ฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วบวม ต้องดูแลอย่างไร ?
ฉีดฟิลเลอร์ปากบวมกี่วัน ? ทำอย่างไรให้หายบวมเร็ว ?
ปากเป็นตำแหน่งที่ฉีดฟิลเลอร์แล้วบวม หรือเป็นก้อนได้ง่ายครับ ซึ่งสาเหตุเกิดได้จากหลายปัจจัย ทั้งเรื่องของแพทย์ที่ฉีด จะต้องมีประสบการณ์และใช้เทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง ยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ รวมถึงการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ปากของคนไข้เอง ทั้งหมดนี้ประกอบกันจึงจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วเป็นทรงสวย ไม่บวมมาก ไม่เป็นก้อน รายละเอียดต่าง ๆ หมอจะแนะนำให้ในบทความครับ
สารบัญ ฉีดฟิลเลอร์ปากบวมกี่วันเป็นก้อน
ฉีดฟิลเลอร์ปาก บวมกี่วัน ?
หลังฉีดฟิลเลอร์ บวมกี่วัน ? อาการบวมมักจะอยู่ประมาณ 2-3 วันแรก แล้วค่อย ๆ ลดลงในช่วง 1 สัปดาห์ และจะยุบบวมเข้าที่โดยสมบูรณ์ในระยะเวลา 2 สัปดาห์
ในการฉีดฟิลเลอร์ปากเป็นเรื่องปกติครับที่จะมีอาการบวม เพราะเนื้อเยื่อบริเวณริมฝีปากค่อนข้างบาง เวลาที่เข็มฉีดยาจิ้มลงไป อาจทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง เกิดอาการบวมเข็มขึ้นได้ แต่ก็สามารถหายได้เอง คนไข้ไม่ต้องกังวลครับ
อาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ ไม่น่าเป็นกังวลครับหากใช้ฟิลเลอร์แท้ ซึ่งเป็นสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic acid : HA) ที่มีความปลอดภัย สามารถสลายได้เอง ไม่ทิ้งสารตกค้างไว้ในร่างกาย
วิธีลดบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ให้ทรงปากสวย อยู่ได้นาน
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ดูแลตัวเองอย่างไร ? เพื่อลดอาการบวม ฟิลเลอร์เข้าที่เร็ว และให้ปากทรงสวยอยู่ได้นานขึ้น หมอแนะนำวิธีดูแลตัวเอง ดังนี้
ข้อปฏิบัติตัวหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ให้อาการบวมหายไว
- หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก สามารถใช้แผ่นประคบเย็นประคบเบา ๆ บริเวณปากได้ครับ วิธีนี้จะช่วยลดอาการบวมและลดความอักเสบได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ในคืนแรกหลังการฉีด ควรนอนยกศีรษะสูงขึ้นโดยใช้หมอนหนุน ช่วยลดการสะสมของของเหลวในบริเวณที่ฉีดและลดอาการบวม
- ควรดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อเพิ่มการอุ้มน้ำของฟิลเลอร์ เนื่องจากการดื่มน้ำมาก ๆ จะช่วยให้ฟิลเลอร์ฟูสวย และอยู่ได้นานขึ้น
ข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ให้อาการบวมหายไว
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ฉีด ไม่จับ บีบ นวดบริเวณริมฝีปาก
- ไม่ควรดึงหรือลอกหนังริมฝีปาก เพราะจะเป็นการทำลายผิวริมฝีปาก ทำให้ผิวเก็บกักน้ำและความชุ่มชื้นไว้ได้น้อยลง
- งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด รวมไปถึงเครื่องดื่มร้อน ๆ เพราะอาจเกิดทำให้ปากเกิดอาการบวมหรืออักเสบได้ง่าย
- งดการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังหนัก ๆ ที่จะทำให้ปากเสียรูปทรง
- ใน 12 ชั่วโมงแรกควรงดใช้หลอดดูดน้ำ งดทาลิปสติก และงดสูบบุหรี่
หากหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก หากละเลยการดูแลตัวเอง อาจทำให้ฟิลเลอร์ปากสลายเร็ว ผิดรูปหรือได้ผลไม่เป็นไปตามที่ต้องการได้ครับ
อ่านบทความเพิ่มเติม : ข้อห้าม-ข้อปฎิบัติ หลังฉีดฟิลเลอร์ บริเวณไหนดูแลอย่างไร ?
ปัจจัยไหนบ้างที่ทำให้ฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วบวมเยอะขึ้น
- สัมผัสกับความร้อน ทำให้หลอดเลือดขยายตัวและทำให้อาการบวมแย่ลง
- ดื่มแอลกอฮอล์ ทำให้หลอดเลือดขยายตัว เพิ่มอาการบวมและกระตุ้นการอักเสบ
- การออกกำลังกายที่หนักในช่วงแรกหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก อาจทำให้เลือดไหลเวียนมากขึ้นในบริเวณที่ฉีด และทำให้อาการบวมรุนแรงขึ้น
- ทานอาหารที่มีเกลือสูงหรือรสจัดมาก ๆ ทำให้ร่างกายกักเก็บน้ำมากขึ้น ส่งผลให้อาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ยิ่งมากขึ้น
- การสัมผัสหรือกดแรงๆ บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ทันที ทำให้เนื้อเยื่อบริเวณนั้นบวมและอักเสบได้
ฟิลเลอร์ปาก บวมมากอันตรายไหม ?
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก อาการบวมเป็นปฏิกิริยาปกติของร่างกายครับ จะค่อย ๆ ดีขึ้น ยุบบวมละเข้าที่ 100% ใน 2 สัปดาห์
แต่หากอาการบวมรุนแรงมากขึ้น มีอาการปวดมาก หรือเกิดรอยแดงและร้อนบริเวณที่ฉีด อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อหรือปฏิกิริยาต่อฟิลเลอร์ ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันทีเพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม
ซึ่งการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ปากตามคำแนะนำของแพทย์ เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยลดความเสี่ยงและป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นหลังฉีดฟิลเลอร์ได้ครับ
วิธีลดอาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ปากให้หายเร็วขึ้น
หลังการฉีดฟิลเลอร์ปาก หากต้องการลดอาการบวมให้หายเร็วขึ้น ควรเริ่มจากการประคบเย็นบริเวณที่ฉีดทันทีเพื่อช่วยลดการอักเสบและบวม หลีกเลี่ยงการสัมผัสความร้อน จากนั้นให้ดูแลตัวเองตามข้อปฏิบัติที่หมอแนะนำ พยายามเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่จะกระตุ้นอาการบวมของฟิลเลอร์ ก็จะช่วยให้ยุบบวมเร็วและได้ผลลัพธ์ที่สวยงามครับ
ฉีดฟิลเลอร์ปาก เป็นก้อน เกิดจากอะไร ?
ฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วบวม กับฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วเป็นก้อนต่างกันครับ ถ้าหลังฉีดฟิลเลอร์ไปแล้วอาการบวมไม่ยุบลง และฟิลเลอร์ยังจับตัวเป็นก้อน ต้องมาพบแพทย์เพื่อวิเคราะห์ปัญหาและวางแผนการรักษาต่อไป
การจะรู้ว่าฉีดฟิลเลอร์ปากเป็นก้อน ต้องรอหลังอาการบวมยุบลงหลัง 7-14 วัน เพื่อให้แน่ใจว่าไม่ใช่เกิดจากอาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ สามารถสังเกตได้ดังนี้
- ปากดูอวบอิ่มเกินพอดี ปากเจ่อ คล้ายปากเป็ด ดูไม่เป็นธรรมชาติ
- หลังจาก 7-14 วันไปแล้ว อาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ปากยังไม่หาย อาจเป็นเพราะเกิดการอักเสบ ติดเชื้อ หรืออาจเป็นก้อนจากฟิลเลอร์ปลอม
อาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ปากที่ควรพบแพทย์
อาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ปากที่ควรพบแพทย์ คืออาการที่เป็นสัญญาณของการติดเชื้อหรือปฏิกิริยาตอบสนองต่อฟิลเลอร์ที่รุนแรง ซึ่งต้องได้รับการดูแลจากแพทย์อย่างเร่งด่วน
- อาการบวมที่รุนแรงและไม่ลดลงภายใน 3-5 วัน
- อาการปวดที่มากผิดปกติ หรือมีอาการเจ็บแสบมากขึ้น
- มีรอยแดง ร้อน หรือเป็นหนองบริเวณที่ฉีด
- มีอาการหายใจลำบาก ผื่นขึ้นทั่วร่างกาย หรือหน้าบวมมากเกินไป
ฉีดฟิลเลอร์ปากบวมเกินไป แก้ไขอย่างไร ?
หากฉีดฟิลเลอร์ปากมาแล้วรู้สึกว่าปากดูบวมเกินไป แม้จะผ่าน 2 สัปดาห์ไปแล้วก็ยังไม่พอใจในผลลัพธ์ สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ด้วยเอ็นไซม์ไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase : HYAL) ได้ครับ
- 15-20 นาที จะเริ่มเห็นผล ฟิลเลอร์สลายไป 60-70%
- 2 วัน เห็นผลชัดเจน โดยฟิลเลอร์จะยุบตัวหลังฉีดและละลายเป็นน้ำซึมไปตามผิวหนัง
เอ็นไซม์ไฮยาลูโรนิเดสจะเข้าไปสลายฟิลเลอร์ โดยลดคุณสมบัติการอุ้มน้ำ ทำลายการยึดเกาะของฟิลเลอร์ ปรับสมดุลบริเวณผิวที่ฉีดฟิลเลอร์ให้กลับมาเหมือนเดิมหรือใกล้เคียงเดิมมากที่สุด ฟิลเลอร์จะค่อย ๆ ยุบตัวลง และสลายไปในที่สุด โดยสามารถสลายออกได้หมด 100% ครับ
สำหรับการฉีดฟิลเลอร์ปาก โดยทั่วไปแพทย์จะใช้ปริมาณฟิลเลอร์ 1-2 cc ครับ แต่ในกรณีที่ฉีดกับแพทย์ที่ขาดประสบการณ์ ใช้ยี่ห้อฟิลเลอร์หรือปริมาณ cc ที่ไม่เหมาะสม ใช้มากเกินไป ใช้ฟิลเลอร์เนื้อแข็งเกินไป ก็จะทำให้ปากดูบวมไม่สวยได้
แพทย์จะเลือกฉีดสลายฟิลเลอร์ในปริมาณน้อย ๆ ก่อน ถ้าฉีดสลายปริมาณมาก ๆ ในครั้งเดียว อาจส่งผลกระทบผิวได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเทคนิคและดุลยพินิจของแพทย์ครับ
ยี่ห้อของฟิลเลอร์มีผลต่ออาการบวมหรือไม่ ?
ฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วบวม ยี่ห้อฟิลเลอร์มีผลไหม ? ต้องบอกว่ายี่ห้อฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยครับ
เนื่องจากฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อมีส่วนผสมและคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ฟิลเลอร์บางยี่ห้ออาจมีคุณสมบัติที่ทำให้เกิดอาการบวมน้อยกว่า ในขณะที่บางยี่ห้ออาจมีส่วนผสมที่กระตุ้นการอักเสบหรือการบวมมากกว่า นอกจากนี้ ความเข้มข้นของไฮยาลูโรนิกแอซิด (Hyaluronic Acid) และเทคโนโลยีการผลิตของแต่ละยี่ห้อก็สามารถส่งผลต่อการบวมได้เช่นกัน
เช่นในขั้นตอน Purification (กระบวนการทำความสะอาดหรือกรองฟิลเลอร์เพื่อกำจัดสิ่งสกปรก) ของการผลิตฟิลเลอร์ มีการกำจัดสาร BDDE ที่อาจทำให้คนไข้เกิดอาการแพ้หลังฉีดออกไปได้ ทำให้ HA มีความบริสุทธิ์สูง หลังฉีดก็ไม่บวมหรือบวมเล็กน้อย จึงไม่ต้องพักฟื้น ซึ่งในส่วนนี้ก็อาจจะแตกต่างกันไปตามเทคโนโลยีการผลิตของแต่ละยี่ห้อครับ
ปัจจุบันเทรนด์ฉีดปากกำลังได้รับความนิยมอย่างมาก ทำให้หลายบริษัทผลิตฟิลเลอร์รุ่นที่ใช้สำหรับการฉีดปากโดยเฉพาะขึ้นมาครับ เช่น ฟิลเลอร์ Restylane Kysse แต่นอกจากนี้ก็มีฟิลเลอร์รุ่นอื่น ๆ ที่ชูจุดขายเรื่องการฉีดแล้วไม่บวม เช่น Definisse Touch ที่เหมาะกับผู้ต้องการแก้ไขริมฝีปากแห้ง เพิ่มวอลลุ่มให้ริมฝีปากดูอวบอิ่ม
เทคนิคฉีดฟิลเลอร์ปาก ที่ V Square Clinic บวมน้อย เห็นผลชัดเจน
แม้การฉีดฟิลเลอร์ปากจะเป็นทางลัดที่ทำให้ได้รูปทรงปากที่ต้องการได้เห็นผลไว แต่จะต้องฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า ใช้เทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง เลือกฟิลเลอร์ให้เหมาะกับปัญหาและความต้องการของคนไข้ เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีที่สุดครับ
เนื่องจากริมฝีปากประกอบด้วยเส้นเลือดฝอยขนาดเล็กจำนวนมาก จึงต้องระมัดระวังในการฉีด เพื่อไม่ให้ฟิลเลอร์อุดตันเส้นเลือด หรือฉีดโดนเส้นเลือดหลักที่อยู่ลึกลงไป
นอกจากจะมั่นใจได้ในเรื่องของความปลอดภัยแล้ว แพทย์ที่มีประสบการณ์สูง จะมีความแม่นยำในการฉีด ทำให้เกิดอาการบวม ระบม หรือช้ำน้อย นอกจากนี้ยังสามารถช่วยออกแบบรูปทรงปากให้เหมาะสมกับใบหน้าของแต่ละบุคคลได้ ส่งผลให้ใบหน้าโดยรวมมีความโดดเด่น ดูมีเสน่ห์มากขึ้นครับ
การฉีดฟิลเลอร์ปากนอกจากจะช่วยเสริมความงาม ทำปากกระจับ หรือฉีดฟิลเลอร์ยกมุมปากได้แล้ว ยังสามารถแก้ปัญหา ปากบาง ปากแห้งแตกเป็นขุย เห็นร่องลึกชัดเจน มุมปากตก จากอายุเพิ่มมากขึ้น ให้ปากกลับมาชุ่มชื้น อวบอิ่ม ร่องปากเต็มขึ้น ชุ่มชื้น ดูสุขภาพดี และช่วยเสริมโหงวเฮ้งได้ด้วยครับ
เลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี ? ควรเลือกคลินิกน่าเชื่อถือ ได้มาตรฐาน แพทย์มีประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์และปรับรูปหน้าโดยตรง เพื่อความปลอดภัย และได้ทรงปากสวยเป็นธรรมชาติมากที่สุดครับ
สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง Inbox Facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ