ฉีดโบท็อกแล้วปากเบี้ยว
ฉีดโบท็อกแล้วปากเบี้ยว เป็นผลข้างเคียงที่เกิดหลังฉีดโบท็อก ซึ่งพบได้ไม่บ่อยครับ แต่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ มักเกิดกับเคสที่ฉีดโบท็อกกับแพทย์ที่ขาดประสบการณ์ ฉีดไปโดนกล้ามเนื้อสำคัญบนใบหน้า ทำให้หลังฉีดปากเบี้ยว ยิ้มไม่ได้ หรือยิ้มได้ไม่สุด
ฉีดโบท็อกแล้วปากเบี้ยวยังเกิดได้จากอีกหลายสาเหตุ ฉีดโบท็อกแล้วปากเบี้ยว เกิดจากอะไร ? อันตรายไหม ? แก้ไขได้อย่างไร ? เพื่อป้องกันผลข้างเคียงหลังฉีดโบท็อก คนไข้ควรรู้ข้อมูลเหล่านี้ก่อนครับ
ฉีดโบท็อกแล้วปากเบี้ยว ยิ้มไม่สุด เกิดจากอะไร ?
ฉีดโบท็อกแล้วปากเบี้ยว ยิ้มไม่สุด เกิดได้จากหลายสาเหตุ หมอแบ่งออกเป็น 5 สาเหตุหลัก ดังนี้
- ฉีดโบท็อก กับแพทย์ขาดประสบการณ์ หมอเถื่อน หมอกระเป๋า ซึ่งไม่มีความรู้ด้านกายวิภาคบนใบหน้า ไม่รู้เทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง ทำให้ฉีดโบท็อกแล้วปากเบี้ยว ยิ้มเกร็ง ๆ หรือยิ้มไม่สุดได้ครับ
- ฉีดโบท็อกไปโดนกล้ามเนื้อสำคัญ คือ กล้ามเนื้อไรซอเรียส (Risorius) หรือกล้ามเนื้อแสยะยิ้ม และกล้ามเนื้อไซโกมาติคัส (Zygomaticus) เป็นกล้ามเนื้อที่ยึดกระดูกโหนกแก้มไปจนถึงปาก มีหน้าที่คอยควบคุมการยกมุมปากขึ้นเวลายิ้ม
- ในเคสที่กล้ามเนื้อ Risorius และกล้ามเนื้อ Zygomatic ของคนไข้เกาะต่ำกว่าปกติ แตกต่างจากคนอื่น ๆ ทั่วไป ถ้าฉีดโบท็อกที่ V Saquare Clinic หมอจะมีการลงบันทึกประวัติคนไข้ไว้ครับ เพื่อที่การฉีดโบท็อกในครั้งต่อ ๆ ไป ไม่ว่าจะฉีดกับสาขาไหน หมอคนไหน จะได้เพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น
- ใช้ปริมาณโบท็อกไม่เหมาะสม เช่น การฉีดโบท็อกลดกราม เนื่องจากขนาดกล้ามเนื้อกรามของคนไข้แต่ละคนนั้นมีขนาดที่ต่างกัน คนไข้ที่มีกล้ามเนื้อกรามใหญ่มาก ใช้ยูนิตเยอะ ยาจึงแพร่กระจายกว้าง ถ้าฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ นอกจากจะคำนวณปริมาณยูนิตได้เหมาะสม รู้เทคนิคการฉีด ค่อย ๆ ทยอยฉีด หรือแบ่งฉีด 2 ครั้ง ห่างกัน 2-3 เดือน
- ฉีดโบท็อกปลอม ด้วยความที่โบท็อกไม่บริสุทธิ์หรือว่าโมเลกุลเล็กมาก การกระจายตัวของโบท็อกจะกว้างทำให้โดนกล้ามเนื้อ Risorius และกล้ามเนื้อ Zygomaticus ได้ง่าย และการฉีดโบท็อกปลอม ตัวยาไม่ได้คุณภาพ ยังเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการดื้อโบท็อกได้ด้วยครับ
- แกะ เกา นวดคลึงบริเวณที่ฉีด หลังฉีดโบท็อกหากคนไข้ไปแกะ เกา นวดคลึงจุดที่ฉีดโบท็อก จะส่งผลให้ตัวยากระจายตัวผิดตำแหน่ง ไปโดนมัดกล้ามเนื้อไรซอเรียส และกล้ามเนื้อไซโกมาติคัส
ลักษณะอาการปากเบี้ยวหลังฉีดโบท็อก
คนไข้สามารถสังเกตอาการของตัวเอง หลังฉีดโบท็อกแล้วปากเบี้ยว มีลักษณะอาการที่บ่งชี้ ดังนี้
- มุมปากข้างใดข้างหนึ่งยกขึ้นหรือตกลง ปากสองข้างไม่เท่ากัน
- รู้สึกตึง ๆ บริเวณมุมปากข้างเดียวหรือทั้งสองข้าง ยิ้มไม่สุด
- ไม่สามารถยกมุมปากทั้งสองข้างให้ยิ้มได้ตามปกติ ยิ้มไม่ขึ้น
- หน้าแข็งตึง ไม่สามารถแสดงอารมณ์ทางสีหน้าได้
ฉีดโบท็อกบริเวณไหนบ้าง ? เสี่ยงต่ออาการปากเบี้ยว
ตำแหน่งที่เสี่ยงต่อการฉีดโบท็อกแล้วปากเบี้ยว จะเป็นจุดที่ใกล้กับกล้ามเนื้อ Risorius และกล้ามเนื้อ Zygomaticus เช่น
- ฉีดโบท็อกลดกราม เป็นจุดที่ฉีดแล้วเสี่ยงปากเบี้ยวมากที่สุด เนื่องจากกล้ามเนื้อกราม อยู่ใกล้กับกล้ามเนื้อ Risorius ทำให้ยิ้มแข็ง ๆ ยิ้มไม่สุดได้
- ฉีดโบท็อกหางตา ฉีดโบท็อกใต้ตา เป็นจุดที่อยู่ใกล้กับกล้ามเนื้อ Zygomaticus เมื่อฉีดโบท็อกลดริ้วรอยตีนกา ริ้วรอยใต้ตาจึงอาจทำให้มุมปากตึงไปด้วย
- ฉีดโบท็อกลดโหนกแก้ม โดยจะต้องฉีดในชั้นกล้ามเนื้อ Zygomaticus เท่านั้น หากฉีดผิดตำแหน่งจะทำให้แก้มดูแข็ง ยิ้มลำบาก
ฉีดโบท็อกแล้วปากเบี้ยว อันตรายไหม ?
อาการปากเบี้ยวหลังจากฉีดโบท็อก ไม่เป็นอันตรายร้ายแรง แต่อาจทำให้เสียบุคลิก เสียความมั่นใจ และอาจส่งผลกระทบต่อการพูดหรือการเคี้ยวอาหาร หากฉีดด้วยโบท็อกแท้ ตัวยาจะสลายและค่อย ๆ ดีขึ้นจนหายได้เอง โดยใช้ระยะเวลารอให้โบท็อกหมดฤทธิ์ประมาณ 3-6 เดือน อาการปากเบี้ยวจึงจะหายเป็นปกติ คนไข้สามารถรอให้ตัวยาสลายตามธรรมชาติ หรือใช้เครื่องมือทางการแพทย์ช่วยเร่งสลายโบท็อก
ฉีดโบท็อกแล้วปากเบี้ยว แก้ไขอย่างไร ?
หลังฉีดโบท็อก หากคนไข้มีอาการปากเบี้ยว ปากตึง ยิ้มไม่สุด แล้วไม่อยากรอให้ฤทธิ์ของโบท็อกสลายไปเอง ก็สามารถใช้ความร้อนทำลายโบท็อกส่วนที่ยังไม่ออกฤทธิ์ และช่วยให้โบท็อกส่วนที่ออกฤทธิ์แล้วสลายตัวเร็วขึ้น ด้วยการนวดประคบร้อน ทำซาวน่า หรือใช้เครื่องมือทางการแพทย์ เช่น Hifu เลเซอร์ Thermage ช่วยเร่งการสลายของโบท็อกได้ครับ
“ ข้อควรรู้ : หากคนไข้ต้องการสลายโบท็อก ควรทำภายใน 2 สัปดาห์หลังฉีดครับ เพราะกล้ามเนื้อยังดูดซึมตัวยาได้ไม่เต็มที่ หากปล่อยทิ้งไว้นานเกิน 1 เดือน อาจทำให้โบท็อกออกฤทธิ์และสลายได้ยากขึ้น ”
ก่อนฉีดโบท็อกมีข้อควรรู้อะไรบ้าง ?
ก่อนฉีดโบท็อกคนไข้ควรรู้รายละเอียดที่จำเป็น เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย ลดความเสี่ยงในการฉีดโบท็อกแล้วปากเบี้ยว และป้องกันผลข้างเคียงต่าง ๆ ที่อาจตามมาได้ครับ
- การฉีดโบท็อกแต่ละตำแหน่งเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน เพราะใบหน้าของมนุษย์นั้นเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อและเส้นประสาท คนไข้ควรเลือกฉีดกับหมอที่มีประสบการณ์ สามารถประเมินปริมาณยาที่ใช้อย่างเหมาะสม และรู้ตำแหน่งที่ฉีดอย่างแม่นยำ ลดโอกาสตัวยากระจายตัวไปโดนกล้ามเนื้อมัดอื่นที่ไม่ต้องการ
- โบท็อกมีหลายยี่ห้อ ทั้งโบอเมริกา โบเกาหลี โบอังกฤษ และโบเยอรมัน โดยราคาจะขึ้นอยู่กับยี่ห้อที่ใช้และตำแหน่งที่ฉีดครับ หากราคาถูกเกินไป อาจเป็นโบท็อกปลอมหรือ “โบหิ้ว” ที่ไม่ได้คุณภาพทั้งในด้านผลลัพธ์และการเก็บรักษา เสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียง เช่น ปากเบี้ยว หนังตาตก หน้าแข็ง ดังนั้นก่อนฉีดโบท็อกคนไข้ต้องศึกษาวิธีการดูโบท็อกแท้ เพื่อตรวจสอบให้มั่นใจว่าตัวยาที่ใช้ฉีดเป็นของแท้ ผ่าน อย. มีคุณภาพ และปลอดภัย
- โบท็อกแต่ละยี่ห้อมีกระบวนการและเทคโนโลยีการผลิตที่แตกต่างกัน ทำให้ตัวยามีจุดเด่น ทั้งความบริสุทธิ์ของตัวยา ชนิดของ Protien Complex และขนาดของ Molecule Complex ที่ต่างกัน ส่งผลต่อการกระจายตัวของโบท็อก ก่อนฉีดแพทย์จะเป็นผู้ประเมินว่าปัญหาของคนไข้แต่ละเคสเหมาะกับโบท็อกยี่ห้อไหน เพื่อให้คนไข้ได้ฉีดโบท็อกที่เหมาะสมและได้ผลลัพธ์ที่ดีครับ
ฉีดโบท็อกที่ไหนดี ? ก่อนตัดสินใจฉีดโบท็อก คนไข้ควรคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลักครับ ควรหาข้อมูลอย่างละเอียด เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและหมอที่มีประสบการณ์ โดยพิจารณาได้จากองค์ประกอบ ดังนี้
- คลินิกเปิดให้บริการอย่างถูกต้อง มีการจดทะเบียนและแสดงเลขที่ใบอนุญาตชัดเจน
- มีแพทย์ประจำคลินิก ซึ่งต้องสามารถนำชื่อไปตรวจสอบได้และเป็นแพทย์ที่มีประสบการณ์ในการฉีดโบท็อกปรับรูปหน้า
- ทำเลที่ตั้ง เดินทางไปใช้บริการสะดวก สะอาด ปลอดภัย มีพื้นที่สำหรับจอดรถ
- มีความน่าเชื่อถือ มีรีวิวฉีดโบท็อกจากผู้ใช้งานจริงในช่องทางต่าง ๆ เช่น Facebook หรือ Pantip และควรดูรีวิวที่เป็นวิดีโอมากกว่าภาพนิ่ง จะทำให้เห็นผลลัพธ์ของเคสนั้นจริง ๆ
- มีการนัดติดตามผล มีแพทย์ให้คำแนะนำการปฏิบัติตัวก่อน-หลังฉีดอย่างใกล้ชิด และควรมีการนัดติดตามผลทุกครั้งหลังฉีดโบท็อก
สรุป
ฉีดโบท็อกแล้วปากเบี้ยว แม้ไม่ได้เป็นอันตรายร้ายแรง แต่ก็ไม่ควรปล่อยไว้ครับ เพราะโบท็อกจะยิ่งออกฤทธิ์มากขึ้นเรื่อย ๆ จนอาจอาการหนักถึงขั้นส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การเคี้ยวอาหาร หรือการพูด หมอแนะนำว่าควรรีบไปปรึกษาแพทย์ เพื่อแก้ไขให้กล้ามเนื้อกลับมาทำงานเป็นปกติเร็วที่สุด ในการฉีดโบท็อกครั้งต่อไปควรเลือกฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ในคลินิกที่ได้มาตรฐาน และใช้ตัวยาโบท็อกแท้เท่านั้น เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย
สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้ง 30 สาขา หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ