สำหรับคนที่ต้องการปรับรูปทรงจมูกให้สวยขึ้น โด่งขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ แต่กลัวการผ่าตัดหรือไม่มีเวลาพักฟื้น ฟิลเลอร์จมูก เป็นตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจครับ แต่หลายท่านยังมีความกังวลว่าฉีดฟิลเลอร์จมูก อันตรายไหม มีวิธีดูแลหลังฉีดอย่างไร สามารถอ่านได้ในบทความนี้ครับ
ฉีดฟิลเลอร์จมูกอันตรายไหม ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจ
- อายุการใช้งานของฟิลเลอร์ ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ที่เราเลือกใช้ รวมทั้งการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งจะไม่สามารถอยู่ได้อย่างถาวร
- เหมาะสำหรับผู้ที่มีฐานจมูกเดิมอยู่บ้างแล้ว แค่อยากเพิ่มความคม ตรงบริเวณสันจมูกหรือปลายจมูกขึ้นเพียงเล็กน้อย แต่ถ้าไม่มีฐานเลยควรใช้วิธีผ่าตัดเสริมเพราะฟิลเลอร์ไม่ช่วยให้ตั้งเป็นสันคมได้เท่าการเสริมซิลิโคน
- ไม่เหมาะกับผู้ที่วางแผนในอนาคตว่าจะผ่าตัดเสริมจมูก เพราะจะส่งผลให้เกิดปัญหาด้านการยึดเกาะของแท่งซิลิโคนที่เสริมในภายหลัง
(การฉีดฟิลเลอร์จมูก เหมาะกับผู้ที่มีฐานจมูกเดิมอยู่บ้างแล้ว
จะช่วยเพิ่มความคมของสันจมูก และดูโด่งขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ)
บทความแนะนำ
ฟิลเลอร์จมูก ก่อนทำควรรู้อะไรบ้างอันตรายจากการฉีดฟิลเลอร์จมูก
(Dorsal nasal artery เป็นเส้นเลือดที่มาเลี้ยงจมูกส่วนนอกและเชื่อมกับลูกตา
หากฉีดไปโดนจุดนี้ ก็มีความเสี่ยงที่จะทำให้ตาบอดได้)
บริเวณใบหน้า จะมีเส้นเลือดชื่อ Dorsal nasal artery อยู่ที่ด้านข้างของสันจมูก ซึ่งเชื่อมต่อเข้ากับลูกตา หากฉีดไปโดนเส้นเลือดเส้นนี้ จะทำให้ตาบอดได้ครับ ดังนั้นควรฉีดกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์สูง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้
10 ปีที่ผ่านมา ในเมืองไทยมีเคสที่ตาบอดจากฟิลเลอร์จมูก 8 ราย (หากเทียบกับเคสในช่วง 10 ปีที่ฉีดนับหมื่นราย ถือว่าน้อยมาก) และในปีหลัง ๆ ยังเจอเคสที่ฉีดโดนเส้นเลือดอยู่บ้าง แต่ไม่มีเคสที่ตาบอดครับ เนื่องจากเทคนิคการรักษาแก้ไขที่พัฒนาดีมากขึ้นและแพทย์ที่มีความชำนาญสามารถแก้ไขได้อย่างทันท่วงที จึงกล่าวได้ว่า การฉีดฟิลเลอร์จมูกเป็นหัตถการที่มีความปลอดภัยครับ
อยากเสริมจมูกโดยไม่ต้องผ่าตัดมีวิธีไหนบ้าง ?
สำหรับคนไข้ที่มีความกังวลว่าฉีดฟิลเลอร์จมูก อันตรายไหม ยังมีการ ร้อยไหมจมูกที่ทดแทนการฉีดฟิลเลอร์ได้ครับ เนื่องจากเทคนิคใหม่ล่าสุดของการร้อยไหมดีดปลายจมูก จะให้ผลลัพธ์ออกมาปลอดภัยและสวยงามกว่ามาก เมื่อเทียบกับวิธีฉีดฟิลเลอร์จมูกครับ
อ่านบทความเพิ่มเติม : เสริมจมูกด้วยการร้อยไหมจมูก ดั้งโด่ง จมูกทรงสวยโดยไม่ต้องผ่าตัด
ฟิลเลอร์จมูก
ข้อดี
- ไม่ต้องพักฟื้น ไม่บวม ไม่ช้ำ เหมาะกับคนที่ไม่มีเวลาพักฟื้น หรือคนที่กลัวการผ่าตัด
- เหมาะกับคนที่มีฐานจมูกเดิมอยู่บ้างแล้วในระดับปานกลาง
- หลังฉีด หากต้องการปรับแก้ให้โด่งมากขึ้นหรือน้อยลงสามารถทำได้ด้วยการฉีดสลายบางส่วนหรือการฉีดเพิ่มเติมได้ตามที่คนไข้ต้องการ
ข้อเสีย
- หากฉีดโดยแพทย์ที่ไม่ชำนาญ ก็จะมีความเสี่ยงสูงที่ฟิลเลอร์จะเข้าเส้นเลือดและเข้าตาได้
- หากใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่มีความคงตัวถึงแม้จะเป็นฟิลเลอร์แท้ ทรงที่ปั้นออกมาก็จะไม่สวยบานออกด้านข้าง
(การฉีดฟิลเลอร์จมูก โดยใช้ฟิลเลอร์ Restylane รุ่นPerlane Lyft จำนวน 1 cc
เป็นฟิลเลอร์ที่มีความคงตัว ฉีดแล้วไม่บานออกด้านข้าง เหมาะกับผู้ที่มีฐานจมูกอยู่เดิม)
ร้อยไหมจมูก
ข้อดี
- ไม่ต้องพักฟื้น ไม่บวม ไม่ช้ำ เหมาะกับคนที่ไม่มีเวลาพักฟื้นหรือคนที่กลัวการผ่าตัด
- การร้อยไหมจมูกจะขึ้นเป็นสันได้คมกว่าฟิลเลอร์ เหมาะกับคนที่มีฐานจมูกเดิมอยู่บ้างแล้วแค่ต้องการความคมหรือในคนที่สันจมูกสวยอยู่แล้วแต่ต้องการยกแค่ปลายจมูกขึ้น
- มีความปลอดภัยมากกว่าการฉีดฟิลเลอร์จมูก เนื่องจากไม่เสี่ยงต่อการเข้าเส้นเลือดหรือทำให้ตาบอด
- อยู่ได้นานกว่าฟิลเลอร์จมูก โดยอยู่ได้นานถึง 18 เดือน – 2 ปี เพราะใช้ไหมละลาย pcl+plla
- เมื่อไหมละลายหมด จะยังเหลือคอลลาเจนที่ร่างกายสร้างขึ้นมาเองอีกประมาณ 50% ทำให้คงรูปได้ต่อ แต่จะไม่คมเท่ากับตอนมีไหม
- สามารถร้อยเพิ่มได้เรื่อยๆ
ข้อเสีย
- ไม่สามารถร้อยจมูกในปริมาณเยอะๆ ได้ เพราะจะทำให้ elastin ซ้อนทับกันหลายชั้นมากเกินไปและเกิดเป็นพังผืดให้ดึงรั้งจมูกในอนาคตได้ สำหรับไหมเส้นเล็กไม่ควรร้อยเกิน 60 เส้น สำหรับไหมเส้นใหญ่ไม่ควรร้อยเกิน 16 เส้นครับ
- ต้องใช้ระยะเวลาในการละลาย ไม่มียาที่ฉีดสลายได้เหมือนฟิลเลอร์ แก้ไขได้ยากกว่าการฉีดฟิลเลอร์ ดังนั้นการร้อยไหมเสริมจมูกควรใช้จำนวนเส้นน้อยๆไว้ก่อน และร้อยเพิ่มได้ในภายหลัง
(การร้อยไหมจมูก โดยใช้ไหมก้างปลา PCL จำนวน 10 เส้น
จะทำให้เป็นสันคมได้มากกว่าการฉีดฟิลเลอร์ อยู่ได้นาน 18 เดือนถึง 2 ปี)
ผลข้างเคียงจากการฉีดฟิลเลอร์จมูก
หลังฉีดฟิลเลอร์จมูกแล้ว บางรายเกิดปัญหาฟิลเลอร์ย้อย ไม่เป็นสันคม จมูกบวม ซึ่งอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้
1. การใช้ฟิลเลอร์ปลอม
หากใช้ฟิลเลอร์ปลอมจะไม่สามารถปั้นรูปทรงจมูกให้เป็นสันคมได้ รวมถึงเมื่อเวลาผ่านไปจะเริ่มมีปัญหาตามมา บวม แข็ง เป็นก้อน ไม่สลาย ต้องผ่าตัดขูด filler เก่าออกเท่านั้น ดังนั้น ในการฉีดฟิลเลอร์ทุกครั้งคนไข้ต้องมั่นใจก่อนว่าเป็นฟิลเลอร์แท้ ประเภท hyaluronic acid เท่านั้นครับ
การขูดฟิลเลอร์บริเวณจมูก จะต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะจะมีบางส่วนที่ผสานกับเนื้อเยื่อหรืออยู่ชิดกับผิวหนังด้านนอกมาก ถ้าขูดออกหมดก็อาจทำให้เนื้อดีโดนขูดออกไปด้วย จึงมีความเสี่ยงที่จะเกิดผิวไม่เรียบได้ครับ
2. เลือกใช้ฟิลเลอร์รุ่นที่ไม่เหมาะสม
ฟิลเลอร์แต่ละตัวมีคุณสมบัติแตกต่างกันออกไป เหมาะที่จะใช้ในการฉีดในบริเวณที่แตกต่างกัน ยกตัวอย่างเช่น
- ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม จะเหมาะกับการเติมจุดที่มีการขยับบ่อย เช่น ร่องแก้มหรือปาก หากนำมาฉีดที่จมูก อาจทำให้บานออกข้าง จัดทรงยาก ไม่ขึ้นเป็นทรงสวยครับ
- ฟิลเลอร์เนื้อแข็งที่มีความคงตัวสูง จะเหมาะกับการฉีดจมูก เพราะฉีดแล้วจะไม่บานออกและขึ้นเป็นสันสวย โดยแนะนำฟิลเลอร์ Restylane รุ่น Perlane Lyft เท่านั้นครับ
(ฟิลเลอร์จมูกแนะนำ Restylane รุ่น Perlane lyft
และควรตรวจสอบว่าเป็นของแท้ก่อนฉีดทุกครั้ง เพื่อป้องกันการเกิดผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์)
3. เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ของแพทย์ที่ไม่ดีพอ
ถึงแม้ว่าใช้ฟิลเลอร์ของแท้และรุ่นที่เลือกใช้เหมาะสม แต่ถ้าเทคนิคการฉีดไม่ดี ก็มีความเสี่ยงที่จะทำให้ฟิลเลอร์กระจายตัวออกด้านข้าง ไม่สวย และไม่เป็นสัน จนอาจต้องเสียทั้งเงินและเวลาในการแก้ไขในภายหลังอีกด้วยค จึงต้องเลือกทำกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน แพทย์มีประสบการณ์สูงครับ
บทความแนะนำ
ฟิลเลอร์อันตรายไหม ข้อควรรู้ ก่อนฉีดฟิลเลอร์ข้อปฏิบัติก่อนและหลังฉีดฟิลเลอร์ เพื่อความปลอดภัยและอยู่ได้นาน
ผู้ที่กำลังตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์จมูก ควรจะต้องศึกษาถึงขั้นตอนการปฏิบัติตัวทั้งก่อนและหลังฉีด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ปลอดภัย และอยู่ได้นานครับ
ก่อนฉีดฟิลเลอร์จมูก
- ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์จมูก ทั้งข้อดี ข้อเสีย รวมถึงเปรียบเทียบกับการเสริมจมูกด้วยวิธีอื่นๆ
- เลือกคลินิกฉีดที่ได้มาตรฐาน ให้คำปรึกษาและทำหัตถการโดยแพทย์เท่านั้น
- ดูรีวิวฉีดฟิลเลอร์จมูก จากเว็บไซต์ที่มีความน่าเชื่อถือ เช่น pantip, wongnai
- หากตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์จมูก ควรงดยา แอสไพริน, NSAIDs วิตามิน St. Johns Wort, ginko biloba และยาทาชนิดผลัดเซลล์ผิว ทั้งนี้ ควรปรึกษาแพทย์ประจำตัวก่อนหยุดยานั้นๆ ด้วยครับ
- แจ้งโรคประจำตัวและยาที่ทานประจำกับแพทย์ก่อนทำหัตถการ
- ควรงดดื่มแอลกอฮอล์ และกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด 24 ชั่วโมง หรือถ้ามีคอร์สนวดหน้าและเลเซอร์ต่างๆ ควรทำมาก่อนอย่างน้อย 3 วันครับ
(ควรตรวจวิเคราะห์โครงหน้ากับแพทย์ รวมถึงศึกษาข้อดี-ข้อเสียก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์จมูก)
หลังฉีดฟิลเลอร์จมูก
- หลังฉีดฟิลเลอร์จมูก หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำหรือนอนตะแคง โดยควรนอนให้หัวสูงกว่าหน้าอก ใน 2-3 คืนแรก เพื่อหลีกเลี่ยงการกดทับใบหน้า ซึ่งจะทำให้ฟิลเลอร์ที่ฉีดมามีการเคลื่อนที่ผิดตำแหน่งหรือไม่คมสวยได้ครับ
- ให้หลีกเลี่ยงการแตะ การเกา การกดนวดในจุดที่ฉีดฟิลเลอร์ หรือปรับรูปทรงฟิลเลอร์ด้วยตัวเอง
- หากมีอาการบวมแดง จะค่อยๆดีขึ้นภายใน 2-3 วัน เนื่องจากเป็นอาการบวมเข็มครับ แต่ถ้า 3 วันแล้ว อาการดังกล่าวยังเป็นมากขึ้น ให้ติดต่อกลับมาที่คลินิกเพื่อรับยากินเพิ่ม
- ทานยาที่แพทย์จ่ายให้หลังทำต่อเนื่องจนครบ เพื่อช่วยลดอาการบวม และป้องกันการติดเชื้อ
- อยู่แต่ในที่อากาศเย็น และหลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดงอย่างน้อย 48 ชม.หลังทำครับ เช่น เข้าซาวน่า ออกกำลังกายหนักๆ ตากแดด การดื่มแอลกอฮอล์
- งดเลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิด เช่น RF thermage เป็นเวลา 1 เดือน
การฉีดฟิลเลอร์จมูก เป็นหัตถการที่อาจเกิดอันตรายได้หากแพทย์ที่ฉีดไม่มีความรู้และประสบการณ์ ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีคุณภาพหรือคลินิกไม่ได้มาตรฐาน ดังนั้นก่อนฉีดควรจะศึกษารายละเอียดอย่างถี่ถ้วน และเลือกทำกับคลินิกที่น่าเชื่อถือ เพื่อความปลอดภัยครับ
หากท่านใดที่สนใจจะฉีดฟิลเลอร์จมูก ที่ V square clinic ยินดีที่จะให้คำปรึกษาและสามารถเข้ามาตรวจประเมินกับแพทย์ก่อนตัดสินใจฉีดได้ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายครับ
สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้ง 30 สาขา หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ
