20 วิธี ทำให้หน้าเด็ก อยากเห็นผลเร็ว หน้าอ่อนกว่าวัย 10 ปี เลือกวิธีไหนดี ?

หน้าเด็ก

อยากหน้าเด็ก มีวิธีไหนบ้าง ?

อยากหน้าอ่อนกว่าวัย 10 ปี ทำอย่างไร?

วิธีที่ทำให้หน้าเด็กมีด้วยกันหลายวิธีครับ ขึ้นอยู่กับการดูแลผิว สภาพผิว มีทั้งวิธีที่ควรทำเป็นประจำ และวิธีทำให้หน้าเด็กแบบเร่งด่วน ด้วยวิธีทางการแพทย์ ปัจจุบันมีหัตถการและเครื่องมือที่ทันสมัย สามารถช่วยแก้ปัญหาริ้วรอย เพื่อคงความอ่อนเยาว์ของผิวหน้าเด็กไว้ให้นาน ๆ

ก่อนที่หมอจะแนะนำวิธีทำให้หน้าเด็ก ในเบื้องต้นคนไข้ควรรู้สาเหตุที่ทำให้หน้าแก่ก่อนวัยก่อนครับว่าเกิดจากสาเหตุอะไร? และวิธีทำให้หน้าเด็ก วิธีไหนดี? เห็นผลลัพธ์เร็วที่สุด ติดตามได้ในบทความนี้ครับ

สาเหตุที่ทำให้หน้าแก่ก่อนวัย

ปัจจัยภายใน (Intrinsic Aging)

เมื่ออายุยังน้อย ใต้ผิวหนังจะมีไขมันสะสมอยู่บริเวณต่าง ๆ ทั่วใบหน้า เช่น หน้าผาก แก้ม รอบดวงตา และรอบปาก แต่เมื่ออายุเพิ่มขึ้นไขมันเหล่านี้จะเริ่มสลายไป ทำให้ผิวสูญเสียความยืดหยุ่นและดูหย่อนคล้อย ซึ่งเป็นกระบวนการปกติตามกาลเวลาที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้

นอกจากนี้ ผิวยังสูญเสียความชุ่มชื้น ทำให้ผิวแห้งกร้าน ไม่เรียบเนียนเหมือนผิวของคนวัยหนุ่มสาว โดยเฉพาะผู้หญิงวัยทองที่ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) ลดลง เนื่องจากหมดประจำเดือน จะทำให้ผิวอาจแห้งมากขึ้นและเกิดริ้วรอยตามมาได้

อายุมากขึ้น เริ่มมีปัญหาผิว ริ้วรอย ความหย่อนคล้อย

ปัจจัยภายนอก (Extrinsic Aging)

พฤติกรรมการใช้ชีวิต สิ่งแวดล้อมและมลภาวะต่าง ๆ รอบตัว ส่งผลกระทบต่อผิวโดยตรง อาจทำให้เกิดปัญหาผิว เช่น สิว ฝ้า กระ จุดด่างดำ และริ้วรอย ซึ่งล้วนทำให้ผิวหน้าดูแก่กว่าวัย โดยปัจจัยภายนอกที่กระตุ้นให้เกิดความแก่ของผิว มีดังนี้

1.รังสียูวีจากแสงแดด

รังสียูวี (UV) ในแสงแดด เป็นตัวการร้ายทำลายผิว นานวันเข้าจะสะสมเกิดเป็นริ้วรอย จุดด่างดำ ผิวคล้ำเสีย และปัญหาผิวอื่นอีกสารพัด ดังนั้นก่อนออกแดดหรือแม้จะอยู่ในที่ร่มก็ตาม ควรทาครีมกันแดดเป็นประจำ เพื่อปกป้องผิวจากรังสียูวี ตัวการทำหน้าเหี่ยว หน้าแก่ก่อนวัย

2.มลภาวะหรือสารเคมีต่าง ๆ

มลภาวะทางอากาศ ฝุ่นละออง PM2.5 ควันจากท่อไอเสียรถยนต์ ควันบุหรี่ หรือสารเคมีต่าง ๆ ที่ต้องเจอในชีวิตประจำวัน มีผลกระทบต่อความชราของผิว (Skin Aging) กระตุ้นให้เกิดสารอนุมูลอิสระ ทำให้เกิดริ้วรอยและจุดด่างดำได้

3.ดื่มน้ำน้อย

ภาวะการขาดน้ำ หรือถ้าดื่มน้ำไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย จะส่งผลต่อผิวในระยะยาว ทำให้ผิวเหี่ยวเร็วขึ้นและคอลลาเจนลดน้อยลง ซึ่งการมีปริมาณคอลลาเจนในผิวน้อยลง จะทำให้ผิวขาดความยืดหยุ่น ไม่เรียบเนียน ทำให้ดูแก่กว่าวัยได้ ถ้าอยากหน้าเด็ก หน้าอ่อนเยาว์ ไม่ควรละเลยการดื่มน้ำ

4.เครียดบ่อย 

เวลาที่กำลังเครียด มักจะสังเกตเห็นได้จากสีหน้า เช่น ขมวดคิ้ว หน้าบูดบึ้ง ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ใบหน้าเกิดรอยย่นและริ้วรอยบนใบหน้า อีกทั้งความเครียดยังทำให้ร่างกายหลั่งสารคอร์ติซอล (Cortisol) ทำให้ผิวแก่ถึงระดับเซลล์เพราะฉะนั้นใครที่เครียดบ่อย ๆ หมอแนะนำให้พยายามผ่อนคลาย ทำจิตใจให้สบาย เพื่อลดความเครียดลง

5.พักผ่อนไม่เพียงพอ

ในช่วงเวลากลางคืนร่างกายจะหลั่งสาร Growth Hormone ออกมาเพื่อช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ แต่ถ้าหากพักผ่อนไม่เพียงพอ ร่างกายจะหลั่ง Cortisol หรือฮอร์โมนแห่งความเครียดออกมา ส่งผลให้เซลล์ส่วนที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระถูกทำลาย คอลลาเจนใต้ผิวลดลง เกิดปัญหาผิวเหี่ยว หย่อนคล้อย ดังนั้นการพักผ่อนให้พอดี ในเวลาที่เหมาะสม อาจจะดูเป็นเรื่องที่ธรรมดาแต่มีประโยชน์อย่างมากที่ไม่ควรมองข้ามครับ

6.ไม่ล้างเครื่องสำอาง

การไม่ล้างเครื่องสำอางก่อนนอนแล้วเผลอหลับทั้งอย่างนั้น หรือบางครั้งล้างเครื่องสำอางไม่สะอาด เช็ดเครื่องสำอางแรงเกินไป หากทำเช่นนี้เป็นประจำ จะทำให้ผิวหน้าเกิดสิวและริ้วรอย ดังนั้นจึงควรดูแลทำความสะอาดผิวหน้าอย่างทะนุถนอม

7.ไม่ถนอมผิวหน้า

เพราะต้องใช้ผิวหน้าอย่างหนักในแต่ละวัน ทั้งการแต่งหน้าจัด ๆ การทำความสะอาดผิวหน้าโดยใช้สำลีถูแรง ๆ หรือการต้องเจอฝุ่น ควัน มลภาวะต่างๆ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยที่สามารถก่อให้เกิดปัญหาริ้วรอย ความหย่อนคล้อย และปัญหาผิวต่าง ๆ รุนแรงเพิ่มขึ้น ดังนั้นการบำรุงและถนอมผิวหน้าจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ไม่ควรละเลย 

8.ปล่อยให้หน้าแห้ง

การที่ต้องทำงานอยู่ในห้องแอร์ทั้งวัน ทำให้ผิวแห้ง ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อผิวแห้งก็มักจะเกิดริ้วรอย หน้าเหี่ยวย่นได้ง่ายกว่า ดังนั้นถ้าไม่อยากให้ผิวแห้งระหว่างวัน ควรจิบน้ำบ่อย ๆ หรือฉีดสเปรย์น้ำแร่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและสดชื่นขึ้น

9.ดื่มแอลกอฮอล์/สูบบุหรี่

นอกจากจะทำให้สุขภาพเสียแล้ว ยังทำให้ผิวเสียเกิดรอยเหี่ยวย่นได้อีกด้วย ดังนั้นถ้าไม่อยากให้หน้าแก่กว่าวัยและอยากให้ผิวสวยอยู่กับเราไปอีกนาน ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่

10.นอนตะแคงหรือคว่ำหน้านาน ๆ

การนอนตะแคงหรือนอนคว่ำบ่อย ๆ นอกจากจะส่งผลต่อทางเดินหายใจและสุขภาพร่างกายแล้ว ยังส่งผลต่อผิว  อาจทำให้ผิวหน้าเสียดสีหรือกดทับกับหมอนจนเกิดริ้วรอยขึ้น ส่วนมากมักเกิดบริเวณหน้าผาก หางตา และแก้ม โดยริ้วรอยเหล่านี้จะเห็นได้ชัดขึ้นเมื่อผิวขาดความกระชับและยืดหยุ่น ท่านอนที่เหมาะสม คือท่านอนหงาย

11.ชอบรับประทานของหวาน

ความหวานเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้หน้าแก่ เพราะน้ำตาลในขนมนอกจากจะทำให้น้ำหนักขึ้นแล้ว ยังทำให้ผิวเหี่ยว ดูหน้าแก่กว่าวัย รวมไปถึงคาร์โบไฮเดรตที่มีการขัดสี (Refined Carbohydrate) สูง อาจทำลายผิว ทำให้แก่ก่อนวัยได้เช่นเดียวกัน  

12.ลดน้ำหนักแบบรวดเร็ว 

หลายคนมักจะออกกำลังกายหนัก ๆ ติดต่อกันหลายชั่วโมง เพราะอยากให้น้ำหนักลดลงเร็ว ๆ แต่จริง ๆ แล้วการทำแบบนี้ไม่ส่งผลดีต่อสุขภาพ เพราะจะทำให้กล้ามเนื้ออักเสบ และยังเกิดสารอนุมูลอิสระในร่างกาย ที่มีส่วนช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพของเซลล์ ทำให้ผิวดูเหี่ยวได้ครับ

12 วิธีทำให้หน้าเด็ก

1. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์

อยากหน้าเด็ก การรับประทานอาหารเป็นพื้นฐานสำคัญครับ ถือเป็นการบำรุงผิวจากภายใน โดยควรเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผักใบเขียว ผลไม้ตระกูลเบอร์รี โอเมก้า 3 ธัญพืชประเภทถั่ว หอม กระเทียม และวิตามินที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ (วิตามินซี, วิตามินอี, กรดแอลฟาไลโปอิก, แอสตาแซนธิน)

2. ออกกำลังกายเป็นประจำ

เมื่ออายุมากขึ้น การไหลเวียนของเลือดจะเสื่อมประสิทธิภาพลง ทำให้ผิวไม่เปล่งปลั่ง สดใส การออกกำลังกายจะช่วยให้เลือดไหลเวียน สูบฉีดดีขึ้น และยังช่วยเบิร์นไขมัน ทำให้หน้าเด็ก และยังสลายไขมันส่วนเกิน หุ่นกระชับได้สัดส่วนขึ้นด้วย

3.ทำความสะอาดผิวหน้าให้ถูกวิธี

เคล็ดลับหน้าเด็กง่าย ๆ ที่สามารถทำได้ ก็คือการล้างหน้าให้สะอาดและถูกวิธีนอกจากจะช่วยให้ผิวสะอาดแล้วยังสามารถคงความอ่อนเยาว์ ทำให้หน้าเด็กได้ โดยการล้างหน้าควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิวหน้า ไม่ก่อให้เกิดการแพ้

ในการล้างหน้าควรใช้น้ำอุณหภูมิห้อง ไม่ควรล้างหน้าด้วยน้ำร้อนเกินไปเพราะความร้อนจะดึงเอาความชุ่มชื้นออกจากผิว ทำให้หน้าแห้งตึง ผิวหยาบกร้าน และอาจทำให้เกิดริ้วรอยตามมาได้ง่าย รวมถึงไม่ควรถูใบหน้าแรง ๆ แต่ควรใช้ผ้าขนหนูหรือกระดาษทิชชูเช็ดหน้าแทน

4.เช็ดเครื่องสำอางอย่างเบามือ

การดูแลผิวควรเริ่มต้นตั้งแต่ขั้นตอนการทำความสะอาดเครื่องสำอาง โดยเราควรเช็ดให้เบามือที่สุด ไม่ควรถูหน้าแรงเกินไป และควรเลือกใช้คลีนซิ่งที่ช่วยให้เครื่องสำอางออกง่าย เพราะจะช่วยถนอมแรงและไม่ทำให้สำลีเสียดสีกับผิวหน้าของเรามากเกินไป

5.สครับผิวหน้าเพื่อผลัดเซลล์ผิว

การสครับผิวหน้าจะช่วยให้เซลล์ผิวเก่าหลุดออกไป เผยผิวให้ได้หายใจ ดูกระจ่างใส ไม่อุดตัน พร้อมสำหรับการบำรุงในขั้นตอนต่อไป ซึ่งการสครับผิวที่ช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาวว์นั้น ควรเลือกสครับเนื้อเล็กละเอียด และขัดอย่างเบามือที่สุด

6. เลือกใช้สกินแคร์ที่เหมาะกับสภาพผิว

หน้าเด็ก หนึ่งในปัจจัยสำคัญคือการเลือกใช้สกินแคร์ ไม่ว่าจะเซรั่มหน้าเด็กหรือครีมหน้าเด็ก ควรเลือกที่เหมาะสภาพผิว ผิวมัน ผิวผสม ผิวแห้ง ผิวผสม หรือผิวแพ้ง่าย ดูส่วนผสม เช่น มีส่วนผสมของกรดวิตามินเอ โคเอนไซม์คิวเท็น หรือสารต้านอนุมูลอิสระ และคุณสมบัติของสกินแคร์นั้น ๆ เพื่อจัดการกับปัญหาผิวที่เป็นกังวล เช่น แก้ปัญหาริ้วรอย ผิวหมองคล้ำ สิว จุดด่างดำ ที่ทำให้หน้าดูแก่กว่าวัยได้อย่างตรงจุด

7.ทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ

นอกจากการบำรุงแล้ว การปกป้องผิวเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ใบหน้าเด็ก คงความอ่อนเยาว์ไว้ได้นาน ๆ โดยเฉพาะการปกป้องผิวจากแสงแดดซึ่งเป็นตัวการทำร้ายเซลล์ผิวที่หลีกเลี่ยงได้ยาก ดังนั้นจึงควรทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ เลือกผลิตภัณฑ์กันแดดที่มีสารป้องกันทั้งรังสี UVA UVB มี SPF มากกว่า 30 และ มีค่า
PA +++ ขึ้นไป

8. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ จะทำให้ร่างกายรู้สึกเหนื่อยล้า มีรอยหมองคล้ำบนใบหน้า ขอบตาดำ ใต้ตาคล้ำ นอกจากนี้ยังทำให้ผิวหย่อนคล้อย เริ่มมีริ้วรอย ดูแก่กว่าอายุ เนื่องจากร่างกายไม่ได้รับการพักผ่อนฟื้นฟูเซลล์ต่าง ๆ สร้างคอลลาเจน หน้าเด็กได้ แชร์ 10 วิธีลดริ้วรอยใต้ตา สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ครับ

9.ท่านอนช่วยให้หน้าเด็ก

ท่านอนช่วยให้หน้าเด็กได้ สำหรับใครที่ชอบนอนตะแคงหรือนอนคว่ำ การนอนท่าดังกล่าวอาจทำให้ใบหน้าถูกกดทับและเสียดสีกับหมอน เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดริ้วรอยได้ ลองเปลี่ยนท่ามานอนหงาย หรือเปลี่ยนปลอกหมอนเป็นผ้าซาติน หรือผ้าไหม ก็จะช่วยลดการเสียดสีของผิวได้

10.ดื่มน้ำอย่างสม่ำเสมอ

การดื่มน้ำให้เพียงพอในปริมาณที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน จะช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวหนัง ช่วยให้ผิวไม่ขาดน้ำ ผิวแห้งกร้าน และเกิดริ้วรอยตามมา ซึ่งโดยทั่วไปแล้วควรดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อยวันละ 1.5 ลิตร หรือเทียบได้กับน้ำปริมาณ 8-10 แก้วต่อวัน (ขนาดแก้วประมาณ 200 มิลลิลิตร) เป็นการบำรุงผิวจากภายในให้หน้าเด็กครับ

11. หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำร้ายผิว

พฤติกรรมหลาย ทำให้ผิวแก่ได้ หากอยากหน้าเด็ก หมอแนะนำให้เลี่ยงการตากแดดนาน ๆ การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ ซึ่งจะทำให้ร่างกายขาดน้ำ เกิดสารอนุมูลอิสระในร่างกาย ทำให้ผิวมีความหยาบกร้าน และปัญหาผิวอื่น ๆ ก็จะตามมาครับ

12.หากิจกรรมคลายเครียด

ความเครียดทำให้หน้าแก่ เกิดริ้วรอยย่นบนใบหน้า และเวลาที่เรามีความเครียดยังทำให้ร่างกายหลั่งสาร Cortisol ที่สูงขึ้น ส่งผลเสียต่อร่างกาย ทำให้ร่างกายเสื่อมและแก่เร็ว ดังนั้นถ้าอยากหน้าเด็ก หมอแนะนำให้หากิจกรรมที่ชอบเพื่อช่วยผ่อนคลายจากความเครียด ซึ่งจะส่งผลดีต่อสุขภาพผิวครับ

วิธีทำให้หน้าเด็กแบบเร่งด่วน

ฉีดโบท็อก

ริ้วรอยบนใบหน้าทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัย สามารถจัดการได้ด้วยโบท็อก โดยเฉพาะริ้วรอยย่นที่เกิดจากการแสดงสีหน้า เช่น ริ้วรอยย่นระหว่างคิ้ว ริ้วรอยตีนกา ริ้วรอยหน้าผาก โดยโบท็อก หรือ Botulinum Toxin A ที่ฉีดเข้าสู่ผิวจะส่งผลให้กล้ามเนื้อคลายตัวลงชั่วคราว ริ้วรอยย่นต่าง ๆ ลดเลือนลง ดูหน้าเด็กขึ้นครับ

• หลังฉีดโบท็อกเริ่มเห็นผลใน 7 วัน
• เห็นผลเต็มที่ใน 2 สัปดาห์
• คงผลลัพธ์อยู่ได้นาน 3-4 เดือน

ฉีดฟิลเลอร์

ฟิลเลอร์ คือ สารเติมเต็มผิว ประเภทไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) หรือ HA ที่ช่วยเติมเต็มร่องลึก หรือเสริมในชั้นผิวหนังและใต้ผิวหนัง ลดริ้วรอย ชะลอการเกิดริ้วรอยในอนาคต และปรับรูปหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดยจุดที่หมอแนะนำให้แก้ไขเป็นอันดับแรก ๆ หากอยากคงความอ่อนเยาว์ หน้าเด็ก คือ ฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์ร่องแก้มครับ  

ฟิลเลอร์ใต้ตา ช่วยเติมเต็มใต้ตา ลดขอบตาดำ ตาลึก ตาโหล ริ้วรอยใต้ตา และถุงใต้ตา ทำให้หน้าเด็กลง 

ฟิลเลอร์ร่องแก้ม การมีร่องแก้มบ่งบอกสัญญาณแห่งวัย ทำให้หน้าดูแก่กว่าวัย ฟิลเลอร์สามารถเติมเต็มริ้วรอยร่องลึก ทำให้ร่องแก้มดูตื้นขึ้น ใบหน้าเด็ก ดูสดใสขึ้นครับ

• ฉีดฟิลเลอร์ เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ
• เห็นผลเต็มที่ใน 7-14 วัน
• คงผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6-24 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ฉีด

ฉีดเมโส / มาเด้คอลลาเจน

การฉีดเมโส คือ การฉีดตัวยาซึ่งเป็นสารบำรุงและวิตามินต่าง ๆ เข้าสู่ผิวโดยตรง ซึ่งมีให้เลือกหลายสูตร นอกจากช่วยปรับผิวหน้าให้ขาวใสแล้ว ยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวไม่แห้ง ขาดน้ำ และยังช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน เพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว ทำให้ผิวฟู รูขุมขนกระชับ โดยเมโสหน้าใสยี่ห้อที่ได้รับความนิยมคือ มาเด้คอลลาเจน

• หลังฉีดเมโส / มาเด้คอลลาเจน เริ่มเห็นผลประมาณ 3 วันหลังฉีด
• เห็นผลเต็มที่ใน 7-14 วัน
• แนะนำให้ฉีดอาทิตย์ละครั้งใน 1 เดือนแรก จากนั้นฉีดทุก ๆ 2 อาทิตย์เพื่อคงสภาพผิว
• คงผลลัพธ์อยู่ได้นาน 1-2 เดือน หากฉีดอย่างสม่ำเสมอ ร่วมกับการดูแลตัวเอง และไม่ทำพฤติกรรมที่ทำร้ายผิว จะช่วยให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น

ร้อยไหม

มีปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อยตามวัย หรือก่อนวัย การร้อยไหมเป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่หมอแนะนำครับ เส้นไหมจะดึงผิวหน้าที่หย่อนคล้อยให้ยกกระชับขึ้น ปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วน ปรับรูปหน้าเรียว เห็นผลทันที และยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวหน้าเต่งตึงยกกระชับขึ้น หน้าเด็กลงได้ดูเป็นธรรมชาติ ร้อยไหมเจ็บไหม? ต้องฉีดยาชาหรือไม่ เจาะลึกขั้นตอนการร้อยไหมที่ควรรู้ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ครับ

• ร้อยไหมเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ
• ยกกระชับผิวได้ทันทีหลังทำ
• เห็นผลเต็มที่ใน 1-2 เดือน
• คงผลลัพธ์อยู่ได้นาน 4 เดือน-1 ปี ระยะเวลาที่ไหมสามารถดึงผิวไว้ได้ ขึ้นอยู่กับคุณภาพผิวของแต่ละบุคคล

Hifu Ultraformer III

Hifu Ultraformer III เป็นเครื่องมือยกกระชับ ที่ได้รับความนิยมในคลินิกเสริมความงาม ช่วยให้หน้าเด็กได้เนื่องจากสามารถกระตุ้นคอลลาเจนได้ในทุกชั้นผิว จะรู้สึกผิวเนียนนุ่มขึ้น รูขุมขนดีขึ้น หน้าเรียบเนียนใสอย่างเป็นธรรมชาติ และยังช่วยป้องกันความหย่อนคล้อยของผิวในอนาคต ทำได้ตั้งแต่คนอายุน้อย ๆ 20 ปีขึ้นไป ที่ผิวยังไม่มีปัญหา หรือผิวเริ่มมีปัญหา เริ่มหย่อน เริ่มมีร่องใต้ตา ร่องแก้ม 

ใครที่กลัวเข็ม กลัวการผ่าตัด หมอจะแนะนำการทำ Hifu Ultraformer III ซึ่งถือเป็นตัวเลือกที่ง่ายในการยกกระชับ ทั้งบริเวณใบหน้า เหนียง คอ รวมถึงต้นแขน และต้นขา สามารถใช้เน้นบริเวณใต้ตา รอบดวงตาได้โดยตรง ช่วยเก็บรายละเอียดริ้วรอยเล็ก ๆ ได้

• Hifu Ultraformer III เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ
• เห็นผลทันทีหลังทำ ประมาณ 20%
• เห็นผลเต็มที่ใน 2-3 เดือน
• คงผลลัพธ์อยู่ได้นาน 5-6 เดือน

Ulthera SPT

หน้าเด็กด้วย Ulthera SPT คืออะไร? เครื่องมือยกกระชับที่เข้าใจปัญหาผิวของแต่ละบุคคล ด้วยเทคนิคใหม่ SPT (See Plan Treat) ที่ Customized หรือออกแบบมาเฉพาะบุคคล สามารถแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย มีริ้วรอย ที่ทำให้หน้าดูแก่กว่าวัย ฟื้นฟูผิวให้แน่นกระชับ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน อีลาสติน ทำให้หน้าเด็กลง รูขุมขนเล็กลง ผิวเรียบเนียน เห็นผลชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ตามคอลลาเจนใหม่ที่สร้างขึ้น

• Ulthera เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ
• เห็นผลทันทีหลังทำ ประมาณ 30%
• เห็นผลชัดเจนเต็มที่ 2-3 เดือน
• คงผลลัพธ์อยู่ได้นาน 1 ปี

Thermage FLX

เครื่องมือ Thermage FLX ใช้ความร้อนจากคลื่นวิทยุ (Monopolar RF) ส่งพลังงานลงลึกถึง 3 ชั้นผิว เพื่อยกกระชับผิว สลายไขมันส่วนเกินบนใบหน้า โดยเฉพาะแก้มและเหนียง กระตุ้นคอลลาเจน ทำให้ผิวแน่นกระชับขึ้น เพิ่ม Skin Quality (ผิวเด็ก) หน้าเด็ก ดูอ่อนเยาว์ ผิวยืดหยุ่น ริ้วรอยและรูขุมขนเล็กลง ผิวเรียบเนียนขึ้นครับ Thermage ราคาเท่าไหร่? ทำเทอร์มาจกี่ Shot ถึงเห็นผล 2022 สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ครับ

• Thermage FLX เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ
• เห็นผลทันทีหลังทำ ประมาณ 20%
• เห็นผลชัดเจนเต็มที่ 2-3 เดือน
• คงผลลัพธ์อยู่ได้นาน 1-2 ปี

สรุป

การมีใบหน้าเด็ก ดูอ่อนเยาว์ สามารถเลือกวิธีทำให้หน้าเด็กตามที่หมอแนะนำไปปฏิบัติกันได้ครับ แต่ถ้าอยากเห็นผลลัพธ์เร็ว สามารถใช้วิธีทางการแพทย์ซึ่งทำให้เห็นผลลัพธ์ หน้าเด็กเร่งด่วน เช่น ฉีดโบท็อก, ฟิลเลอร์, ร้อยไหม, Hifu Ultraformer III, Ulthera SPT, Thermage โดยแพทย์จะประเมินใบหน้า เพื่อแนะนำหัตถการที่เหมาะสม

อ้างอิง

• http://libdoc.dpu.ac.th/thesis/Parisa.Chu.pdf 
• https://pharmacy.mahidol.ac.th/th/knowledge/article/465/น้ำตาล-แก่เร็ว