ฉีดโบท็อกอยู่ได้นานแค่ไหน ?
ในการฉีดโบท็อก หลายคนอาจยังไม่ทราบว่าโบท็อกจะอยู่ได้นานไม่เท่ากัน เมื่อฉีดในบริเวณที่ต่างกัน ที่เห็นได้ชัดคือการฉีดโบท็อกลดกรามและลดริ้วรอย แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเอง รวมไปถึงยี่ห้อโบท็อกที่เลือกใช้ โดยเฉลี่ยแล้วการฉีดโบท็อกจะอยู่ได้นาน 3-6 เดือนครับ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมอื่น ๆ ติดตามได้ในบทความนี้
ฉีดโบท็อกอยู่ได้นานแค่ไหน?
โบท็อกอยู่ได้นานแค่ไหน ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีดและยี่ห้อโบท็อกที่ใช้ครับ แบ่งเป็น
- โบท็อกลดกราม ทั่วไปจะอยู่ได้นาน 5-6 เดือน โดยจะเห็นผลใน 14 วัน กล้ามเนื้อกรามจะนิ่มลงกัดแล้วไม่เด้ง จากนั้นจะเห็นว่ากรามยุบลงตอน 1 เดือน และยุบเต็มที่ใน 2-3 เดือน
- โบท็อกลดริ้วรอย หลังฉีดอยู่ได้นาน 3-4 เดือน โดยโบท็อกเริ่มออกฤทธิ์และเห็นผลใน 3-7 วัน เห็นผลเต็มที่ 14 วัน
ฉีดโบท็อกแล้วไม่เห็นผล เกิดจากอะไร ?
ฉีดโบท็อกแล้วไม่เห็นผล เกิดได้จาก 3 ปัจจัยครับ
- โบท็อกผสมน้ำเกลือมากเกินไป ทำให้ตัวยาถูกเจือจาง ฉีดแล้วไม่เห็นผล หรือถ้าถูกเจือจางมาก ๆ ยาจะกระจายไปจุดข้างเคียง อาจทำให้ตาตก ปากเบี้ยวได้
- หมอฉีดโบท็อกไม่ถูกตำแหน่งกล้ามเนื้อ ทำให้ฉีดแล้วไม่เห็นผล จึงควรฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ มีความชำนาญในการหาตำแหน่งกล้ามเนื้อต่าง ๆ
- คนไข้มีอาการดื้อโบท็อก อาการนี้จะเกิดจากการที่เคยฉีดโบท็อกปลอมมาก่อน เมื่อดื้อโบท็อกแล้วหลังฉีดจะไม่เห็นผลครับ
อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดโบท็อก กี่วันเห็นผล? คำถามยอดฮิต ก่อนฉีดโบท็อกต้องรู้
ฉีดโบท็อกซ้ำ ควรเว้นระยะกี่เดือน ?
โดยปกติหมอจะไม่แนะนำให้ฉีดโบท็อกถี่เกินไป หรือฉีดในปริมาณมากเกินไป (ร่างกายของมนุษย์สามารถรับโบท็อกได้ 300 units ในระยะเวลา 3 เดือน) สำหรับการฉีดซ้ำ หมอแนะนำดังนี้ครับ
- โบท็อกลดริ้วรอย หางตา ควรฉีดโบท็อก ประมาณ 3-4 เดือน ต่อครั้ง
- โบท็อกหน้าผาก, โบท็อกลดกราม ควรฉีดโบท็อก ประมาณ 4-5 เดือน ต่อครั้ง
ฉีดโบท็อกบ่อย ๆ อันตรายไหม ?
ในเคสที่ฉีดโบท็อกถี่เกินไป และฉีดในปริมาณมากเกินไป อาจกระตุ้นให้ร่างกายเราต่อต้านโบท็อก ( Butulinum toxin) จนแสดงอาการแพ้ออกมา รวมถึงเพิ่มโอกาสทำให้ดื้อโบท็อกได้ด้วย แม้จะใช้ยาแท้แต่ก็จะส่งผลให้การฉีดโบท็อกไม่ได้ผลอีกครับ แพทย์จึงแนะนำให้เว้นระยะอย่างน้อย 3 เดือน ก่อนฉีดซ้ำ
แต่ส่วนมากอาการดื้อโบท็อก มักเกิดขึ้นในกรณีที่ใช้ยาปลอม ยาหิ้ว ที่ไม่ได้มาตรฐาน และไม่ผ่านการเก็บรักษาอุณหภูมิอย่างถูกต้อง เนื่องจากตัวยาเสื่อมสภาพ หรือผสมน้ำเกลือมากเกินไป เมื่อฉีดบ่อย ๆ ก็จะเกิดอาการดื้อยาครับ
อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดโบท็อกอันตรายไหม ? ก่อนฉีด Botox ควรระวังอะไรบ้าง ?
การปฏิบัติตัว ก่อน-หลัง ฉีดโบท็อก เพื่อให้เห็นผลเร็ว อยู่ได้นาน
การเตรียมตัวก่อนฉีดโบท็อก
- ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดโบท็อก หรือปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อประเมินความและให้คำแนะนำที่เหมาะสม
- เลือกฉีดกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน เปิดอย่างถูกต้อง ผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข
- แพทย์มีประสบการณ์ด้านการปรับรูปหน้า มีใบรับรองถูกต้อง สามารถเช็คเลขที่ใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม (เช็คเลขว.)
- ฉีดโบท็อกแท้ที่สามารถตรวจสอบได้ ผ่านการเก็บรักษาอุณหภูมิอย่างถูกต้อง โดยโบท็อกที่นำเข้ามาอย่างถูกกฎหมาย จะสามารถโทรเช็คเลข lot. กับบริษัทนำเข้าโดยตรงได้
- ดูรีวิวจากผู้มาใช้บริการจริงในคลินิก ควรเป็นแหล่งที่เป็นกลาง น่าเชื่อถือ คลินิกไม่สามารถลบหรือแก้ไขรีวิวได้
- ก่อนและหลังการฉีดโบท็อก การรับประทานอาหารที่มีแร่ธาตุ zinc 50 mg ช่วยให้โบท็อกออกฤทธ์ไวขึ้น ออกฤทธิ์ดีขึ้นและช่วยให้โบท็อกอยู่ได้นานขึ้น
การดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อก
- หลังฉีดโบท็อกควรขยับกล้ามเนื้อในบริเวณที่ฉีดทันทีเป็นเวลาประมาณ 30 นาที เพื่อให้โบท็อกถูกเซลล์ประสาทดูดเข้าไปให้มากที่สุด
- หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดและงดออกกำลังกาย เช่น เข้าซาวน่า ตากแดด เป็นเวลา 3 วัน
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด และอาหารหมักดอง เป็นเวลา 3 วัน
- หากต้องการให้กล้ามเนื้อยุบลงมากขึ้น สามารถมาฉีดเพิ่มได้แต่ควรเว้นระยะอย่างน้อย 3 เดือน
อ่านบทความเพิ่มเติม : [ข้อห้าม] หลังฉีดโบท็อก เพื่อให้โบท็อกอยู่ได้นานกว่าปกติ คุณหมอตอบเองครับ
เลือกโบท็อกยี่ห้อไหนดี รุ่นไหนฉีดแล้วอยู่ได้นาน ?
- โบท็อกอเมริกา Allergan
มีความบริสุทธิ์ 99.5% ทำให้มีโอกาสดื้อโบท็อกน้อยที่สุดและผลการรักษาดีที่สุด เมื่อเทียบกับโบท็อกยี่ห้ออื่น ๆจุดเด่นของโบท็อกอเมริกาคือยากระจายตัวแคบ ให้ผลการรักษาที่แม่นยำ หมอสามารถคาดคะเนการออกฤทธิ์ของโบท็อกได้ และอยู่ได้นานกว่าโบท็อกเกาหลีธรรมดาประมาณ 20% ทำให้มีราคาสูงกว่าโบท็อกยี่ห้ออื่น ๆ
อ่านบทความเพิ่มเติม : โบท็อกอเมริกา botox allergan ดีอย่างไร? เห็นผลคุ้มค่ามากแค่ไหน ?
- โบท็อกอังกฤษ Dysport
จุดเด่นของโบท็อกอังกฤษคือออกฤทธิ์ไว จึงทำให้โบท็อกกระจายได้อย่างทั่วถึง ไม่กระจุกเป็นจุดแคบ ๆ เหมาะสำหรับการปรับรูปหน้า หรือลิฟกรอบหน้า ด้วยเทคนิค Dermolift ช่วยลดริ้วรอยและกระชับผิว รวมไปถึงเหมาะกับการฉีดลดน่อง ฉีดลดเหงื่อบริเวณรักแร้และฝ่ามือ ลดกราม เพราะสามารถกระจายได้ในบริเวณกว้างกว่ายี่ห้ออื่น เห็นผลลัพธ์ชัดเจน
อ่านบทความเพิ่มเติม : โบท็อกอังกฤษ Dysport และเทคนิค Dermolift ลิฟกรอบหน้า ปรับรูปหน้าเรียว
- โบท็อกเยอรมัน Xeomin
โบท็อกเยอรมัน ถูกพัฒนาโดยเอาข้อดีของ Allergan กับ Dysport มารวมกันครับ คุณสมบัติต่าง ๆ จึงอยู่กึ่งกลางระหว่างโบท็อกอเมริกากับโบท็อกอังกฤษ Xeomin มีความบริสุทธิ์สูง ตัวยาจะไม่กระจุกตัวแคบ ทำให้ได้ผลที่ออกมาดูเป็นธรรมชาติ ไม่ตึงเกินไป และจุดเด่นที่ต่างจากยี่ห้ออื่น คือมีงานวิจัยว่า Xeomin ฉีดแล้วได้ผลดีในเคสที่ดื้อโบท็อก (โดยที่เคสนั้น ๆ ต้องหยุดการฉีดโบท็อกมาแล้วอย่างน้อย 2-3 ปี)
อ่านบทความเพิ่มเติม : โบท็อกซ์เยอรมัน xeomin ฉีดลดริ้วรอย ปรับรูปหน้า เห็นผลดีในเคสที่ดื้อโบท็อก
- โบท็อกเกาหลี Nabota Botulax Aestox
- Nabota ออกฤทธิ์ไว ได้รับความนิยมค่อนข้างมาก เนื่องจากออกฤทธิ์ไวกว่าโบท็อกเกาหลียี่ห้ออื่นเล็กน้อย เหมาะกับคนที่ต้องการผลโบท็อกแบบเร่งด่วน สามารถช่วยลดริ้วรอยบริเวณใบหน้าได้ชัดเจน
- Botulax นิยมใช้ลดริ้วรอย ทำหน้าใสช่วยให้หน้าเรียวเล็กลง เพื่อกรอบหน้าที่ชัดเจน รักษาริ้วรอยตีนกาที่มีลึกปานกลางถึงมาก หลังฉีดใบหน้าไม่แข็งตึง สามารถลดกรามและลดน่องได้ ขึ้นอยู่กับความถนัดและเทคนิคของแพทย์
- Aestox ตัวยามีความบริสุทธิ์สูงทำให้โอกาสดื้อโบท็อกลดน้อยลง นิยมใช้เพื่อปรับรูปหน้า ลดกราม ลิฟต์หน้า ลดริ้วรอย สวยอย่างเป็นธรรมชาติ ตัวยาออกฤทธิ์เร็ว และเห็นผลไว
อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดโบท็อกยี่ห้อไหนดี อังกฤษ เกาหลี อเมริกา เยอรมัน คุ้มค่า ผ่าน อย.
สรุป
สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้ง 30 สาขา หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ