ในช่วง 2-3 ปีมานี้ ถ้าใครที่ได้ติดตามข่าวสารหรือคลุกคลีอยู่ในวงการเสริมความงามจะเห็นว่ามีฟิลเลอร์ยี่ห้อและรุ่นใหม่ ๆ ออกมาให้เลือกใช้กันเยอะมากครับ อย่างฟิลเลอร์ตัวใหม่ล่าสุดที่เพิ่งนำเข้าไทยและผ่าน อย.ไทย เมื่อไม่นานมานี้ คือ ฟิลเลอร์ biohyalux สัญชาติจีนที่เคลมว่ามีจุดเด่นในเรื่องฉีดแล้วไม่บวม ไม่เป็นก้อน และ ตัว HA มีโครงสร้างพิเศษที่ทำให้ฟิลเลอร์สลายตัวช้าลง อยู่ได้นานขึ้น
เพราะอะไรที่ทำให้ฟิลเลอร์ Biohyalux ฉีดแล้วไม่บวมและอยู่ได้นานขึ้น ? ฟิลเลอร์ Biohyalux มีกี่รุ่น แต่ละรุ่นฉีดจุดไหนได้บ้าง ? ฟิลเลอร์ Biohyalux อันตรายไหม ? มีจุดเด่นที่ต่างจากยี่ห้ออื่นอย่างไร ? เพื่อเป็นข้อตัดสินใจก่อนฉีด ในบทความนี้หมอจะพาทุกท่านไปรู้จักกระบวนการทำงานและเทคโนโลยีที่ใช้ในการผลิตฟิลเลอร์ Biohyalux กันครับ
สารบัญ ฟิลเลอร์ Biohyalux
ฟิลเลอร์ Biohyalux คืออะไร ?
ฟิลเลอร์ Biohyalux คือ ฟิลเลอร์สัญชาติจีนตัวใหม่ล่าสุดที่เพิ่งผ่าน อย.ไทยเมื่อไม่นานมานี้ครับ นำเข้าโดย SOE Medical Co.,Lt และเป็นตัวแทนจัดจำหน่ายในประเทศไทยอย่างถูกต้องเพียงผู้เดียว
ฟิลเลอร์ Biohyalux เป็นแบรนด์ที่ผลิตโดยบริษัท Bloomage Biotechnology ที่เป็นโรงงานผลิตสาร Hyaluronic Acid (HA) ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และได้รับความวางใจจากหลาย ๆ แบรนด์ที่เลือกใช้บริการมากที่สุด เช่น โปแลนด์ เยอรมัน สเปน ตุรกี ฮังการี จีน เนเธอร์แลนด์ ออสเตรีย อิตาลี กรีซ รัสเซีย รวมถึงประเทศไทย ปัจจุบัน (2024) มีการฉีดไปแล้วกว่า 8,000,000 Syringe ทั่วโลก
เทคโนโลยีที่ใช้ในการผลิต และกระบวนการทำงาน ของฟิลเลอร์ Biohyalux
อย่างที่หลายคนรู้ว่าปัจจุบันมีฟิลเลอร์หลายยี่ห้อจากหลายประเทศให้เลือกใช้ โดยแต่ละยี่ห้อมีจะมีเทคโนโลยีและขั้นตอนการผลิตที่ต่างกันออกไปด้วย ฟิลเลอร์ Biohyalux ก็เช่นเดียวกันครับ ไปดูกันว่าฟิลเลอร์ Biohyalux ใช้เทคโนโลยีอะไรที่ทำให้ฉีดแล้วไม่บวมและอยู่ได้นานขึ้น
เทคโนโลยีที่ใช้ในการผลิตฟิลเลอร์ Biohyalux
ฟิลเลอร์ Biohyalux ผลิตด้วยเทคโนโลยี “BioBT” หรือ Biobalance (BioBT) ที่เป็นเทคโนโลยีเอกสิทธิ์เฉพาะที่เรียกว่าไบโอบาลานซ์ ความพิเศษของเทคโนโลยีนี้ คือ ใช้เทคนิคการ Crosslink 1 Step ที่ทำให้ตัว HA มีโครงสร้างเป็น 3D Network ทำให้สลายตัวช้าลง อยู่ได้นานยิ่งขึ้น และสามารถย่อยสลายได้ ไม่ตกค้างในร่างกาย จึงมีความปลอดภัยสูง
กระบวนการทำงานของฟิลเลอร์ Biohyalux
ฟิลเลอร์ Biohyalux เป็นฟิลเลอร์ HA cross-linked ที่มีคุณภาพสูง สามารถทนต่อการย่อยสลายของเอนไซม์ตามธรรมชาติได้ดี มีลักษณะเช่นเดียวกับ HA ที่ผลิตขึ้นตามธรรมชาติจึงไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้
เมื่อฉีดฟิลเลอร์เข้าไปเติมเต็มในชั้นผิว เนื้อฟิลเลอร์จะผสานเข้ากับเนื้อเยื่อได้อย่างรวดเร็ว ไม่เกิดการบวมน้ำ ไม่เป็นก้อน เพราะอนุภาคของโมเลกุลมีความสม่ำเสมอ เนื้อฟิลเลอร์อยู่ในสถานะไอโซโทนิก (Isotonic) ที่สามารถรักษาสภาพเซลล์ให้คงเดิม ไม่มีอาการบวมหรือบวมน้ำเล็กน้อย ทำให้แพทย์สามารถฉีดแก้ไขปัญหาได้อย่างแม่นยำ ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ
ฟิลเลอร์ Biohyalux อันตรายไหม มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง ?
filler biohyalux เป็นฟิลเลอร์อีกหนึ่งยี่ห้อที่ได้รับการรับรองคุณภาพและความปลอดภัยจาก อย. ไทย, CFDA, CE, EDQM และ FDA อีกกว่า 12 ประเทศทั่วโลกครับ เนื่องจากเป็นสาร HA ที่มีคุณภาพสูง ผลิตโดย Bloomage Biotech ประเทศจีน ซึ่งเป็นโรงงานที่ผลิตสาร HA ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เชี่ยวชาญด้านกรดไฮยาลูโรนิค แอซิด มากว่า 20 ปี
อีกทั้ง Biohyalux Filler ยังเป็น HA ที่มีลักษณะเช่นเดียวกับ HA ที่ร่างกายผลิตขึ้นตามธรรมชาติ จึงไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ และสามารถทนต่อการย่อยสลายของเอนไซม์ตามธรรมชาติได้ดี ไม่ตกค้างในร่างกาย
ส่วนผลข้างเคียงหลังฉีดฟิลเลอร์ Biohyalux คนไข้อาจมีรอยแดงจากเข็มเล็ก ๆ ในจุดที่ฉีด ซึ่งเป็นอาการปกติครับ สามารถหายได้เองใน 2-3 วัน หลังฉีดฟิลเลอร์หมอจะแปะพลาสเตอร์ปิดรอยเข็ม เพื่อป้องกันสิ่งแปลกปลอมเข้าไปอุดตันในรูเข็ม ระหว่างนี้ควรเลี่ยงสัมผัสหน้า นวด กดบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ เพื่อป้องกันฟิลเลอร์เคลื่อนที่ครับ
คนไข้สามารถศึกษาวิธีการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ ได้จากบทความที่หมอเคยเขียนไว้อย่างละเอียด เพื่อจะได้เห็นผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น
- ข้อห้าม-ข้อปฎิบัติ หลังฉีดฟิลเลอร์ บริเวณไหนดูแลอย่างไร?
- หลังฉีดฟิลเลอร์ห้ามกินอะไรบ้าง ดูแลอย่างไรให้ผลลัพธ์อยู่ได้นาน ?
ฟิลเลอร์ Biohyalux มีกี่รุ่น ? แต่ละรุ่นต่างกันอย่างไร ?
ฟิลเลอร์ Biohyalux ที่นำเข้าและผ่าน อย.ไทย มีด้วยกันทั้งหมด 4 รุ่นครับ แต่ละรุ่นจะมีขนาดโมเลกุล และคุณสมบัติพิเศษที่ต่างกันออกไป ทำให้เหมาะกับการฉีดแก้ปัญหาในตำแหน่งที่ต่างกันและฉีดคนละชั้นผิวครับ หมอจะอธิบายให้คนไข้เข้าใจแบบง่าย ๆ ดังนี้
1. ฟิลเลอร์ Biohyalux รุ่น Fine Line
BIOHYALUX Fine Line (กล่องสีฟ้า) เหมาะกับฉีดผิวชั้นตื้น ลดริ้วรอยเล็ก ๆ ช่วยฟื้นฟูใต้ตาคล้ำให้กลับมาสดใส เรียบเนียน ใช้ฉีดในตำแหน่ง ใต้ตา/หน้าแก้ม/หน้าผาก ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6-9 เดือน
2. ฟิลเลอร์ Biohyalux รุ่น Lips
ฟิลเลอร์ Biohyalux Lips (กล่องสีชมพู) เหมาะกับฉีดเติมเต็มฟื้นฟูผิวบริเวณปาก เพิ่มความอิ่มฟู และฉีดริมฝีปากทำให้ปากดูมิติ เป็นทรงสวย หรือฉีดยกมุมปากปรับหน้าให้ดูหวาน ละมุน ดูเป็นธรรมชาติ ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6-9 เดือน
3. ฟิลเลอร์ Biohyalux รุ่น Derm Lines
ฟิลเลอร์ Biohyalux Derm Lines (กล่องสีม่วง) เหมาะกับฉีดเติมเต็มร่องลึก เช่น ร่องแก้ม/หน้าแก้ม/หน้าผาก/ หางคิ้ว หางตา (ตีนกา) ให้กลับมาเรียบเนียน ดูเต็มมากขึ้น ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 9-12 เดือน
4. ฟิลเลอร์ Biohyalux รุ่น Deep Dermis
ฟิลเลอร์ Biohyalux Deep Dermis (กล่องสีทอง) เหมาะกับฉีดผิวชั้นลึกและฉีดยกกระชับ (Lifting) ช่วยให้กรอบหน้าดูชัดขึ้น ช่วยเพิ่ม Volume ปรับรูปหน้าให้มีความสมมาตร ใช้ฉีดตำแหน่ง กรอบหน้า/จมูก/คาง/ขมับ ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 9-12 เดือน
ฟิลเลอร์ Biohyalux ฉีดบริเวณไหนบนใบหน้า ?
ฟิลเลอร์ Biohyalux สามารถฉีดได้หลายตำแหน่งครับ เพราะเนื้อฟิลเลอร์ biohyalux มีความหลากหลาย มีทั้งเนื้อแน่น เนื้อนิ่ม และเนื้อละเอียด โดยตำแหน่งที่นิยมฉีด ได้แก่
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- ฟิลเลอร์ยกหน้า
- ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม
- ฟิลเลอร์ปาก
- ฟิลเลอร์คาง
- ฉีดฟิลเลอร์ขมับ
- ฟิลเลอร์หน้าผาก
- ฉีดฟิลเลอร์จมูก
ฟิลเลอร์ Biohyalux เหมาะกับใคร ?
- เหมาะกับคนที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย มีร่องลึกจากการทรุดตัวของกระดูก ไขมัน และคอลลาเจนในชั้นผิว อันเนื่องมาจากอายุที่มากขึ้น
- เหมาะกับคนที่มีริ้วรอยร่องลึก บนใบหน้า เช่น ร่องใต้ตา ร่องแก้ม ร่องลึกมุมปาก
- เหมาะกับคนที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนแต่ไม่อยากผ่าตัด เช่น ปรับรูปคางให้ยาวขึ้น เติมริมฝีปาก ปรับทรงจมูก หน้าผาก ต้องการแก้ไขปัญหาใบหน้าในจุดที่กังวลให้ดูดีขึ้นโดยที่ยังคงความเป็นธรรมชาติ
- เหมาะกับคนที่ต้องการปรับรูปหน้าเพื่อเสริมโหงวเฮ้ง
- เหมาะกับคนที่ต้องการเติมเต็มใบหน้าให้ดูเต่งตึง อ่อนเยาว์ เปล่งปลั่ง ผิวชุ่มชื้น อิ่มน้ำ
ฟิลเลอร์ Biohyalux จุดเด่นที่แตกต่างจากฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น ๆ
- ปลอดภัย ได้รับการรับรองจาก อย.ไทย, CFDA, CE, EDQM และ FDA อีกกว่า 12 ประเทศทั่วโลก
- ฟิลเลอร์ Biohyalux เป็นฟิลเลอร์ที่ผลิตโดยบริษัท Bloomage Biotech ประเทศจีน ที่เป็นโรงงานที่ผลิตสาร HA ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เชี่ยวชาญด้านกรดไฮยาลูรอนิก มานานกว่า 20 ปี ได้รับความวางใจจากแบรนด์ที่มีชื่อเสียงถึง 4,000 แบรนด์กว่า 70 ประเทศทั่วโลก
- สาร HA ที่ใช้ผลิต filler biohyalux เป็น Biphasic Filler ที่เด่นในเรื่องฉีดแล้วไม่บวม ไม่เป็นก้อน ไม่บวมน้ำ ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
- Biohyalux Filler เป็น HA ที่มีลักษณะเช่นเดียวกับ HA ที่ร่างกายผลิตขึ้นตามธรรมชาติ จึงไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ และสามารถทนต่อการย่อยสลายของเอนไซม์ตามธรรมชาติได้ดี ไม่ตกค้างในร่างกาย
- เนื้อฟิลเลอร์จะผสานเข้ากับเนื้อเยื่อได้อย่างรวดเร็ว เห็นผลทันที ไม่ต้องพักฟื้นหน้าหลังฉีด สามารถใช้ใบหน้าได้เลย ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 9-12 เดือน
- มี 4 รุ่นให้เลือกใช้ สามารถฉีดได้ทุกจุดบนใบหน้า จึงแก้ปัญหาได้หลากหลาย ช่วยลดและแก้ไขปัญหาผิว ริ้วรอยร่องลึก บริเวณต่าง ๆ ของใบหน้าให้กลับมาดูอ่อนเยาว์ รวมถึงช่วยเติมเต็มผิวให้ดูอิ่มฟู ผิวดูฉ่ำน้ำ
- บรรจุฟิลเลอร์มากถึง 1.1 cc ทุกกล่อง
เปรียบเทียบฟิลเลอร์ Biohyalux กับยี่ห้ออื่น ๆ
ฟิลเลอร์หลายยี่ห้อแม้จะเป็นฟิลเลอร์ประเภท Hyaluronic Acid เหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้เหมือนกันเสียทีเดียวครับ จะมีความแตกต่างกันทั้งในแง่เทคโนโลยีและขั้นตอนการผลิต ซึ่งจะส่งผลให้เนื้อฟิลเลอร์มีคุณสมบัติทางกายภาพในด้านต่าง ๆ ที่แตกต่างกัน เช่น
- ความแข็ง (Elasticity)
- ความยืดหยุ่น (Plasticity, Cohesiveness)
- การกระจายตัว (Tissue Integration)
- ความอุ้มน้ำ (Water Holding)
- จำนวนการเชื่อมพันธะ (Crosslink)
- ขนาดของเม็ดฟิลเลอร์ (Particle Size)
ในส่วนของฟิลเลอร์ Biohyalux นั้น สาร HA จะมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น คือ เป็น Biphasic Filler ที่ฉีดแล้วไม่บวม ไม่เป็นก้อน ไม่บวมน้ำ เพราะใช้เทคโนโลยี Bio Balance (BioBT Technology) ที่มีส่วนช่วยลดอาการบวมหลังฉีด เนื้อฟิลเลอร์อยู่ในสถานะไอโซโทนิก (Isotonic) ที่สามารถรักษาสภาพเซลล์ให้คงเดิม ทำให้แพทย์สามารถฉีดแก้ไขปัญหาได้อย่างแม่นยำ ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ
ส่วนฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น ๆ ที่ผ่าน อย.ไทย หมอจะเปรียบเทียบความแตกต่างแบบเข้าใจง่ายดังนี้ครับ
- ฟิลเลอร์ Juvederm (อเมริกา) เป็นฟิลเลอร์ที่มีจุดเด่นที่ความเรียบเนียน และอยู่ได้นาน ใช้ 2 เทคโนโลยีที่เป็นคุณสมบัติเฉพาะในการผลิต คือ Hylacross Techonology และ Vycross Technology มีหลายรุ่นให้เลือกใช้เพื่อครอบคลุมปัญหาทุกส่วนของใบหน้า ได้รับความนิยมทั่วโลก
- ฟิลเลอร์ Restylane (สวีเดน) เป็นฟิลเลอร์ที่มีจุดเด่นที่ขนาดโมเลกุลฟิลเลอร์มีเม็ดใหญ่ ช่วยให้อยู่ได้นานขึ้น และมีค่าความแข็งสูง เด่นเรื่องการยกพยุงผิว มีความยืดหยุ่นดี มีให้เลือกหลายรุ่นใช้เทคโนโลยีการผลิต 2 เทคโนโลยีด้วยกัน คือ NASHA technology และ OBT Technology
- ฟิลเลอร์ Belotero (สวิตเซอร์แลนด์) เป็นฟิลเลอร์ที่มีจุดเด่นที่เนื้อเจลที่มีความยืดหยุ่นมาก คงตัว และปั้นทรงสวย สามารถใช้ฉีดเสริมกระดูกและเนื้อเยื่อผิวหนังที่ยุบตัวลงตามวัยได้ดี ใช้เทคโนโลยีการผลิต CPM Technology
- ฟิลเลอร์อิตาลี Definisse เป็นฟิลเลอร์ที่มีจุดเด่นในการช่วยยกพยุง และปรับรูปหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ ผลิตด้วยเทคโนโลยี XTR™ Technology (eXcellent Three-Dimensional Reticulation) ทำให้ Hyaluronic Acid สานกันเป็นร่างแห
- ฟิลเลอร์ Flore (เกาหลี) เป็นฟิลเลอร์ที่ใช้เทคโนโลยีการผลิต HCCL™ Technology ทำให้ได้ฟิลเลอร์เนื้อแน่นและเนื้ออ่อนผสมกัน เนื้อฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่น คงรูปได้ดี และมีความเป็นธรรมชาติ นิยมนำมาฉีดเติมเต็มริ้วรอยร่องลึกในตำแหน่งที่มีการขยับบ่อย ๆ
- ฟิลเลอร์ e.p.t.q. เป็นฟิลเลอร์ที่ใช้เทคโนโลยี 2CM (Two Crosslinking Method Technology) ที่เป็นเทคโนโลยีเอกสิทธิ์ของ e.p.t.q. ในการ Cross-linking โมเลกุลของไฮยาลูรอนิกแอซิด ทำให้เนื้อฟิลเลอร์คงรูปได้ดี มีความฟูและยืดหยุ่นสูง ฟิลเลอร์สลายช้าลง และอยู่ได้นานขึ้น
- ฟิลเลอร์ Perfectha เป็นฟิลเลอร์ที่ใช้เทคโนโลยี E-Brid Technology ที่ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและความหนืดให้กับฟิลเลอร์ทำให้ดูเป็นธรรมชาติ สามารถคงตัวอยู่บริเวณที่ฉีดได้ดี
- ฟิลเลอร์ Neuramis เป็นฟิลเลอร์ที่ใช้เทคโนโลยี SHAPE technology ในการผลิต เด่นในด้านเนื้อฟิลเลอร์มีความคงตัว สามารถเติมเต็ม ปรับรูปหน้าได้หลายตำแหน่งบนใบหน้า
ก่อนเลือกฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ในเบื้องต้นหมอแนะนำให้เข้ารับการประเมินจากแพทย์ก่อนครับ เพื่อวิเคราะห์ปัญหาใบหน้าว่าเหมาะกับฟิลเลอร์ยี่ห้อไหน รุ่นไหน จึงได้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุดตามที่แต่ละคนต้องการครับ
ฟิลเลอร์ Biohyalux ราคาเท่าไร ?
ฟิลเลอร์ Biohyalux ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 7,xxx ขึ้นไป ครับ เมื่อเทียบกับผลลัพธ์ที่ได้ ถือว่าคุ้มค่าคุ้มราคา พอ ๆ กับฟิลเลอร์เกาหลี ทั้งนี้ราคาของฟิลเลอร์ Biohyalux แต่ละคลินิกอาจจะไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับปริมาณ CC ที่ใช้ โปรโมชันฉีดฟิลเลอร์ในช่วงเวลานั้น ๆ รวมถึงค่าฝีมือของแพทย์ ก่อนฉีดแนะนำให้คนไข้สอบถามราคากับคลินิกเพื่อจะได้คำนวณงบประมาณที่เหมาะสมครับ
ดูฟิลเลอร์ราคาโปรโมชัน ที่ V Square Clinic
ฟิลเลอร์ Biohyalux อยู่ได้นานไหม ?
ด้วยเทคโนโลยี Crosslink 1 Step แบบพิเศษที่ทำให้ตัว HA ของฟิลเลอร์ Biohyalux มีโครงสร้างเป็น 3D Network ที่มีความสามารถในการสลายตัวช้าลง และอยู่ได้นานขึ้น โดยเฉลี่ยอยู่ได้นานประมาณ 9-12 เดือนครับ
อ่านบทความเพิ่มเติม : ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน ? แต่ละรุ่นอยู่ได้นานเท่าไหร่ ? ต้องขูดออกหรือสลายได้เอง ?
วิธีดูฟิลเลอร์ Biohyalux ของแท้
- มีเลขทะเบียน อย. และเอกสารกำกับภาษาไทย
- มีเลข Lot และวันที่ผลิต ตรงกับข้อมูลใน QR CODE
- ที่ฝากล่องทั้ง 2 ด้าน มีสติกเกอร์ป้องกันการเปิด
- สติกเกอร์ Hologram ด้านหน้ากล่อง สามารถสแกน QR CODE เพื่อตรวจสอบได้ โดยจะปรากฏข้อมูลรายละเอียดต่าง ๆ ดังนี้
- โลโก้ SOE MEDICAL และสัญลักษณ์ (แม่กุญแจ) พร้อมแจ้งว่า “สินค้านี้ยังไม่ถูกเปิดใช้งาน”
- คลินิกที่สั่งซื้อ และเลข QR-Code ตรงกับหน้ากล่อง
- รูปและชื่อผลิตภัณฑ์ชัดเจน พร้อมแจ้งขนาดสินค้า Lot ที่ผลิต
- วันผลิต วันหมดอายุ และวันนำเข้า 20xx-xx-xx
- ผู้ผลิต Bloomage Biotechnology Corp., Ltd. และผู้นำเข้า SOE Medical Co.,Ltd เท่านั้น
- ที่อยู่ และช่องทางการติดต่อผู้นำเข้า
- โทรสอบถามเลข Lot ได้ที่บริษัท โซว เมดิคอล จำกัด โทร. 065 692 8987
สรุป
ฟิลเลอร์ Biohyalux สัญชาติจีน เป็นฟิลเลอร์อีกหนึ่งแบรนด์ที่น่าสนใจครับ มีจุดเด่น คือ ฉีดแล้วไม่บวม ไม่เป็นก้อน ไม่บวมน้ำ และใช้เทคโนโลยีพิเศษที่ทำให้ฟิลเลอร์สลายตัวช้าลง อยู่ได้นานขึ้นตอบโจทย์ทุกปัญหาผิว ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ช่วยลดริ้วรอย เติมเต็มร่องลึกให้กลับมาตื้น เต่งตึง ผิวดูอิ่มฟู ฉ่ำน้ำ ดูมีชีวิตชีวา ช่วยลดอายุผิวให้ดูเด็กลงอย่างเห็นได้ชัด คุ้มค่าทั้งผลลัพธ์ ราคา และความปลอดภัยครับ
สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้ง 30 สาขา หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ