หน้าไม่เท่ากัน
หน้าไม่เท่ากัน เป็นปัญหาที่หลายคนกังวล เพราะนอกจากจะส่งผลต่อความสวยงามของใบหน้าแล้ว ยังทำให้ความมั่นใจของเราลดลง จนรู้สึกอยากที่จะรีบแก้ไขให้เร็วที่สุด สำหรับใครที่กำลังหาวิธีแก้ปัญหาหน้าไม่เท่ากัน ในบทความนี้หมอจะแนะนำให้คนไข้รู้ถึงสาเหตุ พร้อมกับวิธีการแก้ไขที่ได้ผลดีครับ
สารบัญ หน้าไม่เท่ากัน
สาเหตุหน้าไม่เท่ากัน
ปัญหาหน้าไม่เท่ากัน อาจเกิดได้จากหลายปัจจัยดังนี้
- กรรมพันธุ์ : หากเรามีพ่อแม่หรือญาติพี่น้องในสายเลือดเดียวกันที่มีใบหน้าเบี้ยวอยู่แล้ว ก็จะมีโอกาสเสี่ยงสูงที่จะเกิดปัญหานี้ได้ง่ายกว่าสาเหตุอื่น ๆ
- พฤติกรรมการใช้ชีวิต : การนอนตะแคงข้างเดียว การเคี้ยวอาหารเฉพาะข้างที่ถนัด หรือการเท้าคางเป็นเวลานาน ๆ น้ำหนักจะกดทับแต่ด้านนั้น อาจส่งผลทำให้หน้าของเรามีความเบี้ยวดูไม่เท่ากันได้ครับ
- การสะสมของไขมัน : การสะสมไขมันในจุดต่าง ๆ บนใบหน้า เช่น ไขมันสะสมที่แก้มแต่ละข้างไม่เท่ากัน จะทำให้แก้มใหญ่เล็กไม่สมดุลกัน
- อายุที่มากขึ้น : ด้วยอายุที่เพิ่มขึ้น กระดูกและเนื้อจะเกิดการยุบตัว ทำให้มีผิวหนังส่วนเกินและความหย่อนคล้อย ใบหน้าจึงดูไม่สมส่วน
- การทันตกรรม : ในเคสของผู้ที่มีเรื่องของการทันตกรรมเข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น การใส่ฟันปลอม การเคลือบฟัน หรือการจัดฟัน มีส่วนที่ทำให้ใบหน้าขาดความสมมาตร ใบหน้าข้างหนึ่งดูมีน้ำมีนวลมากกว่าอีกข้างอย่างเห็นได้ชัด
- โรคบางชนิด : ในคนที่โรคปากเบี้ยว (Bell’s Palsy) จะมีอาการหนังตาตก ปากเบี้ยว มุมปากตก ทำให้ใบหน้าดูไม่เท่ากันอย่างเห็นได้ชัดเจน
วิธีแก้ปัญหาหน้าไม่เท่ากัน
การแก้ไขปัญหาหน้าไม่เท่ากัน มีทั้งวิธีแบบธรรมชาติที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง และหัตถการทางการแพทย์ ที่สามารถแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดและเห็นผลดี โดยหมอรวบรวมวิธีต่าง ๆ ให้ดังนี้ครับ
1. ฟิลเลอร์
การฉีดฟิลเลอร์ เป็นวิธีที่นิยมใช้ในการปรับปรุงลักษณะที่ไม่สมดุลของใบหน้า สามารถช่วยเติมเต็มร่องลึกที่เกิดจากการยุบตัวของกระดูกและเนื้อ ปรับรูปหน้าให้ยกกระชับ และสร้างมิติให้แก่ใบหน้าได้ โดยหมอจะฉีดฟิลเลอร์ในชั้นใต้เยื่อหุ้มกระดูก นอกจากจะช่วยดึงหน้าที่หย่อนจากการยุบตัวของกระดูก ปรับรูปหน้าให้เท่ากัน ผลลัพธ์ที่ได้ดูเป็นธรรมชาติแล้ว ยังช่วยป้องกันความหย่อนคล้อยในอนาคตได้อีกด้วยครับ
2. Hifu
ในเคสที่หน้าไม่เท่ากัน ผิวเริ่มหย่อนคล้อย มีการสะสมของไขมัน สามารถทำ Hifu ยิงพลังงานคลื่นเสียงอัลตราซาวด์เข้าไปในแต่ละชั้นผิว ช่วยยกกระชับผิวหน้า และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ปรับรูปหน้า ทำให้ผิวเต่งตึง และดูอ่อนเยาว์ขึ้น โดยไม่ต้องผ่าตัด ถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือยกกระชับที่ได้รับความนิยมในคลินิกเสริมความงามครับ
3. เมโสแฟต
การที่หน้าไม่เท่ากัน การสะสมของไขมันเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักครับ การฉีดเมโสแฟต สามารถสลายไขมัน ช่วยปรับรูปหน้าให้เท่ากัน และสามารถทำให้หน้าเรียวขึ้นได้ โดยหลักการทำงานของการฉีดสลายไขมัน Meso Fat คือการใช้ตัวยาช่วยให้ไขมันแตกตัว หรือสลายตัว หลังจากนั้นไขมันจะถูกขับออกทางระบบขับถ่าย ทำให้ไขมันบริเวณที่ฉีดลดลง
4. โบท็อก
การฉีดโบท็อก จะเหมาะกับเคสที่มีปัญหากรามใหญ่จากกล้ามเนื้อกราม กรามทั้ง 2 ข้างมีขนาดไม่เท่ากัน ทำให้ใบหน้าส่วนล่างดูเบี้ยว สามารถฉีดโบท็อกลดกราม ช่วยกระชับกรอบหน้า ปรับรูปหน้าเรียว โดยโบท็อกจะออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท (Neurotoxin) มีผลให้กล้ามเนื้อทำงานได้ลดลง และมีขนาดเล็กลง หน้าดูสมส่วนมากขึ้น
5. ร้อยไหม
คนที่หน้าไม่เท่ากันจากปัญหาผิวหย่อนคล้อย สามารถใช้การร้อยไหม ช่วยยกกระชับผิวได้ครับ โดยหมอจะใช้เข็มนำเส้นไหมละลายที่มีเงี่ยง สอดลงในชั้นผิวหนัง เพื่อให้เกิดการยึดเกาะกับชั้นผิวและดึงยกกระชับขึ้นได้ตามที่ต้องการ สามารถทำได้ทั้งการร้อยไหมปรับรูปหน้า ร้อยไหมดึงหน้า ร้อยไหมกระชับหน้า ทำให้ใบหน้าทั้ง 2 ข้างดูเท่ากัน
6. เปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต
อย่างที่หมอได้บอกไปครับว่า ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ใบหน้ามีความสมมาตรน้อยลง ซึ่งหากเราสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมต่าง ๆ อย่างการเคี้ยวอาหาร โดยใช้ฟันทั้งสองข้างในการเคี้ยวอาหาร หรือเคี้ยวสลับกันทั้งสองข้าง และการนอนก็ควรฝึกแบ่งเวลาในการนอนตะแคงให้เท่า ๆ กัน หรือหากใครที่ติดการนอนตะแคงฝั่งใดฝั่งหนึ่งเป็นเวลาหลายปี ก็ให้เริ่มปรับเปลี่ยนมานอนอีกฝั่ง จะช่วยทำให้ใบหน้าทั้ง 2 ข้างนั้นมีความสมมาตรกันมากยิ่งขึ้นครับ
7. รู้จักการบริหารใบหน้า
การบริหารใบหน้าที่สามารถทำได้ง่าย ๆ นั่นก็คือการพูดคำว่า อา อี อู ซึ่ง 3 คำนี้จะเป็นคำยอดฮิตที่ใช้สำหรับการกระชับกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้าได้เป็นอย่างดี นอกจากจะเป็นการป้องกันไม่ให้หน้าของเราเกิดความไม่เท่ากันได้แล้วก็ยังช่วยลดริ้วรอยบริเวณใบหน้าได้อีกด้วย
8. หลีกเลี่ยงการกระทบแสงแดดเพียงข้างเดียว
การที่หน้าถูกแสงกระทบเพียงข้างเดียว โดยเฉพาะเวลาขับรถ หน้าของเรามักจะสัมผัสแสงเพียงข้างใดข้างหนึ่ง หากปล่อยไว้เป็นระยะเวลานาน ๆ ก็จะทำให้ใบหน้าฝั่งนั้นเกิดความเหี่ยวย่นและหย่อนคล้อยมากกว่าอีกฝั่งได้ จึงควรหลีกเลี่ยงและป้องกันด้วยการทากันแดดหรือใช้อุปกรณ์กันแสงแดดครับ
สรุป
ปัญหาหน้าไม่เท่ากัน สามารถป้องกันและแก้ไข รวมไปถึงรักษาได้อย่างถูกวิธี ทั้งนี้หมอแนะนำว่าควรทำร่วมกับการดูแลตัวเอง ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ก็จะช่วยให้เห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้น
สำหรับใครที่เลือกไม่ได้ว่าจะแก้ไขปัญหาหน้าไม่เท่ากันที่ไหนดี ที่ V Square Clinic แพทย์มีประสบการณ์ด้านการปรับรูปหน้ากว่า 15 ปี สามารถช่วยประเมินสาเหตุและให้คำแนะนำ วางแผนการแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด มั่นใจได้ในผลลัพธ์และความปลอดภัยครับ
สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้ง 30 สาขา หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ