ลดริ้วรอย
ปัญหาริ้วรอยบนใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นริ้วรอยใต้ตา รอยตีนกา รอยย่นหน้าผาก ริ้วรอยร่องแก้ม ล้วนเป็นปัญหาที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย โดยเฉพาะในคนที่มีอายุมากขึ้นก็จะเห็นริ้วรอยร่องลึกได้ชัด เนื่องจากจำนวนคอลลาเจนและอิลาสตินในชั้นผิวมีการผลิตน้อยลง ทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้น ไม่มีน้ำมีนวล ผิวแห้งกร้าน ขาดความสมดุล ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของการเกิดริ้วรอยได้ง่าย
ปัจจุบันได้มีวิธีลดริ้วรอยแบบเร่งด่วนที่เห็นผลจริงและได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก นั่นคือการฉีดโบท็อกลดริ้วรอยที่เป็นหัตถการทางการแพทย์ ได้รับการยอมรับว่ามีความปลอดภัยสูง มีราคาไม่แพง และเห็นผลไวกว่าการทาครีมลดริ้วรอย เหมาะสำหรับคนที่ต้องการลดริ้วรอยแบบเร่งด่วน ไม่มีเวลาพักฟื้นครับ
นอกจากวิธีลดริ้วรอยด้วยการฉีดโบท็อกแล้ว ก็ยังมีวิธีอื่น ๆ ที่สามารถเห็นผลได้จริง จะมีวิธีลดริ้วรอยแบบไหนเห็นผลบ้าง? สาเหตุริ้วรอยบนใบหน้า เกิดจากอะไร? วิธีป้องกันริ้วรอยบนใบหน้า มีวิธีไหนบ้าง? ลดริ้วรอยแบบเร่งด่วนที่ไหนดี? หมอจะมาแนะนำในบทความนี้ครับ
ริ้วรอยบนใบหน้า เกิดจากอะไร ?
ริ้วรอยบนใบหน้า สาเหตุส่วนใหญ่มักมาจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากร่างกายเราจะผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินน้อยลง ทำให้ผิวขาดความแข็งแรง ไม่ยืดหยุ่น มีผิวแห้งกร้าน ขาดน้ำ ไม่ชุ่มชื้น จนทำให้ผิวเริ่มหย่อนคล้อยจนเกิดเป็นริ้วรอยในที่สุด ซึ่งนอกจากอายุจะเป็นสาเหตุหลักแล้ว ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดริ้วรอยได้ เช่น
- แสงแดดและมลภาวะ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดริ้วรอยได้ เนื่องจากรังสีอัลตราไวโอเลตในแสงแดด จะทำลายอีลาสตินกับคอลลาเจนในผิวหนังให้เสื่อมสภาพเร็วขึ้น เมื่อโครงสร้างผิวอ่อนแอ ขาดความยืดหยุ่นก็จะเกิดเป็นรอยพับ และร่องลึกบนผิวได้ง่าย
- การแสดงสีหน้า เช่น การยิ้ม หัวเราะ ขมวดคิ้ว เลิกหน้าผาก รวมถึงการขยี้ตาบ่อย ๆ ก็เป็นหนึ่งในสาเหตุการเกิดริ้วรอยได้ เนื่องจากอาจทำให้เกิดการกดทับเนื้อเยื่อคอลลาเจนเป็นเวลานาน และกระตุ้นกล้ามเนื้อบริเวณนั้นให้ทำงานหนักขึ้น จนเกิดเป็นริ้วรอยร่องลึก
- การดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ สารนิโคตินในบุหรี่และสารพิษอื่น ๆ จะส่งผลกระทบต่อเซลล์ผิว ทำให้สุขภาพผิวและคอลลาเจนในผิวเสื่อมสภาพลงแย่ลง เกิดริ้วรอยได้ง่าย
- ผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้น คนที่มีผิวแห้ง ผิวขาดน้ำ ขาดความยืดหยุ่น ไฮยาลูรอนิค แอซิดในผิวลดลง จะทำให้เกิดริ้วรอยบนใบหน้าได้ง่ายกว่าคนทั่วไป
ลักษณะของริ้วรอยบนใบหน้า
ลักษณะของริ้วรอยบนใบหน้าจะมีด้วยกัน 2 ประเภทครับ คือ ริ้วรอยแบบตื้นและริ้วรอยแบบลึก ซึ่งลักษณะของริ้วรอยทั้ง 2 แบบนี้จะมีสาเหตุการเกิดและวิธีรักษาที่แตกต่างกัน
- ริ้วรอยแบบตื้น เป็นริ้วรอยที่เกิดจากผิวหนังชั้นบนมีความแห้งกร้าน ขาดน้ำ สูญเสียจำนวนคอลลาเจน มักพบในคนที่มีริ้วรอยอายุ 40 หรืออายุ 50 ปีขึ้นไป แต่ก็สามารถพบในคนที่อายุน้อยได้เช่นกันหากอยู่ในที่ ๆ มีอากาศหนาวหรืออยู่ในห้องแอร์เป็นประจำ
- ริ้วรอยแบบลึก เป็นริ้วรอยที่เกิดจากกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้าเกิดการหดตัว ส่งผลให้ผิวหนังแท้ (Dermis) และผิวหนังชั้นกำพร้า (Epidermis) ดึงเข้าหากันจนเกิดเป็นรอยพับ มักพบในคนที่ชอบแสดงสีหน้าบ่อย ๆ เช่น การยิ้ม หัวเราะ ขมวดคิ้ว เลิกหน้าผาก เป็นต้น
8 วิธีลดริ้วรอยบนใบหน้า
1. เลือกใช้ครีมลดริ้วรอยบนใบหน้า
การใช้ครีมลดริ้วรอย หรือเซรั่มลดริ้วรอย มักจะเป็นตัวเลือกอันดับแรก ๆ เพราะหาซื้อได้ง่ายตามห้างทั่วไป ร้านสะดวกซื้อ เช่น ครีมลดริ้วรอยอายุ 40 ในเซเว่น ก็สามารถหวังผลได้ครับ สำหรับคนที่ต้องการทาครีมลดริ้วรอย ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของวิตามินเอหรือเรตินอล เพราะมีส่วนช่วยในเรื่องลดเลือนริ้วรอย ช่วยเร่งการสร้างเซลล์ใหม่ ผลัดเซลล์ผิวเก่าเร็วยิ่งขึ้น ช่วยฟื้นฟูผิวให้ดูเรียบเนียน รูขุมขนกระชับ ดูกระจ่างใสมากขึ้น ถ้าหากคนไข้ต้องการหวังผลเรื่องลดริ้วรอยแบบเห็นได้ชัด จะต้องใช้ครีมลดริ้วรอยต่อเนื่อง 6 เดือนขึ้นไป จึงจะเห็นผลได้ครับ
2. เลเซอร์ลดริ้วรอย
การทำเลเซอร์ลดริ้วรอย คือการลดริ้วรอยโดยการอาศัยความร้อนที่มีคุณสมบัติกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ ปัจจุบันมีการใช้เลเซอร์ลดริ้วรอยอยู่ 3 ระบบ ได้แก่ เลเซอร์ปรับสภาพผิวชนิดมีแผล, ชนิดไม่มีแผลและชนิดมีแผลน้อย เช่น Nd:YAG, Fractional laser, IPL, Pico Laser เป็นต้น การใช้เลเซอร์นอกจะจะช่วยลดริ้วรอยได้แล้ว ยังสามkรถลดจุดด่างดำ ปรับผิวให้กระจ่างใสขึ้นด้วยครับ แต่หลังทำมักจะมีผลข้างเคียง คืออาจมีสะเก็ดแผล รอยช้ำ ผิวแห้ง มีแผลบวมแดงได้ และต้องทำต่อเนื่อง 3 ครั้งขึ้นไปจึงจะเห็นผล
3. นวดหน้าลดริ้วรอย
การนวดหน้าลดริ้วรอย คือการลดริ้วรอยด้วยวิธีธรรมชาติ มีส่วนช่วยในการกระตุ้นการไหวเวียนของเลือดให้มาเลี้ยงบริเวณใบหน้ามากขึ้น หากจะให้เห็นผลดี จำเป็นต้องมีอุปกรณ์และต้องทำกับผู้เชี่ยวชาญ เพื่อไม่ให้เกิดผลข้างเคียงตามมาทีหลังครับ วิธีนี้จะต้องทำเป็นประจำและทำอย่างต่อเนื่องจึงจะเห็นผล
4. Hifu ลดริ้วรอย
การทำ Hifu ลดริ้วรอย คือการใช้พลังงานคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูง ส่งลงไปในชั้นผิวหนัง SMAS ด้วยความร้อน 45-70°C ที่ไม่อันตรายต่อผิวหนัง ส่งผลให้ชั้นไขมัน และชั้น SMAS เกิดการหดตัว เสมือนเป็นการดึงหน้า ช่วยลดริ้วรอย ยกกระชับใบหน้าที่หย่อนคล้อย สามารถทำได้ทั้งลดริ้วรอยใต้ตา รอยตีนกา รอยย่นหน้าผาก ริ้วรอยร่องแก้ม รวมไปถึงช่วยกระชับผิวบริเวณลำตัว เช่น หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา สะโพก ได้ครับ
หลังทำ hifu ลดริ้วรอยจะเห็นผลลัพธ์ทันทีตั้งแต่ครั้งแรกประมาณ 20% และหลังจากนั้นภายใน 1-2 เดือน จะเห็นผลชัดเจนขึ้น เห็นผลเต็มที่ตอน 3-4 เดือน หากคนไข้ต้องการให้ผิวกระชับขึ้น ริ้วรอยตื้นขึ้นอีก ก็สามารถทำ Hifu เพิ่มได้ทุก ๆ 3 เดือน เพื่อคงสภาพครับ
อ่านบทความเพิ่มเติม : Hifu คืออะไร ? คลายข้อสงสัยเกี่ยวกับไฮฟู ทำไมหลายคนประทับใจจนต้องบอกต่อ
5. Thermage ลดริ้วรอย
การทำ Thermage ลดริ้วรอย คือการอาศัยพลังงานความร้อนคลื่นวิทยุความถี่สูง ยิงลงชั้นผิวหนังแท้ที่อยู่ชั้นลึกสุดของโครงสร้างผิว รวมถึงชั้นไขมันใต้ผิวหนัง ตัวเครื่องจะปล่อยความร้อนออกมาได้ลึกและทั่วถึงทุกชั้นผิว จึงช่วยลดริ้วรอยบนใบหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังช่วยสลายไขมัน โดยเฉพาะบริเวณแก้มและเหนียงได้
หลังทำ Thermage คนไข้จะรู้สึกว่าผิวแน่นขึ้น ริ้วรอยตื้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยหลังทำจะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงทันที 20% และค่อย ๆ เห็นผลชัดขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป 2-3 เดือน คงผลลัพธ์ได้นาน 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของคนไข้ครับ
อ่านบทความเพิ่มเติม : Thermage FLX คืออะไร? ราคาเท่าไหร่? ทำเทอร์มาจกี่ Shot ถึงเห็นผล 2022
6. Ulthera SPT ลดริ้วรอย
การทำ Ulthera SPT ลดริ้วรอย คือการลดริ้วรอยบนใบหน้าโดยใช้คลื่นเสียงความถี่สูงที่มีความเฉพาะเจาะจง (Focused Ultrasound) ที่ช่วยเรื่องยกกระชับผิว ลดริ้วรอยใต้ตา ริ้วรอยร่องแก้ม เพิ่มกรอบหน้าชัด แก้ปัญหาความหย่อนคล้อยได้อย่างเห็นผล ตัวเครื่องสามารถยิงลงลึกถึงใต้ผิวหนังชั้น smas ที่เป็นผิวหนังชั้นเดียวกับการผ่าตัดดึงหน้า โดยใช้ความร้อน 60-70°C ลงลึกถึงใต้ผิวหนัง ด้วยจุดพลังงานขนาด 1 mm ลักษณะเป็นจุดไข่ปลาเล็ก ๆ เรียงกันเป็นเส้นตรงใต้ผิวครับ
หลังทำ Ulthera SPT จะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงทันทีประมาณ 30 % โดยชั้นผิวจะหดตัวจากความร้อนที่ Focus ลงใต้ผิว และจะเห็นผลขึ้นเรื่อย ๆ ประมาณ 3 เดือน คงผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 1 ปีครับ
อ่านบทความเพิ่มเติม : Ulthera คืออะไร ราคาเท่าไหร่ ยกกระชับ ปรับรูปหน้า ลดริ้วรอย เห็นผลในกี่วัน
7. ฉีดโบลดริ้วรอย
ฉีดโบลดริ้วรอย คือการฉีดสารสกัดจากแบคทีเรียที่มีชื่อว่า คลอสตริเดียม โบทูลินัม เพื่อหวังลดในการลดริ้วรอยบนใบหน้า สามารถลดได้ทั้งรอยตีนกา ริ้วรอยใต้ตา รอยย่นหน้าผาก โดยโบท็อกจะช่วยทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่มีริ้วรอยคลายตัวลง อีกทั้งยังช่วยป้องกันการหดตัวของกล้ามเนื้อ ส่งผลให้ริ้วรอยต่าง ๆ ดูตื้นขึ้น การฉีดโบท็อกจึงมักเป็นหัตถการแรก ๆ ที่หมอแนะนำหากคนไข้กังวลกับริ้วรอย ต่างๆ บนใบหน้าครับ
หลังฉีดลดริ้วรอยใต้ตาจะเริ่มเห็นผลภายใน 5-7 วันหลังทำ เห็นผลเต็มที่ประมาณ 14 วันหลังทำ โดยจะคงสภาพอยู่ 3-4 เดือน ครับ
อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดโบท็อก คืออะไร อันตรายไหม แต่ละยี่ห้อต่างกันอย่างไร และวิธีดูโบท็อกแท้
8. ฉีดฟิลเลอร์ลดริ้วรอย
การฉีดฟิลเลอร์ลดริ้วรอย คือการฉีดสารเติมเต็มไฮยาลูรอนิค แอซิด ( Hyaluronic Acid ) เข้าไปตรงบริเวณที่ต้องการลดริ้วรอย เช่น ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ลดริ้วรอยร่องแก้มลึก ฟิลเลอร์ร่องน้ำหมาก ฟิลเลอร์ใต้ตา โดยหลังฉีดฟิลเลอร์จะเห็นผลทันที และจะเห็นผลชัดเจนขึ้นประมาณ 2-3 สัปดาห์ หลังฉีดไม่ต้องพักฟื้น สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการลดริ้วรอยแบบเร่งด่วน ใช้ใบหน้าได้เลย และเมื่อเวลาผ่านไปฟิลเลอร์จะสลายเองตามธรรมชาติ ไม่ก่อให้เกิดสารตกค้างครับ
อ่านบทความเพิ่มเติม : ฟิลเลอร์ คืออะไร ช่วยลดริ้วรอย ปรับรูปหน้า เห็นผลจริงไหม อันตรายหรือไม่ 2022
ลดริ้วรอยแบบเร่งด่วนที่ไหนดี ?
ลดริ้วรอยแบบเร่งด่วนที่ไหนดี อันดับแรกคนไข้ควรเลือกคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ ได้มาตรฐานก่อนครับ โดยสามารถพิจารณาได้จาก
- คลินิกจะต้องมีเลขที่ใบอนุญาตประกอบกิจการ ได้มาตรฐานจากกระทรวงสาธารณสุข
- มีอุปกรณ์และเครื่องมือในการช่วยเหลือยามฉุกเฉินครบครัน มีพื้นที่กว้างขวาง สะอาด
- ทางคลินิกจะต้องยินยอมให้คนไข้ตรวจสอบว่าเป็นผลิตภัณฑ์ของแท้หรือไม่
- มีรีวิวจากคนไข้จริง ที่เคยเข้ามาใช้บริการแนะนำดูรีวิวที่เป็นกลาง เช่น Facebook, Pantip อย่าดูเฉพาะรีวิวที่มาจากคลินิกนั้น ๆ โดยตรงเพียงอย่างเดียว)
- มีการให้ข้อมูลก่อนตัดสินใจอย่างละเอียดตรงไปตรงมา ผลการรักษาที่คาดหวัง ราคาค่าใช้จ่าย ทั้งจากตัวหมอและเจ้าหน้าที่ประจำคลินิก
- เลือกคลินิกที่มีการเดินทางสะดวก เพื่อความรวดเร็วในการเดินทางและการติดต่อหากเกิดปัญหา
V Square Clinic นับว่าเป็นคลินิกเสริมความงามในกรุงเทพที่ได้รับความนิยมและได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้บริการจำนวนมาก ปัจจุบันเปิดให้บริการ ถึง 27 สาขาทั่วกรุงเทพและปริมณฑล มีทีมแพทย์มากประสบการณ์ด้านการปรับรูปหน้ากว่า 15 ปี คอยให้คำแนะนำการปรับรูปหน้าโดยตรง ไม่ผ่านเซลล์ เพื่อเลือกหัตถการที่เหมาะสมกับปัญหาและสภาพผิวของแต่ละคน มีการติดตามหลังการรักษาทุกเคสครับ
วิธีป้องกันริ้วรอยบนใบหน้า
- หลีกเลี่ยงแดดที่เป็นตัวการทำร้ายเกราะป้องกันผิว ควรทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ และควรเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป
- เลี่ยงการนอนตะแคงข้างใดข้างหนึ่งเป็นเวลานาน เพราะจะทำให้บริเวณนั้นโดนกดทับจนเป็นริ้วรอยได้
- ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าที่เน้นเติมความชุ่มชื้นให้ผิว เช่น ไฮยาลูรอนิค แอซิด, มอยเจอร์ไรเซอร์ หรือครีมลดริ้วรอยที่มีส่วนผสมของเรตินอล
- ทานอาหารเสริมที่เน้นช่วยเรื่องบำรุงผิวพรรณ เช่น วิตามินซี, Grape Seed, astaxanthin
- ดื่มน้ำให้เพียงต่อวัน อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว ดูอิ่มน้ำ ดูสุขภาพดีจากภายใน
สรุป
สำหรับใครที่ต้องการลดริ้วรอยที่เป็นสาเหตุทำให้ดูหน้าแก่กว่าวัย ไม่มีความมั่นใจก็สามารถนำ 8 วิธีลดริ้วรอยที่หมอได้แนะนำไปในข้างต้นไปปรับใช้ได้ครับ แต่สำหรับใครที่ต้องการลดริ้วรอยแบบเร่งด่วน หมอแนะนำให้ทำหัตถการจะดีที่สุด เพราะเห็นผลทันที ไม่ต้องพักฟื้น ไม่มีรอยแผล
หากใครสนใจลดริ้วรอยหรืออยากปรึกษาปัญหาผิวหน้าก็สามารถส่งรูปมาให้หมอประเมินในเบื้องต้นก่อนได้ครับ หมอจะได้แนะนำวิธีลดริ้วรอยที่เหมาะสมกับปัญหาผิวหน้า เพื่อจะได้เห็นผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้ง 30 สาขา หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ