juvederm volite บูสต์ผิวใส
juvederm volite อีกหนึ่งฟิลเลอร์ Skin Booster จากอเมริกา ที่มีคุณสมบัติเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวจากภายใน เหมาะกับเทรนด์ผิวกระจก ผิวใสดูอิ่มน้ำที่กำลังมาแรงในปัจจุบัน หลังฉีดเห็นผลการเปลี่ยนแปลงทันที ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น
ในบทความนี้หมอจะมาสรุปคุณสมบัติและจุดเด่นของ juvederm volite ว่าดีอย่างไร ? ต่างจากฟิลเลอร์รุ่นอื่นไหม ? ช่วยเรื่องอะไรบ้าง เหมาะกับใคร ราคาเท่าไหร่ ฉีดจุดไหนได้บ้าง ?
สารบัญ Juvederm Volite
juvederm volite คือ ?
juvederm volite คือหนึ่งในยี่ห้อของฟิลเลอร์อเมริกา ซึ่งเป็นสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid (HA) ที่มีความปลอดภัย ผ่านการรับรองจาก US FDA คุณสมบัติเด่นของ juvederm volite คือมีลักษณะเนื้อละเอียด สามารถฉีดเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวได้โดยไม่บวม ไม่เป็นก้อน มีความเรียบเนียนเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ยังเหมาะกับใช้ฉีดเพื่อแก้ปัญหาผิวใต้ตาชั้นตื้นได้ดีครับ
เทรนด์ความงามในปัจจุบันจะเน้นงานผิวที่สวยอย่างเป็นธรรมชาติครับ ดังนั้นจึงมีผลิตภัณฑ์และหัตถการ Skin Booster ออกมาหลายตัว ฟิลเลอร์เองก็เป็นหนึ่งในการทำ Skin Booster ที่ได้รับความนิยมมากขึ้น เพราะเห็นผลเร็ว อยู่ได้นาน หลังฉีด juvederm volite ไม่ต้องกลับฉีดบ่อย ๆ สามารถเว้นระยะได้ 8-12 เดือน และก่อน-หลังฉีด ไม่ต้องเตรียมตัวหรือดูแลตัวเองเยอะ
juvederm มีกี่รุ่น ?
ฟิลเลอร์ juvederm ของอเมริกา มีทั้งหมด 6 รุ่น ได้แก่ Ultra Plus, Voluma, Volbella, Volift, Volite, Volux ซึ่งแต่ละรุ่นจะมีการผลิตออกมาให้เนื้อเจลมีลักษณะแตกต่างกัน ทั้งเนื้อแน่น เนื้อนิ่ม เนื้อละเอียด เพื่อที่หมอจะได้เลือกใช้ให้เหมาะกับปัญหาผิวและความกังวลของคนไข้แต่ละคนได้ครับ
เทคโนโลยีการผลิต juvederm volite
Juvederm Volite ผลิตโดยบริษัท Allergan ซึ่งเป็นบริษัทเดียวกับที่ผลิตโบท็อก Allergan และเป็นบริษัทระดับโลก ฟิลเลอร์ Juvederm ได้รับความนิยมจากแพทย์ทั่วโลกในการนำมาใช้ปรับรูปหน้า เนื้อฟิลเลอร์ผลิตโดยใช้ 2 เทคโนโลยี ได้แก่ Hylacross และ Vycross Technology
สำหรับ juvederm volite ใช้ Vycross Technology ทำให้มีโมเลกุลยึดเกาะที่หนาแน่น และมีอัตราการบวมน้ำหรืออุ้มน้ำน้อย ใช้ในการยกกระชับได้ดี ฉีดแล้วไม่บวมมาก เรียบเนียน เป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน จึงเหมาะกับการใช้เป็น Skin Booster มากที่สุดครับ
juvederm volite แตกต่างจากรุ่นอื่นอย่างไร ?
จุดเด่นที่ juvederm volite แตกต่างจากรุ่นอื่น และเหมาะกับการฉีด Skin Booster คือเนื้อฟิลเลอร์อุ้มน้ำน้อย ทำให้ฉีดแล้วไม่บวม เรียบเนียน มีความเป็นธรรมชาติสูง
แต่ไม่ใช่ว่าฟิลเลอร์จูวีเดิมรุ่นอื่นฉีดแล้วจะบวมนะครับ โดยปกติแล้วเนื้อฟิลเลอร์มีการผลิตออกมาให้แตกต่างกัน เพื่อแก้ปัญหาในจุดที่ต่างกัน ในบางจุดเช่นร่องแก้ม แก้มตอบ ต้องใช้ฟิลเลอร์ที่ฉีดแล้วอุ้มน้ำได้ดี ฟูสวย มีความยืดหยุ่นสูง เพราะเป็นจุดที่มีการขยับบ่อย ๆ ซึ่งก็จะใช้ฟิลเลอร์ที่ผลิตด้วย Hylacross Technology แทน
ดังนั้นการเลือกใช้รุ่นฟิลเลอร์ให้เหมาะสมกับปัญหาของคนไข้ ต้องอาศัยประสบการณ์ของแพทย์ เพื่อวิเคราะห์และแก้ปัญหาให้ตรงจุด
อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์บวมกี่วัน? หลังกี่วันหายปวด บวม ช้ำ รอยเข็มหาย
Skin Booster คืออะไร ?
Skin Booster คือ การฟื้นฟูและซ่อมแซมผิว เพื่อให้กลับมาอ่อนเยาว์ แข็งแรง สุขภาพดี สามารถทำได้หลายวิธีครับ ไม่ว่าจะเป็นการฉีดเมโส ฉีดสารบำรุงต่าง ๆ / ฉีด Stem Cell / Exosome / Rejuran / Sculptra หรือการฉีดฟิลเลอร์ Skin Booster
ข้อแตกต่างของแต่ละหัตถการคือจุดที่จะเข้าไปแก้ปัญหา หมอจะประเมินว่าคนไข้มีปัญหาที่ผิวชั้นไหน เหมาะกับหัตถการอะไร รวมไปถึงความต้องการของคนไข้ ว่าต้องการให้เห็นผลเร็วแค่ไหน อยู่ได้นานแค่ไหน ทั้งนี้ไม่จำเป็นว่าต้องเลือกทำเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง สามารถเลือกทำและเรียงลำดับการทำตามความเหมาะสม เพื่อให้ผลลัพธ์ของแต่ละอย่างเสริมกัน ก็จะเป็นการแก้ปัญหาที่ครอบคลุมมากขึ้นครับ
juvederm volite ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ?
- เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว แก้ปัญหาผิวแห้งกร้าน ขาดน้ำ
- ช่วยลดรูขุมขน ทำให้รูขุมขนกระชับขึ้น ผิวหน้าดูเรียบเนียน
- เติมเต็มหลุมสิว ฉีดแล้วเรียบเนียนไปกับผิว
- ช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่น เกิดริ้วรอยได้ยากขึ้น
juvederm volite ฉีดจุดไหนได้บ้าง ?
ส่วนใหญ่จะนิยมฉีด juvederm volite บริเวณใบหน้าครับ เพื่อบูสต์ผิวให้ชุ่มชื้น ดูอิ่มน้ำและเรียบเนียน
อีกจุดที่หมออยากให้คนไข้สนใจเป็นพิเศษคือบริเวณใต้ตาครับ เพราะเป็นจุดที่หากมีปัญหาถุงใต้ตา ร่องใต้ตา ตาลึก จะทำให้ใบหน้าดูไม่สดใส แก่กว่าวัย สามารถฉีด juvederm รุ่นที่เป็นเนื้อแน่นเพื่อแก้ปัญหาในผิวชั้นลึก และฉีด juvederm volite เก็บรายละเอียดในผิวชั้นตื้น นอกจากช่วยเรื่องลดริ้วรอย ยังช่วยแก้ปัญหาใต้ตาดำคล้ำให้ดีขึ้นได้ด้วยครับ
นอกจากการฉีดฟิลเลอร์ Skin Booster ที่ฉีดบริเวณใบหน้า ยังสามารถฉีดเพื่อฟื้นฟูผิวในส่วนที่เกิดการเหี่ยวย่นได้ เช่น บริเวณหลังมือ คอ ช่วยให้ผิวกลับมาเต่งตึง ดูอ่อนเยาว์ขึ้น
juvederm volite เหมาะกับใคร ?
- ผู้ที่มีปัญหาผิวแห้งกร้าน รูขุมขนกว้าง มีหลุมสิว
- ผู้ที่ต้องการบูสต์ผิวให้ฉ่ำวาว อิ่มน้ำ
- ผู้ที่ต้องการปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน ลดริ้วรอยเล็ก ๆ
- ผู้ที่ต้องการเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว เพิ่มคุณภาพผิวให้ดีขึ้น
- ผู้ที่มีปัญหาผิวคอ หลังมือ เหี่ยวย่น
การฉีดฟิลเลอร์ เป็นหัตถการที่เหมาะสมกับคนไข้ที่ต้องการเห็นผลชัดเจน รวดเร็ว ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น หลังฉีด juvederm volite คนไข้สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติครับ
juvederm volite ต้องฉีดกี่ CC ?
juvederm volite ต้องฉีดกี่ CC ? ขึ้นอยู่กับปัญหาผิวของคนไข้ครับ ถ้ามีปัญหาลึกก็อาจจะต้องใช้ฟิลเลอร์ปริมาณมากขึ้น แต่โดยปกติการฉีด Skin Booster ใช้เพียง 1-2 CC ก็เห็นผลการเปลี่ยนแปลงครับ หรือถ้าคนไข้ไม่แน่ใจ ก็สามารถค่อย ๆ ทยอยฉีดเพื่อดูผลลัพธ์ก่อนได้ ไม่จำเป็นต้องฉีดอัดทีเดียวเยอะ ๆ ครับ
juvederm volite กี่วันเห็นผล ต้องพักหน้าไหม ?
หลังฉีด juvederm volite คนไข้สามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงของผิวได้ทันทีครับ เนื้อฟิลเลอร์จะเบลนด์เข้ากับผิว 100% ใน 2 สัปดาห์ ถ้าต้องแต่งหน้าให้เว้นบริเวณรอยเข็ม 1 คืน หลังจากนั้นสามารถแต่งหน้าได้ตามปกติ
juvederm volite อยู่ได้นานแค่ไหน ?
juvederm volite อยู่ได้นาน 8-12 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองของคนไข้ร่วมด้วย ถ้าดูแลตัวเองตามที่หมอแนะนำ ไม่มีพฤติกรรมทำร้ายผิว เช่น พักผ่อนไม่เพียงพอ ตากแดดจัด ก็จะช่วยให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้นครับ
การดูแลหลังฉีด juvederm volite
- ควรดื่มน้ำให้เพียงพอ 1.5/2 ลิตร/วัน จะช่วยให้ผิวชุ่มชื้นมากขึ้น
- ควรหลีกเลี่ยงแสงแดด หากต้องออกแดดควรทาครีมกันแดดทุกครั้ง
- ห้ามบีบ นวด แกะ เกา บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ โดยเฉพาะในช่วง 2-3 วันแรก
- งดออกกำลังกายหนัก ๆ หรือกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีดมาก ใน 48 ชั่วโมงแรก
- งดเลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึก 1 เดือน
- ไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์หรือสูบบุหรี่
อ่านบทความเพิ่มเติม : ข้อห้าม-ข้อปฎิบัติ หลังฉีดฟิลเลอร์ บริเวณไหนดูแลอย่างไร ?
juvederm volite ราคา ?
โปรโมชั่นฟิลเลอร์ juvederm volite ราคา 14,000 / 1 CC ที่ V Square Clinic คัดสรรฟิลเลอร์แบรนด์ระดับโลก มีการเก็บรักษาในอุณหภูมิที่เหมาะสม เพื่อคงคุณภาพเนื้อฟิลเลอร์ไว้ให้ได้ 100% ฉีดด้วยเทคนิคเฉพาะ Fine Art of Filler ช่วยให้คนไข้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด บวมน้อย หลังทำสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติครับ
สรุป
ฟิลเลอร์ juvederm volite เป็นฟิลเลอร์ Skin Booster ที่นอกจากจะช่วยปรับสภาพและฟื้นฟูผิว ยังสามารถช่วยแก้ปัญหาใต้ตา เก็บรายละเอียดผิวใต้ตาชั้นตื้นได้เป็นอย่างดี สำหรับคนไข้ที่สนใจอยากมีผิวสวย ฉ่ำวาว อิ่มฟูเป็นธรรมชาติ พร้อมแก้ปัญหาอื่น ๆ บนใบหน้า สามารถส่งภาพให้หมอช่วยประเมินก่อนได้ฟรี หมอจะให้คำแนะนำกับแต่ละคนโดยเฉพาะ ไม่มีค่าใช้จ่ายครับ
สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง Inbox Facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ