REVS
REVS คือ ตัวยาวิตามินผิวที่ออกแบบมาเพื่อเติมความชุ่มชื้น บำรุงผิวอย่างล้ำลึก โดยเฉพาะคนที่มีปัญหาผิวแห้ง หรือผิวขาดน้ำ ต้องการเติมน้ำให้ผิวแบบเร่งด่วน
การฉีด REVS เป็นวิธีแก้ปัญหาผิวหน้าที่เห็นผลไวกว่าการทาครีม ที่จากปกติอาจต้องใช้เวลาเป็นเดือน แต่สำหรับการฉีด REVS จะเริ่มเห็นผลใน 3 วัน เห็นผลเต็มที่ใน 7-14 วัน เมื่อเทียบระยะเวลา และผลลัพธ์ ถือว่ามีความคุ้มค่าครับ
สำหรับใครที่อยากทำความรู้จักตัวยา REVS เพิ่มเติม บทความนี้หมอจะมาให้ข้อมูลว่า REVS คืออะไร ? มีส่วนประกอบสำคัญอะไรบ้าง ? มีคุณสมบัติเด่นในด้านไหน ? รวมถึงคำถามที่หลายคนสงสัยว่า REVS เหมือนหรือแตกต่างจากเมโสหน้าใสอย่างไร ? และที่สำคัญคือการเตรียมตัวก่อนการใช้ REVS เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดครับ
สารบัญ REVS
ทำความรู้จัก REVS คืออะไร ?
REVS (รีเวิร์ส) คือ ชื่อยี่ห้อฉีดเมโสหน้าใสจากเกาหลี ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยฟื้นฟู บำรุงผิวให้มีความชุ่มชื้น อิ่มน้ำ ผิวฟู ดูสดใสมากขึ้น และสารต้านอนุมูลอิสระใน REVS ยังช่วยปกป้องเซลล์ผิวจากการถูกทำลายโดยมลภาวะ และแสงแดด ช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวที่เสียหาย ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้นจากภายในครับ
ส่วนประกอบหลักของ REVS มีอะไรบ้าง ?
REVS (NCFS) ถูกพัฒนาโดยการผสมผสานเทคโนโลยีทางชีวภาพ และสารสกัดจากธรรมชาติ ที่เน้นการกระตุ้นกระบวนการฟื้นฟูตามธรรมชาติของผิว เช่น
- ไฮยาลูโรนิกแอซิด (Hyaluronic Acid) : ช่วยเพิ่ม และเก็บกักความชุ่มชื้นให้กับผิวหนัง ทำให้ผิวดูอิ่มน้ำ เรียบเนียน และสดใส
- เปปไทด์ (Peptides) : ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และอีลาสตินในผิวหนัง ทำให้ผิวมีความแข็งแรง ยืดหยุ่นมากขึ้น
- สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidants) : ช่วยปกป้องผิวจากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ และมลภาวะ ช่วยลดเลือนริ้วรอย และความเหี่ยวย่นของผิว
- วิตามินซี (Vitamin C) : ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ป้องกันการเสื่อมสภาพของผิวต่อแสงแดด ลดเลือนจุดด่างดำ ทำให้ผิวดูสว่างใส มีสุขภาพดี
- ไนอาซินาไมด์ (Niacinamide) : ช่วยลดการอักเสบ ปรับสมดุลของผิว ลดเลือนริ้วรอย และจุดด่างดำ ทำให้ผิวดูเรียบเนียน
- กรดอะมิโน (Amino Acids) : ช่วยเสริมสร้างโปรตีนในผิวหนัง ฟื้นฟูผิวที่เสียหาย และเสริมสร้างความยืดหยุ่น
- พอลินิวคลีโอไทด์ (Polynucleotide – PN) : เป็นโครงสร้างของ DNA ที่ช่วยในการฟื้นฟู และซ่อมแซมเซลล์ผิวเพิ่มความยืดหยุ่น ความแข็งแรงของผิว ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ มีสุขภาพดี
REVS ทำงานอย่างไร ?
REVS ทำงานโดยการซึมเข้าสู่ชั้นผิวหนัง Dermis หรือผิวชั้นกลาง ที่ประกอบไปด้วยคอลลาเจน อิลาสติน เนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่ให้ความแข็งแรง และ hyaluronic acid
ด้วยสารประกอบหลักของ REVS นี้เองครับ เมื่อฉีดไปแล้วจะไปกระตุ้นกระบวนการฟื้นฟูจากภายใน โดยมีขั้นตอนการทำงานดังนี้
- สารซึมเข้าสู่ผิว : สารสำคัญใน REVS จะซึมลึกเข้าสู่ชั้นผิวหนัง
- เกิดการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน : สารประกอบใน REVS จะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวหนังดูอ่อนเยาว์ และยืดหยุ่นมากขึ้น
- การฟื้นฟูเซลล์ผิว : สารต้านอนุมูลอิสระ และสารสกัดจากธรรมชาติ จะช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวที่เสียหาย และปกป้องผิวจากมลภาวะ
- การบำรุงและเพิ่มความชุ่มชื้น : ไฮยาลูโรนิกแอซิด และไนอาซินาไมด์จะช่วยบำรุงผิว เพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้ผิวดูอิ่มน้ำและสดใสขึ้น
การฉีด REVS ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ?
- เพิ่มความชุ่มชื้น ผิวดูสดใส อิ่มน้ำ และมีสุขภาพดี
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยให้ผิวหนังแข็งแรง และยืดหยุ่นมากขึ้น
- ลดเลือนริ้วรอย ผิวหนังดูอ่อนเยาว์ และเรียบเนียน
- ฟื้นฟูสภาพผิว Skin Booster ช่วยให้ผิวกลับมาดูสดชื่น และแข็งแรง
- ปกป้องผิวจากความเสียหายจากมลภาวะและแสงแดด
การฉีด REVS เหมาะกับใคร ?
- ผู้ที่มีผิวแห้งกร้าน ขาดน้ำ รูขุมขนกว้าง
- ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยเล็ก ๆ ที่เกิดจากผิวแห้ง
- ผู้คนที่มีปัญหาหน้าโทรม ผิวหน้าหมองคล้ำจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ
- ผู้ที่ต้องการเพิ่มความชุ่มชื้น และความยืดหยุ่นให้กับผิวแบบเร่งด่วน
- ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูสภาพผิวที่เสียหายจากมลภาวะ และแสงแดด
- ผู้ที่ต้องการผิวดูอ่อนเยาว์ และมีสุขภาพดี
REVS เหมือนกับเมโสหน้าใสทั่วไปไหม ?
REVS (NCFS) เป็นหนึ่งในชื่อยี่ห้อยาที่ใช้ฉีดเมโสหน้าใส รวมถึงตัวยาฉีดยี่ห้ออื่น ๆ เช่น มาเด้คอลลาเจน, Tensonez, Alpha Arbutin, Filorga และ Neo Glutanex ซึ่งบางคลินิกไม่ได้ระบุยี่ห้อยาเวลาฉีดให้คนไข้ แต่จะเรียกรวม ๆ ว่าฉีดเมโสหน้าใสครับ
ส่วนเมโส มาจากคำว่า meso แปลว่า ‘ตรงกลาง’ หมายถึง การฉีดเมโสหน้าใสลงในชั้นกลางของผิว ถือเป็นทางลัดในการนำส่วนผสมที่อยู่ในครีมต่าง ๆ โดยเฉพาะตัวที่ดูดซึมได้ยาก นำเข้าสู่ชั้นผิวโดยตรง ทำให้ออกฤทธิ์เร็ว และเห็นผลได้ไวขึ้น
เปรียบเทียบเมโสหน้าใส REVS กับยี่ห้ออื่น ๆ
จากหัวข้อที่แล้ว หมอได้ยกตัวอย่างยี่ห้อเมโสหน้าใสอื่น ๆ นอกเหนือจากเมโสหน้าใสยี่ห้อ REVS ดังนั้นในหัวข้อนี้หมอจะมาเขียนเปรียบเทียบความต่างของเมโสหน้าใส REVS กับยี่ห้ออื่น ๆ เพื่อให้คนไข้ได้ศึกษากันครับ
- มาเด้ คอลลาเจน (Made collagen) : ลดสิว ผดผื่น ลดการอักเสบ ขับสารพิษออกจากผิว เหมาะกับคนที่ต้องการฟื้นฟูผิว ให้สุขภาพดี ผิวแข็งแรง หากฉีดต่อเนื่องจะทำให้ skin barrier แข็งแรงขึ้น
- Filorga : ตัวยามีส่วนประกอบของ HA + poly revitalisante (made in paris) ทำให้ผิวชุ่มชื้นมากที่สุดเมื่อเทียบกับเมโสตัวอื่น ๆ ช่วยให้ผิวอิ่มน้ำ กระชับรูขุมขนให้เล็กลง เห็นผลเร็ว ช่วยบำรุงผิวแบบ premium
- Neo-Glutenex Glow : บำรุงให้ผิวมีความชุ่มชื้น ลดริ้วรอย รอยสิว ฝ้า กระ หลุมสิว กระชับรูขุมขน
- Tensonez : ปรับผิวให้กระจ่างใสดูสม่ำเสมอ ลดปัญหาฝ้าบนใบหน้า
- Alpha arbutin : เน้นลดฝ้าโดยตรง ปรับเม็ดสีผิว / จุดด่างดำ / กระ
นอกจากเมโสหน้าใสแล้ว ยังมีการฉีดดริปวิตามินผิว และการฉีด Skin Booster ที่ช่วยปรับสภาวผิวด้วยครับ โดยแต่ละยี่ห้อจะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป ดังนี้
- Filler Skin Booster : เป็นการฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอน หรือ Hyaluronic Acid แบบ cross-linked เข้าสู่ชั้นผิวเพื่อเติมความชุ่มชื้น
ข้อดีคือของฟิลเลอร์ Skin Booster คือ หลังฉีดเห็นผลทันที อยู่ได้นาน 6-12 เดือน ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นฉ่ำวาว ปรับสภาพผิวทั่วหน้า ลดริ้วรอยเล็ก ๆ ที่ผิวชั้นตื้นได้เป็นอย่างดี มีหลายยี่ห้อให้เลือกใช้ เช่น Restylane รุ่น Vital Light, Juvederm รุ่น Volite ,Belotero รุ่น Revive และ Flore รุ่น AQUA-S ครับ - Rejuran : เป็น Skin Booster ที่มีส่วนประกอบหลักคือ Polynucleotide (PN) ที่สกัดได้จาก DNA ของปลาแซลมอน มีคุณสมบัติในการซ่อมแซมเซลล์ผิวหนังที่เสียหาย กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ เพิ่มความชุ่มชื้น กระชับรูขุมขน ทำให้ผิวดูอิ่มน้ำ ผิวฟู ดูฉ่ำวาวเป็นผิวกระจก
- Exosome : ประกอบด้วยสารชีวโมเลกุลกว่า 1,000 ชนิด ที่จะช่วยกระตุ้นและฟื้นฟูเซลล์ต่าง ๆ (Skin Rejuvenation) เช่น Protein, Nucleic Acid, Lipids
มีคุณสมบัติช่วยฟื้นฟูอักเสบได้ดี เพราะเป็นเซลล์ต้นกำเนิดที่มี Growth Factor สูง โมเลกุลเล็กมาก หลังฉีดสามารถซึมเข้าผิวหน้าได้ทุกรูขุมขน ช่วยฟื้นฟูและบำรุง บูสต์ผิวให้ดูเด็ก ลดรอยดำ รอยแดงจากสิว ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 1 เดือน หากฉีดต่อเนื่อง 5 ครั้ง อยู่ได้นาน 1 ปี - Sculptra : เป็นสารกระตุ้นคอลลาเจนที่ผลิตจากกรดโพลีแลกติก (poly-L-lactic acid : PLLA) เด่นในด้านกระตุ้นคอลลาเจน Type 1 เสริมสร้างความแข็งแรงให้โครงสร้างผิว ช่วยให้ผิวแน่นอิ่มฟู ลดเลือนริ้วรอย และยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 2 ปี
- Gouri : เป็นตัวช่วยกระตุ้นคอลลาเจนที่มีส่วนผสมหลักเป็น Polycaprolactone (PCL) หรือไหมน้ำ เด่นในเรื่องผิวดูเต่งตึงขึ้น กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวแน่นกระชับ เรียบเนียน ลดริ้วรอย และรักษาความชุ่มชื้นในผิวได้ดี ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 1 ปี
- Radiesse : เป็น Skin Booster ที่มีส่วนประกอบหลัก คือ แคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทต์ (CaHA) เด่นในเรื่องช่วยฟื้นฟูผิวแบบองค์รวม (Regenerative Biostimulator) ทำให้ผิวคุณภาพดีขึ้น กระชับ มีผิวแน่นเหมือนเด็ก ดูอ่อนเยาว์ และมีความยืดหยุ่นมากขึ้น
ทั้งเมโสหน้าใส และ Skin Booster ยี่ห้อทั้งหมดนี้ มีจุดเด่น และคุณสมบัติที่ต่างกัน หากคนไข้กังวลจุดไหนเป็นพิเศษ ควรพิจารณาจากคำแนะนำของแพทย์ เพื่อให้ผลลัพธ์ตรงตามความต้องการครับ
ฉีด REVS กี่วันเห็นผล อยู่ได้นานไหม ?
ผลลัพธ์เบื้องต้น
- หลังฉีด REVS ใน 3 วันแรก คนไข้จะเริ่มรู้สึกถึงความชุ่มชื้น ความอิ่มน้ำของผิวทันที
- ในช่วงสัปดาห์แรก ผิวจะเริ่มดูอิ่มน้ำ เต่งตึง และเรียบเนียนขึ้น
ผลลัพธ์ที่ชัดเจน
- ประมาณ 4-6 สัปดาห์ หลังฉีด จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนมากขึ้น ผิวจะดูเต่งตึง ยืดหยุ่น ผิวหน้าชุ่มชื้น ดูสุขภาพดี
สำหรับผลลัพธ์หลังฉีด REVS จะอยู่ได้ประมาณ 1-2 เดือน หากฉีดอย่างต่อเนื่องก็จะช่วยให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการดูแลผิวของแต่ละบุคคลด้วยครับ
การเตรียมตัวก่อนฉีด REVS
- ปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินสภาพผิว และให้คำแนะนำที่เหมาะสม แพทย์จะตรวจสอบว่าผิวของคนไข้ว่ามีปัญหาอะไรบ้าง และการฉีด REVS เหมาะสมหรือไม่
- 1-2 สัปดาห์ก่อนฉีด ควรหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีรุนแรงหรือมีกรด AHA, BHA รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเรตินอยด์ เพราะอาจทำให้ผิวไวต่อการระคายเคือง
- ก่อนการฉีด REVS อย่างน้อย 1 สัปดาห์ งดทานยาแอสไพริน หรือยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เพื่อป้องกันการเกิดช้ำหรือเลือดออกง่าย ทั้งนี้หากมียาที่ทานเป็นประจำควรปรึกษาแพทย์เพื่อหยุดการใช้ยาก่อนฉีด
- หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ และการสูบบุหรี่อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนการฉีด เพราะแอลกอฮอล์ และนิโคตินสามารถทำให้เลือดแข็งตัวช้าลง เพิ่มความเสี่ยงการบวมช้ำ
วิธีดูแลตัวเองหลังฉีด REVS
- งดการสัมผัส ถู นวด หรือเกาบริเวณที่ฉีด 1 – 2 คืนแรก
- งดการทาครีมบริเวณรอยเข็ม 1 คืน หลีกเลี่ยงการอักเสบ
- ควรดื่มน้ำเยอะ ๆ ประมาณ 2 ลิตร/วัน เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว
- หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดแรง ๆ และควรทาครีมกันแดด SPF 50 PA+++
- งดการดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ เพราะอาจทำให้มีสารพิษตกค้างในร่างกาย ทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้น เหี่ยวย่น กลับมาดูหมองคล้ำ
- หากมีอาการปวด บวม หรือช้ำ สามารถทานยาแก้ปวดตามคำแนะนำของแพทย์ได้
REVS ราคาเท่าไหร่ ?
การฉีด REVS ราคาต่างกันไปตามคลินิกที่ให้บริการ และปัจจัยอื่น ๆ เช่น จำนวนครั้งที่ต้องฉีด, ปริมาณของ REVS ที่ใช้, และระดับความเชี่ยวชาญของแพทย์ที่ทำการฉีด โดยทั่วไปแล้วราคาต่อครั้งของการฉีด REVS จะอยู่ในช่วง 5,xxx.-
REVS ราคาโปรโมชั่นที่ V Square Clinic มีทั้งแบบรายครั้ง และแบบคอร์ส ดังนี้ครับ
คลิกรับโปรสุดคุ้ม พิเศษเฉพาะคุณ !
REVS ของแท้ ดูยังไง ?
- มีสติกเกอร์ติดที่ฝากล่องตรงกลาง
- มี QR Code ที่หน้ากล่องให้ขูดออก เพื่อนำไปสแกนเช็กในระบบว่าเป็นของแท้หรือไม่
- เลข lot. ตรงกันทั้งที่กล่อง และที่ขวด
- ฝาของขวดปิดสนิท และเป็นสีเทาเท่านั้น ต้องไม่ผ่านการใช้งานมาก่อน
สรุปเกี่ยวกับการฉีด REVS
การฉีด REVS เป็นวิธีการฟื้นฟู และบำรุงผิวที่มีประสิทธิภาพสูง โดยเน้นเพิ่มความชุ่มชื้น เติมน้ำให้ผิว และฟื้นฟูสภาพผิวเสื่อมโทรมได้อย่างเร่งด่วน
อย่างไรก็ตาม การฉีด REVS อาจมีผลข้างเคียงเล็กน้อยที่ควรทราบ และควรปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์ก่อนการฉีด จะช่วยให้คนไข้ได้รับคำแนะนำที่เหมาะสม และปลอดภัยที่สุดครับ
สำหรับใครที่กำลังมองหาคลินิกฉีด REVS ที่ไหนดี V Square Clinic เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ด้วยทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์ และความรู้ในด้านการฟื้นฟูผิวหน้า ใช้ตัวยา REVS แท้ มีคุณภาพ เพื่อให้คนไข้ได้รับผลลัพธ์ที่ดีที่สุด หรือสามารถเข้ามาขอคำแนะนำกับหมอก่อนได้ ปรึกษา และประเมินสภาพผิวฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายครับ
สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง Inbox Facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ