จุดเด่นโบท็อกซ์แต่ละยี่ห้อ_1000x860

ฉีดโบท็อกยี่ห้อไหนดี ?  

ปัจจุบันโบท็อกมีหลากหลายยี่ห้อ จากหลายประเทศ ในบทความนี้หมอได้พยายามรวบรวม อัพเดทยี่ห้อโบท็อกที่ผ่านอย.ประเทศไทย ยี่ห้อไหน มาจากประเทศอะไร และมีคุณสมบัติต่างกันอย่างไร ฉีดโบท็อกยี่ห้อไหนดีที่สุด แก้ไขปรับรูปหน้าได้อย่างปลอดภัย สามารถติดตามอ่านได้เลยครับ

โบท็อกซ์แต่ละยี่ห้อ ต่างกันอย่างไร ?

ในปัจจุบันโบท็อกที่ได้รับการรับรองจากอย. ไทย และมีการนำเข้ามาอย่างถูกกฎหมายมีหลายยี่ห้อครับ ซึ่งความแตกต่างจะอยู่ที่กระบวนการ กรรมวิธีในการผลิต ทั้งในเรื่องบริสุทธิ์, ชนิด Protein Complex, ขนาดของ molecule complex, ความคงทนในการเก็บรักษา โดยสามารถอธิบายคุณสมบัติที่ทำให้โบท็อกแต่ละยี่ห้อแตกต่างกัน ได้ดังนี้

ขนาดของ Molecule Complex Size

Molecule complex

Molecule Complex ของโบท็อก ประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก ๆ

  1. Accessories protein (750kDa)

ส่วนที่ 1 (หน่วยปกป้อง) ทำหน้าที่นำพาและปกป้องโบท็อกส่วนที่ 2, 3 จากจุดที่ฉีดให้โบท็อกแพร่ไปยังปลายเส้นประสาท ได้อย่างปลอดภัย ไม่ถูกทำลาย โดยความสำคัญของโบท็อก ส่วนที่ 1 คือ การแพร่กระจายตัวยา

ขนาด molecule
  • ออกแบบให้โบท็อกกระจายตัวแคบ จะสามารถควบคุมการฉีดให้ออกมาแม่นยำ ตรงจุด โบท็อกที่ตัวยามีการกระจายตัวแคบที่สุดคือยี่ห้อ Allergan เหมาะกับการฉีดบริเวณกล้ามเนื้อโดยตรง นอกจากนี้จะทำให้ส่วนที่ 3 มีความเข้มข้นสูง ผลของโบท็อกจึงอยู่ได้นานขึ้น
  • ส่วนข้อเสียคือการที่จะฉีดโบท็อกชนิดนี้ให้ผลออกมาดูเป็นธรรมชาติ ต้องอาศัยแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง หากแพทย์ไม่มีความชำนาญ อาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น คิ้วกระดก ยิ้มแข็ง แก้มตอบ
  • ออกแบบให้โบท็อกกระจายตัวกว้าง จะช่วยให้ผลการฉีดโบท็อกดูเป็นธรรมชาติ ไม่ตึงเกินไป เหมาะกับเทคนิค Dermolift มีข้อดีคือออกฤทธิ์ไว เหมาะกับคนที่ต้องการผลโบท็อกหน้ากระชับแบบเร่งด่วน และเหมาะกับการฉีดลดต้นแขน ลดน่องในบริเวณกว้าง
  • ข้อเสีย คือจะทำให้โบท็อกส่วนที่ 3 ที่ทำงานระงับกล้ามเนื้อในแต่ละเซลล์ มีความเข้มข้นโบท็อกลดลง อยู่ได้สั้นลง และถ้าฉีดกับแพทย์ที่ไม่ชำนาญมากพอ มีความเสี่ยงที่จะทำให้ ตาตก ปากเบี้ยว ยิ้มไม่สุด
การกระจายตัวของโบท็อก

(ในภาพคือการย้อมสีผิวหนัง เพื่อดูพื้นที่ที่โบท็อกออกฤทธิ์

Dysport (ฝั่งขวา) ยาจะกระจายตัวกว้างกว่า Allergan (ฝั่งซ้าย))

  1. Heavy chain (100kDa)

ส่วนที่ 2 เป็นกุญแจให้โบท็อกส่วนที่ 3 สามารถเข้าสู่เซลล์เส้นประสาท

  1. Light chain (50kDa)

ส่วนที่ 3 เป็นโบท็อกส่วนตัวที่ระงับการทำงานของกล้ามเนื้อ

ความบริสุทธิ์ของตัวยาโบท็อก และ Protein Complex

โบท็อกสามารถฉีดเข้าร่างกาย และสลายออกไปหมดได้เองโดยไม่เป็นอันตรายครับ แต่ทั้งนี้ในร่างกายของบางคนจะมีการสร้างภูมิต้านทาน หรือ Antibody ขึ้นมา ทำให้เกิดอาการดื้อโบท็อกได้ ทำให้ฉีดโบท็อกแล้วไม่ได้ผล โดยสาเหตุเกิดได้จากโปรตีนในส่วนที่ 1,2,3 ครับ ซึ่งในโปรตีนส่วนที่ 3 ทุกยี่ห้อจะคล้าย ๆ กันหมด ส่วนที่ทำให้โบท็อกแต่ละยี่ห้อต่างกันมากน้อยแค่ไหนคือส่วนที่ 1 และ 2

โบท็อกยี่ห้อไหนดี ?

หากพูดถึงยี่ห้อโบท็อก ที่เข้ามาทำการตลาดในประเทศไทย มีอยู่หลายยี่ห้อ จากหลายประเทศครับ เช่น อเมริกา อังกฤษ เยอรมัน และเกาหลี บางคนอาจจะรู้จักและคุ้นเคยกับชื่อโบท็อกมาบ้างแล้ว แต่อาจยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับคุณสมบัติเฉพาะเจาะจงในแต่ละแบรนด์ ราคา ความแตกต่าง รวมถึงอายุการใช้งาน

โบท็อกยี่ห้อไหนดี

ก่อนเข้าประเด็นเจาะลึกแต่ละยี่ห้อ หมอขออธิบายคุณสมบัติโดยรวมของโบท็อกก่อนครับ

โบท็อก (Botox) คือ ชื่อทางการค้าของ โบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ ( Botulinum toxin type A) เป็นสารสกัดจากแบคทีเรียที่มีชื่อว่า คลอสตริเดียม โบทูลินัม (Clostridium botulinum) และถูกนำมาใช้ในวงการเสริมความงาม เมื่อฉีดไปแล้วจะออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท (Neurotoxin) มีผลทำให้มัดกล้ามเนื้อทำงานได้ลดลงชั่วคราว 

นิยมนำมาใช้ในการช่วยลดริ้วรอย กระชับกรอบหน้า ทำให้ใบหน้ากลับมาตึงกระชับ ดูอ่อนเยาว์ลงได้ครับ โดยโบท็อกมีอายุการใช้งานเฉลี่ย ลดริ้วรอย อยู่ได้ 3-4 เดือน โบท็อกกรามอยู่ได้ 5-6 เดือน โบท็อกแท้สามารถสลายหมด 100% ไม่มีสารตกค้างครับ

โบท็อกอเมริกา

โบท็อกจากประเทศอเมริกา คือโบท็อกยี่ห้อ Allergan เป็นโบท็อกที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในประเทศไทย รวมถึงในต่างประเทศทั่วโลก ถือเป็นโบท็อกตัวแรกที่นำมาใช้เพื่อความงาม เป็นต้นแบบของโบท็อกทุกชนิด ปัจจุบันมีงานวิจัยทางการแพทย์รองรับมากกมาย กว่า 3,500 งานวิจัย (since 1989) ว่ามีความปลอดภัย 

อ่านบทความเพิ่มเติม :  โบท็อกอเมริกา ราคาแพงหรือไม่? ฉีดแล้วดีจริงไหม?

Allergan

โบท็อกยี่ห้อ Allergan ผลิตโดยบริษัทอัลเลอร์แกน (Allergan)  ประเทศอเมริกา ที่มีผลิตภัณฑ์ชื่อดังหลายตัว เช่น ฟิลเลอร์ (Filler) ยี่ห้อจูวิเดิร์ม (JUVÉDERM®) รวมไปถึงเทคโนโลยีสลายไขมันด้วยความเย็นยอดนิยมอย่าง คูลสคัลพ์ธิง (COOLSCULPTING®) 

จุดเด่นอยู่ที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง มีความบริสุทธิ์มากถึง 99.5% ทำให้โอกาสดื้อโบท็อกน้อยที่สุดครับ และผลการรักษาดีที่สุดเมื่อเทียบกับโบท็อกยี่ห้ออื่นๆ  โบท็อกอเมริกาจะให้ผลการรักษาที่แม่นยำที่สุด ยากระจายตัวแคบที่สุด ช่วยให้หมอสามารถคาดคะเนการออกฤทธิ์ของโบท็อกได้แม่นยำ ทำให้ผลลัพธ์ที่ออกมาดีที่สุด แต่ก็ต้องอาศัยแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง

โบท็อกยี่ห้อ Allerganมีอายุการใช้งานนานกว่าโบท็อกเกาหลีธรรมดาประมาณ 20% และยังมีราคาสูงกว่าโบท็อกยี่ห้ออื่นๆ

โบท็อกอเมริกา-(Allergan)

โบท็อกอังกฤษ

โบท็อกจากประเทศอังกฤษ ที่เป็นที่นิยมคือ ยี่ห้อ Dysport (ดิสพอร์ต) ครับ ผลิตโดยบริษัท Ipsen มีงานวิจัยระบุว่าดิสพอร์ตมีโครงสร้างของสารที่มีโมเลกุลเล็กกว่าโบท็อกซ์ของอเมริกาครับ มีกระจายตัวกว้าง ทำให้การฉีดต้องอาศัยแพทย์ที่มีประสบการณ์ และความระมัดระวังในการฉีดสูง 

เนื่องจากการเป็นยาที่มีการกระจายตัวกว้าง หากแพทย์ไม่มีประสบการณ์มากพอ ก็จะเพิ่มความเสี่ยงต่อผลข้างเคียงต่างๆ เช่น ตาตก ยิ้มไม่สุด ปากเบี้ยว ได้ครับ

Dysport

โบท็อกยี่ห้อ Dysport จุดเด่นคือ ออกฤทธิ์ไว จึงทำให้โบท็อกกระจายได้อย่างทั่วถึง ไม่กระจุกเป็นจุดแคบๆ สามารถนำมาใช้ปรับรูปหน้า ด้วยเทคนิค dermolift เพื่อยกกระชับหน้าได้ ช่วยลดริ้วรอย และกระชับผิว 

แต่ที่ได้รับความนิยมคือ ใช้ฉีดลดน่อง ลดกราม ลดเหงื่อบริเวณรักแร้และฝ่ามือ เพราะสามารถกระจายได้ในบริเวณกว้าง และเห็นผลลัพธ์ชัดเจนครับ

โบท็อกยี่ห้อ-Dysport-(อังกฤษ)

โบท็อกเยอรมัน

โบท็อกเยอรมัน เป็นที่รู้จักภายใต้แบรนด์ Xeomin ผลิตขึ้นในประเทศเยอรมัน โดยผ่านการรับรองจาก FDA ของสหรัฐอเมริกา ถูกนำเข้ามาใช้ในคลินิกชั้นนำในประเทศไทย โดยบริษัท เมิร์ซ เอสเธติกส์ ประเทศไทย จำกัด (Merz Aesthetics)

Xeomin

โบท็อกยี่ห้อ Xeomin มีจุดเด่นที่เน้นพัฒนาโดยเอาข้อดีของ Allergan กับ Dysport มารวมกันครับ โดยคุณสมบัติต่างๆ จะอยู่กึ่งกลางระหว่างโบท็อกอเมริกากับโบท็อกอังกฤษ คือมีความบริสุทธิ์สูงและตัวยาจะไม่กระจุกตัวแคบเกินไป ทำให้ได้ผลที่ออกมาดูเป็นธรรมชาติ ไม่ตึงเกินไป 

ด้านความปลอดภัย มีงานวิจัยแสดงว่า Xeomin ได้ผลดีในเคสที่ดื้อยา (โดยที่เคสนั้นๆต้องหยุดการฉีดโบท็อกมาแล้วอย่างน้อย 2-3 ปี)

โบท็อกยี่ห้อ-Xeomin-(เยอรมัน)

โบท็อกเกาหลี

โบท็อกจากประเทศเกาหลีเริ่มใช้กันมาเกือบ 10 ปีและได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วมากในประเทศไทย ปัจจุบันมีหลายยี่ห้อมากครับ เพราะราคาที่ไม่แพงมาก แต่ประสิทธิภาพดี ในที่นี้หมอจะกล่าวถึงเฉพาะโบท็อกเกาหลี ที่ผ่านการรับรองจากอย.และมีการนำเข้าอย่างถูกต้องแล้วเท่านั้น

Nabota

โบท็อกยี่ห้อ-Nabota-(เกาหลี)

โบท็อกยี่ห้อ Nabota ผลิตโดยบริษัท DAEWOONG ซึ่งได้พัฒนาตัวยามานานกว่า 30 ปี จนคิดค้นเทคโนโลยีที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะในการผลิตโบท็อกซ์ (Patent registration KR: 10-1339349) ทำให้ตัวยามีความบริสุทธิ์สูงถึง 98.7% ครับ เป็นโบท็อกเกาหลียี่ห้อเดียวที่ผ่านงานวิจัยรับรองจาก อย.อเมริกา (U.S.FDA approved 2018)

จุดเด่นอยู่ที่เน้นการพัฒนาให้ออกฤทธิ์ไว จากประสบการณ์ของหมอในการใช้ พบว่ามีการออกฤทธิ์ไวกว่าโบท็อกเกาหลียี่ห้ออื่นเล็กน้อยครับ เหมาะกับคนที่ต้องการผลโบท็อกแบบเร่งด่วน สามารถช่วยลดริ้วรอยบริเวณใบหน้า และราคาไม่แพง

Aestox

โบท็อกยี่ห้อ-Aestox-(เกาหลี)

โบท็อกยี่ห้อ Aestox เป็นโบท็อกเกาหลี ที่เริ่มมีการนำมาใช้ในประเทศไทยได้ไม่นานครับ ผ่านการนำเข้าโดยบริษัท Aestec Pharma ได้การรับรองจาก KFDA (องค์การอาหารและยาประเทศเกาหลีใต้) และ ThaiFDA (องค์การอาหารและยาประเทศไทย) มีทำการวิจัยกับทางโรงพยาบาลศิริราชเป็นระยะเวลามากกว่า 5 ปี เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดสำหรับคนไทย

จุดเด่นของโบท็อกยี่ห้อ Aestox คือ  ตัวยามีความบริสุทธิ์ถึง 99.5 % ทำให้โอกาสที่จะดื้อยา หรือดื้อโบท็อกลดน้อยลง นิยมใช้เพื่อปรับรูปหน้า ลดกราม ลิฟต์หน้า ลดริ้วรอย สวยอย่างเป็นธรรมชาติ ตัวยาออกฤทธิ์เร็ว และเห็นผลไว

ราคาโบท็อกแต่ละยี่ห้อ

ราคาโบท็อกแต่ละยี่ห้อขึ้นอยู่กับแต่ละจุดเหมาะกับยี่ห้อไหน ปริมาณเท่าไหร่ ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อประเมินตามความเหมาะสมครับ

ราคาฉีดโบท็อกฉีดทั่วหน้า

ยี่ห้อโบท็อก จำนวนยูนิต ราคา
Allergan (อเมริกา) 50 ยูนิต 11,000 บาท
Allergan (อเมริกา) 100 ยูนิต 18,999 บาท
Dysport (อังกฤษ) 300 ยูนิต 18,999 บาท
Xeomin (เยอรมัน) 100 ยูนิต 18,000 บาท
Nabota (เกาหลี) 100 ยูนิต 9,000 บาท
Nabota (เกาหลี) 150 ยูนิต 12,000 บาท
Aestox (เกาหลี) 100 ยูนิต 9,000 บาท
Aestox (เกาหลี) 150 ยูนิต 12,000 บาท

ราคาฉีดโบท็อกลดกราม – หน้าเรียว

ยี่ห้อโบท็อก จำนวนยูนิต ราคา
Allergan (อเมริกา) 100 ยูนิต 16,999 บาท
Dysport (อังกฤษ) 300 ยูนิต 16,999 บาท
Xeomin (เยอรมัน) 100 ยูนิต 15,999 บาท
Nabota (เกาหลี) 100 ยูนิต 6,999 บาท
Aestox (เกาหลี) 100 ยูนิต 6,999 บาท

ราคาฉีดโบท็อกลดเหงื่อ – รักแร้

ยี่ห้อโบท็อก จำนวนยูนิต ราคา
Dysport (อังกฤษ) 300 ยูนิต 18,999 บาท
Dysport (อังกฤษ) 600 ยูนิต 34,000 บาท
Xeomin (เยอรมัน) 200 ยูนิต 28,000 บาท
Nabota (เกาหลี) 100 ยูนิต 9,000 บาท
Nabota (เกาหลี) 150 ยูนิต 12,000 บาท
Nabota (เกาหลี) 200 ยูนิต 16,000 บาท
Aestox (เกาหลี) 100 ยูนิต 9,000 บาท
Aestox (เกาหลี) 150 ยูนิต 12,000 บาท
Aestox (เกาหลี) 200 ยูนิต 16,000 บาท

ราคาฉีดโบท็อกลดต้นแขน-น่อง

ยี่ห้อโบท็อก จำนวนยูนิต ราคา
Allergan (อเมริกา) 200 ยูนิต 34,000 บาท
Dysport (อังกฤษ) 600 ยูนิต 34,000 บาท
Xeomin (เยอรมัน) 200 ยูนิต 28,000 บาท
Aestox (เกาหลี) 150 ยูนิต 12,000 บาท
Aestox (เกาหลี) 200 ยูนิต 16,000 บาท
Nabota (เกาหลี) 150 ยูนิต 12,000 บาท
Nabota (เกาหลี) 200 ยูนิต 16,000 บาท

วิธีเลือกยี่ห้อโบท็อก แก้ปัญหาให้ตรงจุด

การฉีดโบท็อกสามารถช่วยแก้ปัญหาได้หลากหลาย ทั้งการลดริ้วรอย ลดกราม ปรับหน้าเรียว ลดน่อง ลดแขน ลดเหงื่อ ส่วนการฉีดโบท็อกยี่ห้อไหน จะเหมาะกับจุดใด ที่ให้ผลลัพธ์ชัดเจน คุ้มค่า ควรปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์ ช่วยประเมิน และวางแผนการรักษาครับ เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาเป็นธรรมชาติ หน้าไม่ดูแข็งเกร็งผิดธรรมชาติ คนไข้ยังสามารถแสดงอารมณ์ทางสีหน้าได้อย่างเป็นปกติครับ

แนะนำก่อนตัดสินใจ ฉีดโบท็อกที่ไหนดี ให้ดูจากความน่าเชื่อถือและมาตรฐานของคลินิกเป็นหลัก แพทย์ต้องมีประสบการณ์ด้านการปรับรูปหน้า เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาเป็นธรรมชาติ และบวมช้ำน้อยที่สุด 

อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดโบท็อกลดกราม ที่ไหนดี ข้อควรระวังและคำแนะนำ

ข้อควรระวังโบท็อกแต่ละยี่ห้อ

Allergan (โบท็อกอเมริกา)

ในกรณีที่ต้องการฉีดโบท็อกไม่ถึง 50 ยูนิต หรือ 100 ยูนิต หมอแนะนำให้หาเพื่อนมาแชร์ยูนิตให้ครบดีกว่าครับ จะได้เปิดขวดใหม่เพื่อความมั่นใจ เพราะมีหลายๆ คลินิกขายโบท็อกอเมริกา เป็นยูนิตถูกๆ (หรือบางคลินิกขายแพงแต่ใช้ของปลอมก็มีครับ) แต่ใช้ของโบท็อกเกาหลีธรรมดาใส่ขวด Allergan มาฉีดให้ก็ได้ผลใกล้เคียงกันครับ (ไม่ได้เปิดขวดใหม่) 

ซึ่งคนไข้ก็จะแยกไม่ออกครับ เพราะตึงเหมือนกัน ต่างกันที่ระยะเวลาและโอกาสในการดื้อยา ซึ่งเรื่องการดื้อยาเป็นอะไรที่ต้องระมัดระวังและให้ความสำคัญเพราะยังไม่มีวิธีรักษา โบท็อกจึงควรเปิดขวดใหม่ ผสมต่อหน้า เพื่อความมั่นใจว่าของแท้ตามราคาที่จ่ายครับ

หลังฉีดควรจะเก็บขวดและกล่องกลับบ้าน หรือถ่ายรูปเก็บไว้ เพื่อไว้ตรวจสอบว่าเป็นยาแท้จริงๆ วิธีตรวจสอบโบท็อกแท้ยี่ห้อต่างๆ ตามนี้ครับ วิธีดูโบท็อกแท้และฟิลเลอร์ยี่ห้อต่างๆ

Dysport (โบท็อกอังกฤษ)

ข้อควรระวังของการฉีดโบท็อก Dysport คือ การนับยูนิตแตกต่างไปจากโบท็อกยี่ห้ออื่นๆ ครับ โดยโบท็อก 300 ยูนิต ของ Dysport จะเทียบเท่ากับโบท็อกยี่ห้ออื่นๆ 100 ยูนิต ซึ่งมีบางคลินิกนำไปโฆษณาว่า โบท็อกอังกฤษ 100 ยู ราคาถูกๆ แต่แท้จริงแล้วคือเทียบเท่าแค่โบท็อกยี่ห้ออื่น 40 ยูนิตเท่านั้นครับ 

Nabota / Aestox (โบท็อกเกาหลี)

เนื่องจากโบท็อกเกาหลีได้รับความนิยม มีราคาไม่แพง และถูกนำมาใช้เกือบทุกคลินิก ดังนั้นอัตราเสี่ยงที่จะเจอยาปลอม ยาหิ้วเยอะสูงกว่ายี่ห้อโบท็อกจากประเทศอื่นๆ 

จากข้อมูลที่หมอเคยทราบข่าวคือบางคลินิกเอายาปลอมมาใส่ขวด โบท็อกเกาหลีแท้ แล้วเอามาฉีดให้ พอไม่ได้ผล ก็อ้างว่าเป็นเพราะคนไข้เลือกของเกาหลี แล้วก็แนะนำให้ใช้ของอเมริกา พอคนไข้จ่ายเพิ่ม ถึงจะเอาโบท็อกเกาหลีแท้ใส่ขวดโบท็อกอเมริกา มาฉีดให้ครับ คนไข้ก็จะไม่รู้ครับ 

นอกจากนี้ยังมีโบท็อกหิ้วจากเกาหลียังมีให้เห็นมากเช่นกัน โดยที่ไม่ได้ผ่านขบวนการจัดเก็บอย่างเหมาะสม โดยปกติกระบวนการเก็บโบท็อก ต้องเก็บที่อุณหภมิ 2 – 8 °C ทำให้โบท็อกเสื่อมคุณภาพ เมื่อนำมาใช้ จะอยู่ได้ไม่นานครับ และทำให้ดื้อยา

สำหรับคนไข้ที่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะ ฉีดโบท็อกยี่ห้อไหนดี ควรปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์และทุกครั้งควรจะเปิดขวดใหม่ ผสมยาต่อหน้า หลังฉีดควรจะเก็บขวดและกล่องกลับบ้าน หรือถ่ายรูปเก็บไว้ เพื่อไว้ตรวจสอบว่าเป็นโบท็อกแท้จริงๆ ครับ

โบท็อกหิ้วจากต่างประเทศดีไหม อันตรายหรือไม่ ?

อันตรายจากโบท็อกหิ้ว

การหิ้วยาที่ไม่ผ่านกระบวนการที่ถูกต้อง ตรวจสอบที่มาที่ไปไม่ได้ นอกจากมีโอกาสโดนยาปลอมเจือปน ยังทำให้ยาเสื่อมสภาพลง เนื่องจากโบท็อกต้องได้รับการเก็บรักษาในอุณหภูมิที่เหมาะสม ตลอดตั้งแต่การขนส่งจนมาถึงขั้นตอนการฉีดให้คนไข้ เพื่อคงคุณภาพไว้ให้ได้ 100%

โบท็อกต้องเก็บในอุณหภูมิที่เหมาะสม

ซึ่งบนตัวกล่องจะมีระบุไว้อยู่แล้วว่าโบท็อกต้องเก็บในอุณหภูมิ 2-8 องศาเซลเซียส จึงเหมาะสม ถ้าร้อนหรือเย็นมากก็จะทำให้โบท็อกเสื่อมสภาพ อยู่ได้สั้นลง และเมื่ออยู่ได้สั้นลงก็ทำให้ต้องฉีดโบท็อกบ่อยขึ้น ยิ่งฉีดโบท็อกหิ้วมาก ๆ ก็จะทำให้เกิดการดื้อโบท็อกได้ ดังนั้นเมื่อถ้าเทียบราคากันแล้ว โบท็อกแท้จึงมีความคุ้มค่าและปลอดภัยมากว่าแน่นอนครับ

โบท็อกหิ้วเป็นการนำเข้ามาอย่างผิดกฎหมาย ทำให้ไม่สามารถใส่ตู้เก็บความเย็น หรือใช้การขนส่งที่ได้มาตรฐานได้ จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่ยาหิ้ว จะมีคุณภาพเทียบเท่ากับโบท็อกที่นำเข้ามาอย่างถูกกฎหมาย ผ่านอย. และถูกเก็บในอุณหภูมิที่เหมาะสม

เลือกฉีดโบท็อกกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ หมอปุ๋ย

ดังนั้นก่อนฉีดโบท็อก จึงควรตรวจสอบโบท็อกให้แน่ใจว่าเป็นของแท้ที่ได้มาตรฐาน ผ่านการเก็บรักษาในอุณหภูมิที่เหมาะสม โดยเลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือ ยินยอมให้ตรวจสอบโบท็อกก่อนฉีด มีใบรับรอง หรือสามารถโทรเช็คเลข Lot. กับบริษัทนำเข้าได้ ก็จะช่วยยืนยันถึงคุณภาพและความปลอดภัยก่อนฉีดครับ

สรุป

ดังนั้นก่อนฉีดโบท็อก จึงควรตรวจสอบโบท็อกให้แน่ใจว่าเป็นของแท้ที่ได้มาตรฐาน ผ่านการเก็บรักษาในอุณหภูมิที่เหมาะสม โดยเลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือ ยินยอมให้ตรวจสอบโบท็อกก่อนฉีด มีใบรับรอง หรือสามารถโทรเช็คเลข Lot. กับบริษัทนำเข้าได้ ก็จะช่วยยืนยันถึงคุณภาพและความปลอดภัยก่อนฉีดครับ

*บทความนี้เป็นผลการเปรียบเทียบโดยอ้างอิงจากงานวิจัย และประสบการณ์การใช้โบท็อก ยี่ห้อต่างๆ ที่ V Square clinic ทั้ง 20 สาขา โดยในปี 2015-2022 ทางคลินิกมียอดการใช้งานสูงอันดับต้น ๆ ทุกยี่ห้อครับ

*การเปรียบเทียบ Xeomin, Nabota, Botulax ยังไม่มีงานวิจัยที่ชัดเจน ในที่นี้จึงอ้างอิงจากประสบการณ์การใช้ของทีมแพทย์ ที่ V Square Clinic เป็นหลักครับ

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้ง 25 สาขา หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ สามารถศึกษานโยบายความเป็นส่วนตัวและจัดการความเป็นส่วนตัว ได้ที่ปุ่มตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า