
Rejuran Healer กล่องดำ
รีจูรันเป็นโปรแกรม Skin Booster ที่หลายคนคุ้นหูกันเป็นอย่างดี ซึ่งนิยมใช้ Rejuran Healer หรือ Rejuran Classic กล่องดำฉีดทั่วใบหน้า เพื่อฟื้นฟูผิวให้สุขภาพดี ฉ่ำโกลว์ แบบ Glass Skin ครับ
ในบทความนี้หมอจะเจาะลึกเกี่ยวกับ Rejuran สูตรนี้ให้มากขึ้น ว่าดีอย่างไร ทำไมถึงนิยม ? ฉีดเป็น Skin Booster ตำแหน่งไหนได้บ้าง ต่างจาก Rejuran สูตรอื่น ๆ อย่างไร ? และหากต้องการงานผิว Glass Skin เลือกฉีดตัวนี้ดีกว่างานผิวตัวอื่นไหม ? พร้อมข้อควรรู้ เพื่อการทำหัตถการที่ปลอดภัย และได้ผลลัพธ์ที่ดี

Rejuran Healer
- Rejuran Healer กล่องดำ เป็นตัวยาที่ใช้ในโปรแกรม Rejuran Skin Booster ใบหน้า ลำคอ และหลังมือ มีส่วนประกอบหลักเป็น PN สกัดได้จากชิ้นส่วน DNA Salmon
- การฉีด Rejuran Healer ดีตรงที่แก้ปัญหาผิวได้หลาย ๆ ด้าน ทั้งเรื่องเพิ่มความกระจ่างใส ความยืดหยุ่น และความชุ่มชื้น เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงเร็ว ใน 5-7 วัน
- หากต้องการผลลัพธ์ที่ดี ควรฉีด Rejuran Healer กับแพทย์ที่ผ่านเทรนนิง ใช้ตัวยาของแท้ และปริมาณเหมาะสม สามารถเข้ามาประเมินสภาพผิวกับ V Square Clinic ได้ครับ
สารบัญ Rejuran Healer
Rejuran Healer ดีอย่างไร ? ทำไมถึงนิยม ?
Rejuran Healer (รีจูรัน ฮีลเลอร์) หรือ Rejuran Classic กล่องดำ คือ ตัวยาที่ใช้ในโปรแกรม Rejuran Skin Booster ผิวหน้าครับ ใช้สาร PN เร่งกระบวนซ่อมแซมและฟื้นฟูเซลล์ผิว ดีตรงที่เข้ากันได้ดีกับร่างกายมนุษย์ จึงเห็นการเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว และแก้ปัญหาผิวได้หลายด้านไปพร้อมกัน ทั้งช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น ความเรียบเนียน ความกระจ่างใส ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ และกระชับรูขุมขน
จากการสอบถามคนไข้ สิ่งที่หลายคนชื่นชอบ คือ หลังจากฉีด Rejuran Healer ต่อเนื่อง ผิวจะชุ่มชื้น ฉ่ำวาว เล่นแสงเหมือนกับกระจกเงา (Glass Skin) ผิวดูสวยแม้หน้าสด สามารถเผยผิวสุขภาพดีได้อย่างมั่นใจมากขึ้น ประหยัดเวลาลง Make-up เพื่อปกปิดรอยตำหนิต่าง ๆ นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้หัตถการนี้ได้รับความนิยม และถูกพูดถึงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ครับ

ส่วนประกอบหลักของ Rejuran Healer
ส่วนประกอบหลักของ Rejuran Healer คือ Polyneucleotide (PN) บริสุทธิ์ สกัดได้จากชิ้นส่วน DNA Salmon ใช้เทคโนโลยี DOT™ ได้เป็นสารละลาย ลักษณะเจลใส ไม่มีสี และมีความปลอดภัย ผ่านการพิสูจน์ว่าเข้ากันได้ดีกับผิวหนังมนุษย์ ไม่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาต่อต้าน หลังฉีดจะค่อย ๆ กลืนไปกับผิวหนัง ไม่เป็นก้อน
อีกจุดเด่นของ Rejuran Healer อยู่ที่ความเข้มข้นของสาร PN ถึง 2% ซึ่งมากกว่าสกินบูสเตอร์ตัวอื่น ๆ ในท้องตลาดครับ

กระบวนการทำงานของ Rejuran Healer
Rejuran Healer จะเข้าไปฟื้นฟูและบำรุงผิวชั้นตื้นครับ โดยจะฉีดรีจูรันในชั้นผิวหนังแท้ กระจายเป็นจุดห่างกัน 0.5 cm ทั่วบริเวณที่ผิวมีปัญหา มีกระบวนการทำงาน ดังนี้
- Anti-inflammatory Effect : กระตุ้นให้เกิดการหลั่งของ Anti-Inflammatory Cytokines เพื่อเริ่มกระบวนการต้านการอักเสบ
- Tissue Restoration : การหลั่ง Growth Factor เพื่อให้เกิดการเจริญของเซลล์เนื้อเยื่อใหม่
- Angiogenesis Pathway : การสร้างหลอดเลือดฝอยใหม่ เพื่อช่วยกำจัดของเสียออกจากเซลล์ผิวหนังที่ถูกทำลาย และบำรุงเซลล์ผิวใหม่ให้แข็งแรง
- Salvage Pathway : กระบวนการสร้างเนื้อเยื่อใหม่อย่างรวดเร็ว (Rapid Tissue Regenaration) เกิดการสังเคราะห์ DNA ใหม่ และเตรียมเข้าสู่กระบวนการสร้างเซลล์อย่างมีประสิทธิภาพ
- Mechanical Support : ฟื้นฟูเซลล์ผิวเดิมที่ถูกทำลาย และเหนี่ยวนำให้เกิดการสร้างเซลล์เนื้อเยื่อใหม่ ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพของเกราะปกป้องผิว (Skin Barrier) ช่วยเติมเต็มหลุมสิว ริ้วรอยเล็ก ๆ กระชับรูขุมขน และปรับผิวให้ดูกระจ่างใส
Rejuran Healer ช่วยอะไรบ้าง ?
การฉีด Rejuran Healer สามารถช่วยฟื้นฟูผิวให้มีความยืดหยุ่น และชุ่มชื้นมากขึ้น รวมถึงยังซ่อมแซมผิวชั้นตื้นที่เสื่อมสภาพอีกด้วย เพื่อให้เห็นภาพชัดเจน หมอขอยกผลลัพธ์จากงานวิจัยในคน (Clinical Study) ที่เกี่ยวข้องกับ Rejuran ครับ
- ฟื้นฟูผิว : ช่วยเพิ่มจำนวนของเซลล์ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) ซึ่งมีหน้าที่สร้างโครงสร้างเส้นใยและเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน (Connective Tissue) ต่าง ๆ จึงเกิดการผลิตคอลลาเจนมากขึ้น และกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์

- คืนความยืดหยุ่น : ช่วยซ่อมแซมผิวชั้นหนังกำพร้า (Epidermis) และหนังแท้ (Dermis) ที่ถูกทำลาย ให้กลับมาแข็งแรง และมีความยืดหยุ่นเพิ่มขึ้น

- ปรับสมดุลผิว : ช่วยเพิ่มความหนาของผิวชั้นหนังกำพร้า (Epidermis) และหนังแท้ (Demis) เสริมสร้างเกราะป้องกันให้ผิวแข็งแรง ชะลอการเสื่อมสภาพหรือเกิดริ้วรอยก่อนวัย

ความหนาของผิวชั้นหนังแท้ (ซ้าย) – ความหนาของผิวชั้นหนังกำพร้า (ขวา)
- เพิ่มความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่น : หลังฉีด Rejuran Healer ช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้นเพิ่มขึ้น 14.69% และเพิ่มความยืดหยุ่นของผิวขึ้น 21.78%

Rejuran Healer เหมาะกับใคร ?
การฉีด Rejuran Healer ไม่ได้มีเกณฑ์อายุที่แน่นอนครับ นิยมเริ่มฉีดตั้งแต่อายุ 20 ปีขึ้นไป จนถึงกลุ่มวัยกลางคน เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหรือต้องการผลลัพธ์ ดังนี้
- ผู้ที่อยากมีผิวกระจ่างใส แก้ปัญหาผิวหมองคล้ำ หรือสีผิวไม่สม่ำเสมอจากแสงแดด
- ผู้ที่เริ่มมีปัญหาผิวหย่อนคล้อย เสื่อมสภาพตามวัย มีริ้วรอยบนใบหน้าและลำคอ
- ผู้ที่มีปัญหารูขุมขนกว้าง มีหลุมสิว หรือริ้วรอยตื้น ๆ ทำให้ผิวไม่เรียบเนียน
- ผู้ที่ต้องการให้ผิวฉ่ำวาว โกลว์ใส แบบเทรนด์ผิวกระจก Glass Skin
- ผู้ที่ผิวอ่อนแอ แพ้ง่าย ต้องเสริมเกราะปกป้องผิวให้แข็งแรง สุขภาพดี
- ผู้ที่ทำกิจกรรมกลางแจ้งเป็นประจำ พบเจอแสงแดด มลภาวะ และสารเคมี
- ผู้ที่ต้องการปรับสมดุลผิว แก้ปัญหาความมันส่วนเกิน หรือผิวแห้งไปพร้อมกัน
Rejuran Healer แตกต่างจากสูตรอื่นอย่างไร ?
Rejuran Healer แตกต่างจากสูตรอื่น ๆ ตรงที่ความหนืดของเนื้อเจล ตำแหน่งการฉีด และปริมาณตัวยา/ไซริงค์
หมออธิบายแบบนี้ Rejuran ที่ผ่านการรับรองจากอย.ไทย อัปเดตข้อมูลปี 2025 จะมีด้วยกัน 4 สูตร ซึ่งทุกรุ่นจะมีส่วนประกอบหลักเป็น PN เหมือนกันครับ
- Rejuran Healer กล่องดำ (2.7 CC/ไซริงค์) : เนื้อเจลหนืดปานกลาง เป็นรุ่นที่นิยมใช้มากที่สุด เหมาะกับการฉีดทั่วใบหน้า ลำคอ และหลังมือ เพื่อฟื้นฟูผิวให้ฉ่ำโกลว์ เพิ่มความยืดหยุ่นและกระจ่างใส ปรับผิวให้อิ่มฟู กระชับรูขุมขน ให้ผิวเรียบเนียน
- Rejuran i กล่องขาว (1 CC/ไซริงค์) : เนื้อเจลหนืดน้อย ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหารอบดวงตา ริ้วรอยใต้ตา ขอบตาดำ ใต้ตาคล้ำ และยังสามารถฉีดตำแหน่งผิวบาง ๆ อย่างรอบริมฝีปากได้อีกด้วย
- Rejuran S กล่องน้ำเงิน (1 CC/ไซริงค์) : เนื้อเจลมีความหนืดสูง ออกแบบมาเพื่อฟื้นฟูผิวที่มีรอยแผลเป็น และรอยหลุมสิว
- Rejuran HB Plus กล่องแดง (1 CC/ไซริงค์) : มีส่วนประกอบของ PN, HA, และยาชา (Lidocaine) เนื้อเจลหนืดน้อย เหมาะกับการปรับปรุงสภาพผิว ลดเลือนริ้วรอย และเพิ่มความชุ่มชื้นทันที นิยมฉีดบริเวณใบหน้า ลำคอ และหลังมือ

การเลือกใช้ Rejuran สูตรต่าง ๆ ควรพิจารณาจากปัญหาผิวที่ต้องการแก้ไข และควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์ร่วมด้วย เพื่อให้การรักษามีประสิทธิภาพ และปลอดภัยครับ
ฉีด Rejuran Healer ตำแหน่งไหน ?
Rejuran Healer นิยมฉีดเป็น Skin Booster ใบหน้า ลำคอ และหลังมือ โดยตำแหน่งใบหน้าจะมีการฉีด 2 รูปแบบ คือ การฉีดเฉพาะหน้าแก้ม 2 ข้าง หรือการฉีดครอบคลุมถึงหน้าผาก และคาง แต่ละตำแหน่ง ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ? หมอสรุปให้แบบนี้ครับ
- Skin Booster ทั่วหน้า : ฟื้นฟูผิวทั่วใบหน้าแบบองค์รวม ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น ปรับผิวให้ตึงกระชับ อิ่มน้ำ เพิ่มความกระจ่างใส ลดเลือนริ้วรอย และตำหนิทั่วใบหน้า เช่น ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก หลุมสิว จุดด่างดำ
- Skin Booster หน้าแก้ม : ตำแหน่งใบหน้าส่วนกลาง (Midface) ที่แสงตกกระทบครับ ช่วยให้ใบหน้าโดยรวมดูเปล่งปลั่ง ฉ่ำโกลว์ หรือฉีดเพื่อกระชับรูขุมขน ให้ผิวเรียบเนียนมากขึ้น
- Skin Booster ลำคอ : นิยมฉีดในกลุ่มที่อายุ 40 ปีขึ้นไป ช่วยลดเลือนริ้วรอย รอยเหี่ยวย่นที่ลำคอ ปรับให้ผิวลำคอเต่งตึง อิ่มน้ำ
- Skin Booster หลังมือ : แก้ปัญหาหลังมือเหี่ยว ผิวแห้ง ชั้นผิวบางลง ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวยืดหยุ่น และเรียบเนียน

ฉีด Rejuran Healer อย่างไร ให้เห็นผล ?
การฉีด Rejuran Healer ให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน ต้องใช้ปริมาณให้เหมาะสมร่วมกับการฉีดอย่างต่อเนื่องครับ ซึ่งฉีด Rejuran Healer ใช้กี่ CC ? อยู่ได้นานไหม และต้องฉีดบ่อยแค่ไหน ? หมอจะเจาะลึกให้ทีละประเด็น
ฉีด Rejuran Healer กี่ CC ?
Rejuran Healer 1 กล่องจะมี 2 ไซริงค์ ไซริงค์ละ 2.7 CC ครับ ในการฉีดแต่ละครั้งมักใช้ 1-2 ไซริงค์/ครั้ง เพื่อให้ครอบคลุมกับตำแหน่งฉีด และสภาพผิวของคนไข้ สำหรับปริมาณโดยเฉลี่ย มีรายละเอียด ดังนี้
- หน้าแก้ม ใช้ 2 CC
- ทั่วใบหน้า ใช้ 4 CC
- ลำคอ ใช้ 2 CC
- หลังมือ ใช้ 2 CC
ฉีด Rejuran Healer อยู่ได้นานไหม ?
ถ้าฉีด Rejuran Healer ต่อเนื่องอยู่ได้นาน 6-12 เดือนครับ ขึ้นอยู่กับสภาพผิว และการดูแลตัวเองของแต่ละคนร่วมด้วย หากหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้ผิวเสื่อมสภาพ เช่น ทาครีมกันแดดเป็นประจำ ดื่มน้ำให้เพียงพอ และลดการดื่มแอลกอฮอล์ ก็จะช่วยยืดให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น ในกรณีที่ฉีด Rejuran Healer เพียงครั้งเดียวแล้วไม่กลับมาฉีดซ้ำ ผลลัพธ์จะอยู่ได้นาน 1-2 เดือน
ฉีด Rejuran Healer ต้องทำกี่ครั้ง ? ห่างกันแค่ไหน ?
การฉีด Rejuran Healer เห็นผลได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีดครับ เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงใน 3-5 วัน คนไข้จะรู้สึกผิวนุ่มและเรียบเนียนมากขึ้น หากฉีดต่อเนื่องผิวก็จะยิ่งสุขภาพดีขึ้นเรื่อย ๆ ผิวดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติครับ โดยทั่วไปแนะนำให้ฉีด 4 ครั้ง ห่างกันประมาณ 2-3 สัปดาห์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
- การฉีดครั้งที่ 1 : ในช่วง 3-5 วันแรก จะรู้สึกว่าผิวนุ่ม ชุ่มชื้น และเรียบเนียนขึ้นเรื่อย ๆ
- การฉีดครั้งที่ 2 : ในช่วง 2-4 สัปดาห์หลังฉีด ผิวจะเต่งตึงขึ้น ริ้วรอยจางลง และรูขุมขนกระชับขึ้น
- การฉีดครั้งที่ 3 : ในช่วง 4-6 วันหลังฉีด ผิวยกกระชับขึ้น ผิวแน่น และผิวแข็งแรงขึ้น
- การฉีดครั้งที่ 4 : ในช่วง 6-8 วันหลังฉีด สามารถเห็นผลลัพธ์ชัดเจน ผิวยกกระชับ รูขุมขนเล็กลง ผิวเรียบเนียน สีผิวสม่ำเสมอ ริ้วรอยจางลง ผิวสุขภาพดี แข็งแรงขึ้น อย่างสมดุล
หลังจากฉีดครั้งที่ 4 ไปแล้ว สามารถเว้นระยะห่างได้นาน 3-6 เดือนก่อนการฉีดครั้งต่อไป เพื่อคงผลลัพธ์ให้ผิวดูอ่อนเยาว์อย่างต่อเนื่อง

มัดรวมการเตรียมตัวและข้อควรรู้ก่อนฉีด Rejuran Healer
ก่อนที่คนไข้จะฉีด Rejuran Healer ที่ไหน กับใคร ? ก็ควรศึกษาข้อมูลให้ถี่ถ้วนก่อนครับ ทั้งเรื่องราคา หลักการเลือกคลินิก วิธีเช็กตัวยาของแท้ และแนวทางการดูแลตัวเอง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ปลอดภัย
Rejuran Healer ราคาเท่าไหร่ ?
Rejuran Healer ราคาประมาณ 10,000.-/ไซริงค์ (2.7 CC) ขึ้นอยู่กับโปรโมชันของคลินิกแต่ละแห่งร่วมด้วยครับ
ตัวอย่างโปรโมชัน Rejuran Healer ที่ V Square Clinic

โดยทั่วไปราคา Rejuran Healer จะไม่แตกต่างกันมาก เพราะคลินิกความงามต้องซื้อจากบริษัทที่จดทะเบียนนำเข้าเท่านั้น จึงมีราคาต้นทุนอยู่ครับ หากเจอโปรแกรม Rejuran Healer ราคาถูกกว่าคลินิกอื่น เป็นเท่าตัว มีความเสี่ยงเป็นยาหิ้วไม่ได้มาตรฐาน ตัวยาเสื่อมสภาพ หรือยาของปลอมครับ อาจฉีดแล้วไม่เห็นผล หรือแรงร้ายถึงขั้นเกิดอาการแพ้ได้
เลือกคลินิกฉีด Rejuran Healer อย่างไร ?
หลักการเลือกคลินิกฉีด Rejuran Healer ก็เหมือนกับการทำหัตถการอื่น ๆ เช่น ฟิลเลอร์ โบท็อก เมโสหน้าใส หรือเครื่องยกกระชับ คนไข้ควรคำนึงถึงความปลอดภัยในการใช้บริการเป็นสำคัญครับ โดยควรเช็กปัจจัยเหล่านี้ให้ถี่ถ้วน
- คลินิกความงามมีเลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก เปิดถูกต้องตามกฎหมาย บรรยากาศปลอดโปร่ง สะอาด และจัดสรรพื้นที่เป็นสัดส่วน
- แพทย์ประสบการณ์สูง ผ่านการอบรม “Training course for the use of REJURAN, SWH & REJURAN Thailand Academy” รวมถึงควรนำชื่อ-นามสกุลของแพทย์ไปตรวจสอบกับเว็บไซต์แพทยสภาร่วมด้วย
- ตรวจสอบตัวยา Rejuran Healer ว่าเป็นของแท้ และนำเข้ามาอย่างถูกต้อง

เช็กก่อนฉีด! Rejuran Healer ของแท้ หน้าตาเป็นแบบไหน ?
คนไข้ไม่ควรละเลยการตรวจสอบตัวยา Rejuran Healer ครับ ไม่ว่าจะฉีดกับใคร หรือซื้อโปรแกรมราคาเท่าไหร่ก็ตาม ซึ่งตัวยาต้องไม่ผ่านการใช้งาน และไม่มีร่องรอยการเปิดครับ หากแพทย์แกะกล่องใหม่ต่อหน้า ก็จะช่วยเพิ่มมั่นใจได้
ตัวยา Rejuran Healer กล่องดำ 1 กล่อง มี 2 ไซริงค์ บรรจุหลอดละ 2.7 CC รวมกันเป็น 5.4 CC/กล่อง มาพร้อมเข็มขนาดเล็กสำหรับฉีด วิธีการตรวจสอบมีรายละเอียด ดังนี้
วิธีตรวจสอบ Rejuran Healer ของแท้

การดูแลตัวเองก่อนฉีด Rejuran Healer
ก่อนการฉีด Rejuran Healer ไม่ได้มีข้อห้ามอะไรเป็นพิเศษครับ ในเบื้องต้นควรเตรียมข้อมูลสุขภาพของตัวเองให้พร้อม เช่น โรคประจำตัว ยาที่กินเป็นประจำ หรือประวัติทำหัตถการอื่น ๆ ในตำแหน่งที่จะฉีด Rejuran Healer
รวมถึงควรงดยาและวิตามิน เช่น NSAIDs primrose oil, garlic, ginseng หรือ Vitamin E ควรงดอย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพราะอาจส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด ทำให้เกิดรอยช้ำได้ง่าย
Rejuran Healer ขั้นตอนการฉีดเป็นอย่างไร ?
ในการฉีด Rejuran Healer ใช้เวลาประมาณ 30-45 นาที/Session ครับ ขั้นตอนอาจแตกต่างกันออกไปในแต่ละคลินิก แต่ภาพรวม ดังนี้
- ประเมินใบหน้าและสภาพผิวกับแพทย์ก่อนฉีด เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสม
- ทำความสะอาดผิวในตำแหน่งที่จะฉีด
- ประคบเย็นหรือแปะยาชา เพื่อบรรเทาความเจ็บปวด
- ใช้เข็มขนาดเล็ก ฉีด Rejuran Healer ลงในผิวชั้นหนังแท้ กระจายเป็นจุดห่างกันประมาณ 0.5 cm

ประเมินใบหน้าก่อนฉีด Rejuran Healer
ข้อควรทราบและการดูแลตัวหลังฉีด Rejuran Healer
เพื่อให้หลังฉีด Rejuran Healer คนไข้สามารถดูแลตัวเองได้อย่างเหมาะสม หลังฉีด Rejuran Healer มีผลข้างเคียงอะไรไหม ? และมีข้อห้ามอะไรบ้าง ? หมอสรุปให้แบบนี้
หลังฉีด Rejuran Healer มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง ?
หลังฉีด Rejuran Healer จะมีตุ่มนูนจากตัวยา ซึ่งจะค่อย ๆ ยุบลงเมื่อยาซึมเข้าสู่ผิว ในรายที่มีผิวบอบบางเป็นทุนเดิม อาจมีรอยแดง รอยช้ำ หรือปวดระบมเล็กน้อย ไม่เป็นอันตราย หายได้เองใน 3-5 วัน สามารถบรรเทาอาการด้วยการกินยาแก้ปวดหรือประคบเย็นได้ครับ
หลังฉีด Rejuran Healer มีข้อห้ามอะไร ?
คนไข้หลายคนที่มาประเมินใบหน้ากับหมอ ก็มีความกังวลใจถึงข้อห้ามหลังฉีด Rejuran Healer ว่ามีอะไรบ้าง แต่งหน้าได้ไหม หรือมีกิจกรรมใดบ้างที่ไม่ควรทำ หมอสรุปให้ดังนี้
- ในช่วง 24 ชั่วโมงแรก ไม่แนะนำให้แต่งหน้าครับ เพราะมีรอยเข็มหลายจุด อาจเสี่ยงต่อการอักเสบได้ หลังจากนั้นคนไข้ก็สามารถแต่งหน้าและบำรุงผิวได้ตามปกติ อาจเน้นสกินแคร์สูตรอ่อนโยนเป็นหลัก
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะอาจทำให้เกิดการอักเสบ แผลสมานตัวช้า รวมถึงยังเป็นตัวการที่ทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น ผิวโทรมหมองคล้ำได้ง่าย
นอกจากข้อห้ามที่หมอได้อธิบายไป แนะนำให้ดูแลตัวเองตามแนวทางต่อไปนี้ ก็จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี และอยู่ได้นานขึ้น

อยากมีผิว Glass Skin ฉีด Rejuran Healer เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดไหม ?
ผิวกระจก (Glass Skin) คือ ผิวที่สุขภาพดี อิ่มน้ำจนทำให้ผิวภายนอกดูเปล่งปลั่ง เวลาแสงตกกระทบผิวจะโกลว์ใสเหมือนกระจกเงา รูขุมขนกระชับ และผิวดูเรียบเนียน ปราศจากรอยตำหนิต่าง ๆ ทั้ง ฝ้า กระ จุดด่างดำ รอยสิว หรือริ้วรอย เป็นลักษณะของผิวที่ดูอ่อนเยาว์ และแสดงถึงความพิถีพิถันในการดูแลตัวเองอีกด้วยครับ

หากต้องการมีผิว Glass Skin การฉีด Rejuran Healer เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดไหม ? หมอขอตอบแบบนี้ครับ Skin Booster แต่ละตัวมีข้อดีและจุดเด่นแตกต่างกันออกไป ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับปัญหาผิวของคนไข้แต่ละคนร่วมด้วย เพื่อให้เห็นภาพชัดเจน หมอจะเปรียบเทียบแต่ละตัวกับ Rejuran Healer ให้
Rejuran Healer vs ฟิลเลอร์งานผิว
ทั้งสองให้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกันครับ ทั้งเรื่องผิวที่อิ่มน้ำ ยืดหยุ่น และเรียบเนียน แต่หลักการทำงาน และระยะเวลาเห็นผลแตกต่างกัน
Rejuran Healer ใช้สาร PN เพื่อเร่งกระบวนการซ่อมแซมและฟื้นฟูเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ ซึ่งหลังฉีดจะไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงทันที และควรฉีดต่อเนื่อง ตามที่หมอได้อธิบายไปก่อนหน้านี้
ส่วนฟิลเลอร์งานผิวใช้สาร HA ที่มีลักษณะเป็นเนื้อเจล เติมเต็มริ้วรอย และหลุมสิว รวมถึงเติมน้ำให้ผิวชุ่มชื้นขึ้น เห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังฉีด และเต็มที่ 14 วัน ฉีดเพียง 1 ครั้ง ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ/รุ่นที่ใช้

Rejuran Healer vs เมโสหน้าใส
Rejuran Healer เป็นการฉีดตัวยาเข้าไปในผิวชั้นหนังแท้เหมือนกับเมโสหน้าใส (Mesotheraphy) ครับ ส่วนผสมหลักของ Rejuran Rejuran จะเป็น PN ที่มีความเข้มข้นถึง 2% แต่เมโสหน้าใสจะมีวิตามินและสารอาหารหลายชนิด มีด้วยกันหลายสูตร หลายยี่ห้อ เพื่อช่วยแก้ปัญหาผิวที่แตกต่างกัน
- MADE Collagen : ช่วยลดการอักเสบ ขับสารพิษ ลดสิว ผดผื่น ฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงขึ้น
- Filorga / Revs : เน้นเติมความชุ่มชื้น ให้ผิวอิ่มน้ำ ปรับให้ผิวขาวใส เรียบเนียน ลดฝ้า
- Tensonez / Neo Glutanex Glow : เน้นเรื่องผิวหน้ากระจ่างใส ลดฝ้า กระ จุดด่างดำ ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ
- Alpha Arbutin : เน้นลดฝ้า กระ จุดด่างดำจากแสงแดดโดยเฉพาะ

Rejuran Healer vs Collagen Biostimulator
Rejuran Healer เน้นแก้ปัญหาและฟื้นฟูผิว เด่นเรื่องการเพิ่มความกระจ่างใส ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอเป็นหลัก โดยไม่ทำให้โครงหน้าเปลี่ยนแปลงครับ
ส่วน Collagen Biostimulator ออกแบบมา เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนโดยเฉพาะ จึงแก้ปัญหาผิวเสื่อมสภาพตามวัยได้ดี เช่น ริ้วรอยร่องลึก เพิ่มความยืดหยุ่น และยกกระชับผิวได้ดี เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวย้วย ผิวหลวม หรือมีเหนียงจากผิวหย่อนคล้อย

ก่อนจะฉีด Rejuran Healer หรือทำหัตถการงานผิวตัวไหน คนไข้ควรประเมินใบหน้าและสภาพผิวกับแพทย์ครับ เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสม ให้ผลลัพธ์ที่ตรงกับความคาดหวัง

สรุปฉีด Rejuran Healer ดีไหม ?
Rejuran Healer ดีตรงที่สามารถช่วยฟื้นฟูผิวแบบองค์รวม และแก้ปัญหาผิวหลาย ๆ ด้านไปพร้อมกัน เช่น สีผิวไม่สม่ำเสมอ รูขุมขนกว้าง ผิวขาดน้ำ รวมถึงยังช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิว และเสริมเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรงขึ้น ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย และผิวเสื่อมสภาพจากแสงแดด มลภาวะ และสารเคมีได้
สำหรับผู้ที่ต้องการงานผิว Glass Skin ที่มีความใส ฉ่ำวาว และเรียบเนียน Rejuran Healer ถือเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ครับ และสามารถทำร่วมกับฟิลเลอร์งานผิว เมโสหน้าใส หรือ Collagen Biostimulator เพื่อเสริมประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้นได้ ที่สำคัญ คือ ต้องเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน แพทย์ที่ผ่านการอบรม และใช้ตัวยาของแท้ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด
อ้างอิง :
- Pak CS, Lee J, Lee H, Jeong J, Kim EH, Jeong J, Choi H, Kim B, Oh S, Kim I, Heo CY. A phase III, randomized, double-blind, matched-pairs, active-controlled clinical trial and preclinical animal study to compare the durability, efficacy and safety between polynucleotide filler and hyaluronic acid filler in the correction of crow’s feet: a new concept of regenerative filler. J Korean Med Sci. 2014 Nov;29 Suppl 3(Suppl 3):S201-9. doi: 10.3346/jkms.2014.29.S3.S201. Epub 2014 Nov 21. Retraction in: J Korean Med Sci. 2016 Feb;31(2):330. doi: 10.3346/jkms.2016.31.2.330. PMID: 25473210; PMCID: PMC4248006.
- https://rejuranth.com/
- https://rejuran.co.kr/
สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง Inbox Facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ
