Radiesse filler

Radiesse filler (CaHA Biostimulator)   

เทรนด์ในช่วงนี้เรียกได้ว่าเป็นยุคของงานผิว มีผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ ๆ ในคลินิกเสริมความงามออกมาให้เลือกใช้หลายตัวครับ โดยเฉพาะตัวที่มีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นคอลลาเจน Radiesse filler เป็นอีกหนึ่งตัวที่ได้รับความสนใจ เปิดตัวมาด้วย Key Message ที่ว่า The One of a Kind Regenerative Biostimulator หนึ่งเดียวที่ช่วยฟื้นฟูโครงสร้างผิวให้กลับมาดูอ่อนเยาว์ ผลลัพธ์จะทำได้ดีขนาดไหน หรือเป็นเพียงคำโฆษณาชวนเชื่อ บทความนี้หมอจะพาไปเจาะลึก Radiesse filler สารกระตุ้นคอลลาเจนตัวนี้กันครับ      

สารบัญ Radiesse filler 

  1. Radiesse filler คืออะไร ?
  2. Radiesse filler ทำงานอย่างไร ?
  3. Radiesse เหมาะกับใคร ?
  4. ตำแหน่งที่ฉีดฟิลเลอร์ Radiesse ได้
  5. คุณสมบัติของ Radiesse filler ช่วยอะไรบ้าง ?
  6. Radiesse filler ราคาเท่าไหร่ ?
  7. เปรียบเทียบ ฟิลเลอร์ Radiesse กับยี่ห้อไหนอื่น
  8. ฉีดฟิลเลอร์ Radiesse ที่ไหนดี ?
  9. การดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ Radiesse
  10. ข้อควรระวังหลังฉีด ฟิลเลอร์ Radiesse
  11. ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้หลังฉีดฟิลเลอร์ Radiesse
  12. คำถามที่พบบ่อย

Radiesse filler คืออะไร ?

Radiesse คือ Regenative Biostimulator การฉีดสารกระตุ้นคอลลาเจนที่ถือว่าเป็นศาสตร์ใหม่ในการฟื้นฟูผิวให้ดูอ่อนเยาว์ จัดอยู่ในกลุ่ม Dermal Filler หรือสารเติมเต็มเหมือนกับฟิลเลอร์ ซึ่งถ้าพูดถึงฟิลเลอร์ในไทยจะหมายถึงสารเติมเต็มที่มีไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid : HA) เป็นส่วนประกอบหลัก แต่ Radiesse ส่วนประกอบหลักจะเป็นแคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทต์ (Calcium Hydroxylapatite microspheres : CaHA) และ Carboxymethyl cellulose (CMC) คิดค้นและวิจัยโดย Merz Aesthetics 

จุดเด่นของ Radiesse filler คือ ช่วยเติมเต็มริ้วรอยร่องลึก เพิ่มวอลลุ่มหรือเพิ่มปริมาตรผิว (Volumizing) และยังสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ฟื้นฟูถึงโครงสร้างผิว ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ (Younger) ผิวดูสุขภาพดี (Healthier) และยืดอายุผิวที่ดีได้ยาวนาน (Longer)   

ผลลัพธ์ Radiesse

Radiesse Filler ผ่านการอนุมัติจาก FDA สหรัฐอเมริกา ยุโรป (CE Mark) ให้ใช้ได้บริเวณใบหน้า คอ และหลังมือ ได้รับความไว้วางใจในหลายประเทศทั่วโลกมาตั้งแต่ปี 2006 มียอดการใช้กว่า 15 ล้านไซริงค์ จาก 85 แห่งทั่วโลก แต่การจะนำมาใช้ไทย จะต้องผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ซึ่งปัจจุบัน Radiesse ผ่านการรับรองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สามารถตรวจสอบได้ครับ 

นำเข้าและจัดจำหน่ายโดย Merz Aesthetics. Thailand (เมิร์ซ เอสเธติกส์ ประเทศไทย) บริษัทนวัตกรรมความงามระดับโลกที่นำเข้าโบท็อก Xeomin ฟิลเลอร์ Belotero และเทคโนโลยีเครื่องยกกระชับ Ultherapy ที่ใช้อย่างแพร่หลายในคลินิกเสริมความงามชั้นนำ  


Radiesse filler ทำงานอย่างไร ?

การทำงานของ Radiesse หัวใจหลัก คือ เข้าไปช่วยเติมเต็มและฟื้นฟูผิวที่เสื่อมสภาพที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของอายุที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะมีสัญญาณบ่งบอก เช่น ริ้วรอย ความหย่อนคล้อยของผิว เนื่องจากคอลลาเจนและอิลาสตินในชั้นหนังแท้ (Dermis) หรือผิวชั้นกลางลดลงเรื่อย ๆ   

Radiesse filler ทำงานอย่างไร

เมื่อฉีด Radiesse ที่มีส่วนประกอบของ CaHA เข้าไปในผิว (ฉีดระนาบกับชั้นหนังแท้) จะเกิดกระบวนการที่เรียกว่า Extracellular Matrix (ECM) สร้างโครงสร้าง Scaffold หรือเส้นใยตาข่าย 3 มิติ (3D Matrix) ทำให้เกิดแรงดึงตรึงผิวใหม่ และกระตุ้นเซลล์ Fibroblasts (ไฟโบรบลาสต์) ซึ่งเป็นเซลล์ต้นกำเนิดคอลลาเจนในผิวให้มีจำนวนมากขึ้น เพื่อทำหน้าที่สร้างคอลลาเจนและอิลาสตินให้เพิ่มขึ้นตามไปด้วย 

เส้นใยคอลลาเจนหลังฉีด Radiesse
ภาพแสดงการสะสมของคอลลาเจนใหม่รอบ ๆ CaHA microsphere ในช่วง 4-78 อาทิตย์หลังฉีด

CaHA

CaHA หรือแคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทต์ โดยปกติร่างกายผลิตได้เองครับ พบได้ในเนื้อเยื่อกระดูกและฟัน และยังผลิตได้ด้วยวิธีการสังเคราะห์จนได้ CaHA microsphere หรือคา-ฮ่า ไมโครสเฟียร์ ที่เหมือนกับสาร CaHA ที่มีอยู่ในร่างกาย และเป็นส่วนประกอบหลักที่อยู่ใน Radiesse ลักษณะเป็นทรงกลม ขนาดอนุภาคสม่ำเสมอ อยู่ในช่วง 25-45 ไมครอน (ขนาดเล็กกว่าเม็ดเกลือ) มีความปลอดภัยสูง เข้ากันได้กับร่างกาย (Biocompatibility) ไม่เกิดการกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกายให้ต่อต้าน (non-immunogecin properties) และสลายได้เองตามธรรมชาติ    


Radiesse เหมาะกับใคร ?  

  • ผู้ที่มีริ้วรอยร่องลึก ร่องแก้ม ร่องมุมปาก ใบหน้าขาดวอลลุ่ม 
  • ผู้ที่มีใบหน้าหย่อนคล้อย กรอบหน้าไม่ชัด ดูแก่ก่อนวัย 
  • ผู้ที่มีผิวแห้ง รูขุมขนกว้าง ขาดความยืดหยุ่น 
  • ผู้ที่มีปัญหาความเหี่ยวย่น บริเวณหลังมือ ลำคอ
radiesse เหมาะกับใคร
radiesse เหมาะกับใคร 

การฉีด Radiesse จะเหมาะกับคนที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป ซึ่งจะมีการเปลี่ยนแปลงของผิวตามอายุ (Skin Aging) ที่เห็นได้ค่อนข้างชัด หรือคนที่ต้องการคงความอ่อนเยาว์ของผิว อยากมีผิวเด็กนาน ๆ ด้วยการรักษาคอลลาเจนไว้ เพื่อป้องกันหรือชะลอปัญหาผิวครับ 


ตำแหน่งที่ฉีดฟิลเลอร์ Radiesse ได้

  • ใบหน้า 
  • หน้าแก้ม
  • ร่องแก้ม
  • ร่องนํ้าหมาก
  • มือ

เป็นตำแหน่งที่สามารถฉีด Radiesse filler เพื่อแก้ไขรอยพับและร่องลึก ช่วยให้ร่องลึกตื้นขึ้น ผิวเรียบเนียน มีในบางตำแหน่งครับที่อาจไม่เหมาะกับการฉีด Radiesse เช่น บริเวณระหว่างคิ้ว จะเหมาะกับการฉีดโบท็อกซ์มากกว่า หรือจมูก ปาก รอบปาก และรอบดวงตา ก็จะเหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้ามากกว่าครับ ทั้งนี้ หมอจะประเมินเป็นรายเคสอีกครั้งครับ 


คุณสมบัติของ Radiesse filler ช่วยอะไรบ้าง ?

radiesse ช่วยอะไร
ผลลัพธ์หลังฉีด radiesse
  • กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน Type I +150% ทําให้ผิวมีโครงสร้างแข็งแรง ทําให้ผิวเด็กลง
  • กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน Type III +130% ทําให้คอลลาเจนจัดเรียงและทําให้ผิวเต่งตึงขึ้น
  • กระตุ้นการสร้างอีลาสติน +260% เพิ่มความยืดหยุ่นของผิว
  • กระตุ้นการสร้างหลอดเลือดขนาดเล็กทําให้มีสารอาหารไปเลี้ยงเซลล์ผิว (Angiogenesis)
  • กระตุ้นการสร้างนํ้าหล่อเลี้ยงผิวทําให้ผิวชุ่มชื้น (Proteoglycan)

Radiesse filler ราคาเท่าไหร่ ?

Radiesse ราคาคุ้มค่า เมื่อเทียบกับผลลัพธ์ แต่ละคลินิกราคาแตกต่างกันได้ครับ ขึ้นอยู่กับโปรโมชันในช่วงนั้น ๆ ปริมาณ CC ที่ใช้ ราคาต่อกล่อง ต่อหลอด ก่อนเลือกฉีดกับคลินิกไหนลองเปรียบเทียบประเมินราคาดูก่อนได้ ที่ V Square Clinic จัดโปร Radiesse 2 กล่อง 6x,xxx.- ครับ  

Radiesse filler ราคา
Radiesse filler ราคา

เปรียบเทียบ ฟิลเลอร์ Radiesse กับยี่ห้ออื่น 

นอกจาก Radiesse ยังมีฟิลเลอร์งานผิว และสารกระตุ้นคอลลาเจนอีกหลายยี่ห้อที่น่าสนใจ ซึ่งมีส่วนประกอบ จุดเด่น ผลลัพธ์ ระยะเวลาอยู่ได้นานแตกต่างกัน และยังเหมาะกับการแก้ปัญหาที่ต่างกัน หมอเปรียบเทียบแต่ละยี่ห้อมาให้ดูกันครับ  

Radiesse (เรเดียสซ์) 

  • มี Calcium Hydroxylapatite เป็นส่วนประกอบหลัก 
  • เหมาะกับคนที่ปัญหาชั้นกระดูก มีร่องแก้ม ร่องมุมปาก ต้องการยกกระชับผิวบริเวณกรอบหน้า แนวกราม คาง ลำคอ 
  • ช่วยกระตุ้น Callagen Type 1 และ Type 3 เพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว เติมความชุ่มชื้น ผิวอิ่มน้ำ ดูสุขภาพดี 
  • ฉีด 1-3 ครั้ง ห่างกัน 1 เดือน อยู่ได้นาน 2 ปี 

Sculptra (สกัลป์ทรา) 

  • มี PLLA (Poly-L-Lactic Acid) เป็นส่วนประกอบหลัก 
  • เหมาะกับคนที่มีปัญหาชั้นไขมันและเนื้อเยื่อ ผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ มีริ้วรอย 
  • ช่วยกระตุ้น Callagen Type 1 สูงถึง 66.5% สร้างความแข็งแรงให้โครงสร้างผิว ผิวแน่น อิ่มฟู ลดริ้วรอย ยกกระชับผิวหย่อนคล้อย 
  • ฉีด 2-3 ครั้ง ห่างกัน 1 เดือน อยู่ได้นาน 2 ปี (กรณีฉีดครั้งเดียว อยู่ได้นาน 2-4 เดือน) 
Radiesse VS Sculptra
Radiesse VS Sculptra

Belotero Revive Filler (ฟิลเลอร์เบโลเทโร รีไวฟ์) 

  • มี Hyaluronic Acid + Glycerol เป็นส่วนประกอบหลัก 
  • เหมาะกับผู้ที่มีผิวแห้ง ขาดความยืดหยุ่น มีริ้วรอย และหลุมสิวตื้น ๆ 
  • ช่วยเติมน้ำให้ผิวอิ่มฟู บำรุงล้ำลึกถึงผิวชั้นหนังแท้ ปรับผิวโกลว์ใส ผิวกระจก (Glass Skin) ชุ่มชื้น ฉ่ำวาว เรียบเนียน หลุมสิวตื้นขึ้น 
  • เห็นการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ อยู่ได้นาน 6-9 เดือน 

Rejuran (รีจูรัน) 

  • มีสารสกัด Polyneucleotide จาก DNA Salmon เป็นส่วนประกอบหลัก 
  • เหมาะกับผู้ที่มีผิวแห้งกร้าน ไม่เรียบเนียน มีจุดด่างดำ ต้องการผลลัพธ์เร่งด่วน  
  • ช่วยฟื้นฟูผิวอ่อนเยาว์ ปรับสภาพผิวใส เนียน นุ่ม ชุ่มชื้น ฉ่ำวาว กระชับรูขุมขน และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ผิวเรียบเนียนขึ้น หลุมสิวดูตื้นขึ้น 
  • ฉีด 4 ครั้ง ห่างกัน 2-3 สัปดาห์ อยู่ได้นาน 3-6 เดือน (กรณีฉีดครั้งเดียวอยู่ได้นาน 1-2 เดือน)  

Gouri (กูริ) 

  • มี PCL (Polycaprolactone) เป็นส่วนประกอบหลัก 
  • เหมาะกับผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อย มีริ้วรอยเหี่ยวย่น  
  • ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ ฟื้นฟูผิวจากภายในสู่ภายนอก ยกกระชับทั่วใบหน้า ปรับผิวกระจ่างใส ดูสุขภาพดี ริ้วรอยจางลง
  • ฉีด 3 ครั้ง ห่างกัน 1 เดือน อยู่ได้นาน 1 ปี (กรณีฉีดครั้งเดียว อยู่ได้นาน 1-2 เดือน) 

Exosome (เอ็กโซโซม) 

  • มีสารอาหารผิวกว่า 1,000 ชนิด เช่น Growth Factors, Peptides, Amino Acids, Coenzymes, Hyaluronic Acids และโปรตีนต่าง ๆ เป็นส่วนประกอบ
  • เหมาะกับผู้ที่มีปัญหารูขุมขนกว้าง ผิวไม่เรียบเนียน ผิวขาดน้ำ แห้งกร้าน ผิวแพ้ง่าย ปัญหาริ้วรอยแห่งวัย ไม่กระชับ มีฝ้า กระ จุดด่างดำ รอยสิว ผิวหมองคล้ำ ไม่สดใส
  • ช่วยฟื้นฟูและบำรุงอย่างล้ำลึก กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เติมน้ำให้ผิว ลดริ้วรอย 
  • ทำ 2-3 ครั้ง อยู่ได้นาน 3-6 เดือน ทำ 5 ครั้ง อยู่ได้นาน 1 ปี (กรณีทำ 1 ครั้ง อยู่ได้นาน 1 เดือน) 

แต่ละหัตถการจะมีจุดเด่นในเรื่องกระตุ้นคอลลาเจนให้ผิวกระชับ เต่งตึง และมีโครงสร้างผิวแข็งแรงขึ้นเหมือนกัน จะแตกต่างกันที่กระบวนการ และความต้องการแก้ไขปัญหาของแต่ละบุคคลครับ หมอจะช่วยประเมินและเลือกหัตถการที่เหมาะสม แก้ปัญหาได้ตรงจุด ตรงกับงบประมาณของคนไข้

หมอประเมินใบหน้า โดยหมอโต้ง
หมอประเมินปัญหา แนะนำหัตถการที่เหมาะสม

ฉีดฟิลเลอร์ Radiesse ที่ไหนดี ?

ฉีด Radiesse Regenerative Biostimulator ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน แพทย์ผ่านการเทรนจากบริษัทนำเข้า (Merz Aesthetic Thailand) เท่านั้น เพราะก่อนจะนำ Radiesse มาฉีดให้คนไข้ นอกจากจะไว้วางใจในประสิทธิภาพและผลลัพธ์ของ Radiesse แล้ว แพทย์ยังต้องรู้เทคนิคการเตรียมยา เทคนิคการฉีด ถึงจะมั่นใจได้ในความผลลัพธ์และความปลอดภัย 

แพทย์ V Square Clinic ได้รับ Certified Injector Edition ผ่านการอบรมเทคนิคการใช้ผลิตภัณฑ์ จาก Merz Aesthetic Thailand และมีผลิตภัณฑ์ Radiesse Regenerative Biostimulator ของแท้ พร้อมให้บริการ ก่อนฉีดคนไข้สามารถตรวจสอบได้ ตามวิธีด้านล่างนี้ครับ

วิธีเช็ก Radiesse ของแท้

วิธีดู Radiesse ของแท้
  • มีเลขทะเบียนอย. และเอกสารกำกับภาษาอังกฤษ 
  • มี QR Code ติดไว้หน้ากล่อง เพื่อให้สแกนตรวจสอบว่าเป็น Rediesse ของแท้หรือไม่
  • เลข Lot. ที่กล่องและซองตรงกัน 
  • มีใบรับประกัน Skin Rejuvenetioon Card หรือ Radiesse Club Card ให้กับคนไข้หลังใช้บริการ
  • โทรเช็กเลข Lot. กับบริษัทนำเข้า บริษัท เมิร์ซ เฮลธ์แคร์ จำกัด โทร.02 026 1111

ข้อควรระวังหลังฉีด ฟิลเลอร์ Radiesse

หลังฉีด Radiesse คนไข้สามารถใช้หน้า ใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ หมอจะแนะนำข้อควรปฏิบัติและการดูแลตัวเองหลังฉีดเพิ่มเติมครับ 


การดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ Radiesse

การดูแลตัวเองหลังฉีด Radiesse
การดูแลตัวเองหลังฉีด Radiesse
  • หลีกเลี่ยงการจับ ลูบ แตะ บริเวณที่ฉีด
  • ลดกิจกรรมที่ต้องใช้กำลังหรือออกแรงมาก ๆ 
  • งดการแต่งหน้า 12 ชั่วโมง หรือจนกว่ารอยเข็มจะหายดี
  • หลีกเลี่ยงแสงแดดและความร้อน 24 ชั่วโมง 
  • หลีกเลี่ยงหัตถการที่ใช้ความร้อนสูง เช่น ซาวน่า เลเซอร์ร้อน อย่างน้อย 2 สัปดาห์
  • หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่ อย่างน้อย 2 สัปดาห์ 

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้หลังฉีดฟิลเลอร์ Radiesse

อาจมีอาการบวมจากตัวยา บวมแดงหรือมีรอยช้ำจากเข็มที่ฉีดเข้าสู่ผิว รวมถึงอาจรู้สึกคันยิบ ๆ บริเวณที่ฉีด เป็นผลข้างเคียงที่ไม่อันตรายครับ สามารถหายได้เองในไม่กี่ชั่วโมง หรือใน 2-3 วัน เคสที่ผิวช้ำง่ายอาจนานประมาณ 14 วัน หากฉีด Radiesse กับแพทย์ที่มีประสบการณ์ รู้เทคนิคการฉีด การเลือกใช้เข็ม ก็สามารถช่วยลดอาการบวมช้ำหลังฉีดได้ครับ


คำถามที่พบบ่อย

ฉีดฟิลเลอร์ Radiesse อยู่ได้นานไหม ? 

Radiesse คงผลลัพธ์อยู่ยาวนานถึง 2 ปี ขึ้นอยู่กับความถี่ในการฉีด การดูแลตัวเองเพื่อรักษาคอลลาเจนใหม่ในชั้นผิว    

ฉีดฟิลเลอร์ Radiesse กี่วันเห็นผลลัพธ์ ? 

หลังฉีด Radiesse เห็นผลได้ทันที ผลลัพธ์ดีขึ้นเรื่อย ๆ เห็นผลชัดเจนประมาณ 3-6 เดือน 

  • ผลลัพธ์ทันที : หลังฉีดผิวจะยกขึ้น กระชับ ร่องลึกต่าง ๆ ที่ตื้นขึ้น ริ้วรอยจางลง 
  • ผลลัพธ์ระยะยาว : หลังจากการฉีด 3-4 สัปดาห์ CaHA ใน Radiesse จะเริ่มออกฤทธิ์กระตุ้นคอลลาเจน ทำให้ผิวเกิดการเปลี่ยนแปลง คุณภาพผิวบริเวณที่ฉีดดีขึ้น กระชับขึ้น ยืดหยุ่นขึ้น เพิ่มวอลลุ่มขึ้น

ฉีดฟิลเลอร์ Radiesse ต้องฉีดกี่ครั้ง ?

หมอแนะนำให้ฉีด Radiesse 1-3 ครั้ง ห่างกันอย่างน้อย 1 เดือน หมอจะประเมินเป็นรายเคส ขึ้นอยู่กับสภาพผิว ความหย่อนคล้อยของผิวคนไข้   

ฉีดสารกระตุ้นคอลลาเจนตัวอื่นแล้วสามารถฉีด Radiesse ได้หรือไม่ ? 

ทำได้ แนะนำให้ทำห่างกันอย่างน้อย 3-6 เดือน ถ้าทำคนละตำแหน่งกันสามารถทำ Radiesse ได้เลย ทั้งนี้หมอจะต้องประเมินก่อนครับ 

ฉีดฟิลเลอร์ Radiesse ร่วมกับทำ Hifu Ulthera Thermage ได้หรือไม่ ? 

ทำได้ กรณีทำในวันเดียวกัน แนะนำทำเครื่องก่อนแล้วค่อยฉีด Radiesse กรณีทำคนละวัน แนะนำให้ทำห่างกันอย่างน้อย 2-4 สัปดาห์ ในเคสที่ผิวบางมาก ๆ สามารถเลือกฉีด Radiesse เพื่อฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงก่อนทำเครื่อง

ฉีด Radiesse ร่วมกับฉีด HA Filler อื่น ๆ ได้หรือไม่ ? 

ทำได้ กรณีฉีดคนละจุดกัน แต่ถ้าฉีดในจุดเดียวกัน แนะนำให้ฉีดฟิลเลอร์ในผิวชั้นลึกก่อน ไม่แนะนำให้ฉีดฟิลเลอร์ในชั้นผิวเดียวกับ Radiesse หากต้องการฉีดฟิลเลอร์ในจุดเดียวกัน แนะนำให้เว้นระยะห่างอย่างน้อย 2 สัปดาห์


สรุป 

คนไข้ทราบดีอยู่แล้วครับว่าคอลลาเจนจำเป็นต่อการมีผิวที่อ่อนเยาว์ แต่ด้วยช่วงวัยที่เพิ่มมากขึ้น การจะรักษาคอลลาเจนให้อยู่ได้ยาวนานด้วยการดูแลตัวเองด้วย Skincare Routine อาจไม่เพียงพอ จึงต้องใช้วิธีทางการแพทย์เข้ามาช่วยแก้ปัญหา 

จุดเด่น Radiesse
จุดเด่น Radiesse

Radiesse มีคุณสมบัติเหมาะสม สามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุด เช่น ริ้วรอยร่องลึก ความหย่อนคล้อย เหี่ยวย่น และยังปรับสภาพผิวให้ดูสุขภาพดี หลังฉีด Radiesse จะไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน Type I และ Type ll ช่วยให้โครงสร้างผิวแข็งแรง ผิวเต่งตึง ผิวดูเด็ก ยังช่วยเติมวอลลุ่มให้ผิว ฟื้นฟูโครงสร้างผิวให้แข็งแรง กระชับ ยืดหยุ่นจากภายใน 

ใครที่อายุ 30 ปีขึ้นไปแล้วรู้สึกว่าผิวเริ่มมีปัญหาตามที่หมอได้อธิบายไปข้างต้น อยากคงการมีผิวเด็กให้อยู่ได้นาน ๆ Radiess เป็นอีกหนึ่งหัตถการที่แก้ปัญหาได้ตรงจุด มั่นใจได้ในผลลัพธ์ และความปลอดภัย ตัวยาผ่านการรับรองจาก FDA อเมริกา ยุโรป ไทย 


อ้างอิง 


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง Inbox Facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

หมอให้คำปรึกษา_หมอ42คน

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ สามารถศึกษานโยบายความเป็นส่วนตัวและจัดการความเป็นส่วนตัว ได้ที่ปุ่มตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า