เปรียบเทียบ sofwave กับ ulthera ทุกแง่มุม
“ผิวหย่อนคล้อย” ปัญหาที่ใครหลายคนกำลังกังวล และมองหาวิธีแก้ไข แต่ในยุคที่เทคโนโลยีความงามได้พัฒนาไปไกล การยกกระชับใบหน้าจึงไม่จำเป็นต้องพึ่งการผ่าตัดอีกต่อไปครับ โดยเฉพาะเมื่อเรามีทางเลือกอย่าง sofwave กับ ulthera สองเทคโนโลยีที่ได้รับการยอมรับว่าช่วยยกกระชับผิวอย่างเห็นผล
แต่ทั้ง Sofwave กับ Ulthera แม้จะใช้หลักการพื้นฐานเดียวกัน แต่มีความแตกต่างกันอยู่ครับ ทั้งสองเทคโนโลยีนี้ต่างกันอย่างไร ? แบบไหนเหมาะกับใคร ? แล้วให้ผลลัพธ์ต่างกันมากไหม ? บทความนี้หมอจะมาไขทุกข้อสงสัยแบบละเอียด เปรียบเทียบข้อดี ข้อเสีย ราคา และความเหมาะสม พร้อมแชร์ข้อมูลเชิงลึกที่คนไข้ควรรู้ก่อนตัดสินใจเลือกทำ
สารบัญ Sofwave กับ Ulthera
1. ทำความรู้จัก sofwave กับ ulthera คืออะไร ?
Sofwave คืออะไร ?
Sofwave เป็นนวัตกรรมยกกระชับผิวรุ่นล่าสุดที่ได้รับการรับรองจาก FDA สหรัฐอเมริกา โดยใช้เทคโนโลยี Synchronous Ultrasound Parallel Beam (SUPERB™) ที่พัฒนาขึ้นในปี 2020
เทคโนโลยีนี้ใช้คลื่นอัลตร้าซาวด์ความถี่ 10MHz ส่งผ่านหัวทรีตเมนต์พิเศษที่ปล่อยคลื่นพลังงานออกมาเป็นรูปทรงกระบอก 3D ทั้งหมด 7 แท่ง พร้อมด้วยระบบ Sofcool™ ที่ช่วยควบคุมอุณหภูมิผิวชั้นบนอย่างแม่นยำ ทำให้ขั้นตอนการทำมีความสะดวกสบาย และปลอดภัยมากยิ่งขึ้นครับ
Ulthera คืออะไร ?
Ulthera/Ulthera SPT หรือ Ultherapy เป็นเทคโนโลยี HIFU รุ่นแรกที่ได้รับการรับรองจาก FDA มาตั้งแต่ปี 2009 และได้รับความเชื่อถือจากแพทย์และผู้เชี่ยวชาญทั่วโลก ด้วยประสิทธิภาพในการยกกระชับที่ได้รับการพิสูจน์ผ่านงานวิจัยมากกว่า 100 ฉบับครับ
จุดเด่นของ Ulthera อยู่ที่ระบบ DeepSEE® ที่แสดงภาพชั้นผิวแบบเรียลไทม์ ทำให้แพทย์สามารถมองเห็นชั้นผิวได้อย่างชัดเจน เทคโนโลยี Micro-Focused Ultrasound (MFU) ของ Ulthera สามารถปรับความลึกได้ 3 ระดับ คือ 1.5, 3.0 และ 4.5 มิลลิเมตร ด้วยความถี่ 4-7MHz ทำให้สามารถเข้าถึงชั้น SMAS ได้อย่างแม่นยำ
2. เทคโนโลยี และหลักการทำงานของ sofwave กับ ulthera
Sofwave นวัตกรรมคลื่นอัลตร้าซาวด์รุ่นใหม่
การทำงานของ Sofwave เริ่มต้นด้วยการส่งคลื่นอัลตร้าซาวด์ความถี่สูงผ่านหัวทรีตเมนต์พิเศษที่มีระบบปล่อยคลื่น 7 แท่งแบบขนาน คลื่นเหล่านี้จะสร้างความร้อนที่ระดับความลึก 1.5 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นชั้น mid-dermis ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
ในขณะที่เกิดความร้อนที่ชั้นผิว ระบบ Sofcool™ จะทำงานควบคุมอุณหภูมิของผิวชั้นบนให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัย ความร้อนที่เกิดขึ้นจะกระตุ้นการทำงานของ Heat Shock Proteins (HSPs) ซึ่งเป็นโปรตีนที่มีบทบาทสำคัญในการซ่อมแซมและสร้างคอลลาเจนใหม่
ผลจากการกระตุ้นนี้จะทำให้เซลล์ผิวเริ่มกระบวนการซ่อมแซมและสร้างคอลลาเจนใหม่อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผิวเริ่มตึงกระชับขึ้นภายใน 1-2 เดือน และคอลลาเจนใหม่จะถูกสร้างอย่างต่อเนื่องไปอีก 3-4 เดือน ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและค่อย ๆ ดีขึ้นเรื่อย ๆ
Ulthera นวัตกรรมคลื่นอัลตร้าซาวด์ รุ่น Original
Ulthera จะมีกระบวนการทำงานที่ซับซ้อนและแม่นยำกว่าครับ โดยจะใช้ระบบ DeepSEE® ช่วยวิเคราะห์ชั้นผิวแบบเรียลไทม์ ทำให้แพทย์มองเห็นโครงสร้างชั้นผิวทุกชั้นผ่านหน้าจอ สามารถส่งคลื่นอัลตร้าซาวด์ลงสู่ชั้นผิวที่ต้องการได้ตรงจุดและแม่นยำ โดยเลือกความลึกได้ตามความเหมาะสมของแต่ละบริเวณ
เมื่อคลื่นอัลตร้าซาวด์เข้าถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นกล้ามเนื้อและพังผืด จะเกิด Thermal Coagulation Points ทำให้เนื้อเยื่อเกิดการหดตัวทันที และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ในระยะยาว ผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นการยกกระชับที่ชัดเจนและอยู่ได้นาน
ความพิเศษของ Ulthera อยู่ที่ความสามารถในการเข้าถึงชั้น SMAS ได้โดยตรง ซึ่งเป็นชั้นที่มีความสำคัญต่อการยกกระชับใบหน้า ซึ่งช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและยาวนานกว่าการยกกระชับที่ผิวชั้นตื้นเพียงชั้นเดียวครับ
3. sofwave กับ ulthera แบบไหนเหมาะกับใคร ?
Sofwave กับ Ulthera ใครเหมาะกับเครื่องยกกระชับแบบไหนนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยครับ ทั้งอายุ สภาพผิว และความต้องการของแต่ละบุคคล โดยแต่ละเครื่องจะเหมาะกับ
Sofwave เหมาะกับใครบ้าง ?
- คนที่เริ่มมีผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อย มีริ้วรอยบาง ๆ
- คนที่ต้องการป้องกันปัญหาผิวหย่อนคล้อยตั้งแต่เนิ่น ๆ
- คนที่ต้องการผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ไม่ดูแข็งหรือตึงเกินไป
- ที่ต้องการผลลัพธ์รวดเร็วและไม่ต้องพักฟื้น
Ulthera เหมาะกับใครบ้าง ?
- คนที่มีผิวหน้าหย่อนคล้อย มีริ้วรอยปานกลางถึงมาก โดยเฉพาะบริเวณกรอบหน้าและคอ
- คนที่ต้องการกระชับเหนียง คางสองชั้น และลำคอ
- คนที่ต้องการยกแก้ม ร่องมุมปาก ร่องน้ำหมาก ยกคิ้ว หางคิ้ว
- คนที่ต้องการฟื้นฟูผิวให้แน่นกระชับ ปรับรูปหน้าเรียว เก็บกรอบหน้าชัด พร้อมกระตุ้นคอลลาเจน
- คนที่ต้องการผลลัพธ์ระยะยาว
4. sofwave กับ ulthera ทำตำแหน่งไหนได้บ้าง ?
Sofwave ทำตำแหน่งไหนได้บ้าง ?
- โดยเฉพาะบริเวณหน้าผากและขมับเพื่อยกคิ้ว
- รอบดวงตาเพื่อลดถุงใต้ตาและรอยตีนกา
- แก้มและร่องแก้มเพื่อยกกระชับและเพิ่มความตึง
- กรามเพื่อปรับรูปหน้าให้เรียว
- ใต้คางเพื่อลดเหนียง และบริเวณลำคอเพื่อกระชับผิว
Ulthera ทำตำแหน่งไหนได้บ้าง ?
- ใบหน้า ยกกระชับผิวหน้า ยกแก้มหย่อนคล้อย กระตุ้นคอลลาเจน ผิวดูอิ่มฟูขึ้น
- รอบดวงตา ใต้ตา ช่วยลดริ้วรอยเล็ก ๆ รอบดวงตา ลดถุงใต้ตา
- คิ้ว หางตา ยกคิ้ว ยกหางตา หนังตาตก ทำให้ตาโตขึ้น
- ใต้คาง เหนียง ลำคอ ลดเหนียง ลดคางสองชั้น กระชับผิวบริเวณลำคอให้ตึงขึ้น
- กรอบหน้า ปรับรูปหน้าเรียววีเชฟ เพิ่มกรอบหน้าชัด
- ร่องแก้ม มุมปาก ลดริ้วรอยร่องแก้ม ร่องมุมปาก ร่องน้ำหมาก ยกมุมปากตก
- ท้องแขน หน้าท้อง สะโพก หลังมือ เพิ่มความกระชับ ลดความย้วยและหย่อนคล้อยของผิว
5. เปรียบเทียบ ข้อดี ข้อเสีย และผลข้างเคียงของ sofwave กับ ulthera
Sofwave ข้อดี ข้อเสีย และผลข้างเคียง
- ข้อดี : เจ็บน้อย ไม่ต้องพักฟื้น สามารถกลับไปทำงานได้ทันที ช่วยให้ผิวกระชับขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
- ข้อเสีย : ผลลัพธ์อาจไม่ชัดเจนและอยู่ได้นานเท่า Ulthera
- ผลข้างเคียง : อาจเกิดผิวแดงเล็กน้อยหลังการทำ แต่จะหายไปภายในไม่กี่ชั่วโมง หรืออาจรู้สึกอุ่นๆ ในผิวหนังชั้นลึก
Ulthera ข้อดี ข้อเสีย และผลข้างเคียง
- ข้อดี : ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและอยู่ได้นาน สามารถปรับความลึกได้หลายระดับ และมีงานวิจัยรองรับมากมายว่าช่วยยกกระชับผิวได้อย่างล้ำลึก โดยเฉพาะบริเวณที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย
- ข้อเสีย : ระหว่างทำอาจรู้เจ็บเล็กน้อย แต่ยิ่งเจ็บก็จะยิ่งเห็นผลครับ คนไข้สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ Ulthera เจ็บไหม
- ผลข้างเคียง : อาจมีอาการบวมแดงเล็กน้อยหลังการทำ และอาจรู้สึกตึงบริเวณที่ทำ แต่จะค่อย ๆ หายไปภายในไม่กี่วัน
6. ผลลัพธ์หลังทำ sofwave กับ ulthera กี่วันเห็นผล ? อยู่ได้นานไหม ?
Sofwave กี่วันเห็นผล อยู่ได้นานไหม ?
- ผลลัพธ์เบื้องต้น : เห็นผลทันทีประมาณ 10% ค่อย ๆ เห็นผลชัดใน 2-3 เดือน
- ระยะเวลาที่ผลลัพธ์อยู่ได้ : อยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับการดูแลผิวและสภาพผิวของแต่ละคน
Ulthera กี่วันเห็นผล อยู่ได้นานไหม ?
- ผลลัพธ์เบื้องต้น : เห็นผลทันที 30% ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ ค่อย ๆ เห็นผลชัดใน 2-3 เดือน เนื่องจากพลังงานที่ใช้จะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวลึกได้ต่อเนื่อง
- ระยะเวลาที่ผลลัพธ์อยู่ได้ : อยู่ได้นานประมาณ 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลผิวและสภาพผิวของแต่ละคน
7. sofwave กับ ulthera เลือกทำแบบไหนดี ?
การเลือกทำ Sofwave กับ Ulthera ขึ้นอยู่กับความต้องการเฉพาะ และปัญหาผิวของแต่ละคน ซึ่งทั้งสองเทคโนโลยีนี้ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ปัญหาความหย่อนคล้อยของผิวที่แตกต่างกัน โดยมีคุณสมบัติและผลลัพธ์ที่โดดเด่นเฉพาะตัวครับ
หากคนไข้เริ่มมีริ้วรอยเล็ก ๆ กลัวเจ็บ
✅ Sofwave เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ สามารถกระตุ้นคอลลาเจนได้ในชั้นผิวกลาง โดยเริ่มเห็นผลในช่วง 1-2 สัปดาห์แรกหลังทำ เหมาะกับคนที่มีปัญหาผิวเล็กน้อย กังวลเรื่องความเจ็บ เนื่องจาก Sofwave จะรู้สึกเจ็บน้อยกว่าเล็กน้อย
หากคนไข้ต้องการยกกระชับผิวแบบเห็นผลชัด และผลลัพธ์ที่ยาวนาน
✅ Ulthera เป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์กว่า เพราะสามารถส่งพลังงานลงไปถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นผิวเดียวกับที่แพทย์ศัลยกรรมใช้ในการผ่าตัดดึงหน้า ทำให้เหมาะกับคนที่มีปัญหาความหย่อนคล้อยปานกลางถึงมาก ต้องการความคุ้มค่า เพราะทำ 1 ครั้ง ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 1-2 ปี
อย่างไรก็ตาม แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินสภาพผิวก่อนครับ บางรายอาจพิจารณาทำควบคู่กับเครื่องยกกระชับอื่น ๆ อย่างคลื่น RF หรือ Thermage เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจนยิ่งขึ้นครับ
8. sofwave กับ ulthera ราคาเท่าไหร่ ?
sofwave กับ ulthera ราคาจะต่างกัน ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ตำแหน่งที่ทำ จำนวนช็อตหรือไลน์ที่ใช้ และโปรโมชั่น ของแต่ละคลินิก สำหรับ Sofwave ราคาเริ่มตั้งแต่ 2x,xxx ขึ้นไป ส่วน ulthera ราคา เริ่มตั้งแต่ 19,xxx ครับ หากทำเฉพาะบริเวณใบหน้า ราคาจะต่ำกว่าการทำทั้งหน้าและลำคอ
ราคา Ulthera ที่ V Square Clinic
สรุป ความต่างของ sofwave กับ ulthera และการตัดสินใจเลือกทำ
sofwave กับ ulthera แม้จะเป็นเครื่องยกกระชับที่ใช้พลังงานเดียวกัน แต่หากเปรียบเทียบความคุ้มค่าในแง่ราคา ความเจ็บ และระยะเวลาคงผลลัพธ์ ก็มีความแตกต่างกันครับ
- Sofwave เหมาะสำหรับผู้ที่มีริ้วรอยไม่มาก ต้องการผลลัพธ์เร็ว เจ็บน้อย
- Ulthera เหมาะกับผู้ที่มีริ้วรอย ความหย่อนคล้อยปานกลางถึงมาก เจ็บกว่าเล็กน้อย แต่ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและอยู่ได้นาน 1-2 ปี
อย่างไรก็ตามคนไข้ควรลองประเมินปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย ริ้วรอย และขอคำปรึกษาจากแพทย์ เพื่อเลือกวิธีที่เหมาะสม หรือใครที่ตัดสินใจเลือกไม่ได้ว่าจะเลือกทำอะไร ทำ Ulthera ที่ไหนดี สามารถเข้ามาปรึกษาได้ที่ V Square Clinic ทีมแพทย์ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่ายครับ
สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้ง 30 สาขา หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ