โบท็อกอยู่ได้กี่เดือน ?
โบท็อก อยู่ได้กี่เดือน? ทำอย่างไร ให้ผลลัพธ์อยู่ได้นาน? แน่นอนว่าหลังฉีดโบท็อกแล้ว สิ่งแรกที่คนไข้ส่วนใหญ่มักจะคาดหวังมากที่สุดคือ ผลลัพธ์หลังฉีดโบท็อกอยู่ได้กี่เดือน ซึ่งหลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่าหากฉีดโบท็อกในบริเวณที่ต่างกัน ผลลัพธ์หลังฉีดจะอยู่ได้นานไม่เท่ากันครับ
ในบทความนี้หมอจะมาให้คำตอบว่า โบท็อก อยู่ได้กี่เดือน? หลังฉีดโบท็อก ดูแลตัวเองอย่างไรให้ผลลัพธ์อยู่ได้นาน? ควรเว้นกี่เดือนถึงฉีดซ้ำได้? โบท็อก แต่ละยี่ห้อต่างกันอย่างไร เลือกยี่ห้อไหนดี? ติดตามอ่านได้ครับ
บทความแนะนำ
ก่อนฉีดโบท็อก ควรรู้อะไรบ้าง ?โบท็อก อยู่ได้กี่เดือน ?
โบท็อกอยู่ได้กี่เดือน ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีดและยี่ห้อโบท็อกที่เลือกใช้ รวมไปถึงการดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อก
- โบท็อกลดริ้วรอย หลังฉีดอยู่ได้นาน 3-4 เดือน โดยจะเริ่มออกฤทธิ์และเห็นผลใน 3-7 วัน เห็นผลเต็มที่ สังเกตได้ว่าริ้วรอยเริ่มลดลง 14 วัน หลังฉีด
- โบท็อกลดกราม หลังฉีดอยู่ได้นาน 5-6 เดือน โดยจะเห็นผลใน 14 วัน กล้ามเนื้อกรามจะนิ่มลงกัดฟันแล้วไม่เป็นก้อนกล้ามเนื้อเด้งออกมา จากนั้นจะเห็นว่ากรามยุบลงตอน 1 เดือน และยุบเต็มที่ใน 2-3 เดือน
หลังฉีดโบท็อก ดูแลตัวเองอย่างไรให้ผลลัพธ์อยู่ได้นาน ?
- หลังฉีดโบท็อกทันทีควรรีบขยับเกร็งกล้ามเนื้อที่ฉีด 1-2 ครั้ง เพื่อให้โบท็อกถูกเซลล์ประสาทดูดเข้าไปให้มากที่สุด
- ควรทานอาหารที่มีแร่ธาตุสังกะสี เพื่อช่วยให้โบท็อกออกฤทธ์ไวขึ้น และทำงานดีขึ้น
- งดนอนราบ นอนคว่ำ หรือก้มหัวต่ำกว่าอก 3 ชม.เพราะจะทำให้เลือดไหลเวียนมาที่บริเวณใบหน้ามากขึ้น ส่งผลให้โบท็อกที่ฉีดปลิวไปบริเวณที่ไม่ต้องการได้
- หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง 48 ชม. เช่น อบซาวน่า ออกกำลังกายหนัก ๆ ตากแดด ทำเลเซอร์
- ควรงดอาหารรสจัด และอาหารหมักดอง เพราะมีสารที่ทำให้เส้นเลือดขยายตัว
- งดสูบบุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เนื่องจากจะส่งผลต่อการอักเสบ ยุบบวมช้า และผลการรักษาอยู่ได้สั้นลงอีกด้วย
“ ข้อควรรู้ : ในงานวิจัยพบว่าการกินแร่ธาตุ zinc 50 mg ก่อนและหลังการฉีดโบท็อก ช่วยให้โบท็อกออกฤทธิ์ไวขึ้น ออกฤทธิ์ดีขึ้น สำหรับในคนทั่วไป หากกินจากอาหารหรือกินในปริมาณปกติที่ควรได้รับประจำวัน ตามที่ Thai Recommended Daily Intakes (Thai RDI) กำหนด คือ ไม่เกิน 15mg/วัน การรับประทาน Zinc เสริม ควรอยู่ในการดูแลของแพทย์ ”
อ่านบทความเพิ่มเติม : ข้อห้าม! ก่อน-หลังฉีดโบท็อก ดูแลตัวเองอย่างไร ให้ Botox อยู่ได้นานขึ้น
หลังฉีดโบท็อก ห้ามกินอะไรบ้าง ?
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เหล้า เบียร์ ไวน์ น้ำหมัก หมอแนะนำให้งดไปก่อน 14 วันหลังฉีดโบท็อกครับ หรือถ้าหากใครที่อยากดื่มจริง ๆ หรือเลี่ยงไม่ได้ก็ควรเว้นระยะ 2-3 วัน
- งดหมูกระทะ ปิ้งย่าง ชาบู ที่ต้องนั่งหน้าเตาร้อน ๆ
- งดอาหารที่เผ็ดมาก ๆ แสบร้อนจนหน้าแดง เช่น เมนูยำต่าง ๆ
- งดอาหารหมักดอง เช่น ผักดอง ผลไม้ดอง ปลาร้า เนื่องจากอาหารที่มีกรรมวิธีในการดองมักจะมีสิ่งปนเปื้อน ที่อาจจะไปกระตุ้นให้เกิดการอักเสบของรอยเข็ม
- งดอาหารดิบ สุก ๆ ดิบ ๆ เช่น อาหารทะเล เนื้อที่ปรุงไม่สุก หรือกึ่งสุกกึ่งดิบที่มักมีสิ่งปนเปื้อนอย่างพยาธิหรือเชื้อโรคที่ส่งผลให้แผลที่เกิดจากรอยเข็มหายช้า หรือทำให้แผลติดเชื้ออักเสบ หมอแนะนำให้ควรเลี่ยงไปก่อนครับ
- ดอาหารรสหวาน เช่น ชานม น้ำหวาน นมวัว
หลังฉีดโบท็อก ควรเว้นกี่เดือนถึงฉีดซ้ำได้ ?
เนื่องจากโบท็อกให้ผลลัพธ์ที่ไม่ถาวร คงอยู่ได้ประมาณ 4-6 เดือน จึงต้องมีการฉีดซ้ำต่อเนื่องตามระยะเวลา เพื่อให้โบท็อกคงสภาพ แต่ไม่ควรฉีดโบท็อกถี่เกินไป ควรเว้นระยะห่างตามความเหมาะสม ดังนี้ครับ
- โบท็อกลดริ้วรอย หางตา ควรฉีดโบท็อก ประมาณ 3-4 เดือน/ครั้ง
- โบท็อกหน้าผาก โบท็อกลดกราม ควรฉีดโบท็อก ประมาณ 4-5 เดือน/ครั้ง
โบท็อก แต่ละยี่ห้อต่างกันอย่างไร ยี่ห้อไหนอยู่ได้นาน ?
1. โบท็อก Allergan
โบท็อกยี่ห้อ Allergan เป็นโบท็อกที่นำเข้ามาจากประเทศอเมริกา ผลิตโดยบริษัทอัลเลอร์แกน (Allergan) มีจุดเด่น คือมีความบริสุทธิ์มากถึง 99.5% ทำให้โอกาสดื้อโบท็อกน้อยที่สุด และผลการรักษาดีที่สุดเมื่อเทียบกับโบท็อกยี่ห้ออื่น ๆ ยากระจายตัวแคบ ช่วยให้หมอสามารถคาดคะเนการออกฤทธิ์ของโบท็อกได้แม่นยำ ทำให้ผลลัพธ์ที่ออกมาดีที่สุด
อีกจุดเด่นที่ทำให้โบท็อกยี่ห้อ Allergan ได้รับความนิยมมากที่สุด คือตัวยาจะมีอายุการใช้งานนานกว่าโบท็อกเกาหลีประมาณ 20% และมีราคาสูงกว่าโบท็อกยี่ห้ออื่น ๆ
2. โบท็อก Dysport
โบท็อกยี่ห้อ Dysport เป็นโบท็อกที่นำเข้าจากประเทศอังกฤษ ผลิตโดยบริษัท Ipsen มีจุดเด่นคือ ออกฤทธิ์ไว จึงทำให้โบท็อกกระจายได้อย่างทั่วถึง ไม่กระจุกเป็นจุดแคบ เหมาะสำหรับใช้ปรับรูปหน้า ด้วยเทคนิค dermolift เพื่อยกกระชับหน้าเรียว ลดริ้วรอย และยังนิยมใช้ฉีดโบท็อกลดน่อง ลดเหงื่อบริเวณรักแร้และฝ่ามือ
3. โบท็อก Xeomin
โบท็อกยี่ห้อ Xeomin เป็นโบท็อกที่ผลิตในประเทศเยอรมัน นำเข้าโดยบริษัท เมิร์ซ เอสเธติกส์ ประเทศไทย จำกัด (Merz Aesthetics) ตัวยามีจุดเด่นที่เน้นพัฒนาโดยเอาข้อดีของ Allergan กับ Dysport มารวมกันครับ หลัก ๆ คือจะมีความบริสุทธิ์สูง ไม่กระจุกตัวแคบเกินไป ทำให้ได้ผลที่ออกมาดูเป็นธรรมชาติ ไม่ตึงเกินไป และมีงานวิจัยว่าโบท็อกยี่ห้อ Xeomin ได้ผลดีในเคสที่ดื้อยา (โดยที่เคสนั้น ๆ ต้องหยุดการฉีดโบท็อกมาแล้วอย่างน้อย 2-3 ปี)
4. โบท็อก Nabota
โบท็อกยี่ห้อ Nabota ผลิตโดยบริษัท DAEWOONG เป็นโบท็อกเกาหลียี่ห้อเดียวที่ผ่านงานวิจัยรับรองจาก อย.อเมริกา (U.S.FDA approved 2018)จุดเด่น คือตัวยามีความบริสุทธิ์สูง ออกฤทธิ์ไวกว่าโบท็อกเกาหลียี่ห้ออื่นเล็กน้อย เหมาะกับคนที่ต้องเห็นผลแบบเร่งด่วน นิยมใช้ฉีดเพื่อช่วยลดริ้วรอย ยกคิ้ว กระชับหน้า ปรับรูปหน้าให้เรียวเล็กยิ่งขึ้น
5. โบท็อก Aestox
โบท็อกยี่ห้อ Aestox เป็นโบท็อกประเทศเกาหลี เริ่มมีการนำมาใช้ในประเทศไทยได้ไม่นาน นำเข้าโดยบริษัท Aestec Pharma ได้การรับรองจาก KFDA (องค์การอาหารและยาประเทศเกาหลีใต้) และ ThaiFDA (องค์การอาหารและยาประเทศไทย) มีทำการวิจัยกับทางโรงพยาบาลศิริราชเป็นระยะเวลามากกว่า 5 ปี เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดสำหรับคนไทย
จุดเด่นของโบท็อกยี่ห้อ Aestox คือ ตัวยามีความบริสุทธิ์สูง ทำให้โอกาสที่จะดื้อยาลดน้อยลง นิยมใช้เพื่อปรับรูปหน้า ลดกราม ลิฟต์หน้า ลดริ้วรอย สวยอย่างเป็นธรรมชาติ ตัวยาออกฤทธิ์เร็ว และเห็นผลไว
อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดโบท็อกยี่ห้อไหนดีที่สุด อังกฤษ/เกาหลี/อเมริกา/เยอรมัน ยี่ห้อไหนคุ้มค่า ผ่าน อย. 2022
สรุป
ฉีดโบท็อกอยู่ได้กี่เดือน คำตอบขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีดและยี่ห้อโบท็อกที่ใช้ครับ โดยโบท็อกลดริ้วรอยจะอยู่ได้นาน 3-4 เดือน และโบท็อกลดกรามอยู่ได้นาน 5-6 เดือน ทั้งนี้คนไข้ควรดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกตามคำแนะนำของหมอร่วมด้วย เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจนและอยู่ได้นานยิ่งขึ้นครับ
สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้ง 30 สาขา หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ