ฉีดโบลดกรามอยู่ได้นานไหม ?
การฉีดโบท็อกลดกรามเป็นวิธีปรับใบหน้าดูเรียวเล็กลง โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้นใด ๆ สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ จึงได้รับความนิยมอย่างมากครับ แต่คำถามที่มักจะเกิดขึ้นคือ ฉีดโบลดกรามอยู่ได้นานไหม ? และ ทำอย่างไรให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น ?
ในบทความนี้ หมอจะมาให้คำตอบเกี่ยวกับระยะเวลาของผลลัพธ์ พร้อมบอกปัจจัยต่าง ๆ ที่มีผลต่อความคงทนของผลลัพธ์ พร้อมแนะวิธีการดูแลตัวเองหลังการฉีด เพื่อให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานที่สุด
บทความนี้จะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เพื่อให้คนไข้สามารถตัดสินใจ และดูแลตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไปเริ่มทำความเข้าใจเกี่ยวกับปัจจัยที่มีผลต่อการฉีดโบลดกรามอยู่ได้นานไหมกันเลยครับ
สารบัญ ฉีดโบลดกรามอยู่ได้นานไหม
ฉีดโบลดกรามอยู่ได้นานไหม ทำไมแต่ละคนอยู่ได้นานไม่เท่ากัน ?
การฉีดโบลดกราม เป็นวิธีที่ช่วยลดขนาดกล้ามเนื้อกรามได้อย่างเห็นผล หลังฉีดรูปหน้าจะเล็กลง หน้าเรียวขึ้น หลังฉีดใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ เพราะไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผล มีความปลอดภัยสูง จึงได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน
แต่คำถามที่หลายคนสงสัย คือ ฉีดโบลดกรามอยู่ได้นานไหม ? โดยทั่วไปผลลัพธ์ของโบท็อกซ์กรามจะอยู่ได้ประมาณ 5-6 เดือนครับ ซึ่งระยะเวลานี้ไม่ได้ตายตัว อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น
- ยี่ห้อโบท็อกซ์ที่ใช้ : โบท็อกแต่ละยี่ห้อมีคุณสมบัติ และความเข้มข้นที่แตกต่างกัน ยี่ห้อที่มีความเข้มข้นสูงก็จะให้ผลลัพธ์ที่อยู่ได้นานกว่า
- ปริมาณยาที่ใช้ : ปริมาณโบท็อกซ์ที่ใช้แต่ละครั้ง มีผลต่อระยะเวลาของผลลัพธ์ด้วยครับ การใช้ปริมาณที่เหมาะสมจะช่วยให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น แต่ต้องคำนึงถึงความปลอดภัย และความเป็นธรรมชาติด้วย
นอกจากนี้ปริมาณยาที่ใช้ยังส่งผลต่อ โบท็อก ราคา ด้วย ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาความเหมาะสมระหว่างผลลัพธ์ และค่าใช้จ่ายครับ - เทคนิคการฉีด : การฉีดที่แม่นยำจะช่วยให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น หมอที่มีประสบการณ์จะรู้จุดฉีดที่เหมาะสม และใช้เทคนิคที่ช่วยให้โบท็อกซ์กระจายตัวได้ดี ส่งผลให้ ฉีดโบลดกรามอยู่ได้นานขึ้น
- การดูแลตัวเองของคนไข้ : หลังการฉีดมีผลอย่างมากต่อความคงทนของผลลัพธ์ หลังฉีดโบท็อกซ์คนไข้ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของหมออย่างเคร่งครัด ซึ่งในบทความนี้หมอได้เขียนถึงวิธีดูแลตัวเองให้ผลลัพธ์ของโบท็อกซ์อยู่ได้นานขึ้น คนไข้สามารถติดตามอ่านได้ครับ
- ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อกราม : คนไข้ที่มีกล้ามเนื้อกรามแข็งแรงมาก อาจพบว่าผลของโบท็อกซ์อยู่ได้ไม่นานเท่าที่ควร เนื่องจากกล้ามเนื้อฟื้นตัวเร็ว ในกรณีนี้ อาจต้องฉีดบ่อยขึ้นหรือเพิ่มปริมาณยา
- อายุและเมตาบอลิซึมของร่างกาย : คนไข้ที่อายุน้อยหรือมีเมตาบอลิซึมสูง อาจพบว่าผลของโบท็อกซ์อยู่ได้ไม่นานเท่าคนไข้ที่อายุมากกว่า เนื่องจากร่างกายมีการฟื้นฟูและกำจัดสารเร็วกว่า
- ฉีดโบท็อกซ์กรามร่วมกับการลิฟกรอบหน้า : จะเป็นการฉีดคลายกล้ามเนื้อคอ โดยจะฉีดบริเวณกรอบหน้า และใต้คาง ซึ่งจะช่วยเสริมประสิทธิภาพ และยืดระยะเวลาของผลลัพธ์ได้
ข้อควรรู้ : การฉีดโบท็อกซ์อย่างต่อเนื่อง 2-3 ครั้งต่อปี จะช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย ทำให้ผลลัพธ์การฉีดครั้งต่อไปมีประสิทธิภาพ และอยู่ได้นานขึ้น
ยี่ห้อของโบท็อกซ์มีผลต่อระยะเวลาของผลลัพธ์หรือไม่ ?
การเลือกยี่ห้อของโบท็อกซ์ที่ใช้ในการฉีด มีผลต่อระยะเวลาของผลลัพธ์ฉีดโบลดกรามอยู่ได้นานไหมด้วยครับ เพราะแต่ละยี่ห้อมีคุณสมบัติ และประสิทธิภาพที่แตกต่างกันไปตามปัจจัยต่าง ๆ เช่น
- กรรมวิธีการทำตัวยาให้บริสุทธิ์
- ชนิด protein complex
- ขนาดของ molecule complex
- ความคงทนในการเก็บรักษา
- การกระจายตัว
หมอจะอธิบายเกี่ยวกับยี่ห้อโบท็อกซ์ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน โดยการบอกจุดเด่นของโบท็อกซ์แต่ละยี่ห้อ เพื่อให้คนไข้ใช้ข้อมูลสำหรับเป็นข้อพิจารณาในการเลือกฉีดโบท็อกยี่ห้อไหนดีครับ
1. โบท็อกซ์ยี่ห้อ Allergan(อเมริกา)
โบท็อกซ์ยี่ห้อ Allergan เป็นโบท็อกซ์จากสหรัฐอเมริกา ตัวยามีความบริสุทธิ์ถึง 99.5% โอกาสดื้อโบท็อกซ์น้อย ตัวยากระจายตัวแคบ ทำให้หมอสามารถคาดคะเนการออกฤทธิ์ของโบท็อกซ์ได้แม่นยำแม้จะเป็นตำแหน่งที่ต้องการความละเอียดสูงอย่างการฉีดโบท็อกใต้ตา
โบท็อกซ์ยี่ห้อ Allergan จึงเป็นที่นิยมมากทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศ เป็นที่ยอมรับในวงการแพทย์ว่าเป็นโบท็อกซ์ที่มีคุณภาพสูง และให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานกว่าโบท็อกซ์เกาหลีประมาณ 20% แต่ราคาจะสูงกว่าโบท็อกซ์ยี่ห้ออื่น ๆ ครับ
2. โบท็อกซ์ยี่ห้อ Dysport (อังกฤษ)
โบท็อกซ์ยี่ห้อ Dysport เป็นโบท็อกซ์จากอังกฤษที่มีความสามารถในการกระจายตัวได้ดี ทำให้เหมาะกับการฉีดบริเวณที่มีพื้นที่กว้าง เช่น หน้าผาก และน่อง ด้วยความที่มีโมเลกุลมีขนาดเล็กทำให้โบท็อกซ์เข้าเซลล์ประสาทได้ดีขึ้น และออกฤทธิ์ไวขึ้น แต่ระยะเวลาคงอยู่จะสั้นกว่า Allergan
3. โบท็อกซ์ยี่ห้อ Xeomin (เยอรมัน)
โบท็อกซ์ยี่ห้อ Xeomin เป็นโบท็อกซ์ที่มีความบริสุทธิ์สูง ไม่กระจุกตัวแคบเกินไป ฉีดแล้วไม่ตึง คุณสมบัติต่าง ๆ จึงอยู่กึ่งกลางระหว่างอเมริกากับอังกฤษ และยังมีงานวิจัยแสดงว่า Xeomin ได้ผลดีในเคสที่ดื้อยา (โดยที่เคสนั้น ๆ ต้องหยุดการฉีดโบท็อกซ์มาแล้วอย่างน้อย 2-3 ปี) ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้มีความคงทน และมีประสิทธิภาพมาก
4. โบท็อกซ์ยี่ห้อ Nabota (เกาหลี)
โบท็อกซ์ยี่ห้อ Nabota เป็นโบท็อกซ์เกาหลียี่ห้อเดียวที่ผ่านงานวิจัยรับรองจาก อย.อเมริกา U.S.FDA approved (2018) ทำให้ได้รับความนิยมมาก ความบริสุทธิ์ของสารโบทูลินัมท็อกซินใน Nabota ทำให้สามารถกระจายตัวได้ดี เน้นการพัฒนาให้ออกฤทธิ์ไว เห็นผลเร็ว
อย่างไรก็ตามระยะเห็นผลลัพธ์ยังขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ ด้วย คนไข้สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จากบทความนี้ครับ ฉีดโบท็อก กี่วันเห็นผล ? ฉีดแล้วเห็นผลช้า เพราะอะไร ?
5. โบท็อกซ์ยี่ห้อ Aestox (เกาหลี)
Aestox เป็นโบท็อกซ์จากเกาหลีที่มีจุดเด่นในเรื่องของความบริสุทธิ์สูง ทำให้โอกาสดื้อโบท็อกซ์ลดน้อยลง และมีการกระจายตัวที่ดี มีความอ่อนโยน ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ หน้าไม่แข็ง ออกฤทธิ์เร็ว และเห็นผลไว
6. โบท็อกซ์ยี่ห้อ Neuronox (เกาหลี)
Neuronox เป็นโบท็อกซ์จากเกาหลีที่ใช้เชื้อแบคทีเรียคลอสตริเดียม โบทูลินั่ม สายพันธุ์ออริจินัล ซึ่งเป็นสายพันธุ์เดียวกับโบท็อกซ์อเมริกา Allergan แต่ราคาจับต้องได้ ตัวยามีความบริสุทธิ์สูง ยากระจายตัวแคบ ผลลัพธ์แม่นยำ ไม่ทำให้เกิดการดื้อยา หรือภาวะดื้อโบท็อกซ์ในอนาคต
ข้อควรรู้ : การเลือกยี่ห้อโบท็อกซ์มีผลต่อระยะเวลาของผลลัพธ์ และความพึงพอใจหลังการฉีด การเลือกยี่ห้อที่เหมาะสมควรพิจารณาจากคุณสมบัติ และผลลัพธ์ที่ต้องการ รวมถึงการปรึกษาแพทย์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และปลอดภัยที่สุดครับ
การดูแลตัวเองให้ผลลัพธ์ของโบท็อกซ์อยู่ได้นานขึ้น
- หลังฉีดโบท็อกลดกราม แนะนำให้คนไข้ใช้วิธีเคี้ยวหมากฝรั่งหรือกัดฟันไว้หลังฉีด และบริหารกล้ามเนื้อเป็นเวลา 30 นาที เพื่อให้โบท็อกซ์ถูกเซลล์ประสาทดูดเข้าไปมากที่สุด
- การรับประทานอาหารที่มีแร่ธาตุสังกะสี เช่น หอยนางรม ธัญพืช หรือเมล็ดฟักทอง จะช่วยเสริมประสิทธิภาพของโบท็อกซ์ให้ทำงานได้ดีขึ้น เนื่องจากสังกะสีมีบทบาทในการกระตุ้นการทำงานของโบทูลินัมท็อกซิน
- เพื่อป้องกันการกระจายตัวของโบท็อกซ์ไปยังบริเวณที่ไม่ต้องการ ควรหลีกเลี่ยงการนอนราบ นอนคว่ำ หรือก้มหน้าในช่วง 3 ชั่วโมงแรกหลังฉีด
- ความร้อน เช่น การอาบน้ำอุ่น การอบซาวน่า หรือการออกกำลังกายหนัก อาจทำให้โบท็อกซ์กระจายไปยังบริเวณที่ไม่ต้องการ ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดงในช่วง 48 ชั่วโมงแรกหลังฉีด
- อาหารรสจัดและอาหารหมักดอง อาจกระตุ้นการเกิดการอักเสบในร่างกาย ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อการฟื้นตัวของผิวหลังฉีดโบท็อกซ์ ดังนั้นควรงดอาหารเหล่านี้ในช่วงแรกหลังฉีด
- การสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์อาจทำให้การฟื้นตัวของผิวช้าลง และลดประสิทธิภาพของโบท็อกซ์ ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงในช่วงแรกหลังฉีด
ปัจจัยที่ทำให้ผลลัพธ์ของโบท็อกซ์อยู่ได้ไม่นาน
แม้ว่าการฉีดโบลดกรามจะช่วยลดขนาดกรามและทำให้ใบหน้าเรียวขึ้น แต่ผลลัพธ์อาจไม่ได้คงอยู่ยาวนานเท่าที่ควรหากมีปัจจัยต่าง ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของโบท็อกซ์
หมอจะอธิบายปัจจัยหลัก ๆ ที่อาจทำให้ผลลัพธ์ของโบท็อกซ์อยู่ได้ไม่นาน เพื่อให้คนไข้เข้าใจ และสามารถหลีกเลี่ยงได้ครับ
- ความถี่ในการฉีด : การฉีดโบท็อกซ์บ่อยเกินไปอาจทำให้ร่างกายเกิดการดื้อยาได้ ควรเว้น 3 เดือน และไม่ควรเว้นนานเกิน 5-6 เดือน เพราะหากเว้นระยะเวลานาน ๆ จะทำให้กล้ามเนื้อกรามกลับมาทำงาน และอาจจะต้องใช้ปริมาณโบท็อกเยอะขึ้นในการฉีดครั้งต่อไปครับ
- คุณภาพของโบท็อกซ์ : โบท็อกซ์ที่มีคุณภาพต่ำหรือไม่ได้มาตรฐานอาจส่งผลให้สารโบทูลินัมท็อกซิน (Botulinum Toxin) ไม่มีความเสถียร ทำให้การทำงานของโบท็อกซ์ลดลง และผลลัพธ์ที่ได้อยู่ไม่นาน
- การสัมผัสความร้อนสูง : การอบซาวน่า แช่น้ำร้อน หรือการอาบน้ำร้อนจัดในช่วงแรกหลังฉีดโบท็อกซ์ อาจทำให้โบท็อกซ์สลายไวขึ้น และอาจกระจายตัวไปยังบริเวณที่ไม่ต้องการ
- รับประทานอาหารแข็งหรือเหนียวมากเกินไป : อาหารที่ต้องเคี้ยวมาก เช่น เนื้อเหนียว ถั่ว น้ำแข็ง หรือหมากฝรั่ง จะกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อบดเคี้ยวมากเกินไป ทำให้ผลของโบท็อกซ์ลดลงเร็ว
- อายุและสภาพผิว : อายุและสภาพผิวของคนไข้ ก็มีผลต่อระยะเวลาของผลลัพธ์เช่นกัน คนที่มีอายุมากขึ้น มีผิวที่หย่อนคล้อย มีรองลึก อาจต้องฉีดซ้ำบ่อยขึ้นเพื่อรักษาผลลัพธ์ให้คงอยู่
- ความเครียด : ความเครียดไม่เพียงส่งผลต่อสุขภาพโดยรวม แต่ยังอาจทำให้เกิดการเกร็งกรามโดยไม่รู้ตัว ซึ่งเป็นการกระตุ้นกล้ามเนื้อที่เพิ่งได้รับการฉีดโบท็อกซ์ ทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้ไม่นาน
หากคนไข้สังเกตว่าผลลัพธ์อยู่ได้ไม่นานเท่าที่ควร สามารถปรึกษาหมอเพื่อหาสาเหตุ และวิธีแก้ไข อาจจะเริ่มจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่าง โดยเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้ผลลัพธ์ของโบท็อกซ์อยู่ได้ไม่นานตามที่หมอแนะนำไปเมื่อสักครู่ก็จะช่วยยืดระยะเวลาของผลลัพธ์ได้ครับ
สรุปฉีดโบลดกรามอยู่ได้นานไหม ทำยังไงให้อยู่ได้นานขึ้น ?
ฉีดโบลดกรามอยู่ได้นานไหม กี่เดือน ?
โดยสรุปแล้วผลลัพธ์ของโบท็อกซ์กรามจะอยู่ได้ประมาณ 5-6 เดือนครับ แต่เพื่อให้อยู่ได้นานขึ้น แนะนำให้คนไข้มาติดตามผลอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยทุก 3-4 เดือน หรือเมื่อเริ่มสังเกตเห็นว่าผลของโบท็อกซ์เริ่มลดลง ก็สามารถทำการฉีดซ้ำได้อีก เพื่อคงสภาพต่อเนื่อง โดยไม่ต้องเสี่ยงกับการผ่าตัดครับ
สุดท้ายนี้ หมอขอเน้นย้ำว่า การฉีดโบท็อกที่ไหนดี เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความปลอดภัย และประสิทธิภาพของผลลัพธ์ คนไข้ควรเลือกคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ มีแพทย์มากประสบการณ์ และใช้โบท็อกซ์แท้ที่ได้มาตรฐาน
หากคนไข้มีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับการฉีดโบลดกรามอยู่ได้นานไหม หรือต้องการคำแนะนำเฉพาะบุคคล สามารถเข้ามาปรึกษากับทีมแพทย์ V Square Clinic ได้โดยตรง หมอยินดีให้คำปรึกษาเพิ่มเติม ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายครับ
สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง Inbox Facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ