coolsculpting elite ดีไหม ? ต่างจาก coolsculpting รุ่นเดิมอย่างไร ? เหมาะกับใครบ้าง ?

coolsculpting elite

coolsculpting elite เป็นนวัตกรรมสลายไขมันด้วยความเย็น รุ่นใหม่ล่าสุดที่ได้มีการต่อยอดมาจาก coolsculpting รุ่นเดิม โดยมีการปรับเปลี่ยนรูปทรงให้มีความทันสมัยมากขึ้น รวมถึงมีการเพิ่มจำนวนหัวแอปพลิเคเตอร์เข้ามา จึงทำให้มีความแตกต่างในด้านการใช้งานเล็กน้อยครับ 

สำหรับใครที่มีข้อสงสัยว่า coolsculpting elite ดีไหม ? ต่างจาก coolsculpting รุ่นเดิมอย่างไร ? เหมาะกับใครบ้าง ? coolsculpting elite ราคาเท่าไหร่ ?เปรียบเทียบ coolsculpting elite VS การดูดไขมัน VS ฉีดเมโสแฟต ต่างกันอย่างไร ? รีวิวผลลัพธ์หลังทำ coolsculpting elite ทุกข้อควรรู้หมอได้สรุปมาไว้ให้แล้วครับ 

สารบัญ coolsculpting elite

1. coolsculpting elite คืออะไร ?
2. coolsculpting elite ทำงานอย่างไร ?
3. เปรียบเทียบ coolsculpting elite VS การดูดไขมัน VS ฉีดเมโสแฟต ต่างกันอย่างไร ?
4. coolsculpting elite มีอะไรใหม่ ต่างกับของเดิมอย่างไร ?
5. coolsculpting elite ช่วยอะไรบ้าง ?
6. รีวิวระยะเวลาในการทำ coolsculpting elite
   • ทำ Coolsculpting Elite แล้วไม่เห็นผล เกิดจากอะไร ?
7. การดูแลหลังทำ coolsculpting elite
8. coolsculpting elite ราคาเท่าไหร่ ?
9. ทำ coolsculpting elite ที่ไหนดี ?
10. คำถาม coolsculpting elite ที่พบบ่อย
    • coolsculpting elite ดีไหม ?
    • coolsculpting elite เจ็บไหม ?
    • coolsculpting elite อันตรายไหม ?

coolsculpting elite คืออะไร ?

coolsculpting elite เป็นนวัตกรรมกำจัดไขมันแบบใหม่ ที่แตกต่างจากการกำจัดไขมันแบบเดิม โดยจะเป็นการสลายไขมันด้วยความเย็นในระดับจุดเยือกแข็งมากำจัดไขมัน เป็นเครื่องมือที่ไม่ต้องฉีด ไม่ต้องดูดไขมัน ไม่มีการดมยาสลบ ไม่มีบาดแผล หลังทำไม่ต้องพักฟื้น เจ็บน้อย คนไข้สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ มีความปลอดภัยสูง ผ่านการรับรองจาก อย. ไทยและสหรัฐอเมริกา (U.S. FDA)

โปรแกรม coolsculpting elite มีความโดดเด่นในการช่วยกำจัดไขมันส่วนเกินที่ลดได้ยาก เช่น บริเวณหน้าท้อง เอว ต้นแขน ต้นขา เหนียง และน่อง โดยสามารถกำจัดเซลล์ไขมันในร่างกายให้ตายลงแบบถาวรได้ตั้งแต่ครั้งแรกถึง 25% โดยไม่มีผลกระทบต่อเซลล์อื่น ๆ จึงเป็นทางเลือกใหม่ที่เหมาะกับคนที่พยายามออกกำลังกายและควบคุมอาหารแล้ว แต่ก็ยังมีไขมันสะสมอยู่ครับ

คนไข้สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ CoolSculpting ได้จากบทความแนะนำ หมอได้รวบรวมทุกข้อควรรู้ CoolSculpting ดีอย่างไร ? หลังทำกี่วันเห็นผล ทำไมต้องกำจัดไขมันด้วยความเย็น? ไว้ให้แล้วครับ 

coolsculpting elite ทำงานอย่างไร ?

coolsculpting elite มีหลักทำงานเหมือนกับ coolsculpting รุ่นเดิมครับ แต่จะต่างกันเล็กน้อยตรงที่ coolsculpting รุ่นเดิมจะแช่แข็งก้อนไขมันด้วยความเย็น -11 ในขณะที่ coolsculpting elite จะแช่แข็งก้อนไขมันด้วยความเย็น -11 ถึง – 13°C โดยจะใช้หัวแอปพลิเคเตอร์ดึงชั้นไขมันเข้ามาไว้ในหัวของเครื่อง คล้าย ๆ เราหยิกไขมันที่พุงขึ้นมา ซึ่งจะแช่แข็งเฉพาะเซลล์ในชั้นไขมันเท่านั้น 

หลังจากที่เซลล์ไขมันถูกแช่แข็งครบเวลา ก็จะใช้การนวดเพื่อให้เซลล์ไขมันตาย และลดจำนวนลงแบบถาวร จากนั้นร่างกายจะกำจัดออกไปเองตามธรรมชาติ ส่วนเซลล์ไขมันที่เหลือจะมีการเรียงตัวใหม่ ทำให้ชั้นไขมันบางลง ส่งผลให้รูปร่างดูกระชับ ได้สัดส่วนมากขึ้น

เปรียบเทียบ coolsculpting elite VS การดูดไขมัน VS ฉีดเมโสแฟต ต่างกันอย่างไร ?

CoolSculpting elite การดูดไขมัน และหารฉีดเมโสแฟต  จะมีความต่างกันอยู่มากครับ ทั้งกระบวนการทำ, ผลข้างเคียงหลังทำ, ผลลัพธ์ที่ได้, เทคโนโลยีที่ใช้ รวมถึงความเหมาะสมในการทำของแต่ละเคส

การดูดไขมัน

การดูดไขมันถือเป็นการผ่าตัดเล็ก ต้องฉีดยาชาปริมาณมาก และในบางเคสอาจต้องใช้ยาสลบ จึงจำเป็นต้องอยู่ในการควบคุมของแพทย์เฉพาะทางเท่านั้น และหลังทำจะเกิดรอยบวมช้ำค่อนข้างเยอะ ต้องพักฟื้นประมาณ 1 เดือน 

ส่วนด้านผลข้างเคียงหลังดูดไขมัน ยังพบปัญหาผิวไม่เรียบในบริเวณที่ดูดไขมันได้ ซึ่งจะอยู่ถาวรไม่สามารถแก้ไขให้หาย 100% ถ้าไม่อยากรับความเสี่ยงในจุดนี้ ไม่อยากเจ็บตัว ไม่อยากมีแผล การทำ  CoolSculpting elite และ CoolSculpting จะเป็นวิธีที่เหมาะสมกว่าครับ 

ฉีดเมโสแฟต

การฉีดเมโสแฟต คือ การฉีดตัวยาเข้าสู่ชั้นผิวบริเวณที่มีไขมันสะสม เช่น เมโสแฟตต้นขา เมโสแฟตต้นแขน และ เมโสแฟตเหนียง โดยตัวยาจะเข้าไปกระตุ้นการทำงานของ metabolism ที่เป็นกลไกเร่งการสลายไขมันของร่างกาย และ L-carnitine ทำให้ร่างกายดึงไขมันมาใช้เป็นพลังงานมากขึ้น (Fat burn) จากนั้นไขมันจะแตกตัวและถูกปล่อยออกมาในรูปของก๊าซและไขมันเหลว โดยจะปนมากับการหายใจ เหงื่อ ปัสสาวะและอุจจาระครับ

หลังฉีดเมโสแฟตจะช่วยสลายไขมันได้ประมาณ 10-15% ต่อการฉีด 1 ครั้ง คนที่มีไขมันสะสมเยอะอาจเห็นผลไม่ชัดเจนในครั้งแรก อาจต้องฉีด 4-5 ครั้ง ถึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน หลังฉีดเมโสแฟตจะให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 2-3 เดือน ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันเดิมของคนไข้ การดูแลตัวเองหลังฉีด

ส่วนผลข้างเคียงจากการฉีดเมโสแฟต คือ อาจมีอาการบวมจากตัวยา ในบริเวณที่ฉีดครับ หากฉีดที่แก้มจะบวม ตุ่ย ๆ คล้ายกับอมลูกอมไว้ ซึ่งจะบวมประมาณ 1-2 ชั่วโมงหลังฉีด และจะค่อย ๆ ยุบบวมได้เอง 

เมื่อเปรียบเทียบความเสี่ยงในด้านต่าง ๆ แล้ว ทั้ง CoolSculpting elite และ CoolSculpting รุ่นเดิมจะได้เปรียบกว่ามาก เนื่องจากเป็นการกำจัดไขมันด้วยความเย็น ไม่ใช่การผ่าตัด จึงไม่มีแผล และไม่ต้องพักฟื้น หลังทำเห็นผลชัดเจนใน 3 เดือน ที่สำคัญมีราคาถูกกว่าการดูดไขมัน และคุ้มค่ากว่าการฉีดเมโสแฟตที่ต้องฉีดซ้ำหลายรอบถึงจะเห็นผลครับ

ข้อควรรู้ : การดูดไขมันเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการกำจัดไขมันปริมาณเยอะ ๆ (BMI > 35) เท่านั้น ผู้ที่ไขมันน้อยกว่านี้ แนะนำว่าควรเลือกใช้วิธีที่ปลอดภัยและไม่ส่งผลเสียในระยะยาวดีกว่าครับ

coolsculpting elite มีอะไรใหม่ ต่างกับของเดิมอย่างไร ?

coolsculpting elite จะมีจุดที่แตกต่างจากเครื่อง coolsculpting รุ่นเดิมเพียงเล็กน้อยครับ คือมีหัวแอปพลิเคเตอร์เพิ่มเข้ามาจากเดิม 5 หัว เป็น 7 หัวที่สามารถทำพร้อมกันสองตำแหน่งในเวลาเดียวกันได้ (2 IN 1 Innovation)  รวมทั้งได้มีการพัฒนาหัว applicators ให้มีขนาดใหญ่ขึ้น 18% เพื่อครอบคลุมพื้นที่ทุกส่วน รูปทรงของหัวแอปพลิเคเตอร์จะเป็น C-shaped cup ที่มีความโค้งเว้าเข้ากับสรีระร่างกาย โดยแบ่งออกเป็น 3 series ด้วยกันดังนี้

Curve Series เป็นหัวที่เน้นสลายไขมัน เหมาะกับสัดส่วนที่มีความเว้า

• Curve 80 (Applicator) ช่วยสลายไขมันบริเวณเหนือหัวเข่า นมน้อย และเหนียง
• Curve 120  (Applicator) ช่วยสลายไขมันบริเวณต้นขาด้านใน แขน หน้าท้อง รักแร้ลงมาถึงเอว
• Curve 150  ช่วยสลายไขมันส่วนเกินบริเวณหน้าท้อง บั้นท้าย
• Curve 240  ช่วยสลายไขมัน ลดสัดส่วนให้กระชับมากยิ่งขึ้น

Flat Series เป็นหัวที่เน้นสลายไขมัน ลดเซลลูไลท์ (Cellulite) เหมาะกับสัดส่วนที่มีความเรียบแบน

• Flat 125 ช่วยสลายไขมันส่วนเกินในบริเวณ ต้นขาด้านใน แขน และใบหน้า
• Flat 165 ช่วยกำจัดเซลล์ไขมันได้ในบริเวณหน้าท้องส่วนบน และส่วนล่าง

Surface เป็นหัวที่เน้นสลายไขมัน กระชับสัดส่วน เหมาะกับสัดส่วนที่ไม่สามารถหนีบหรือจับได้

• Surface 150 ช่วยกำจัดไขมันส่วนเกินบริเวณหน้าท้อง และต้นขาด้านนอก 

ส่วน CoolSculpting รุ่นเดิมจะมีทั้งหมด 5 หัว ใช้ในการกำจัดไขมันได้หลายรูปทรงและหลายขนาด สามารถออกแบบรูปทรงในการลดของไขมันได้คล้าย ๆ การปั้น (Sculpting) โดยผู้เชี่ยวชาญจะเป็นคนแนะนำและให้คำปรึกษาในการออกแบบสัดส่วนตามที่คนไข้ต้องการ ซึ่งแต่ละหัวจะใช้งานต่างกันดังนี้ครับ

• หัว Cooladvantage  มีขนาดกว้าง 6 cm. ยาว 16 cm. พื้นที่ประมาณ 18 ตารางนิ้ว เป็นตัวที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ประมาณ 60-70% ของเคสทั้งหมด เหมาะกับคนที่มีไขมันสะสมปานกลาง ใช้ทำได้ 7 จุด ได้แก่ ท้อง, เอว, แขน, หน้าอก(ผู้ชาย), ปีกหลัง, ขาด้านใน และใต้ก้น
• หัว CoolAdvantage Petite เหมาะกับคนที่มีไขมันไม่หนามาก คนตัวเล็ก ใช้สำหรับลดไขมันได้ 7 จุด เท่ากับหัว CoolAdvantage ได้แก่ ท้อง, เอว, แขน, หน้าอก(ผู้ชาย), ปีกหลัง, ขาด้านใน และใต้ก้น
• หัว Cool Advantage Plus  เป็นหัวขนาดใหญ่ เหมาะกับคนที่มีไขมันเยอะ ช่วยลดไขมันบริเวณกว้าง ได้แก่ เอว ท้อง 
• หัว Cool Mini เป็นหัวขนาดเล็ก ใช้สำหรับลดไขมันบริเวณเหนียง นมน้อย (เนื้อใต้รักแร้) เหนือหน้าอก(ผู้หญิง)  เนื้อย้วยเหนือเข่าในบางรายที่ลดด้วยการออกกำลังกายไม่ได้ผล
• หัว Cool Smooth Pro มีขนาดกว้าง 14 cm. ยาว 18 cm. พื้นที่ประมาณ 38 ตารางนิ้ว ใช้สำหรับบริเวณขาด้านนอก หน้าท้อง และบริเวณใต้สะโพกลงมา (บางคลินิกใช้ทำ sixpack)

สรุป coolsculpting elite มีอะไรใหม่ ต่างกับ coolsculpting รุ่นเดิมอย่างไร ?

coolsculpting elite มีการพัฒนาหัวแอปพลิเคเตอร์สองหัวในเครื่องเดียว คือ หัว Curve 80 และ Curve 120 ซึ่งสองหัวนี้สามารถทำพร้อมกันทีเดียว 2 ตำแหน่ง และได้มีการเพิ่มหัวแอปพลิเคเตอร์จากเดิม 5 เป็น 7 หัวที่มีรูปร่างทันสมัยมากขึ้น สามารถส่งความเย็นในระดับจุดเยือกแข็ง -11 ถึง -13 °C

ส่วนในด้านประสิทธิภาพการลดไขมัน ตำแหน่งที่สามารถทำได้ รวมถึงระยะเวลาในการทำ ทั้ง coolsculpting elite และ coolsculpting รุ่นเดิม จะไม่ได้มีความแตกต่างกันครับ ช่วยลดไขมัน กระชับสัดส่วน เห็นผลลัพธ์ที่ดีด้วยกันทั้งคู่ แต่ถ้าพูดถึงเรื่องราคา เครื่อง coolsculpting elite จะมีราคาที่สูงกว่า coolsculpting รุ่นเดิมครับ

ดังนั้นการจะเลือกว่าควรใช้เครื่องไหนดี แนะนำให้ดูตามปัญหา ความต้องการ และความคุ้มค่าคุ้มราคา เพราะเทคโนโลยีและประสิทธิภาพในการลดไขมันจะเห็นผลลัพธ์เหมือนกัน เพียงแต่แตกต่างกันตาม option เช่น เทคนิคการใช้ จำนวนและลักษณะหัวแอปพลิเคเตอร์ครับ

ข้อควรรู้ : ในการเลือกใช้เครื่องมือ หมอและนักกายภาพจะประเมินส่วนที่ต้องการกำจัดไขมัน และเลือกหัวให้เหมาะกับขนาดพื้นที่ที่จะทำครับ เช่น ต้นขาด้านนอกมีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง จึงต้องใช้หัวที่ใหญ่ แนบไปกับผิวต้นขาเพื่อให้บาลานซ์พื้นที่ ต่อเนื่องกับบริเวณต้นขาด้านหน้าและหลังด้วย ผิวจะเรียบสม่ำเสมอกันครับ

coolsculpting elite ช่วยอะไรบ้าง ?

• ช่วยสลายไขมันส่วนเกินเฉพาะจุด ช่วยลดเหนียงเร่งด่วน รวมถึงช่วยหน้าท้อง เอว ต้นแขน ต้นขา น่อง สะโพก ทำให้รูปร่างกระชับ ดูสมส่วนขึ้น
• ช่วยกระชับสัดส่วนในคุณแม่หลังคลอดที่อยากกลับมามีหุ่นใกล้เคียงก่อนตั้งครรภ์
• ช่วยลดจำนวนเซลล์ไขมันในชั้นผิวหนังบริเวณที่ทำให้ตายลงแบบถาวร

ข้อควรรู้ : Coolsculpting เหมาะสำหรับคนที่ต้องการสลายไขมันในปริมาณปานกลาง (BMI<35) เพื่อแก้ไขสัดส่วน โดยที่ไม่อยากผ่าตัดดูดไขมัน ไม่อยากได้รับผลข้างเคียงในระยะยาวจากการดูดไขมัน และไม่อยากพักฟื้นนาน ไม่อยากมีแผล

รีวิวระยะเวลาในการทำ coolsculpting elite

วิธีการทำ ทั้ง Coolsculpting elite และ Coolsculpting รุ่นเดิม มีขั้นตอนเหมือนกันครับ ซึ่งจะมีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยาก ใช้เวลาไม่นาน ก่อนทำคนไข้สามารถแต่งหน้า รับประทานอาหาร ออกกำลังกาย และดื่มน้ำได้ตามปกติ การทำ CoolSculpting จะคล้ายกับการทำทรีทเมนท์ทั่วไป ไม่ได้เป็นการผ่าตัดครับ

รีวิวระยะเวลาในการทำ coolsculpting elite

1. ในวันแรก คนไข้สามารถเข้ามาปรึกษาหมอที่คลินิกเพื่อทำการตรวจประเมินว่าสามารถสลายไขมันต้นขา ด้วยการทำ Coolsculpting ได้หรือไม่ หากทำได้หมอจะนัดคิวและสามารถทำได้เลยครับ
2. แพทย์ และ Specialist ตรวจประเมินปริมาณไขมันในจุดที่ต้องการทำ ประเมินจำนวนหนีบ (Applicator) ค่าใช้จ่าย รวมถึงปรึกษา-ซักถามข้อมูลที่สงสัยก่อนครับ
3. เมื่อตัดสินใจทำ Specialist จะเลือกใช้ Applicator ให้เหมาะสมกับจุดที่ต้องการทำ เลือกหัวที่มีจุดเว้า จุดโค้งตามสรีระของคนไข้ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
4. เริ่มวางหัว Applicator และให้เครื่องทำงาน โดยในแต่ละหนีบ จะใช้เวลาประมาณ 35 นาที โดยในช่วง 10 นาทีแรก จะรู้สึกเย็นในผิวหนัง และรู้สึกชาตามมา ไม่เจ็บ ไม่ปวดขณะทำครับ
5. เมื่อครบเวลา Specialist จะทำการนวดจุดที่ทำ เพื่อให้ไขมันแตกตัวได้ดียิ่งขึ้น โดยจะใช้เวลาการนวดประมาณ 2 นาที คนไข้จะรู้สึกเจ็บเล็กน้อยครับ
6. หลังทำเสร็จ สามารถกลับบ้านได้ และแนะนำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ครับ

รีวิวผลลัพธ์หลังทำ coolsculpting elite

1. ในช่วง 1-2 อาทิตย์แรกหลังทำ จะบวมในจุดที่เซลล์ไขมันมันตายและค้างอยู่ เพราะร่างกายต้องใช้เวลา เพื่อค่อย ๆ ลำเลียงเซลล์ไขมันที่ตายแล้วออกไปตามระบบเลือดและระบบน้ำเหลือง ระยะเวลาในการพักฟื้นเนื่องจากอาการปวดระบมคือ 7-10 วัน
2. หลังสลายไขมันด้วยความเย็น ในช่วง 3-4 สัปดาห์ คนไข้จะเริ่มเห็นผลว่าสัดส่วนเล็กลง 
3. เห็นผลเต็มที่ใช้เวลา 3 เดือน หากคนไข้ต้องการเห็นผลที่ชัดเจนขึ้น สามารถทำเพิ่มได้ในจุดเดียวกันเมื่อผ่านไป 1 เดือน

คนไข้สามารถดูรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ Coolsculpting รีวิว ลดไขมันส่วนเกินหน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา แบบถาวรโดยไม่เจ็บตัว

ทำ Coolsculpting Elite แล้วไม่เห็นผล เกิดจากอะไร ?

“ทั้ง Coolsculpting elite และ Coolsculpting รุ่นเดิม จะกำจัดเฉพาะเซลล์ไขมันในชั้นใต้ผิวหนังเท่านั้น ไม่มีผลต่อไขมันในช่องท้อง”

คนไข้สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับไขมันช่องท้องได้จากบทความ ทำไม Coolsculpting ถึงไม่ช่วยลดไขมันช่องท้อง ? ไขมันช่องท้องเกิดจากอะไร ? อันตรายไหม ลดไขมันในช่องท้องได้อย่างไรบ้าง ? ในบทความนี้หมอได้เขียนอธิบายรายละเอียดต่าง ๆ ไว้ครับ

ทำ Coolsculpting Elite แล้วไม่เห็นผล เกิดจากอะไร ? ถ้าใช้เครื่อง Coolsculpting แท้ ทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ หลังทำจะสามารถสลายเซลล์ไขมันได้ 25% ต่อการทำ 1 ครั้ง โดยจะเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรก แต่สำหรับคนที่ทำ Coolsculpting Elite แล้วไม่ได้ผล อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุครับ เช่น

• มีปริมาณไขมันมากเกินไป คนที่มีปริมาณไขมันมากเกินไป หรืออ้วนมาก ๆ (BMI > 35) จะไม่เหมาะกับการทำ Coolsculpting ครับ เพราะทำแล้วอาจเห็นผลไม่ชัดเจน ไม่ได้ผลตามที่คาดหวัง ซึ่งคลินิกที่ดีแพทย์จะต้องประเมินและแนะนำว่าคนไข้เหมาะกับ coolsculpting หรือไม่ อย่างตรงไปตรงมา

• ใช้เครื่อง Coolsculpting Elite ของปลอม เครื่องสลายไขมันด้วยความเย็นมีหลายยี่ห้อครับ และหลายคลินิกโฆษณาว่ามีหัตถการสลายไขมันด้วยความเย็น แต่อาจจะไม่ใช่เครื่อง Coolsculpting ของแท้ ทำให้ไม่สามารถส่งผ่านความเย็นได้ตรงจุด ไปไม่ถึงจุดที่เป็นไขมันส่วนเกินที่ต้องการจะกำจัดออก จึงทำให้เห็นผลไม่ชัดเจน

นอกจากนี้การใช้เครื่อง Coolsculpting  อาจทำให้เกิดผิวหนังไหม้จากความเย็น (Freeze Burn) ได้ เพราะเครื่องเลียนแบบจะไม่มีระบบนี้เหมือนเครื่องแท้ที่มีระบบ Freeze Detect ที่หากตรวจเจอความเย็นบนชั้นผิวมากเกินไป เครื่องจะหยุดทำงานทันที

• ไม่ได้ทำ Coolsculpting โดยแพทย์หรือ Specialist การทำ Coolsculpting Elite ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ต้องทำโดยแพทย์ที่ได้รับการฝึกอบรมด้านการออกแบบรูปร่าง หรือ Specialist ที่มีประสบการณ์และผ่านการอบรมด้านการทำ Coolsculpting เท่านั้น เพื่อจะได้ประเมินการรักษาอย่างตรงจุด ให้ข้อมูลที่ชัดเจน เหมาะสมกับคนไข้ในแต่ละเคสครับ

• ละเลยการดูแลตัวเองหลังทำ Coolsculpting หากไม่มีการดูแลตัวเองหลังทำที่ดี ไม่ออกกำลังกาย ไม่ควบคุมน้ำหนัก รับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ เช่น อาหารแปรรูปที่มีแป้ง น้ำตาล อาหารที่มีไขมันสูง ของทอด ของมัน ก็อาจทำให้เซลล์ไขมันที่เหลือเพิ่มขนาด ไขมันสะสมเฉพาะจุดขึ้นมาอีกได้ครับ

คนที่มีไขมันส่วนเกิน อยากลดสัดส่วนเฉพาะจุดด้วย Coolsculpting elite ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ใช้เครื่อง Coolsculpting แท้ ดูแลเคสโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ จึงจะสามารถสลายไขมันส่วนเกินในจุดที่ลดยาก เช่น ต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง เอว (ห่วงยาง) และสะโพก ได้อย่างปลอดภัยและเห็นผลลัพธ์ดีครับ

อ่านบทความเพิ่มเติม : ทำ Coolsculpting ไม่ได้ผล เกิดจากอะไร ? กำจัดไขมันอย่างไรให้เห็นผล

การดูแลหลังทำ coolsculpting elite

การดูแลตัวเองหลังทำ coolsculpting elite หมอแนะนำให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และหลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้เกิดไขมันสะสมเพิ่มหรือทำให้เซลล์ไขมันขยายตัวขึ้นอีก

หรือหากหลังทำไปแล้วอยากเห็นผลชัดเจนขึ้น ต้องให้สัดส่วนและเซลล์ไขมันลดลงอีก ก็สามารถปรึกษาแพทย์และกลับมาทำ CoolSculpting elite ซ้ำได้ครับ

coolsculpting elite ราคาเท่าไหร่ ?

coolsculpting elite ราคาต่อ 1 หนีบ จะขึ้นอยู่กับจุดที่ทำ และโปรโมชันของแต่ละคลินิกนั้น ๆ ครับ ซึ่งจะมีราคาแพงกว่า CoolSculpting  รุ่นเดิม  ก่อนทำจึงควรให้แพทย์ประเมิน และแนะนำแผนการรักษาให้เหมาะสมกับความต้องการและงบประมาณของแต่ละคน

สำหรับ CoolSculpting ราคาที่ V Square Clinic จะอยู่ที่ 

1 หนีบ ราคา 8,500.-

2 หนีบ ราคา 17,000.-

4 หนีบ  ราคา 34,000.-

6 หนีบ ราคา 51,000.-

10 หนีบ ราคา 85,000.- 

เครื่อง CoolSculpting ของ V Square Clinic ตอนนี้มีอยู่ที่สาขาดังนี้ครับ

• สาขา Gateway Ekamai (Bangkok) โทรนัดคิว 099 005 9000 
• สาขา สยามสแควร์วัน (Bangkok) โทรนัดคิว 093 110 9000
• สาขา เซ็นทรัลบางนา โทรนัดคิว 099 105 9000

ทำ coolsculpting elite ที่ไหนดี ?

• เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน เปิดอย่างถูกต้อง ได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข และมีเลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก ตรวจสอบได้ และใช้เครื่อง CoolSculpting elite ของแท้เท่านั้น
• ต้องดูแลโดยแพทย์และ Specialist ขั้นตอนการทำCoolsculpting ต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์ที่ผ่านการอบรมทำ Coolsculpting มาโดยเฉพาะ มีประสบการณ์และอยู่ในการดูแลคนไข้ สามารถประเมินการรักษาได้อย่างตรงจุดและเหมาะสมกับคนไข้ในแต่ละเคสครับ
• มีรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง ยิ่งมีรีวิวมาก เท่ากับว่าหมอได้ทำการรักษาคนไข้มาหลายเคสจนเกิดความชำนาญ จึงช่วยลดข้อผิดพลาดต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ 
• มีช่องทางการติดต่อ สำหรับขอคำแนะนำปรึกษา สอบถามข้อสงสัย รวมทั้งนัดหมายล่วงหน้าได้หลากหลายช่องทางเพื่อความสะดวกรวดเร็ว เช่น โทรศัพท์ หรือช่องทางออนไลน์ Line@, Inbox Facebook, Direct Message Instagram
• Coolsculpting Price สมเหตุสมผล หากถูกเกินไปอาจเป็นเครื่องปลอม หรือเลียนแบบได้

อ่านบทความเพิ่มเติม : CoolSculpting ที่ไหนดี ? กำจัดไขมันด้วยความเย็น อย่างปลอดภัย เห็นผล

คำถาม coolsculpting elite ที่พบบ่อย

coolsculpting elite ดีไหม ?

coolsculpting elite เป็นเครื่องช่วยสลายไขมันที่ให้ผลลัพธ์แบบวัดผลได้ชัดเจนครับ ทั้ง coolsculpting elite และ coolsculpting รุ่นเดิม จะมีงานวิจัยทางการแพทย์ประมาณ 50 งานวิจัย ที่ยืนยันผลการรักษาว่าสามารถลดจำนวนเซลล์ไขมันในชั้นผิวหนังบริเวณที่ทำได้แบบถาวร ช่วยลดสัดส่วน กระชับสัดส่วน โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น และมีความปลอดภัย

ซึ่งจะต่างจากการลดไขมันด้วยวิธีควบคุมอาหาร การออกกำลังกายจะเป็นการทำให้เซลล์ไขมันฟีบลงเท่านั้น แต่เซลล์ไขมันยังมีปริมาณเท่าเดิม ซึ่งในที่นี้หมอไม่ได้จะสื่อว่าการออกกำลังกายไม่ดีนะครับ การออกกำลังกายเป็นเรื่องที่ดีและหมอสนับสนุน เพียงแต่ถ้าคนไข้ขาดวินัยในการดูแลตัวเอง ยังมีพฤติกรรมการกินที่ไม่ดี ก็จะทำให้เซลล์ไขมันเหล่านั้นขยายตัว ทำให้มีรูปร่างอ้วนขึ้นอีกเป็นวนลูปครับ

เพราะฉะนั้นแล้ว ใครที่รู้ตัวเองว่าเป็นคนขาดวินัยในการออกกำลังกาย มีพฤติกรรมการกินที่ไม่ดี  หรือพยายามออกกำลังกายและควบคุมอาหารแล้ว แต่ไขมันยังไม่ลด ไม่เห็นผลหรือเห็นผลช้า หมอก็จะแนะนำให้ใช้วิธีสลายไขมันด้วยความเย็นแทน เพราะเห็นผลชัดเจนแบบวัดผลได้ และเห็นผลไวกว่าออกกำลังกายหรือควบคุมอาหาร ซึ่งคนไข้สามารถเลือกทำได้ทั้ง coolsculpting elite และ coolsculpting รุ่นเดิมครับ เพราะช่วยสลายไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพดีทั้งคู่ 

coolsculpting elite เจ็บไหม ?

ขณะทำ coolsculpting elite คนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บครับ แต่อาจจะรู้สึกปวดเล็กน้อยตอนนวดหลังจากแช่แข็งไขมัน ซึ่ง coolsculpting ผลข้างเคียงที่พบได้จะมี

• อาจมีอาการเขียวช้ำได้ในบางเคส 
• อาการปวดระบมในช่วง 7-10 วันหลังทำ คล้าย ๆ อาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อหลังจากออกกำลังกายหนัก ๆ ในจุดที่ทำ Coolsculpting 
• ในช่วง 1-2 อาทิตย์แรกจะมีอาการบวมในจุดที่ทำ และจะมีอาการชาและคันเล็กน้อยในช่วง 1 เดือนแรก 

ผลข้างเคียงดังกล่าว เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้ปกติ ไม่อันตราย สามารถหายเองได้ใน 1 เดือน คนไข้ไม่ต้องกังวลครับ

ที่ V Square Clinic มีเทคนิคพิเศษในการนวดเพื่อช่วยสลายไขมันหลังทำ CoolSculpting ซึ่งจำเป็นต้องนวดเพื่อให้เซลล์ไขมันที่ถูกแช่แข็งตาย หากไม่นวดจะได้ผลน้อยลง 60% ครับ

coolsculpting elite อันตรายไหม ?

ทั้ง coolsculpting elite และ coolsculpting รุ่นเดิม เป็นวิธีการสลายไขมันด้วยความเย็นที่ไม่อันตรายครับ ผ่านการรับรองจาก อย. ไทยและสหรัฐอเมริกา (U.S. FDA) ว่ามีความปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียงที่อันตราย

ความเย็นจากเครื่องจะเจาะจงเฉพาะเซลล์ไขมันเท่านั้น ไม่ทำอันตรายต่อผิวหนังชั้นนอก และไม่เคยเกิดกรณีเคสผิวไหม้จากความเย็นเลย เนื่องจาก CoolSculpting ทั้งรุ่นเดิมและรุ่นใหม่จะมีระบบ Freeze detect ที่เครื่องจะหยุดทำงานทันทีที่ตรวจเจอความเย็นในผิวชั้นบนที่มากเกินไป ซึ่งถ้าเป็นเครื่องเลียนแบบเกรดต่ำยี่ห้ออื่น ๆ มักจะเจอผลข้างเคียงเรื่องผิวไหม้จากความเย็นได้ง่ายครับ

ถ้าเลือกคลินิกที่ดีและได้มาตรฐานก็ไม่ต้องกังวลเรื่องของความปลอดภัย ดังนั้นก่อนตัดสินใจทำจึงต้องศึกษาข้อมูลให้ถี่ถ้วนก่อนครับ ซึ่งที่ V Square Clinic จะใช้เครื่อง CoolSculpting ของแท้ ดูแลและให้คำแนะนำโดยแพทย์และ Specialist ที่มีประสบการณ์สูง มีเทคนิคพิเศษที่ช่วยให้อาการบวมหลังทำหายไวกว่าปกติ คนไข้สามารถเข้ามาปรึกษากับแพทย์โดยตรงได้ ทีมแพทย์ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่ายครับ 

---

สรุป

CoolSculpting elite ถือเป็นหัตถการที่มี price ไม่สูงมากเมื่อเทียบกับการดูดไขมัน แต่หากใครที่ทำ coolsculpting รุ่นเดิมมาแล้วเห็นผลดี  ก็ไม่จำเป็นต้องทำ CoolSculpting elite เพิ่มครับ เพราะหลักการทำงานและผลลัพธ์ไม่ได้มีความแตกต่างกันมาก และหากเทียบราคาแล้วก็ถือว่า coolsculpting รุ่นเดิม มีความคุ้มค่าที่สุดในกลุ่มเครื่องมือช่วยสลายไขมันครับ