ไหมมิ้น (MINT LIFT) คืออะไร ? แตกต่างจากไหมก้างปลาอย่างไร ?

ไหมมิ้น

ไหมที่ใช้ในการร้อยไหมยกหน้ามีหลายประเภทครับ หนึ่งในนั้น คือ ไหมมิ้น ซึ่งจะมีความแตกต่างจากไหมก้างปลาอย่างไร? ช่วยอะไรได้บ้าง? เหมาะกับใคร? ร้อยไหมมิ้น ราคาเท่าไหร่? หมอจะมาอธิบายในบทความนี้ เพื่อที่คนไข้จะได้รู้จักข้อมูลของไหมมิ้น ก่อนร้อยไหมยกกระชับครับ

ไหมมิ้น คืออะไร ?

ไหมมิ้น (Minimal Invasive Non surgical Thread) คือ ไหมลิฟติ้ง หรือไหมยึดเซลล์ผิวหน้า เป็นไหม PDO ที่มีคุณสมบัติละลายได้ ผ่านการรับรองจากอย. ของหลาย ๆ ประเทศ ทั้งเกาหลี จีน อเมริกา ยุโรป รวมทั้งอย.ไทย จึงมั่นใจได้ในความปลอดภัยครับ

ลักษณะเด่นของไหมมิ้น คือ จะมีเงี่ยง 360 องศา 3 มิติ อยู่รอบตัวไหม ทำให้ไหมมีความแข็งแรง ใช้สำหรับดึงรั้งผิวหรือยึดเซลล์ผิวให้ยกกระชับ ลดเลือนริ้วรอยได้โดยไม่ต้องผ่าตัดดึงหน้า หลังร้อยไหมมิ้นเห็นผลทันที คงผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6-8 เดือน โดยระยะเวลาที่ไหมสามารถดึงผิวไว้ได้ จะขึ้นกับคุณภาพผิวของแต่ละบุคคล

จุดเด่นของไหมมิ้น

ไหมมิ้น กับไหมชนิดอื่น ๆ

ปัจจุบันไหมมิ้น กับ ไหมก้างปลา เป็นไหมที่นิยมใช้อย่างแพร่หลายในคลินิกเสริมความงาม ไหมทั้ง 2 ประเภท จะมีความแตกต่างกันอย่างไร? ไหมมิ้น VS ไหมก้างปลา เลือกร้อยไหมแบบไหนดี?

ไหมมิ้น VS ไหมก้างปลา

ไหมมิ้น กับ ไหมก้างปลา เป็นไหมละลาย PDO และเป็นไหมเงี่ยง (bidirectional barbed thread) เหมือนกัน โดยเทคโนโลยีในกระบวนการผลิตไหมมิ้นนั้น จะเป็นการหล่อเส้นไหมพร้อมเงี่ยง ความหนาของเงี่ยงจะเท่ากับเส้นไหมตรงกลาง ไม่ได้เฉือนเอาเนื้อส่วนหนึ่งของเส้นไหมแกนกลางออกมาเป็นเงี่ยง เมื่อเปรียบเทียบความแข็งแรงของเส้นไหม ไหมมิ้นจึงมีความแข็งแรงมากกว่าไหมเงี่ยงอื่น ๆ

อีกทั้งยังออกแบบให้เส้นไหมมีความพิเศษ คือ มีเงี่ยง 360 องศา เพื่อเพิ่มแรงยกรอบทิศทาง จึงให้ผลลัพธ์ดีในคนไข้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยในระดับปานกลาง-มาก โดยไหมมิ้นมีความแข็งแรง สามารถจะยึดเกาะเซลล์ผิว ช่วยยกกระชับผิวได้ดีเทียบเท่ากับการผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้าครับ

ขณะที่ไหมก้างปลา เป็นไหมละลายที่มีเงี่ยงเหมือนกัน โดยลักษณะเงี่ยงจะเป็นเส้นตรง แรงดึงของไหมก้างปลาเป็น 1-2 ทิศทาง แม้ว่าจะไม่ได้มีเงี่ยง 360 องศา แต่เป็นที่นิยมครับ เพราะมีข้อดีที่ความยืดหยุ่นและไม่เปราะหักง่าย

เมื่อร้อยไหมสอดลงในชั้นผิวหนัง ผิวก็จะถูกเงี่ยงเกี่ยวขึ้นมาตามเส้นไหมในทิศทางที่ร้อยไหมเข้าไป คล้าย ๆ ตะขอเกี่ยว สามารถทำได้ทั้งการร้อยไหมปรับรูปหน้า ร้อยไหมหน้าเรียว ร้อยไหมดึงหน้า ร้อยไหมกระชับหน้า ร้อยไหมจมูก

ไหมมิ้น ดีอย่างไร ?

• เป็นไหมละลายที่มีความปลอดภัย สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ
• ใช้วัสดุ PDO (Polydioxanone) ผ่านการรับรองจากอย. ไทยและต่างปรเทศ
• มีเงี่ยงไหม 360 องศา 3 มิติ เงี่ยงไหมกางชัดเจน ยึดเกาะผิวหนังและดึงเนื้อเยื่อได้รอบทิศทาง
• เส้นไหมแข็งแรง ทนต่อแรงดึง ยึดเกาะดีเทียบเท่ากับการผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้า
• ยกกระชับผิวหย่อนคล้อย ปรับรูปหน้า เห็นผลชัดเจนทันทีหลังร้อยไหม
• ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และอีลาสติน ทำให้ผิวยืดหยุ่นและกระชับขึ้น
• ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ อาการบวมช้ำน้อย

ร้อยไหมมิ้น ช่วยอะไรได้บ้าง ?

• ช่วยลดความหย่อนคล้อย การร้อยไหมมิ้นช่วยทำให้ใบหน้าที่หย่อนคล้อย ยกกระชับขึ้น ใบหน้าได้สัดส่วนมากขึ้น ริ้วรอยแลดูจางลง
• ช่วยปรับรูปหน้าเรียว V shape การร้อยไหมมิ้นช่วยปรับรูปหน้าเรียว V shape ยกแก้มหย่อน หน้าตึงกระชับได้รูป โดยไม่ต้องผ่าตัด
• ช่วยประคองผิว ไหมมิ้นจะทำหน้าที่คล้ายเส้นเอ็นบนใบหน้า ช่วยประคองผิว ทำให้ผิวที่หย่อนคล้อย ยกกระชับขึ้น ดูเต่งตึงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
• ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน และกระตุ้นการไหลเวียนเลือดมาเลี้ยงชั้นผิวหนัง ทำให้ผิวหน้ากระชับ เต่งตึง ดูอ่อนเยาว์

ร้อยไหมมิ้น เหมาะกับใคร ?

• ผู้ที่ใบหน้าไม่ได้สัดส่วน ไม่มีมิติ ต้องการปรับรูปหน้าเรียว กรอบหน้าชัดมากขึ้น
• ผู้ที่มีแก้มหย่อนคล้อย แก้มห้อย ส่วนใหญ่ปัญหานี้จะเกิดกับคนที่เริ่มมีอายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไป (Older Skin) เนื่องจากจำนวนอีลาสตินในชั้นผิวลดน้อยลง
• ผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้า ไม่มีเวลาพักฟื้นนาน ๆ หลังร้อยไหมมิ้นสามารถใช้ชีวิตตามปกติ
• ผู้ที่มีปัญหาคิ้วตก ตาตก มุมปากตก การร้อยไหมมิ้น ช่วยยกกระชับผิว ในบริเวณจัดต่าง ๆ เหล่านี้ได้ครับ หรือจะร้อยไหม Tesslift Foxy Eye ก็สามารถแก้ตาตกได้
• ผู้ที่ยังมีอายุไม่เยอะ (Younger Skin) แต่รูปหน้ามีความหย่อนคล้อย ก็สามารถร้อยไหมมิ้นได้เช่นกัน

ในกรณีผิวหนังหย่อนคล้อยมาก ๆ และมีการยุบของผิวตามวัย การร้อยไหมเพียงอย่างเดียวอาจไม่ช่วยลดความหย่อนคล้อยได้ทั้งหมด สามารถร้อยไหมร่วมกับทำหัตถการอื่น ๆ ได้ เช่น ใช้โบท็อก ฟิลเลอร์ หรือ Hifu Ultraformaer III ร่วมด้วย เพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นครับ

การปฏิบัติตัวหลังร้อยไหมมิ้นท์

• หากมีรอยบวมหรือช้ำเกิดขึ้นหลังร้อยไหมิ้น ให้ประคบด้วยน้ำแข็งเป็นระยะ
• 4 ชม. หลังร้อยไหม หลีกเลี่ยงการนอนตะแคง หรือนอนคว่ำหน้าลง
• 5 วัน หลังร้อยไหม ห้ามถู เช็ด กดใบหน้าแรง ๆ
• แต่งหน้าด้วยความระวัง เบามือ และควรล้างเครื่องสำอางทุกครั้ง
• งดการออกกำลังกายที่ใช้กำลังมาก ๆ เช่น วิ่ง กระโดด ยกน้ำหนัก
• งดการอยู่ในสถานที่ที่มีอุณหภูมิสูง เช่น การซาวน่า การนอนอาบแดด อย่างน้อย 2 สัปดาห์
• หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และการสูบบุหรี่ อย่างน้อย 1 สัปดาห์

ข้อควรระวังของการร้อยไหมมิ้น

ไหมมิ้นเป็นไหมลักษณะพิเศษ มี 3 มิติ มีเงี่ยงไหม 360 องศา ทำหน้าที่คล้ายตะขอสำหรับดึงผิวไปในทิศที่ต้องการ ถ้าร้อยไหมด้วยเทคนิคที่ไม่ถูกต้องหรือร้อยตื้นเกินไป อาจเกิดผลข้างเคียง เช่น เกิดรอยบุ๋มหรือรอยนูนเป็นคลื่นตามแนวที่ร้อยไหมได้ หรือใบหน้าไม่เท่ากันได้

หมอที่มีประสบการณ์ในการปรับรูปหน้า จะสามารถวิเคราะห์และวางแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสม เพราะผ่านการเทรนนิ่งการใช้ไหมมิ้น รู้เทคนิคการร้อยไหมมิ้น เข้าใจโครงสร้างใบหน้า สามารถเลือกปริมาณไหม ร้อยไหมมิ้นต้องใช้ไหมกี่เส้น และวางตำแหน่งร้อยไหมได้อย่างถูกต้องครับ

ร้อยไหม ที่ไหนดี? วิธีเลือกคลินิกต้องดูอย่างไร ? หมอเคยเขียนอธิบายไว้ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ครับ

ร้อยไหมมิ้น ราคาเท่าไหร่ ?

ถ้าเทียบกับไหมก้างปลา PDO และ PCL ราคาไหมมิ้นจะแพงกว่าเล็กน้อยครับ เนื่องจากเป็นไหมตัวใหม่ ตัวไหมมีเงี่ยง 360 องศา ให้ผลลัพธ์ในการยกกระชับใบหน้าที่หย่อนคล้อยมาก ๆ ได้ผลลัพธ์ที่ดีครับ ที่ V Square Clinic ราคาเริ่มต้น 4 เส้น อยู่ที่ 15,000 บาท

นอกจากไหมมิ้นยังมีไหมชนิดอื่น ๆ เช่น ไหมก้างปลา PDO ไหมก้างปลา PCL ไหม Tesslif Soft ให้แพทย์เลือกใช้ให้เหมาะกับปัญหาความหย่อนคล้อยของผิวคนไข้ครับ

ที่ V Square Clinic เลือกใช้เส้นไหมที่มีคุณภาพ เป็นไหมละลายผ่านการรับรองจาก FDA ทั้งในไทยและต่างประเทศว่ามีความปลอดภัย และให้ผลลัพธ์ดีในการยกกระชับหน้า

• ไหมก้างปลา PCL (Polycaprolactone) มีความยืดหยุ่นสูงที่สุด แข็งทน ไม่เปราะหักง่าย มีส่วนผสมของ PLLA ในสัดส่วนที่เหมาะสม เส้นใหญ่ที่สุด และเป็นไหมที่ดีที่สุดในปัจจุบัน
• ไหมก้างปลา PLLA (Polylactate) มีความแข็ง ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ดี แต่ข้อเสียคือเปราะหัก ปัจจุบันไม่ค่อยเป็นที่นิยม
• ไหมก้างปลา PDO (Polydioxanone) ยืดหยุ่นปานกลาง นิ่ม ไม่เปราะ ขณะที่ร้อยจะไม่รู้สึกระคายเคือง
• ไหมมิ้น Mint Lift มีเงี่ยงไหม 360 องศา 3 มิติ ยึดเกาะเนื้อเยื่อได้หลายทิศทาง เงี่ยงไหมกางชัดเจน เส้นไหมแข็งแรง เห็นผลดีในการยกกระชับหน้า ผ่าน อย.
• ไหม Tesslift Soft ไหมโครงตาข่าย 1 เส้น เทียบเท่ากับการร้อยไหม 2 เส้น ทนแรงต้านได้ดีกว่าไหมทั่วไป 80 เท่า มีความแข็งแรง ยกกระชับและพยุงผิวที่หย่อนคล้อยได้ดี กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เห็นผลเร็วและอยู่ได้นาน ผ่านการรับรองจาก CE Approved (European Conformity)
• ไหม Tesslift Foxy Eye แก้หนังตาตก มีโครงตาข่ายล้อมรอบเส้นไหม ทำให้เส้นไหมมีความแข็งแรง

*ระยะเวลาที่ไหมสามารถดึงผิวไว้ได้ ขึ้นอยู่กับคุณภาพผิวของแต่ละบุคคล

สรุป

สำหรับใครที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย แก้มห้อย อยากปรับรูปหน้าเรียว รวมถึงลดริ้วรอย โดยไม่ต้องผ่าตัด ต้องการเห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็ว สามารถส่งรูปหน้ามาให้หมอประเมินปัญหาก่อนได้ในเบื้องต้นครับ ก่อนนัดคิวเข้ามาร้อยไหมมิ้นที่สาขา คลิกดูสาขาใกล้ฉัน