Sculptra VS Radiesse

sculptra vs radiesse

เมื่อพูดถึงหัตถการที่ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน ฟื้นฟูผิวหน้าให้ดูเด็กลง สองตัวเลือกยอดนิยมในวงการความงาม คือ Sculptra และ Radiesse ที่ถูกยกมาเปรียบเทียบกันให้เห็นอยู่บ่อย ๆ ครับ ทั้งในด้านผลลัพธ์ ระยะเวลาเห็นผล และราคา เพราะจัดเป็น Collagen Biostimulator เหมือนกัน 

แต่แม้ว่าจะเป็นตัวช่วยกระตุ้นคอลลาเจนเหมือนกัน ทั้ง 2 ตัวนี้จะต่างกันที่คุณสมบัติ, ชนิดของสารเติมเต็มที่ใช้, หลักการทำงาน และเหมาะสำหรับการใช้งานที่แตกต่างกันไปครับ 

ดังนั้นในบทความนี้ หมอจะพาคนไข้ไปเปรียบเทียบผลลัพธ์ ระยะเวลาเห็นผล ตำแหน่งที่ฉีด ความปลอดภัย และราคาของ Sculptra VS Radiesse เพื่อช่วยให้คนไข้ตัดสินใจได้ว่าจะเลือกฉีดอะไรดี เพื่อให้ผิวหน้าดูอ่อนเยาว์ และมีชีวิตชีวาขึ้น

สารบัญ  Sculptra VS Radiesse


Sculptra และ Radiesse คืออะไร ? ต่างกันอย่างไร ?

เปรียบเทียบ Sculptra และ Radiesse

Sculptra

Sculptra คืออะไร ช่วยแก้ปัญหาอะไรบ้าง สรุปครบ จบในคลิปเดียว

Sculptra คือ สารเติมเต็มผิวที่มีกรดโพลีแลกติก (Poly-L-lactic Acid :  PLLA) เป็นส่วนประกอบหลัก ผลิต และพัฒนาโดยบริษัท Galderma Laboratories, L.P. ซึ่งได้จดสิทธิบัตรเฉพาะของบริษัทกัลเดอร์มาเท่านั้น นำเข้าจากอิตาลี โดยบริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด 

จุดเด่นของ Sculptra จะเน้นการฟื้นฟูโครงสร้างผิวเดิมด้วยการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน Type 1 ได้มากขึ้นถึง 66.5% ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีสารตัวไหนที่สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวได้เยอะเท่านี้ครับ

ประโยชน์หลัก ๆ ของ sculptra คือ ช่วยเพิ่มเส้นใยคอลลาเจน และอีลาสตินในผิว ฟื้นฟูโครงสร้างผิวที่เสื่อมจากอายุมากขึ้น ทำให้ผิวดูเต็ม อิ่มน้ำ แน่น อิ่มฟู แข็งแรง และยกกระชับขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ เห็นผลนาน 2 ปี 

Sculptra คืออะไร

Radiesse

เจาะลึก Radiesse คืออะไร ช่วยอะไรบ้าง เหมาะกับปัญหาแบบไหน ?

Radiesse คือ สารเติมเต็มผิวที่มีแคลเซียมไฮดรอกซิลอะพาไทต์ (Calcium Hydroxylapatite : CaHA ) เป็นส่วนประกอบหลัก ผลิตโดยบริษัท Merz Aesthetic ที่ได้รับความไว้วางใจในหลายประเทศทั่วโลกมาตั้งแต่ปี 2006 นำเข้าจากอเมริกา โดยบริษัท เมิร์ซ เฮลธ์แคร์ จำกัด

จุดเด่นของ Radiesse จะเน้นการเพิ่มวอลลุ่มของใบหน้าด้วยกระบวนการ Extracellular Matrix (ECM) สร้างเส้นใยตาข่าย 3 มิติ (3D Matrix) ทำให้เกิดแรงดึงตรึงผิวใหม่ และกระตุ้นเซลล์ Fibroblasts ให้มีจำนวนมากขึ้น เพื่อทำหน้าที่สร้างคอลลาเจน และอิลาสตินให้เพิ่มขึ้น

ประโยชน์หลัก ๆ ของ Radiesse คือ ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว ทําให้ผิวมีโครงสร้างแข็งแรง เติมเต็มริ้วรอยร่องลึก กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ฟื้นฟูถึงโครงสร้างผิว หน้าดูอ่อนเยาว์ (Younger) ผิวดูสุขภาพดี (Healthier) และยืดอายุผิวที่ดีได้ยาวนาน (Longer)  ถึง 2 ปี

Radiesse คืออะไร

ทำความเข้าใจหลักการทำงานของ Sculptra VS Radiesse

ก่อนที่หมอจะเปรียบเทียบ Sculptra VS Radiesse ในหลาย ๆ ด้าน ในหัวข้อนี้เรามาทำความเข้าใจหลักการทำงานของ Sculptra และ Radiesse กันก่อนครับ

sculptra

Sculptra ทำงานโดยกระตุ้นให้เกิดการอักเสบระดับเซลล์ที่เรียกว่า Subclinical Inflammation ซึ่งเมื่อมีการอักเสบนี้เกิดขึ้น เซลล์เม็ดเลือดขาวจะได้รับสัญญาณ และตอบสนองโดยการส่งสัญญาณไปยังเซลล์ Fibroblast เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และอีลาสตินในผิวหนังให้มีจำนวนมากขึ้น

radiesse

Radiesse ทำงานโดยการกระตุ้น Fibroblast โดยตรง อนุภาค CaHA จะสร้างโครงสร้างภายในผิวหนังและกระตุ้นให้เซลล์ Fibroblast ผลิตคอลลาเจนเพิ่มขึ้นรอบ ๆ โครงสร้างนั้น ซึ่งจะเกิดเป็นเส้นใยตาข่ายสามมิติ (3D Matrix)

การเข้าใจหลักการทำงานของ Sculptra VS Radiesse เป็นสิ่งสำคัญ เพราะช่วยให้คนไข้สามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับตนเองได้อย่างมั่นใจ และได้รับผลลัพธ์ที่ดีที่สุดครับ


เทียบทุกด้าน Sculptra VS Radiesse ผลลัพธ์ ระยะเวลาเห็นผล ตำแหน่งที่ฉีด และความปลอดภัย

Sculptra VS Radiesse ทั้งสองมีหลักการทำงาน และคุณสมบัติที่ต่างกัน มาดูการเปรียบเทียบในด้านผลลัพธ์ ระยะเวลาเห็นผล และตำแหน่งที่ฉีด เพื่อช่วยให้คนไข้ตัดสินใจได้ว่าควรเลือกฉีดอะไรดี เพื่อให้ผิวหน้าดูอ่อนเยาว์ครับ

Sculptra VS Radiesse กี่วันเห็นผล ?

  • Sculptra : ผลลัพธ์จากการใช้ Sculptra ประมาณ 5 วัน PLLA จะเริ่มออกฤทธิ์ มีกระบวนการผลิตคอลลาเจน โดยต้องรอ 2-3 สัปดาห์ จึงจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลง จากนั้นใน 3-4 เดือน จะเห็นผลชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ
  • Radiesse : ผลลัพธ์จากการใช้ Radiesse จะเห็นการเปลี่ยนแปลงทันที หลังฉีดจะมีฤทธิ์การยกของผิว เกิดความกระชับ ริ้วรอยจางลง และจะเห็นผลเต็มที่ใน 3-4 สัปดาห์ 

Sculptra VS Radiesse อยู่ได้นานกี่เดือน ?

  • Sculptra : ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 2 ปี เนื่องจากการสร้างคอลลาเจนใหม่ที่เกิดขึ้นในระยะยาว
  • Radiesse :  ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 2 ปี จึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็วและเห็นผลทันที

Sculptra VS Radiesse ตำแหน่งที่ฉีด

  • Sculptra : จุดที่ต้องการให้เกิดการสร้างคอลลาเจนมาก ๆ เช่น หน้าแก้ม กรอบหน้า ขมับ 
  • Radiesse :  บริเวณร่องแก้ม ร่องมุมปาก คาง ลําคอ หลังมือ ยกกระชับผิวกรอบหน้า

Sculptra VS Radiesse ความปลอดภัย 

  • Sculptra : เป็นสารตัวแรก ที่ได้รับการอนุมัติในการใช้กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน จาก USFDA ตั้งแต่ปี 1999 และใช้อย่างแพร่หลายทั่วโลก จึงมั่นใจได้ว่ามีความปลอดภัยสูง

    หลังฉีดอาจมีรอยเข็ม รอยแดง หรืออาการบวมได้เป็นปกติครับ ในช่วง 1-2 วันก็จะค่อย ๆ ดีขึ้น

  • Radiesse :  ผ่านการอนุมัติจาก FDA สหรัฐอเมริกา ยุโรป (CE Mark) ได้รับความไว้วางใจในหลายประเทศทั่วโลกมาตั้งแต่ปี 2006 มียอดการใช้กว่า 15 ล้านไซริงค์ จาก 85 แห่งทั่วโลก

    หลังฉีดอาจมีอาการบวมจากตัวยา หรือมีรอยช้ำจากเข็ม  เป็นผลข้างเคียงที่ไม่อันตรายครับ สามารถหายได้เองในไม่กี่ชั่วโมง หรือใน 2-3 วัน

Sculptra VS Radiesse ผลข้างเคียงหลังฉีด

  • Sculptra : หลังฉีดอาจมีรอยเข็ม รอยแดง หรืออาการบวมได้เป็นปกติครับ ในช่วง 1-2 วันก็จะค่อย ๆ ดีขึ้น นอกจากนี้อาจพบก้อนเล็ก ๆ ใต้ผิวหนัง ที่เกิดจากการฉีดตัวยา แนะนำให้นวดหน้าตามคำแนะนำของแพทย์สม่ำเสมอ 
  • Radiesse :  หลังฉีดอาจมีอาการบวมจากตัวยา หรือมีรอยช้ำจากเข็ม  เป็นผลข้างเคียงที่ไม่อันตรายครับ สามารถหายได้เองในไม่กี่ชั่วโมง หรือใน 2-3 วัน

Sculptra VS Radiesse ต้องฉีดกี่ครั้ง ?

  • Sculptra : ในช่วงแรก แนะนำให้ฉีด 2-3 ครั้ง โดยเว้นระยะในทุก ๆ 4-6 สัปดาห์ เพื่อรักษาอัตราการสร้างคอลลาเจน และทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น มีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้นครับ
  • Radiesse :  หากต้องการเห็นผลเต็มที่ และคงผลลัพธ์ให้อยู่ได้นาน แนะนำให้ฉีด Radiesse ติดต่อกัน 1-3 ครั้ง โดยเว้นห่างกันอย่างน้อย 1 เดือน หรือตามคำแนะนำของแพทย์ ขึ้นอยู่กับสภาพผิว ความหย่อนคล้อยของผิวคนไข้ครับ

Sculptra VS Radiesse แบบไหน เหมาะกับใคร ? 

Sculptra เหมาะกับใคร ?

Sculptra เหมาะกับใคร
  • ผู้ที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไป : Sculptra เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงของผิวตามวัยและต้องการฟื้นฟูผิวให้ดูอ่อนเยาว์
  • ผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ : Sculptra ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวดูเต่งตึงและกระชับมากขึ้น
  • ผู้ที่ผิวขาดความยืดหยุ่น ย้วย ไม่เฟิร์ม : การเพิ่มคอลลาเจนจะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว ทำให้ผิวดูเฟิร์มและแน่นขึ้น
  • ผู้ที่มีริ้วรอยที่เห็นได้ชัดเจน : Sculptra ช่วยลดเลือนริ้วรอยลึก และทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น
  • ผู้ที่อยากมีผิวหน้าอ่อนเยาว์ : การฟื้นฟูผิวด้วย Sculptra ทำให้ผิวหน้าดูสดใส อ่อนเยาว์ และมีชีวิตชีวามากขึ้น

Radiesse เหมาะกับใคร ?

Radiesse เหมาะกับใคร
  • ผู้ที่มีริ้วรอยร่องลึก : Radiesse เหมาะสำหรับผู้ที่มีริ้วรอยร่องลึก เช่น ร่องแก้ม ร่องมุมปาก หรือในบริเวณต่าง ๆ ที่ขาดวอลุ่ม การฉีด Radiesse จะช่วยเติมเต็ม และทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น
  • ผู้ที่ใบหน้าหย่อนคล้อย : Radiesse ช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย กรอบหน้าไม่ชัด ดูแก่ก่อนวัย การกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนจะทำให้ผิวดูแน่น และเต่งตึงขึ้น
  • ผู้ที่มีผิวแห้ง : Radiesse สามารถช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวแห้ง ช่วยกระชับรูขุมขน ทำให้ผิวเรียบเนียน อิ่มน้ำ ดูมีชีวิตชีวามากขึ้น
  • ผู้ที่มีปัญหาความเหี่ยวย่น : Radiesse เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวเหี่ยวย่นในบริเวณหลังมือ หรือลำคอ การฉีด Radiesse จะช่วยเติมเต็ม และฟื้นฟูสภาพผิวให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้น

การเตรียมตัวก่อนฉีด Sculptra และ Radiesse 

  • ควรหลีกเลี่ยงยาต้านการอักเสบไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) เช่น ไอบูโพรเฟน และอาหารเสริมที่อาจเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดรอยช้ำ เช่น วิตามิน E, กระเทียม, โอเมก้า 3 อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนฉีด
  • หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนการฉีด เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดรอยช้ำ
  • ไม่อยู่ในภาวะการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
  • งดทำหัตถการผิว เช่น เลเซอร์หน้า นวดหน้าอย่างน้อย 7-14 วันก่อนฉีด
  • หากมีประวัติการแพ้ยาหรือสารใด ๆ ควรแจ้งแพทย์ล่วงหน้า

นอกจาก Sculptra และ Radiesse แล้ว ยังมีหัตถการอะไรอีกบ้าง ที่ช่วยเรื่องงานผิว ?

Filler Skin Booster
Rejuran
Gouri
Exosome
GunaCollagen

นอกจาก Sculptra และ Radiesse แล้ว ยังมีหัตถการกลุ่ม Skin Booster ที่ช่วยเรื่องงานผิวด้วยครับ  เช่น 

โดยแต่ละตัวมีคุณสมบัติเด่นที่ต่างกันออกไป หากคนไข้กังวลปัญหาผิวจุดไหนเป็นพิเศษ เช่น มีหลุมสิว ผิวแห้ง หน้าโทรมแนะนำให้ปรึกษากับแพทย์ เพื่อเลือกหัตถการที่เหมาะกับผิวของแต่ละคนครับ


Sculptra VS Radiesse ราคาเท่าไหร่ ? 

sculptra และ radiesse ราคาต่างกันไปตามคลินิกให้บริการ และปัจจัยอื่น ๆ เช่น ราคาโปรโมชัน, จำนวนครั้งที่ต้องฉีด, ระดับความเชี่ยวชาญของแพทย์ และปริมาณที่ใช้ ถ้ามีปัญหาผิวเยอะก็ต้องใช้ตัวยามากขึ้นครับ

sculptra ราคา
radiesseราคา

คำถามที่พบบ่อย

sculptra และ radiesse ฉีดด้วยกันได้ไหม ?

sculptra และ radiesse สามารถฉีดด้วยกันได้ครับ แนะนำให้ทำห่างกันอย่างน้อย 3-6 เดือน แต่ถ้าทำคนละตำแหน่ง ก็สามารถฉีดพร้อมกันได้เลย 

ทั้งนี้ก่อนตัดสินใจฉีด Sculptra และ Radiesse ร่วมกัน ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินสภาพผิว และวางแผนลำดับการฉีดอย่างถูกต้อง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี และลดความเสี่ยงของผลข้างเคียงครับ

ฉีด Sculptra และ Radiesse ร่วมกับทำ Hifu Ulthera Thermage ได้ไหม ?

ทำได้ครับ กรณีทำในวันเดียวกัน แนะนำให้ทำพวกเครื่องยกกระชับก่อนแล้วค่อยฉีด

แต่กรณีทำคนละวัน แนะนำให้ทำห่างกันอย่างน้อย 2-4 สัปดาห์ ในเคสที่ผิวบางมาก ๆ สามารถเลือกฉีด Sculptra หรือ Radiesse เพื่อฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงก่อนทำเครื่องก็ได้ครับ

ฉีด Sculptra และ Radiesse ร่วมกับฉีดฟิลเลอร์ได้ไหม ?

 กรณีฉีดคนละจุดกันสามารถทำได้ครับ แต่ถ้าฉีดในจุดเดียวกัน แนะนำให้ฉีดฟิลเลอร์ในผิวชั้นลึกก่อน ไม่แนะนำให้ฉีดฟิลเลอร์ในชั้นผิวเดียวกับ Sculptra และ Radiesse หากต้องการฉีดฟิลเลอร์ในจุดเดียวกัน แนะนำให้เว้นระยะห่างอย่างน้อย 2 สัปดาห์


สรุป Sculptra VS Radiesse อยากหน้าเด็ก ผิวแน่น ฉีดแบบไหนดี ?

การจะรักษาคอลลาเจนให้อยู่ได้ยาวนานด้วยการดูแลตัวเองด้วย Skincare Routine อาจไม่เพียงพอ จึงต้องใช้วิธีทางการแพทย์เข้ามาช่วยแก้ปัญหา ซึ่งทั้ง Sculptra และ Radiesse มีคุณสมบัติที่โดดเด่น และให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจในการฟื้นฟูผิวหน้าครับ

Sculptra VS Radiesse อยากหน้าเด็ก ผิวแน่น ฉีดแบบไหนดี ?

  • หากคนไข้ต้องการผลลัพธ์ที่ยาวนาน และสามารถรอเวลาในการเห็นผลได้ Sculptra อาจเป็นตัวเลือกที่ดี เนื่องจากการสร้างคอลลาเจนใหม่จะช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์ และกระชับในระยะยาว
  • หากคนไข้ต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็ว และเห็นผลทันที Radiesse อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า เพราะคนไข้จะเห็นการเปลี่ยนแปลงในทันทีหลังการฉีด ผิวหน้าจะดูเต็ม และอิ่มน้ำขึ้น

ทั้งนี้การตัดสินใจเลือกใช้ Sculptra VS Radiesse ควรพิจารณาจากความต้องการ ปัญหาผิวของแต่ละบุคคล คนไข้สามารถเข้ามาขอคำแนะนำกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ที่ V Square Clinic ได้ครับ ปรึกษา และประเมินสภาพผิวฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายครับ


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง Inbox Facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

หมอให้คำปรึกษา_หมอ42คน

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ สามารถศึกษานโยบายความเป็นส่วนตัวและจัดการความเป็นส่วนตัว ได้ที่ปุ่มตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า