้อเยื่อที่เสียหาย เช่น เนื้อเยื่อกล้ามเนื้อ กระดูก และเนื้อเยื่ออื่น ๆ
- รักษาภาวะอักเสบ ช่วยลดอักเสบในร่างกาย กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน
exosome กับ rejuran ต่างกันอย่างไร ?
ผลลัพธ์ในการทำ exosome คือสามารถกระตุ้นกระบวนการฟื้นฟูและสร้างเนื้อเยื่อผิวใหม่ ช่วยในการลดริ้วรอย และเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้า ส่วนการฉีด Rejuran มีคุณสมบัติในการเสริมสร้างเนื้อเยื่อผิว ช่วยลดริ้วรอย กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และเพิ่มความยืดหยุ่นของผิวครับ สามารถสรุปข้อแตกต่างได้ดังนี้
| หัตถการ | exosome | rejuran |
|---|---|---|
| สารประกอบหลัก | สารชีวโมเลกุลที่ถูกปล่อยออกมาจาก Stemcell มีโปรตีนเป็นส่วนประกอบหลัก เช่น Growth Factor ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในกระบวนการเจริญเติบโตและฟื้นฟูของเซลล์ | Polynucleotide หรือ PN บริสุทธิ์ เข้มข้น 2% สกัดจาก DNA Salmon ช่วยกระตุ้นกระบวนการฟื้นฟูของเซลล์ และเสริมสร้างเนื้อเยื่อให้แข็งแรง |
| จุดเด่น | กระตุ้นกระบวนการฟื้นฟูผิว แก้ปัญหาริ้วรอย รูขุมขนกว้าง รอยสิว ฝ้า กระ จุดด่างดำ | ช่วยบำรุงผิว ทำให้ดูอ่อนเยาว์ ปรับสภาพผิวให้เนียนใส รูขุมขนเล็กลง |
| เหมาะกับ | ผู้ที่มีริ้วรอย ฝ้า กระ จุดด่างดำ สิว หลุมสิว รอยแผลเป็น รูขุมขนกว้าง ผิวไม่เรียบเนียน ผิวแห้ง หน้าโทรม | ผู้ที่มีผิวหน้าโทรม ไม่สดใส มีริ้วรอย รูขุมขนกว้าง มีหลุมสิวตื้น ๆ |
| ระยะเวลาเห็นผล | เห็นผลใน 3 วัน แนะนำให้ใช้ต่อเนื่องเดือนละครั้งในช่วง 3-4 เดือน | เห็นผลใน 3-5 วัน แนะนำให้ฉีดต่อเนื่อง 4 ครั้ง ห่างกัน 2-3 สัปดาห์ |
| ระยะเวลาคงผลลัพธ์ | ทำ 1 ครั้งอยู่ได้นาน 1 เดือน ทำต่อเนื่อง 3 ครั้ง อยู่ได้นาน 6-12เดือน | ฉีด 1 ครั้งอยู่ได้นาน 1 เดือนฉีดต่อเนื่อง 4 ครั้ง อยู่ได้นาน 6 เดือน |
แนะนำว่าก่อนตัดสินใจทำ ควรให้หมอประเมินผิวหน้าและปัญหาก่อนครับ หมอจะช่วยแนะนำหัตถการที่เหมาะกับปัญหาผิวของแต่ละคน
อ่านบทความเพิ่มเติม : Rejuran คืออะไร ช่วยบำรุงผิวด้านใดบ้าง เหมาะกับใคร ฉีดกี่ครั้งเห็นผล ?
การทำ exosome เหมาะกับใคร ?
exosome injections เหมาะกับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูและบำรุงผิวหน้าอย่างล้ำลึก โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาผิวหน้า เช่น
- ผู้ที่มีริ้วรอยและรอยแผลเป็น รอยสิวบนผิวหน้า
- ผู้ที่มีผิวหน้าเสียจากการเป็นโรคหรือการรักษาทางการแพทย์
- ผู้ที่ต้องการเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิวหน้า
- ผู้ที่มีผิวหน้าแห้งและขาดความชุ่มชื่น
- ผู้ที่ต้องการให้ผิวหน้าดูสดใสและมีสุขภาพผิวที่ดี
การทำ exosome ไม่เหมาะกับใคร ?
- ผู้ที่มีประวัติแพ้สารสกัดจากเซลล์และสารต่าง ๆ ที่ใช้ในการผลิต exosome
- ผู้ที่มีปัญหาหรือโรคที่มีผลกระทบต่อระบบภูมิคุ้มกัน เช่น โรคภูมิแพ้รุนแรงหรือโรคระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง
- ผู้ที่มีรอยแผลหรือการบาดเจ็บในบริเวณที่จะทำ exosome
- ผู้ที่กำลังรับการรักษาทางการแพทย์เพื่อปัญหาผิวหน้าหรือรักษาหลังผ่าตัด
exosome กับหัตถการอื่น ๆ
- ฟิลเลอร์ skin booster : สารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid สามารถช่วยลดริ้วรอย ทำให้ผิวหน้ากลับมาเรียบเนียน เต่งตึง ใบหน้าอ่อนเยาว์ลง เพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้ผิวเปล่งปลั่ง และชะลอการเกิดริ้วรอยในอนาคต เช่น Belotero Revive, Restylane Vital Light
- โบท็อก (Botox) : สารสกัดจากแบคทีเรียที่มีชื่อว่า คลอสตริเดียม โบทูลินัม (Clostridium Botulinum) ช่วยลดริ้วรอย ลดกราม ปรับรูปหน้าและทำให้ผิวเต่งตึง
- เลเซอร์ (Laser) : ยิงเลเซอร์เพื่อย่นระยะเวลาผลัดเซลล์ผิว แก้ปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ รอยดำ รอยแดง
- เมโสหน้าใส : เป็นการฉีดวิตามินที่มีประโยชน์ต่อผิวเข้าผิวชั้นกลางโดยตรง ออกฤทธิ์ในการบำรุงผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยี่ห้อที่ได้รับความนิยม เช่น มาเด้ คอลลาเจน, Tensonez
การจะเลือกว่าเราเหมาะกับการทำหัตถการไหน ต้องดูว่าเรามีปัญหาผิวแบบไหน และต้นเหตุเกิดจากอะไรครับ ในบางเคสอาจจะทำหลายหัตถการร่วมกัน เพื่อผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
การเตรียมตัวก่อนทำ exosome
การเตรียมตัวก่อนทำ exosome therapy เป็นขั้นตอนที่สำคัญเพื่อให้การใช้เป็นไปได้ด้วยความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพครับ
- ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินสภาพผิวหน้า ปัญหาผิวต่าง ๆ เพื่อดูว่าเหมาะสมในการทำ exosome หรือไม่
- งดการใช้ผลิตภัณฑ์ที่อาจทำให้เกิดการอักเสบหรือความระคายเคืองบนผิวหน้า เช่น ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมเคมีรุนแรง
- งดแอสไพริน, NSAIDs, วิตามิน St. John’s Wort, Gingko Biloba, Primrose Oil, Garlic, Ginseng, Vitamin E
- ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่เหมาะสม เพื่อล้างสิ่งสกปรกและความสกปรกบนผิวหน้า
- งดใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ส่งผลต่ออุณหภูมิผิวหน้า เช่น เครื่องนวดหน้า เลเซอร์
- หากมีโรคประจำตัวหรือยาที่ต้องรับประทานประจำ ควรแจ้งแพทย์ก่อนทำทุกครั้ง
การดูแลหลังทำ exosome
หลังทำ exosome อาจมีตุ่มนูนบริเวณที่ใช้แต่เมื่อตัวยาซึมเข้าผิวทั้งหมดก็จะหายไปเองครับ ไม่ต้องพักฟื้น กลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ แต่จะแนะนำให้ดูแลผิวหน้าให้เหมาะสม เพื่อส่งเสริมการฟื้นฟูผิวให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด
- งดการสัมผัส บีบ กด แคะ แกะ เกา หรือนวดหน้าแรง ๆ
- งดการสครับผิว ขัดผิว ลอกผิว หรือเลเซอร์ผิว
- ควรปกป้องผิวหน้าจากแสงแดด เช่น ใช้ครีมกันแดดที่มี SPF สูง ๆ
- เลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เหมาะสมกับสภาพผิวหน้า
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่
ข้อควรระวังการทำ exosome
- ทำหัตถการโดยแพทย์เท่านั้น โดยต้องตรวจสอบว่าเป็นแพทย์จริง สามารถนำชื่อ-นามสกุล ไปตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์ของแพทยสภา
- ปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์ก่อนทำ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับการทำหัตถการ ความเหมาะสมและผลลัพธ์ที่คาดหวัง
- ใช้ exosome ของแท้ โดย 1 กล่องมี 2 ขวด (2 โดส) คือ Lypophilized Powder (ขวดสีฟ้า) รูปแบบผง และ Diluent (ขวดสีดำ) รูปแบบน้ำ หมอจะผสมตัวยาทั้ง 2 ขวดเข้าด้วยกัน จะได้ปริมาณ 5 ml ต่อการทำ 1 ครั้ง
- ควรปฏิบัติตามคำแนะนำหลังทำของแพทย์
- สังเกตอาการผิดปกติหลังทำ หากมีอาการผิดปกติหรือปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการทำ exosome ควรแจ้งให้แพทย์ทราบทันทีเพื่อรับคำแนะนำและการดูแลเพิ่มเติม
สรุป
สำหรับการบำรุงและฟื้นฟูผิว exosome skin treatment สามารถช่วยกระตุ้นกระบวนการฟื้นฟูเซลล์ผิวหน้า ช่วยให้ผิวดูเรียบเนียน กระจ่างใส และลดริ้วรอย นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติในการปรับสมดุลของคอลลาเจนและอีลาสตินในผิวหน้า ช่วยเพิ่มความกระชับและความยืดหยุ่น ถือเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับการเสริมความงามยุคใหม่
ทั้งนี้การทำ exosome จะได้ผลมากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับปัญหาผิว ปริมาณที่ใช้ การดูแลตัวเองหลังทำของคนไข้ร่วมด้วย และควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี คุ้มค่า และปลอดภัย
สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้ง 30 สาขา หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ
