เมโส Depigment ช่วยลดฝ้า กระ จุดด่างดำ ได้อย่างไร ต่างจากเมโสยี่ห้ออื่นไหม ?

เมโส depigment

ปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ เป็นปัญหาผิวที่เกิดได้บ่อย โดยเฉพาะในบ้านเราที่มีแสงแดดตลอดทั้งปี การฉีดเมโสหน้าใส เป็นตัวช่วยแก้ปัญหาผิวหน้าที่เห็นผลรวดเร็ว เป็นการฉีดตัวยาที่ช่วยบำรุงเข้าไปยังผิวชั้นกลางโดยตรง เหมาะกับคนที่มีปัญหาผิวเยอะ ทาครีมแล้วไม่หาย ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง หรือต้องการเห็นผลเร่งด่วนครับ

เมโส Depigment เป็นเมโสหน้าใสสูตรหนึ่งที่คลินิกชั้นนำเลือกนำมาใช้ เพราะเป็นตัวยายี่ห้อมาตรฐานจากยุโรป ผ่านการรับรองจากอย. โดดเด่นในเรื่องของการลดฝ้า ลดกระ ช่วยให้จุดด่างดำดูจางลงได้ นอกจากนี้ ยังมีเมโสสูตรอื่น ๆ เช่น มาเด้ คอลลาเจน, REVs, Filorga, Alpha arbutin และ Tensonez หมอจะแนะนำตามสภาพผิว เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ตรงจุดครับ 

ในบทความนี้ หมอจะมาเจาะลึกว่า เมโสหน้าใสสูตร Depigment ว่าเมโสสูตรนี้มีดีอย่างไร ช่วยลดฝ้าได้จริงไหม ช่วยเรื่องอะไรบ้าง แตกต่างจากเมโสหน้าใสสูตรอื่นอย่างไร ใครที่กำลังมองหาวิธีรักษาผิวหน้าอยู่ ศึกษาข้อมูลได้ในบทความนี้ครับ

เมโส Depigment คืออะไร ?

เมโส Depigment หรือชื่อเต็มว่า Mesoestetic c.prof 210 depigmentation solution ผลิตและจัดจำหน่ายโดยบริษัท mesoestetic Pharma Group ประเทศสเปน ซึ่งเป็นบริษัทที่มีการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมความงามระดับโลก โดยเฉพาะเรื่องนวัตกรรมที่ช่วยลบเลือนจุดด่างดำ และผลิตภัณฑ์ทุกรุ่นผลิตภายใต้มาตรฐานระดับสากล จึงมั่นใจได้ว่า ตัวยาเมโส depigment เป็นตัวยาที่มีความปลอดภัย ไม่ส่งผลเสียในระยะยาวครับ

ตัวยาสำคัญในเมโสหน้าใสสูตร Mesoestetic c.prof 210 depigmentation solution ได้แก่

• Tranexamic acid หรือ Transamin เป็นสารที่ช่วยลดการทำงานของเม็ดสี (Melanin) 
• Idebenone เป็นอนุพันธ์ของสาร Coenzyme Q10 ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดริ้วรอย ฟื้นฟูผิว
• Vitamin C วิตามินที่เรารู้จักกันดี มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างคอลลาเจน ช่วยให้ผิวดูกระจ่างใส เปล่งปลั่ง และมีคุณสมบัติในการยับยั้ง Tyrosinase ซึ่งเป็นเอนไซม์สำคัญที่กระตุ้นให้เซลล์สร้างเม็ดสี 
• N-acetyl glucosamine ช่วยลดเลือนรอยดำ ผิวที่ถูกทำร้ายจากแสงแดด ลดปริมาณเม็ดสีในเซลล์ 

ด้วย Active ingredients ดังที่กล่าวเบื้องต้น ทำให้ตัวยามีความสามารถในการควบคุมความผิดปกติของการสร้างเม็ดสีในเซลล์ รวมถึงดึงเม็ดสี Melanin ออกจากเซลล์ผิว ทำให้ในเซลล์มีเม็ดสี Melanin น้อยลง จึงมีการแสดงออกของสีได้น้อยลงในที่สุด เมโส Depigment จึงมีจุดเด่นในเรื่องของการลดเลือนจุดด่างดำ ลดฝ้า กระ ช่วยปรับความสม่ำเสมอให้กับผิว ดูมีความกระจ่างใสมากขึ้นครับ

ฝ้า กระ เกิดจากอะไร ?

หากอ่านมาถึงตรงนี้ เราก็จะทราบว่าปริมาณเม็ดสี (Melanin) มีผลต่อกระบวนการเกิดสีผิวหรือจุดด่างดำ พูดง่าย ๆ คือ ถ้าเซลล์ผิวมีเมลานินมาก ผิวก็จะดูมีสีเข้มขึ้น ถ้าลดเมลานินได้ ก็จะทำให้สีผิวจางลงนั่นเองครับ

ซึ่งกระบวนการสร้างเม็ดสี (Melanogenesis) เกิดจากการกระตุ้นของรังสี UV ที่มีในแสงแดด ความร้อน รวมถึงการได้รับฮอร์โมนบางชนิดในเพศหญิง และมีเอนไซม์ Tyronase เป็นตัวเร่งปฏิกิริยา เมลานินที่ถูกสร้างขึ้นมาจะเก็บอยู่ในรูปแบบถุง (Vesicle) จากนั้นจะถูกขนส่งไปยัง Keratinocyte ซึ่งเป็นเซลล์ที่อยู่ในผิวชั้นหนังกำพร้า เมื่อมาถึงตรงนี้ ก็จะเกิดสีผิวที่เข้มขึ้น เป็นจุด หรือเป็นปื้น ที่เราสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า หรือที่เราเรียกว่า “ฝ้า” นั่นเองครับ

ส่วน “กระ” เกิดจากการส่งทอดทางพันธุกรรมที่ทำให้เซลล์ผิวมีกระบวนการเม็ดสีที่ผิดปกติ ไวต่อแดดและความร้อนมากกว่าคนทั่วไป มักเกิดในคนที่มีผิวขาวโดยกำเนิด โดนแสงแดดบ่อย ๆ โดยไม่ได้ป้องกันครับ

อ่านเพิ่มเติม : วิธีรักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ บนใบหน้า มีอะไรบ้าง วิธีไหนเห็นผลดีที่สุด?

เมโส Depigment ต่างจากเมโสสูตรอื่นอย่างไร ?

นอกจากเมโส Depigment ที่ช่วยฟื้นฟูสภาพผิว ลดฝ้าแล้ว ยังมีเมโสหน้าใสอีกหลากหลายสูตร แต่ละสูตรมีส่วนผสมที่แตกต่างกัน เหมาะกับสภาพผิวที่แตกต่างกัน หมอที่มีประสบการณ์สูงจะแนะนำและเลือกใช้สูตรที่เหมาะสมกับผิวของคนไข้ได้ และแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดที่สุดครับ

จุดเด่นของเมโสหน้าใสแต่ละยี่ห้อ

• มาเด้ คอลลาเจน (Made collagen) – เน้นลดสิว ผดผื่น ขับสารพิษ ช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น
• Filorga / Revs – เน้นผิวขาวใส ลดฝ้า เติมความชุ่มชื้น ช่วยบำรุงผิวแบบ premium
• Tensonez / Depigment – ลดปัญหาฝ้า กระ บนใบหน้า ให้หน้าขาวใส
• Alpha arbutin – เน้นลดฝ้าโดยตรง

เมโส Depigment ของแท้ดูยังไง ?

เมโส Depigment ราคาเท่าไหร่ ?

ราคาโปรโมชั่น เมโสหน้าใส Depigment
สำหรับผู้ติดตาม Line@ และมีสติ๊กเกอร์ “น้อง ดักกี้ V Square”
ราคาครั้งละ 3,500 บาท
คอร์ส 5 ครั้ง 15,000 บาท

นอกจากนี้ ฉีดเมโสหน้าใส ราคาจะแตกต่างกันไปในแต่ละสูตรครับ โดยที่ V square มีเมโสหน้าใสหลายสูตร และมีโปรโมชั่นดังนี้

โปรโมชั่นฉีดวิตามินผิว ขาวใส ผิวนุ่ม

สูตร Skin Glow

• ครั้งละ 1,500.-
• คอร์ส 5 ครั้ง 6,000.- จาก 7,500.-
• เฉลี่ย 1,200.-/ครั้ง

สูตร White Rediance

• ครั้งละ 2,500.-
• คอร์ส 6 ครั้ง 9,900.- จาก 15,000.-
• เฉลี่ย 1,650.-/ครั้ง

เมโสหน้าใส ต่างจากเมโสแฟตอย่างไร ?

การฉีดเมโสหน้าใสและเมโสแฟตต่างเป็นการฉีดตัวยาเข้าสู่ผิวชั้นกลางเช่นเดียวกันครับ แต่ใช้ตัวยาที่ออกฤทธิ์ต่างกัน และมีจุดประสงค์ในการฉีดที่แตกต่างกันครับ โดยเมโสหน้าใส จะเป็นการฉีดตัวยาบริเวณใบหน้า เน้นเรื่องการบำรุงผิวหน้า ปรับเม็ดสีในผิว เพิ่มความแข็งแรงให้แก่ผิว เปรียบเสมือนการให้อาหารผิว ให้ดูเปล่งปลั่ง ดูสุขภาพดีขึ้นครับ

ส่วนการฉีดเมโสแฟต จะเป็นการฉีดตัวยาที่มีฤทธิ์ในการสลายไขมัน ทั้งบริเวณแก้ม เหนียง และจุดที่มีไขมันสะสมต่าง ๆ ทำให้เซลล์ไขมันลดขนาดลง ปรับรูปหน้าเรียว ลดสัดส่วน ให้ดูกระชับขึ้นครับ

เมโสหน้าใส ต่างจากวิตามินผิวใสอย่างไร ?

เมโสหน้าใส เป็นการฉีดสารบำรุงและวิตามินที่มีประโยชน์ต่อผิว 16 ทั่วใบหน้า เน้นการบำรุงผิวหน้าเป็นหลักครับ บางคลินิกอาจจะเรียกว่าการฉีดวิตามินหน้าใสหรือวิตามินผิวใส ต้องสอบถามไปยังคลินิกนั้น ๆ ว่าเป็นการฉีดตัวยาใด และฉีดเพื่อบำรุงจุดไหนครับ

ส่วนที่ V square clinic การฉีดฉีดวิตามินผิวใส จะเป็นการฉีดสารอาหารต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น Vitamin C, Vitamin B แร่ธาตุ กรดอะมิโน และ Antioxidant ต่าง ๆ เข้าไปยังเส้นเลือด เพื่อบำรุงผิวพรรณทั่วร่างกาย ให้ผิวแขน ขา ลำตัว ดูกระจ่างใสขึ้น รวมถึงวิตามินจะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันหวัด ป้องกันแสงแดดด้วยครับ

ฉีดเมโสหน้าใสที่ไหนดี ?

เมโสหน้าใสเป็นหัตถการที่มีความปลอดภัย แต่ก็ควรเลือกฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์และคลินิกที่ได้มาตรฐานเท่านั้น และควรฉีดตัวยาของแท้เท่านั้นครับ สิ่งที่ไม่ควรทำเลยคือฉีดกับหมอกระเป๋า หรือซื้อตัวยามาฉีดเอง เพราะมีโอกาสทำให้เกิดการอักเสบติดเชื้อ มีการปนเปื้อนของสเตียรอยด์ ทำให้เกิดแผลเป็นหรือผิวเสียถาวรได้ครับ

Checklist ก่อนเลือกฉีดเมโสหน้าใส ที่ไหนดี ?

สรุป

เมโสหน้าใสสูตร Depigment เป็นเมโสที่เน้นในการลดฝ้า ลดจุดด่างดำ ลบเลือนจุดด่างดำบนผิวหน้า ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอมากขึ้น ตัวยาเมโส Depigment เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความปลอดภัยถ้าฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์และคลินิกได้มาตรฐาน ควรหลีกเลี่ยงยาหิ้ว ยาปลอม และหมอกระเป๋า เพราะนอกจากจะทำให้ไม่ได้ผลดั่งใจแล้ว อาจจะทำให้เกิดผลเสียระยะยาว หน้าพังถาวรได้ครับ