ฉีดโบท็อกซ์ หางตา (Botox Eyes)
“การฉีดโบท็อกหางตา” เป็นหัตถการที่ช่วยรักษาริ้วรอย บริเวณรอบดวงตาที่เป็นริ้วเล็กๆ รวมถึงรอยตีนกาครับ เพราะริ้วรอยรอบดวงตา ทั้งรอยตีนกาหรือแม้แต่ถุงใต้ตา จะเริ่มหย่อนคล้อยเมื่ออายุมากขึ้น
หากลองสังเกตดู เมื่อเราอายุยังน้อย พื้นผิวรอบดวงตาจะกระชับและเต่งตึง กล้ามเนื้อต่างๆ ยังไม่ดึงรั้ง ส่งผลให้ดวงตายังกลมโตดูสดใส จนกระทั่งอายุมากขึ้น กล้ามเนื้อจะดึงรั้งให้หางตาค่อยๆ ตกลง ดวงตาจึงเริ่มดูไม่สดใส บางคนมีปัญหาถุงใต้ตา ขอบตาคล้ำชัดเจน ก็ยิ่งทำให้ดูแก่ลงครับ ดังนั้น “การฉีดโบท็อกหางตา” สามารถช่วยให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีด เกิดการคลายตัวชั่วคราว ริ้วรอยจางลงอย่างชัดเจน ซึ่งจะเห็นผลภายใน 5-7 วันหลังทำ จึงเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง
สารบัญ ฉีดโบท็อกซ์ หางตา (Botox Eyes)
ฉีดโบท็อกซ์หางตา อันตรายไหม?
ใครที่กลัวการฉีดโบท็อกหางตา กลัวความผิดพลาดจากการฉีด ว่าจะทำให้ตาตก ตาแข็ง หรือไม่เป็นธรรมชาติ ในความเป็นจริงแล้ว การฉีดโบท็อกไม่ได้น่ากลัวและอันตรายครับ หากใช้เทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง และอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ที่มีประสบการณ์
“
ประสบการณ์และความชำนาญของแพทย์คือหัวใจสำคัญของความปลอดภัย
“
แพทย์ที่มีประสบการณ์จะทราบว่าจุดไหน เป็นจุดที่สามารถฉีดโบท็อกซ์ได้ และให้ผลลัพธ์อย่างไร ดังนั้นประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของแพทย์ จะสามารถการตรวจประเมินสภาพริ้วรอยรอบดวงตา และประเมินปริมาณยาที่จะฉีดอย่างพอเหมาะจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้เกิดความปลอดภัยครับ
การแก้ไขปัญหาริ้วรอยรอบดวงตา ที่ตรงจุดที่สุด คือการลดการทำงานของกล้ามเนื้อ โดยใช้สารโบท็อกซ์ หรือ โบทูลินัม ท็อกซิน (Botulinum Toxin) ชนิดเอ (Type A) ซึ่งเป็นสารสกัดจากแบคทีเรียชื่อ คลอสตริเดียม โบลูทินัม (Clostridium Botulinum)
สารโบท็อกจะออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท (Neurotoxin) ส่งผลให้กล้ามเนื้อทำงานลดลงชั่วคราว ผิวจึงไม่ขยับ ไม่เกิดการพับ ช่วยลดริ้วรอยบริเวณดวงตาได้
เพื่อให้การฉีดโบท็อกหางตาปลอดภัย เป็นธรรมชาติ หลังการฉีดคนไข้สามารถยิ้มได้ หน้าไม่แข็งหรือตึงจนเกินไป ควรฉีดโบท็อกซ์กับแพทย์ที่มีประสบการณ์ ฉีดในปริมาณที่เหมาะสม การฉีดโบ botox ที่กล้ามเนื้อบริเวณหางตานั้น หากฉีดหลายๆ ตำแหน่งพร้อมกัน อาจทำให้มีอาการตาแห้ง ตามัวเล็กน้อย แต่ไม่อันตราย จะค่อยๆ ดีขึ้นเองจนเป็นปกติ ประมาณสัปดาห์ที่ 3-4 หลังการทำ
บทความแนะนำ
ฉีดโบท็อก ( botox ) ปลอดภัยไหม?ฉีดโบท็อกซ์หางตา ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง?
ในทางการแพทย์ช่วงแรกได้นำโบท็อกซ์มาฉีดเพื่อรักษาโรคตา เช่น ตาเหล่ ตาเข ครับ แต่กลับพบว่า ริ้วรอยบริเวณใบหน้าและรอบดวงตาลดลงได้ด้วย จึงได้นำโบท็อกซ์มาประยุกต์ใช้ด้านความงามมากขึ้น การฉีดโบท็อกซ์ เป็นการฉีดสารเข้าไปตามจุดของกล้ามเนื้อ เพื่อให้กล้ามเนื้อมีการผ่อนคลาย แต่ไม่ได้ทำให้กล้ามเนื้อตาย ตามอย่างที่หลายคนเข้าใจซึ่งเป็นการเข้าใจที่ผิดครับ
การฉีดโบท็อกซ์หางตา จะช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว ริ้วรอยเหี่ยวย่นถูกคลี่ออก จึงแก้ปัญหาริ้วรอยได้ ได้แก่
- ริ้วรอยเล็กๆ อย่างรอยย่นหางตา
- รอยตีนกา รอยย่นใต้ตา
- รอยย่นขมวดคิ้ว
- รอยย่นที่สันจมูก
(ริ้วรอยบริเวณรอบดวงตา รอยตีนกา แก้ไขได้ด้วยโบท็อก)
ซึ่งหลังจากฉีดโบท็อกประมาณ 3-7 วัน จะเริ่มรู้สึกว่าริ้วรอยเหี่ยวย่นลดลง และได้ผลเต็มที่ในเวลา 2 สัปดาห์ แม้กล้ามเนื้อจะผ่อนคลายลง แต่เราก็ยังสามารถยิ้มและแสดงอารมณ์ทางใบหน้าได้ตามปกติครับ
สาเหตุของริ้วรอยรอบดวงตา จนต้องฉีดโบท็อกซ์หางตา
(ตีนกา ริ้วรอยใต้ตา เกิดจากการขยับของผิวที่เมื่อแสดงสีหน้ายิ้ม หัวเราะ เห็นเด่นชัดเมื่ออายุมากขึ้น)
สาเหตุส่วนใหญ่ของปัญหาริ้วรอยรอบดวงตา มาจากคอลลาเจน อีลาสติน และกรดไฮยาลูรอนิกในผิวลดลง และสารอนุมูลอิสระทำลายเซลล์ผิว ทำให้ผิวของเราเริ่มเสื่อมและหย่อนคล้อย เกิดการสะสมของน้ำและไขมันมากขึ้น
ปัญหานี้อาจไม่ได้เกิดจากอายุที่เพิ่มมากขึ้นเพียงอย่างเดียว แต่ยังอาจเกิดได้จากปัจจัยอื่นๆ อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมส่วนตัวที่ชอบขยี้ตา หรือถูตาเป็นระยะเวลานาน ๆ การเคลื่อนไหวแสดงอารมณ์บนใบหน้าที่เกิดขึ้นซ้ำๆ เช่น การยิ้ม การหัวเราะ ร้องไห้ รวมไปถึงผิวหนังถูกทำลายด้วยเเสงเเดด การสูบบุหรี่
รวมถึงการระคายเคืองของผิวหนังรอบดวงตา อาการภูมิแพ้ที่เป็นอยู่จากสภาพแวดล้อมต่างๆ อาหารการกิน หรือไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันแต่ละบุคคล ก็ล้วนมีส่วนในการทำให้ริ้วรอยรอบดวงตาได้ชัดเจนมากขึ้นด้วย
แต่ในกรณีที่มีริ้วรอยรอบดวงตาที่เกิดจากการทรุดตัวของกระดูก มองเห็นเบ้าตาลึก ตาโหล มีร่องใต้ตา วิธีการแก้ไขด้วยโบท็อกอาจไม่ตอบโจทย์ทั้งหมดครับ จำเป็นต้องฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เข้าไปช่วยปรับแก้ไขให้ใบหน้าโดยรวม ให้ดูสดชื่น สดใส มากขึ้นครับ ซึ่งหมอจะประเมินแนวทางรักษาเป็นเคสๆ ไปครับ
บทความแนะนำ
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ช่วยเรื่องอะไร?การเตรียมตัวก่อนฉีดโบท็อกหางตา
- ต้องตรวจเช็คร่างกายตัวเองก่อนว่า มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง หากมียาที่กินประจำหรือโรคประจำตัวควรแจ้งแพทย์ก่อนฉีดโบท็อกซ์หางตาทุกครั้ง
- ก่อนทำการฉีดโบท็อก ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 3-7 วัน
- หยุดทานอาหารเสริม ที่ส่งผลให้การแข็งตัวของเลือดผิดปกติ เช่น วิตามินอี น้ำมันปลา หรือ สมุนไพรที่ทำให้ร่างกายร้อน ยาแก้อักเสบ ยาแอสไพริน ประมาณ 1 สัปดาห์
- งดการสครับหน้าและขัดหน้า เป็นเวลา 2-3 วัน และควรพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 8 ชั่วโมงต่อวัน (สำหรับสตรีมีครรภ์ และให้นมบุตร ไม่ควรฉีดโบท็อกโดยเด็ดขาด)
การฉีดโบท็อกไม่จำเป็นต้องใช้ยาชาหรือยาระงับความรู้สึกใดๆ แต่ถ้าหากกลัวเจ็บมากๆ สามารถแจ้งให้คลินิกแปะยาชาก่อนได้ครับ
ฉีดโบท็อกหางตา ต้องฉีดซ้ำหรือไม่ อยู่ได้นานเท่าไหร่?
การฉีดโบท็อกหางตา ต้องฉีดซ้ำทุกๆ 3-4 เดือนเพื่อคงสภาพ เนื่องจากโบท็อกไม่ได้ออกฤทธิ์ถาวร และควรฉีดโดยแพทย์ที่มีใบรับรองเท่านั้น หากฉีดโบท็อกหางตามากเกินไป หรือใช้เทคนิคที่ไม่ถูกต้อง จะทำให้ตาดูตึงและไม่เป็นธรรมชาติ หลังฉีดโบท็อกหางตา จะเริ่มเห็นผลในช่วง 5–7 วัน เห็นผลสูงสุดหลังฉีดประมาณ 14วัน และออกฤทธิ์คงอยู่ได้ ประมาณ 3-4 เดือน แล้วแต่กล้ามเนื้อของแต่ละบุคคล
บางคนกล้ามเนื้อแข็งแรงมาก หากฉีดเป็นครั้งแรก ก็อาจอยู่ได้ประมาณ 3 เดือนก่อนปลายประสาทกลับสู่สภาพปกติ การเปลี่ยนแปลงของเซลล์กล้ามเนื้อที่เกิดขึ้นจากฤทธิ์ยาอาจยังคงอยู่ต่อไปได้ หลังจากยาหมดฤทธิ์แล้วระยะหนึ่ง จึงจำเป็นต้องฉีดซ้ำ เพื่อคงสภาพของการเปลี่ยนแปลงและผลการรักษาให้ต่อเนื่อง
ควรทิ้งช่วงการฉีดหลังจากฉีดโบท็อกซ์หางตา แต่ละครั้งประมาณ 2 เดือนเป็นอย่างต่ำ เพราะไม่เช่นนั้น อาจจะเสี่ยงกับการดื้อโบท็อกซ์ และกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดฝ่อและบางลง
ข้อควรระวัง! หลังฉีดโบท็อกหางตา
- หลังฉีดทันที ไม่ควรจับ ลูบคลำ หรือนวดบริเวณที่ฉีด เพราะอาจมีผลต่อการกระจายตัวของตัวยา
- หลีกเลี่ยงการนอนราบ 3 ชั่วโมงหลังฉีด
- หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด ในช่วง 24 ชั่วโมงหลังฉีด เพราะแอลกอฮอล์ จะเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ทำให้โบทอกปลิวไปและสลายได้เร็ว
- หลีกเลี่ยงการเข้าอบไอน้ำ อบซาวน่า ยิงเลเซอร์ ทำ RF ประมาณ 2 สัปดาห์
- หลังการฉีดโบท็อกซ์หางตา สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ สามารถแต่งหน้าได้ ทาครีมบำรุงต่างๆ ได้ตามปกติ โดยไม่ต้องใช้เวลาในการพักฟื้น
อ่านบทความที่เกี่ยวข้องกับการฉีดโบท็อก
ฉีดโบท็อกซ์หางตา ราคาอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่?
การฉีดโบท็อก ราคาแต่ละจุดนั้นจะพิจารณาจากยี่ห้อโบท็อกที่เลือกและปริมาณที่ใช้ครับ โดยหมอจะประเมินว่าคนไข้แต่ละเคสเหมาะกับโบท็อกชนิดไหน มีงบประมาณเท่าไหร่ เพื่อให้คนไข้ได้ฉีดโบท็อกที่เหมาะสม คุ้มค่าและคุ้มราคาที่สุดครับ
ที่ V Square Clinic แนะนำโบท็อก Nabota/Aestox ของประเทศเกาหลี ฉีดลดริ้วรอยหางตา ตีนกา ใต้ตา 25 U ราคา 3,000.-
การฉีดโบท็อกซ์หางตา เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย ขึ้นอยู่กับการเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ใช้โบท็อกที่มีคุณภาพ และที่สำคัญแพทย์มีประสบการณ์สูงครับ
อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดโบท็อกยี่ห้อไหนดีที่สุด แตกต่างกันอย่างไร แบบไหนคุ้ม
ตัวอย่างเคสฉีดโบท็อกลดริ้วรอย (หางตา ตีนกา)
ดูแลตัวเองหลัง ฉีดโบท็อกซ์หางตาอย่างไร?
เมื่อ ฉีดโบท็อกหางตา แล้ว สิ่งสำคัญคือ การดูแลตัวเอง และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดริ้วรอยรอบดวงตาอีกได้ เช่น
- การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
- ไม่ใช้งานดวงตาหนักจนเกินไป ควรพักผ่อนสายตาบ้าง โดยเฉพาะคนนั่งจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์เป็นเวลานาน
- ไม่ขยี้ตาหรือถูตาแรงๆ ควรเช็ดเครื่องสำอางรอบดวงตาอย่างเบามือ
- ควรสวมแว่นกันแดดและทาครีมกันแดดทุกครั้ง เมื่อออกแดด
- ควรดื่มน้ำมากๆ วันละ 6 – 8 แก้ว เพราะผิวหน้าและผิวรอบดวงตาเป็นส่วนที่บอบบาง จึงควรทำให้ผิวชุ่มชื้นอยู่เสมอ อย่าให้ผิวขาดน้ำ เพราะจะทำให้เกิดรอยคล้ำชัดเจนขึ้นได้ครับ
ใครที่กำลังกังวลเกี่ยวกับการฉีดโบท็อกหางตา หมอแนะนำให้เข้ามาปรึกษาก่อน เพื่อประเมินสาเหตุของริ้วรอยและวางแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสมครับ
สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง Inbox Facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ
