ฟิลเลอร์จมูก
เมื่อพูดถึงการฉีดฟิลเลอร์จมูก เชื่อว่าหลายคนยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องของความปลอดภัยครับ จริง ๆ แล้วฟิลเลอร์จมูกปลอดภัยจริงไหม ? แก้ปัญหาทรงจมูกแบบไหนได้บ้าง จมูกโด่งได้นานแค่ไหน ราคาเท่าไหร่ ข้อดี ข้อเสียด้านต่าง ๆ ทุกข้อสงสัยที่อยากรู้ หมอได้รวบรวมไว้ให้แล้วในบทความนี้ ใครที่กำลังสนใจสามารถศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจได้ครับ
สารบัญ ฟิลเลอร์จมูก
ฉีดฟิลเลอร์เสริมจมูก ทำได้จริงหรือ?
การฉีดฟิลเลอร์เสริมจมูกสามารถทำได้ครับ หากเป็นฟิลเลอร์แท้มีคุณภาพ อย่างไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic acid: HA) ที่ผ่านการรับรองจากอย. ฟิลเลอร์จะมีความปลอดภัยสูง และคนไข้ต้องเข้าทำการรักษากับแพทย์ที่ชำนาญการปรับรูปหน้าด้วยฟิลเลอร์ เพื่อป้องกันความผิดพลาดจากการฉีดฟิลเลอร์ไม่ตรงจุดครับ
โดยส่วนตัวหมอ ถ้าคนไข้ที่เข้ามาปรึกษาทำฟิลเลอร์จมูก หมอจะไม่ค่อยแนะนำให้ทำครับ เนื่องจากการผ่าตัดเสริมจมูกจะให้ผลที่อยู่ได้นานกว่า สวยกว่า แต่ในกรณีที่คนไข้ต้องการทำจริงๆ เพราะกลัวการผ่าตัดมาก หมอก็จะแจ้งข้อจำกัดการฉีดฟิลเลอร์จมูก เช่น ไม่สามารถอยู่ได้ถาวร รวมถึงใครที่วางแผนผ่าตัดเสริมจมูกในอนาคต ฟิลเลอร์จะทำให้เกิดปัญหาในการยึดเกาะของแท่งซิลิโคนได้ครับ
อ่านข้อมูลเพิ่มเติม : ฟิลเลอร์ คืออะไร ? ฉีดครั้งแรกควรรู้อะไรบ้าง อันตรายไหม ข้อดี-ข้อเสีย
ทรงจมูกแบบไหนสวย
ทรงจมูกมีหลายทรง จมูกแบบไหนสวย ขึ้นอยู่กับความชอบ มุมและองศาเหมาะกับใบหน้า สามารถนำรูปทรงจมูกที่ชอบ เช่น ทรงจมูกดารา มาให้หมอช่วยประเมินได้ว่าใบหน้าเหมาะกับทรงจมูกนั้น ๆ หรือไม่ จะปรับแก้อย่างไร ฉีดฟิลเลอร์จมูกดีไหม หรือเสริมจมูกซิลิโคนจะสวยกว่า โดย 5 ทรงจมูกสวยที่ได้รับความนิยม มีดังนี้
จมูกทรงสโสปปลายพุ่ง
เป็นทรงจมูกสไตล์เกาหลีที่คนไข้นำมาเป็นแบบค่อนข้างเยอะ จมูกเกาหลีลักษณะจมูกปลายพุ่ง สันจมูกจะมีความสโลปตรงบริเวณหัวตา เน้นปลายให้พุ่งเรียวสวย ปลายจมูกดูเล็กลง ทำให้ใบหน้าดูสมส่วน หน้าเรียวและดูหวานละมุนมากขึ้น เหมาะกับคนที่มีเนื้อจมูกพอสมควร คนที่มีจมูกสั้น จมูกฮัมพ์ จมูกงุ้ม จมูกโต จมูกเนื้อน้อยก็สามารถเสริมจมูกทรงสโลปปลายพุ่งได้
จมูกทรงสโลปปลายเชิด
ทรงจมูกสโลปปลายเชิด จะมีลักษณะสโลปตั้งแต่บริเวณหัวตาลงมาที่สันจมูก เน้นปลายจมูกให้เชิดขึ้นไม่ดูงุ้ม ช่วยเพิ่มมิติใบหน้า ทำให้ใบหน้าจะดูคม ดูเฉี่ยวมากขึ้น เป็นสไตล์สายฝอเหมือนจมูกฝรั่ง จมูกสายฝอเหมาะกับคนที่มีปลายจมูกงุ้ม หรือมีฐานจมูกค่อนข้างกว้าง จมูกค่อนข้างบาน เวลายกปลายจมูกเชิดจะสวย แก้ปัญหาจมูกงุ้มและบานได้
จมูกทรงหยดน้ำ
จมูกทรงหยดน้ำเป็นอีกทรงจมูกที่นิยม นอกจากความโด่งของสันจมูกแล้ว จะเป็นการเสริมปลายจมูกให้ยาวขึ้น และคล้อยลงมาเล็กน้อย คล้ายมีหยดน้ำที่ปลายจมูก ช่วยให้ใบหน้าดูเรียวยาวและดูสวยหวาน อีกทั้งยังช่วยเสริมโหงวเฮ้งด้านหน้าที่การงาน เหมาะกับคนที่มีรูปจมูกเดิมค่อนข้างยาว และมีเนื้อจมูกพอสมควร ในเคสที่มีเนื้อจมูกน้อย แพทย์จะประเมินและแนะนำเป็นรายเคส
จมูกทรงบาร์บี้ไลน์
จมูกทรงบาร์บี้ไลน์ เป็นการเสริมจมูกโดยยกสันจมูก ยกดั้งให้สูงขึ้นเล็กน้อย และบีบปลายจมูกให้เล็กลง ช่วยเพิ่มความละมุนให้ใบหน้าดูจิ้มลิ้มน่ารัก แต่อาจไม่เหมาะสำหรับคนที่มีใบหน้ากลมหรือแก้มเยอะ เนื่องจากทรงจมูกจะดูเล็กและแคบลง ทำให้แก้มดูเด่น จึงเหมาะกับคนที่มีใบหน้าเรียวเล็ก หน้ารูปไข่ หรือหน้ารูปหัวใจ จมูกที่เล็กและแคบลง จะช่วยเสริมโครงหน้าให้ดูชัดขึ้นครับ
จมูกทรงธรรมชาติ
จมูกทรงธรรมชาติ ไม่ได้เน้นโด่งหรือปลายพุ่ง แต่จะเป็นการปรับทรงจมูกให้ได้สัดส่วน เพิ่มมิติใบหน้า ทำได้ทั้งวิธีเสริมจมูกไม่ต้องผ่าตัด สำหรับคนที่กลัวเจ็บ และไม่ได้ต้องการจมูกโด่งมาก ๆ หรือถ้าเสริมจมูกซิลิโคน จะเสี่ยงทะลุน้อย โดยเฉพาะคนที่มีเนื้อจมูกน้อย ซิลิโคนที่ไม่โด่งจนเกินไปจะไม่ไปดันเนื้อจมูกส่วนปลาย ลดความเสี่ยงจมูกจะทะลุในอนาคต
ฉีดฟิลเลอร์จมูก ช่วยอะไรบ้าง ?
ส่วนใหญ่แพทย์จะใช้ฟิลเลอร์ (Hyaluronic Acid: HA) เพื่อแก้ไขปัญหาริ้วรอยร่องลึก บริเวณต่าง ๆ ของใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นหน้าผาก ริ้วรอยร่องลึกรอบดวงตา มุมปาก หรือฉีดเสริมแก้ไขปรับแต่งรูปหน้า เช่น เสริมจมูก เสริมคาง หน้าผาก ทดแทนการเสริมด้วยซิลิโคน เสริมโหนกแก้ม
ในคนที่มีปัญหาแก้มตกตามวัย ฟิลเลอร์เป็นตัวช่วยของคนอายุน้อย ที่ต้องการมีรูปหน้าอิ่ม เติมแก้มตอบ หรือทดแทนส่วนที่ขาดหายไปบนใบหน้าและร่างกาย จากการผ่าตัด และอุบัติเหตุครับ
ในส่วนของการเสริมจมูก การฉีดฟิลเลอร์จมูก เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ได้รับความสนใจ เพราะสามารถปรับรูปดั้งและสันจมูก ฉีดจมูกโด่งขึ้นได้อย่างเป็นธรรมชาติ รวมถึงยังสามารถปรับแก้ไขทรงจมูกที่ไม่ได้สัดส่วน หรือจมูกเบี้ยวได้ด้วย
นอกจากการเติมฟิลเลอร์เพื่อเสริมจมูกแล้ว สำหรับบางคนที่อยากตกแต่งจมูกเพียงเล็กน้อยหรือต้องการเสริมโหงวเฮ้งก็สามารถฉีดฟิลเลอร์ปลายจมูกได้ เช่น ทรงหยดน้ำ ก็จะได้จมูกที่สวยงามเป็นธรรมชาติครับ
(การฉีดฟิลเลอร์จมูกช่วยปรับรูปดั้งและสันจมูกให้สูงขึ้นได้)
ฉีดฟิลเลอร์จมูก อันตรายไหม ?
ฉีดฟิลเลอร์จมูก อันตรายไหม ? ขึ้นอยู่กับว่าฉีดกับใคร ฉีดที่ไหน ใช้อะไรฉีด ? หมอแนะนำให้เลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือ และดูรีวิวของแพทย์แต่ละคนที่จะไปทำด้วย เพราะประสบการณ์ของแพทย์ก็เป็นสิ่งสำคัญครับ
ที่ผ่านมาเราเห็นข่าวเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์จมูกแล้วเกิดปัญหา เพราะที่ด้านข้างของสันจมูกจะมีเส้นเลือดชื่อ Dorsal nasal artery ที่เชื่อมต่อเข้ากับลูกตาครับ การฉีดฟิลเลอร์จมูกกับแพทย์ที่ขาดความรู้ความชำนาญ อาจจะฉีดฟิลเลอร์จมูกโดนเส้นเลือดเส้นนี้และทำให้ตาบอดได้ครับ
จากข้อมูลพบว่าในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ในประเทศไทยมีเคสที่ตาบอดจากฟิลเลอร์จมูก 8 ราย (เมื่อเทียบกับเคสที่ฉีดฟิลเลอร์จมูกนับหมื่นรายในช่วง 10 ปี ก็ถือว่าน้อยมาก) ซึ่งในปีหลัง ๆ 2-3 ปีที่ผ่านมา ยังเจอเคสที่ฉีดโดนเส้นเลือดอยู่บ้างแต่ไม่มีเคสที่ตาบอด เนื่องจากเทคนิคการรักษาที่พัฒนาดีมากขึ้นและแพทย์ที่มีความชำนาญสามารถแก้ไขได้อย่างทันท่วงทีครับ
อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์จมูก ที่ไหนดี ? วิธีเลือกคลินิกต้องดูอย่างไร ? ถ้าอยากเสริมจมูกอย่างปลอดภัย
(ลักษณะเส้นเลือดบริเวณสันจมูกที่ต้องระวัง)
เปรียบเทียบ ฟิลเลอร์จมูก VS ร้อยไหมจมูก VS เสริมซิลิโคน
ฟิลเลอร์จมูก และ ร้อยไหมจมูก เป็นวิธีเสริมจมูกที่คนไข้ให้ความสนใจ เพราะไม่ต้องเสี่ยงกับการผ่าตัด และใช้ระยะเวลาพักฟื้นไม่นาน รวมถึงวิธีการดูแลตัวเองหลังทำไม่ยุ่งยากเหมือนกันผ่าตัดเสริมจมูกด้วยซิลิโคน แต่ทั้ง 2 วิธีก็ยังมีข้อดี ข้อเสียที่แตกต่างกันเมื่อเทียบกับการผ่าตัดเสริมจมูกด้วยซิลิโคนครับ
ฉีดฟิลเลอร์จมูก
เป็นวิธีการเสริมจมูกที่ดูเป็นธรรมชาติ ด้วยการใช้สารเติมเต็ม Hyaluronic acid ที่มีความปลอดภัย ฉีดเข้าไปที่บริเวณสันจมูกหรือเนื้อจมูก เพื่อปรับรูปจมูกให้ดูโด่งมากขึ้น โดยไม่ต้องกังวลเรื่องวัสดุเสริม แพทย์สามารถปรับแต่งได้ ฟิลเลอร์แท้สามารถสลายได้ตามธรรมชาติ โดยไม่มีสารตกค้าง
ข้อดี
1.ไม่บวม ไม่ช้ำ ไม่ต้องพักฟื้น
2.หลังฉีดฟิลเลอร์จมูกเห็นผลลัพธ์ทันที
3.สามารถทำได้ในคนที่มีฐานจมูกเดิมอยู่บ้างแล้วในระดับปานกลาง (ถ้าไม่มีฐานเลยก็แนะนำผ่าตัดเสริมครับ ฉีดฟิลเลอร์ไม่สวย เพราะฟิลเลอร์ไม่สามารถตั้งเป็นสันคมได้สูงเท่าแท่งซิลิโคน)
4.หลังฉีดฟิลเลอร์จมูกหากต้องการปรับแก้ให้โด่งมากขึ้นหรือน้อยลงสามารถทำได้ด้วยการฉีดสลายบางส่วนหรือการฉีดเพิ่มเติมได้ตามที่คนไข้ต้องการ
ข้อเสีย
1.หากฉีดโดยแพทย์ที่ไม่ชำนาญ ก็จะมีความเสี่ยงสูงที่ฟิลเลอร์จะเข้าเส้นเลือดและเข้าตาได้
2.หากใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่มีความคงตัวถึงแม้จะเป็นฟิลเลอร์แท้ ทรงที่ปั้นออกมาก็จะไม่สวยบานออกด้านข้าง
ร้อยไหมจมูก
เป็นวิธีปรับรูปทรงจมูก ช่วยเสริมจมูกได้โดยไม่ต้องผ่าตัด หมอจะร้อยไหมเข้าไปเรียงกันบริเวณสันจมูก ให้ได้เป็นทรงเสริมขึ้นมาคล้ายกับการผ่าตัดเสริมซิลิโคน และการนำไหมละลายร้อยเข้าไปในจมูก ทำให้เกิดการสร้างเนื้อเยื่อของผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน อิลาสติน ทำให้มีเนื้อจมูกขึ้นมา จมูกโด่งขึ้น และสามารถใช้การร้อยไหมจมูก ดีดปลายจมูกให้เชิดขึ้นได้ด้วยครับ
ข้อดี
1.มีความปลอดภัยมากกว่าการฉีดฟิลเลอร์จมูก เนื่องจากไม่เสี่ยงต่อการเข้าเส้นเลือด
2.การร้อยไหมจมูกจะขึ้นเป็นสันได้คมกว่าฟิลเลอร์
3.เหมาะกับคนที่มีฐานจมูกเดิมอยู่บ้างแล้วแค่ต้องการความคม
ข้อเสีย
1.ในคนที่ไม่มีฐานจมูกเส้นไหมไม่สามารถร้อยจมูกในปริมาณเยอะ ๆ ได้
2.ถ้าในคนที่ฐานจมูกเดิมมีน้อยก็ควรผ่าตัดเสริมจมูกมากกว่าครับ
3.ต้องใช้ระยะเวลาในการละลาย ไม่มียาที่ฉีดสลายได้เหมือนฟิลเลอร์ (ดังนั้นการร้อยไหมเสริมจมูกควรใช้จำนวนเส้นน้อย ๆ ไว้ก่อน)
อ่านบทความเพิ่มเติม : เสริมจมูกด้วยการร้อยไหมจมูก ดั้งโด่ง จมูกทรงสวยโดยไม่ต้องผ่าตัด
ผ่าตัดเสริมซิลิโคน
ข้อดี
1.ได้เป็นทรงจมูกโด่งสวยตามที่คนไข้ต้องการ
ข้อเสีย
1.มีอาการบวมช้ำ ต้องพักฟื้น 2-4 สัปดาห์
2.หากไม่ชอบต้องผ่าตัดแก้ไขเท่านั้น การผ่าตัดแก้ไขหลายๆ ครั้งก็จะมีโอกาสบวมช้ำมากขึ้นเรื่อยๆ และมีหลายคลินิกที่ผ่าตัดเสริมจมูกโดยใช้ซิลิโคนสำเร็จรูป ที่ไม่ได้รับกับฐานจมูกเดิมของคนไข้ เมื่อเวลาผ่านไปจึงเกิดการเคลื่อนและทะลุตามมา
โดยสังเกตได้จากแท่งซิลิโคนที่เสริมจะเคลื่อนที่ได้และไม่ยึดเกาะแน่นกับฐานจมูก กรณีนี้จะเกิดปัญหาตามมาในอนาคตแน่นอนครับ ควรรีบผ่าตัดแก้ไข
หากคนไข้กลัวการผ่าตัดเสริมจมูก หรือกังวลเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์จมูกแล้วจะอันตราย สามารถเลือกใช้การร้อยไหมจมูกทดแทนได้ครับ ด้วยเทคนิคใหม่ล่าสุดของการร้อยไหมดีดปลายจมูกก็จะได้ผลสวยงามกว่าและปลอดภัยกว่าฟิลเลอร์จมูกมาก
ใครบ้างที่เหมาะจะฉีดฟิลเลอร์จมูก
การฉีดฟิลเลอร์จมูก เหมาะกับคนที่มีฐานจมูกเดิมอยู่บ้างแล้วครับ ต้องการปรับเปลี่ยนรูปทรงด้วยการฉีดฟิลเลอร์ เช่น
- จมูกเรียบแบน หากจมูกไม่คม สามารถฉีดฟิลเลอร์เพื่อปรับรูปดั้งและสันจมูกให้สูงขึ้นได้ เพิ่มความคม เพิ่มสันจมูกหรือปลายจมูกขึ้นเล็กน้อย
- จมูกเบี้ยวผิดรูป ฟิลเลอร์จมูก สามารถเติมเต็มเนื้อเยื่อบริเวณจมูกที่ขาดหายไป ให้ได้สัดส่วนขึ้น หรือในเคสที่จมูกไม่สมส่วนจากการศัลยกรรม สามารถเติมบางส่วนให้เข้ารูปได้ครับ
นอกจากนี้การฉีดฟิลเลอร์จมูก จะเหมาะกับคนที่กลัวการผ่าตัดมาก ๆ และมั่นใจว่าในอนาคตจะไม่ผ่าตัดเสริมจมูก เพราะหากจะเสริมจมูก คนไข้ต้องขูดกระดูกจมูกตามแนวที่จะวางซิลิโคนก่อนครับ
ฉีดฟิลเลอร์ แล้วอยากเปลี่ยนใจ เสริมจมูกด้วยซิลิโคนทำได้หรือไม่ ?
หากเคยฉีดฟิลเลอร์จมูกมาแล้ว และต้องการเปลี่ยนไปเสริมจมูกด้วยซิลิโคน สามารถทำได้ครับ แต่ต้องเอาฟิลเลอร์ออกก่อน โดยปกติฟิลเลอร์จมูกจะอยู่ได้ 1 ปีและจะสลายหมดไปได้เอง แต่ในกรณีที่ไม่ต้องการรอ สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ได้ครับ (ฉีดสลายได้เฉพาะฟิลเลอร์แท้ Hyaluronic Acid เท่านั้น)
ในกรณีที่ฉีดฟิลเลอร์ปลอม เช่น พวกสารซิลิโคนเหลว หรือ Polyacrylamide ซึ่งร่างกายย่อยสลายได้น้อยมากหรือไม่สลายเลย จำเป็นต้องขูดฟิลเลอร์ออกครับ
อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดสลายฟิลเลอร์ อันตรายไหม ? ฉีดบริเวณไหนได้บ้าง ?
ขูดฟิลเลอร์จมูก อันตรายไหม ?
ขั้นตอนการขูดฟิลเลอร์จมูกต้องใช้ความระมัดระวังมากครับ เนื่องจากจะมีบางส่วนที่ผสานกับเนื้อเยื่อหรืออยู่ชิดผิวหนังด้านนอกมาก หากขูดออกหมดก็อาจทำให้เนื้อดีออกไปด้วย ทำให้ผิวไม่เรียบได้ครับ
การขูดฟิลเลอร์จมูก จะทำต่อเมื่อคนไข้มีปัญหาฟิลเลอร์ไหล เป็นก้อน ทำให้จมูกเสียทรงจากฟิลเลอร์ปลอมครับ หรือในกรณีต้องการเปลี่ยนไปผ่าตัดเสริมจมูก อย่างที่หมอบอกไปตอนต้นว่าวิธีแก้ไขคือต้องขูดฟิลเลอร์จมูกออกก่อนครับ
การฉีดฟิลเลอร์จมูกให้ได้ผลดี ต้องคำนึงถึงอะไร?
การฉีดฟิลเลอร์จมูกให้ได้ผลดี ต้องคำนึงถึง 3 เรื่อง เป็นปัจจัยหลัก คือ
1. แพทย์ที่ฉีดฟิลเลอร์ต้องมีประสบการณ์ แพทย์ที่มีความรู้ มีศาสตร์และศิลป์แห่งการปรับรูปหน้า และมีประสบการณ์ทางการฉีดฟิลเลอร์โดยตรง จะช่วยให้การฉีดฟิลเลอร์มีประสิทธิภาพ เพราะถ้าฉีดไม่ดี อาจจะส่งผลเสียรุนแรงหรือเสียชีวิตได้ คนไข้ควรฉีดฟิลเลอร์ในคลินิกหรือโรงพยาบาลที่มีใบอนุญาต มีเครื่องมือช่วยชีวิต ในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน และฉีดโดยแพทย์ที่มีความชำนาญเท่านั้น
(แพทย์ที่ฉีดฟิลเลอร์จมูกต้องมีประสบการณ์และให้คำแนะนำอย่างตรงไปตรงมา)
2. ฟิลเลอร์ที่ฉีดต้องเป็นของแท้ คือเป็น Hyaluronic acid (HA) ที่ผ่าน อย. ซึ่งเป็นสารชนิดเดียวกันกับที่อยู่ในผิวเรา ถึงจะปลอดภัย ไม่มีอันตราย ไม่ไหล และไม่เกิดพังผืด
3. สถานที่ฉีด ต้องฉีดในสถานพยาบาลที่ได้รับอนุญาต ให้ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย สะอาด ปลอดภัย ตามมาตรฐานการบริการ และมีเครื่องมือช่วยชีวิตยามฉุกเฉิน
อ่านข้อมูลเพิ่มเติม : วิธีเบื้องต้นในการดู Filler ว่าเป็นของแท้หรือไม่
ฉีดฟิลเลอร์จมูก ใช้ยี่ห้อไหนดี กี่ cc ?
ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ในการฉีดฟิลเลอร์จมูก ขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่คนครับ เนื่องจากรูปทรงจมูกของคนไข้แต่ละคนแตกต่างกัน รูปทรงต้นทุนของจมูก เนื้อจมูกของแต่ละคนก็ต่างกัน จึงอาจใช้ปริมาณฟิลเลอร์ไม่เท่ากัน
โดยปกติการ ฉีดฟิลเลอร์จมูกไม่ควรใช้ฟิลเลอร์เกิน 1 CC ส่วนในคนที่หมอประเมินว่าควรใช้มากกว่า 1 CC แสดงว่าเคสนั้นไม่มีฐานจมูก อาจจะเหมาะกับการผ่าตัดเสริมมากกว่าครับ
ยี่ห้อที่หมอแนะนำสำหรับการฉีดจมูก คือ ยี่ห้อ Restylane รุ่น Perlane Lyft ของแท้เท่านั้นครับ เพราะมีความคงตัวสูง ไม่ฟูและสามารถคงรูปได้ดีที่สุด
ราคาฉีดฟิลเลอร์จมูก อยู่ที่ประมาณเท่าไร?
ราคาฉีดฟิลเลอร์จมูก ที่ V Square Clinic อยู่ที่ 14,000.-/ 1 CC
โปรโมชั่นแนะนำ
โปรโมชั่น ฟิลเลอร์จมูกฉีดฟิลเลอร์จมูก เห็นผลทันทีหรือไม่ เข้าที่เมื่อไหร่ ?
การฉีดฟิลเลอร์จมูก แพทย์จะใช้เวลาประมาณ 10-30 นาที อาจจะรู้สึกเจ็บเล็กน้อย และจะสามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังฉีด สำหรับผลลัพธ์ 100% ควรดูผลลัพธ์ประมาณ 1-2 สัปดาห์ เนื่องจากฟิลเลอร์และกล้ามเนื้อบริเวณจมูกจะหายบวมและเริ่มเข้าที่ดีแล้ว
ทั้งนี้หากดูผลลัพธ์แล้วยังไม่พอใจ ก็สาามารถฉีดเพิ่มหรือเติมได้ โดยอยู่ในดุลยพินิจของแพทย์
ฉีดฟิลเลอร์จมูก อยู่ได้นานแค่ไหน ?
การฉีดฟิลเลอร์จมูก จะคงผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 1 ปี ขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ ฟิลเลอร์แท้สามารถสลายหมดได้ตามธรรมชาติจึงมีความปลอดภัย หากต้องการคงรูปทรงของจมูกให้อยู่ในสภาพเดิม สามารถกลับมาฉีดซ้ำได้ โดยแพทย์ตรวจประเมินความเหมาะสมก่อนฉีดครับ
อ่านบทความเพิ่มเติม : ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน แต่รุ่นอยู่ได้นานเท่าไหร่
ข้อควรระวัง ฉีดฟิลเลอร์จมูก
การฉีดฟิลเลอร์เสริมจมูก ไม่ใช่การเสริมจมูกแบบถาวรครับ ดังนั้นค่าใช้จ่ายจึงสูงกว่า เมื่อต้องการเพิ่มหรือเติมในอนาคต เทียบกับการผ่าตัดเสริมในครั้งเดียว
การเสริมจมูกด้วยการฉีดฟิลเลอร์ ไม่สามารถใช้ได้กับจมูกทุกแบบ เพราะจมูกบางรูปทรง ฟิลเลอร์ก็ไม่สามารถช่วยให้ดูแตกต่างขึ้นได้ การฉีดฟิลเลอร์จมูก จึงเหมาะกับคนไข้ที่พอจะมีฐานจมูกเดิมอยู่บ้างแล้ว แค่ต้องการอยากเติมสันจมูกหรือดั้งโด่ง ดูสูงขึ้นเล็กน้อย และกลัวการผ่าตัด
การฉีดฟิลเลอร์จมูกยังมีข้อห้ามในบุคคล ดังนี้
อาการและผลข้างเคียงที่อาจต้องเจอหลัง ฉีดฟิลเลอร์จมูก
บางรายจะมีอาการบวมเข็ม ทำให้จับเจอฟิลเลอร์เป็นก้อนในช่วงแรก จะค่อย ๆ ยุบบวมลงเอง ประมาณ 7-14 วัน ก็จะเข้าที่ หากมีอาการปวดระบมบริเวณที่ฉีด สามารถทานยาแก้ปวดเพื่อช่วยบรรเทาได้ คนไข้ที่ฉีดฟิลเลอร์จมูก แพทย์จะนัดตรวจหลังการรักษา 2-4 สัปดาห์
แต่ในกรณีที่เกิดอาการปวดบวมแดงมากผิดปกติ หรือสีผิวหนังบริเวณที่ฉีดเปลี่ยนไป เป็นสีน้ำตาล หรือดำ ควรรีบปรึกษาแพทย์ผู้ทำหัตถการทันที โดยไม่ต้องรอให้ถึงวันนัดตรวจตามกำหนด เพื่อป้องกันอาการอักเสบ หรือติดเชื้อที่อาจเกิดขึ้นได้
ก่อนฉีดฟิลเลอร์จมูก ต้องเตรียมตัวอย่างไร ?
1. ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับแพทย์และคลินิกและรีวิวอย่างละเอียด
คนไข้ควรเข้าพบแพทย์ในคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีความน่าเชื่อถือ เพื่อปรึกษาข้อมูล และรายละเอียดกับแพทย์ที่ทำการฉีดฟิลเลอร์จมูก เลือกแพทย์และเทคนิคในการทำเพื่อให้เกิดการบวมช้ำน้อยที่สุด ได้ผลชัดเจน และเป็นธรรมชาติ ใช้ฟิลเลอร์แท้ในกลุ่ม Hyaluronic Acid ที่สลายหมด ปลอดภัย 100 %
โดยหาข้อมูลรีวิวจากคนไข้ปัจจุบัน ไม่ควรเชื่อรีวิวที่มีแต่รูป แนะนำถ้าดูเป็นคลิปวิดีโอประกอบด้วยครับ จะดูน่าเชื่อถือกว่า และรีวิวที่ดีไม่ควรลบโดยแอดมินได้ เช่น Facebook รีวิว
2. เช็คตัวเองว่าอยู่ในกลุ่มต้องห้ามฉีดฟิลเลอร์หรือไม่
ไม่แนะนำการฉีดฟิลเลอร์จมูกในกลุ่มผู้ที่แพ้สาร Hyaluronic Acid ผู้ที่ต้องทานยาต้านการแข็งตัวของเลือดเป็นประจำ ผู้ที่แพ้ยาชา ผู้ที่ตั้งครรภ์และให้นมบุตร
กรณีที่เป็นเริม หรือ งูสวัด แนะนำอย่าเพิ่งฉีดฟิลเลอร์ ควรรอให้หายดีก่อน และควรงดวิตามิน St. John’s Wort, ginkgo biloba, primrose oil, garlic, ginseng, Vitamin E เป็นเวลา 1 สัปดาห์ก่อนฉีดฟิลเลอร์
3. งดรับประทานยาหรือวิตามินบางชนิดก่อนฉีดฟิลเลอร์
ควรงดยา แอสไพริน, NSAIDs เช่น ibruprofen diclofenac ponstan เป็นเวลา 1 สัปดาห์ก่อนฉีดฟิลเลอร์ และควรปรึกษาแพทย์ที่รักษาอยู่ก่อนที่จะหยุดยานั้น ๆ และควรงดดื่มแอลกอฮอล์ หรืองดกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีดเยอะ 24 ชม. ก่อนทำ
แนวทางปฏิบัติตัวหลังฉีดฟิลเลอร์จมูก
- ในช่วง 48 ชั่วโมงแรก แนะนำให้งดการออกกำลังกายหนัก ๆ หลีกเลี่ยงการโดนความร้อน หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดด เพราะอาจทำให้เกิดรอยแดงมากขึ้นในบริเวณที่ฉีด
- หลังฉีดทันทีไม่ควรจับ ลูบคลำ นวด หรือปั้นเองในบริเวณที่ฉีด เพราะอาจมีผลต่อการเคลื่อนตำแหน่งของตัวยา ไปยังตำแหน่งที่ไม่ต้องการได้
- หลังฉีดควรดื่มน้ำสะอาดปริมาณมากอย่างน้อย 2 ลิตรต่อวัน โดยเฉพาะ 1 สัปดาห์แรก เพราะฟิลเลอร์เป็นสารอุ้มน้ำ (การดื่มน้ำมาก ๆ จะช่วยให้ฟิลเลอร์ฟู และลดอาการบวมช้ำจากแรงกระแทกภายนอกได้ดี) ฟิลเลอร์จะอยู่ได้นานขึ้น หลังฉีดสามารถแต่งหน้า ทาแป้ง ทาครีมได้ตามปกติ
สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้ง 25 สาขา หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ
