
Radiesse Plus ปรับ Jawline ให้คมชัด
Radiesse Plus (เรเดียสซ์ พลัส) เป็น Collagen Biostimualtor ที่น่าสนใจในกลุ่มหัตถการความงาม หลายคนมีข้อสงสัยครับว่า Radiesse Plus กับ Radiesse เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร ? เพราะก่อนหน้านี้เราได้รู้จักกับ Radiesse กันไปแล้ว หมอเกริ่นก่อนครับว่าสองตัวนี้ แม้จะเป็นหัตถการงานฉีดเหมือนกัน แต่การนำมาใช้แตกต่างกัน และให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันครับ
สารบัญ Radiesse Plus
Radiesse Plus คืออะไร ?
Radiesse Plus คือ นวัตกรรมฉีดปรับกรอบหน้า Lifting & Contour ตัวแรกที่ US FDA รับรองในการสร้างโครงหน้าใหม่ โดยการลิฟติ้งกรอบหน้า ปรับโครงหน้าให้ดูคม ชัด มีมิติ คงผลลัพธ์อยู่ได้นาน 2 ปี คิดค้นและวิจัยโดย Merz Aesthetics บริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายนวัตกรรมความงามระดับโลก เช่น โบท็อก Xeomin, ฟิลเลอร์ Belotero, เครื่องยกกระชับ Ulthera

เจาะลึกส่วนประกอบสำคัญใน Radiesse Plus
Radiesse Plus มีส่วนประกอบหลักคือ CaHA (Calcium Hydroxylapatite) หรือแคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทด์ และโซเดียมคาร์บอกซีเมทิลเซลลูโลส (Sodium Carboxymethylcellulose : CMC) หลังฉีดจะเข้าสู่ชั้นผิวจะไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ฟื้นฟูการทำงานของเซลล์ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) ซึ่งเป็นเซลล์ที่ทำหน้าที่ในการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวและสร้างเส้นใยตาข่ายตรึงผิวใหม่ ทำให้ผิวยกกระชับขึ้น
นอกจากนี้ เรเดียสซ์ พลัส ยังมีส่วนผสมของ Lidocaine ช่วยบรรเทาความเจ็บระหว่างฉีดได้ครับ
Radiesse Plus ทำงานอย่างไร ?
ก่อนจะรู้ว่า Radiesse ทำงานอย่างไร ? เราจำเป็นต้องเข้าใจก่อนครับว่า คอลลาเจนสำคัญอย่างไรต่อผิว
คอลลาเจน มีความสำคัญต่อผิวอย่างมาก เพราะหากผิวของเราเสื่อมสภาพ ขาดคอลลาเจน นอกจากจะส่งผลต่อสภาพผิวโดยรวมแล้ว ยังส่งผลต่อความหย่อนคล้อยของผิว โดยเฉพาะกรอบหน้า ซึ่งเป็นส่วนที่อยู่ด้านล่างสุดของโครงสร้างใบหน้าจึงรับบทหนักที่สุดครับ
เมื่อฉีด Radiesse Plus ซึ่งมี CaHA ลักษณะเป็นทรงกลม ขนาดอนุภาคสม่ำเสมอในช่วง 25-45 ไมครอน เข้าไปบริเวณสันกราม กรอบหน้า จะช่วยเติมเต็มปรับรูปหน้าในทันที และฟื้นฟูเซลล์ไฟโบรบลาสต์ กระตุ้นให้คอลลาเจนในระยะยาวให้ผิวบริเวณนั้นแน่นยกกระชับขึ้น

กระตุ้นคอลลาเจน และสร้างเส้นใยตาข่ายตรึงผิวใหม่
Radiesse Plus ช่วยเรื่องอะไร ?
ประโยชน์ของ Radiesse Plus หลัก ๆ มี 3 เรื่องด้วยกัน คือ
- Lifting ยกกระชับให้โครงหน้าชัด
- Contour สร้างกรอบหน้าให้พุ่ง มีมิติ
- Now & Long After ให้ผลลัพธ์คมชัด เป็นธรรมชาติ นานถึง 2 ปี
ปัจจุบันเทรนด์การสร้างกรอบหน้าได้รับความนิยมทั้งผู้หญิงและผู้ชาย มีข้อมูลจาก เมิร์ซ เอสเธติกส์ ซึ่งได้ทำการสำรวจผู้ที่มีอายุ 20-49 ปี พบว่า
74% ของคนไทยต้องการปรับกรอบหน้าให้ดูดีขึ้น
กลายเป็นกระแสความงามที่ได้รับความนิยมสูงสุด นอกจากจะช่วยเสริมความมั่นใจ การมีสันกรามและกรอบหน้าที่คมชัด ยังช่วยเปลี่ยนลุค เสริมความมั่นใจได้
- Radiesse Plus ผู้ชาย สันกรามชัด กรอบหน้าคม มีมิติ เสริมลุคผู้นำโดดเด่น มั่นใจ
- Radiesse Plus ผู้หญิง หน้ายก มีมิติ กรอบหน้าคม เสริมลุคโฉบเฉี่ยว สวยคม ทันสมัย
Radiesse Plus เหมาะกับใคร ?
- ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 21 ปีขึ้นไป ที่ไม่มีกรอบหน้า ใบหน้าขาดมิติ
- ผู้ที่ต้องการปรับกรอบหน้าให้คมชัด เพิ่มความมั่นใจ
- ผู้ที่อายุมากขึ้น จากหน้า V-Shape เป็น U-Shape
- ผู้ที่โครงหน้าไม่ชัด หน้าดูแบน เส้นกรอบหน้าหาย
บริเวณที่เหมาะกับการฉีด Radiesse Plus
ตำแหน่งหลักที่เหมาะกับการฉีด Radiess Plus จะครอบคลุมแต่บริเวณใต้กระดูกโหนกแก้ม สันกราม และกรอบหน้า หรือที่เรียกว่าตำแหน่ง Z Line โดยเทคนิคในการสร้าง Z Line จะขึ้นอยู่กับประสบการณ์และศิลปะในการออกแบบใบหน้าของแพทย์แต่ละคน

(นพ.สิทธินันท์ มะโนปีน เลข ว.40440)
จุดเด่น/ข้อดี ของ Radiesse Plus
- แก้ปัญหาเฉพาะจุด Radiesse Plus คิดค้นและพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ Contour & Lifting กรอบหน้าโดยเฉพาะ
- ปลอดภัยสูง ผ่านการรับรองจาก US FDA และอย.ไทย สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ
- เจ็บน้อย เนื่องจากมียาชาเป็นส่วนประกอบ ก่อนฉีดจึงไม่จำเป็นต้องฉีดยาชา ช่วยเพิ่มความสะดวก และลดความเจ็บขณะฉีด
- ผลลัพธ์อยู่ได้นาน หลังฉีด Radiesse Plus คงผลลัพธ์อยู่ได้นาน 2 ปี สามารถกระตุ้นคอลลาเจนได้ในระยะยาว
จุดด้อย/ข้อเสีย ของ Radiesse Plus
- ผลลัพธ์อยู่ไม่ถาวร สามารถกลับมาฉีดซ้ำได้เพื่อคงผลลัพธ์ ตามคำแนะนำของแพทย์
- ผลลัพธ์ไม่ได้ตามคาดหวัง กรณีนี่เกิดจากฉีด Radiesse Plus กับแพทย์ที่ขาดประสบการณ์ ไม่รู้เทคนิคการฉีดและตำแหน่งฉีดที่แม่นยำ
เปรียบเทียบ Radiesse Plus VS Radiesse
ตามที่หมอเกริ่นไปข้างต้นครับว่า ก่อนหน้านี้เราเคยรู้จัก Radiesse กันมาแล้ว สำหรับใครที่อยากทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Radiesse นวัตกรรมฟื้นฟูผิวใหม่ เติมคอลลาเจนให้ผิวดู Young สามารถคลิกอ่านเพิ่มเติมได้ครับ
ในหัวข้อนี้หมอจะมาเปรียบเทียบให้เห็นความแตกต่างของทั้ง 2 ตัวนี้กันครับว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร ?
หมอสรุป 5 ความแตกต่าง Radiesse Plus VS Radiesse ดังนี้
- ส่วนประกอบหลัก
Radiesse Plus ได้รับการพัฒนาให้มียาชาในส่วนประกอบตั้งแต่การผลิต ต่างจาก Radiesse ธรรมดา ที่ไม่มียาชาผสม คนไข้ที่กลัวเจ็บมาก ๆ จึงจำเป็นต้องฉีดยาชาหรือแปะยาชาก่อน แต่ถ้าไม่กลัวเจ็บ ระหว่างฉีดจะมีการประคบน้ำแข็ง ก็ช่วยลดความเจ็บได้เช่นเดียวกันครับ
- คุณสมบัติในการใช้
ความโดดเด่นของ Radiesse Plus คือ เป็นเนื้อเจลที่มีความหนืดสูงและคงรูปได้ดีกว่า มีความแน่นและแข็งแรงมากกว่าเมื่อเทียบกับ Radiesse ส่งผลให้เมื่อฉีดลงบนใบหน้า จะยึดเกาะกับเนื้อเยื่อได้ทันที ทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว
- ชั้นผิวที่ฉีด
Radiesse Plus จะเน้นการปรับรูปหน้าเป็นหลัก โดยจะฉีดในผิวชั้นหนังแท้ (Dermis) และชั้นใต้ผิวหนัง (Subcutaneous Tissue) ซึ่งจะต่างจาก Radiesse ที่เน้นการปรับสภาพผิวในผิวชั้นตื้น และฟื้นฟูผิวถึงระดับโครงสร้างผิวชั้นลึก เพื่อเติมเต็มเพิ่ม Volume
รวมข้อดี ฉีด Radiesse มีอะไรอีกบ้าง ? ดูเพิ่มเติมในคลิปได้ครับ
- ตำแหน่งฉีด
ตำแหน่งฉีดของ Radiesse Plus จะเหมาะกับบริเวณสันกรามและกรอบหน้า แต่ถ้าเป็น Radiesse จะเหมาะกับฉีดเพื่อเติมเต็มเพิ่ม Volume เช่น หน้าแก้ม ร่องแก้ม ร่องมุมปาก หลังมือ รวมทั้งเพิ่มความชุ่มชื้น ลดริ้วรอยเหี่ยวย่นบริเวณลำคอ และหลังมือ
- ผลลัพธ์หลังฉีด
ข้อนี้น่าจะเป็นข้อที่เหมือนกันของ Radiesse Plus และ Radiesse ครับ โดยหลังฉีดสามารถเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงได้ทันที และคงผลลัพธ์อยู่ได้นาน 2 ปี
Radiesse Plus VS Filler ต่างกันอย่างไร ?
สำหรับคนไข้ที่มีความสงสัยว่าตำแหน่งสันกราม กรอบหน้า สามารถฉีดฟิลเลอร์กรอบหน้า มีฟิลเลอร์หลายยี่ห้อ หลายรุ่นให้เลือกใช้มากกว่า ซึ่งจะกล่าวเช่นนั้นก็ได้ครับ แต่ที่ Radiesse Plus ทำได้มากกว่าคือสามารถกระตุ้นให้เซลล์สร้างคอลลาเจนได้ด้วย และให้ผลลัพธ์ที่ยั่งยืนมากกว่าฟิลเลอร์ทั่วไป
แต่ในการเลือกวิธีใดเพื่อแก้ปัญหา ต้องพิจารณาหลายปัจจัยประกอบกันครับ ถ้าไม่ได้ต้องการเรื่องกระตุ้นคอลลาเจน ต้องการเติมเต็มปรับรูปหน้าได้ทันที ฟิลเลอร์กรอบหน้า มีหลายยี่ห้อ หลายเนื้อ เช่น ฟิลเลอร์เนื้อแน่น และฟิลเลอร์เนื้อทนที่มีความคงตัวสูง และปรับรูปหน้าได้ดูเป็นธรรมชาติครับ
ขั้นตอนการฉีด Radiesse Plus
- ปรึกษากับแพทย์เพื่อประเมินปัญหาและความต้องการ
- ทำความสะอาดผิวบริเวณที่จะฉีด
- ฉีด Radiesse Plus เพื่อปรับรูปหน้า เช่น บริเวณสันกราม กรอบหน้า
- หลังฉีดสามารถใช้หน้าได้ตามปกติ ไม่ต้องพักฟื้น
- แพทย์จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลตัวเอง วิธีปฏิบัติตัว เช่น หลีกเลี่ยงการสัมผัส กด นวดบริเวณที่ฉีด พร้อมนัดติดตามผลหลังทำ
ผลลัพธ์หลังฉีด Radiesse Plus กี่วันเห็นผล ?
หลังฉีด Radiesse Plus เห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังทำ โดยจะเข้าไปเพิ่มความคมชัดของสันกรามและกรอบหน้า จากนั้นจะค่อย ๆ กระตุ้นคอลลาเจน เห็นผลชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ครับว่าหน้ายกกระชับขึ้น
Radiesse Plus อยู่ได้นานแค่ไหน ?
ผลลัพธ์หลังฉีด Radiesse Plus อยู่ได้นาน 2 ปี และการดูแลตัวเองเพื่อรักษาคอลลาเจนใหม่ในชั้นผิว
Radiesse Plus อันตรายไหม ? มีผลข้างเคียงหรือไม่ ?
การฉีด Radiesse Plus มีความปลอดภัย ได้ยอมรับในกว่า 85 ประเทศ และได้รับมาตรฐานความปลอดภัยจากยุโรป สหรัฐอเมริกา และไทย
เพื่อความมั่นใจ ควรฉีดกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน แพทย์มีประสบการณ์ และใช้ Radiesse Plus ของแท้ สามารถตรวจสอบรายชื่อคลินิกที่ใช้ผลิตภัณฑ์แท้ ได้ที่ www.merzaesthetics.co.th ที่สำคัญ ควรรับบริการจากแพทย์ที่ผ่านการเทรนจากบริษัทเท่านั้น ซึ่งสามารถตรวจสอบรายชื่อแพทย์ได้ทางเว็บไซต์เช่นกัน
ส่วนอาการ เช่น รอยแดงจากเข็มหรือรอยเขียวช้ำ ถือเป็นอาการปกติที่เกิดขึ้นได้ครับ จะหายได้เองใน 1-3 วัน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับน้ำหนักมือของแพทย์ผู้ฉีดด้วยครับ หากแพทย์มือเบาก็จะช่วยลดอาการเหล่านี้ได้
Radiesse Plus ทำคู่กับหัตถการใดได้บ้าง ?
Radiesse Plus สามารถทำร่วมกับหัตถการอื่นได้ ในกรณีที่ฉีดคนละชั้นผิว คนละตำแหน่งครับ หมอจะช่วยประเมินและให้คำแนะนำว่าควรทำหัตถการไหนก่อนหลัง เช่น
ฟิลเลอร์ : ในตำแหน่ง เช่น ร่องใต้ตา ร่องแก้ม สามารถฉีดฟิลเลอร์เพื่อเติมเต็มริ้วรอยร่องลึก ส่วนตำแหน่งที่ต้องการเพิ่มมิติใบหน้า เช่น สันกราม กรอบหน้า สามารถเลือกฉีด Radiesse Plus เพิ่มความคมชัด ปรับกรอบหน้าเรียว V Shape
โบท็อก : การฉีด Radiesse Plus กับโบท็อก จะช่วยเสริมผลลัพธ์ในการยกกระชับให้ดียิ่งขึ้นครับ โดยโบท็อกนอกจากจะช่วยลดริ้วรอย ชะลอการเกิดริ้วรอยใหม่ ช่วยให้ผิวเต่งตึง ขณะที่ Radiesse Plus ช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย ใบหน้าดูมีมิติมากขึ้น
เครื่องยกกระชับ : Radiesse Plus สามารถทำร่วมกับ Thermage FLX หรือ Ulthera Prime ได้ครับ โดยเว้นระยะห่างกันประมาณ 1 เดือน เช่น ทำ เครื่องยกกระชับก่อน จากนั้น 1 เดือนค่อยฉีด Radiesse Plus หรือถ้าฉีด Radiesse Plus ก่อน อีก 1 เดือน ก็มายกกระชับด้วยเครื่อง จะช่วยเสริมผลลัพธ์ให้ดียิ่งขึ้นครับ
Collagen Biostimulator : ในกลุ่มสารกระตุ้นคอลลาเจน เน้นงานผิว มีหลายตัวครับ เช่น Sculptra, Radiesse, Gouri ฉีดพร้อมกันได้ในกรณีที่ฉีดคนละตำแหน่ง คนละชั้นผิว หมอจะประเมินก่อนครับ โดยทั่วไปหากฉีด Sculptra หรือ Collagen Biostimulator ตัวอื่น ๆ มาก่อน แนะนำให้เว้น 3-6 เดือนขึ้นไป ก่อนฉีด Radiesse Plus
คำแนะนำก่อนและหลังการฉีด Radiesse Plus
ก่อนฉีด Radiesse Plus
- หลีกเลี่ยงยาแอสไพริน และ NSAIDs เช่น Ibuprofen, Diclofenac, Ponstan, วิตามิน St. John’s Wort, Ginkgo Biloba, Primrose Oil, Garlic, Ginseng, และ Vitamin E อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนฉีด
- งดการดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนการฉีด เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดรอยช้ำและบวม
- หากมีประวัติการแพ้ยาหรือสารเติมเต็มที่เคยใช้ ควรแจ้งแพทย์ก่อน
- แม้ว่า Radiesse จะไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้น แต่ควรวางแผนเวลาหลังการฉีด เพื่อให้มีเวลาสำหรับการพักผ่อนหากมีอาการบวมหรือช้ำเล็กน้อย
หลังฉีด Radiesse Plus
- หลีกเลี่ยงการจับ ลูบ แตะ บริเวณที่ฉีด
- ลดกิจกรรมที่ต้องใช้กำลังหรือออกแรงมาก ๆ
- งดการแต่งหน้า 12 ชั่วโมง หรือจนกว่ารอยเข็มจะหายดี
- หลีกเลี่ยงแสงแดดและความร้อน 24 ชั่วโมง
- หลีกเลี่ยงหัตถการที่ใช้ความร้อนสูง เช่น ซาวน่า เลเซอร์ร้อน อย่างน้อย 2 สัปดาห์
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่ อย่างน้อย 2 สัปดาห์
สรุป ฉีด Radiesse Plus ดีไหม ?
Radiesse Plus เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยครับสำหรับในการเพิ่มความมั่นใจ Lift & Contour ปรับกรอบหน้าให้คมชัด ด้วยสารประกอบหลัก CaHA ที่มีความปลอดภัย กระตุ้นคอลลาเจน และให้ผลลัพธ์ที่ยาวนาน
ที่ V Square Clinic หมอจะประเมินคนไข้เป็นรายบุคคลครับ เนื่องจากการปรับรูปหน้ามีรายละเอียดมากครับ อีกทั้งมีหลายหัตถการ และเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มความคมชัดของกรอบหน้าได้โดยไม่ต้องผ่าตัด ในทุกขั้นตอนต้องอาศัยความพิถีพิถันและประสบการณ์ของแพทย์ครับ ในการแนะนำวิธีที่เหมาะสม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดครับ
อ้างอิง
- Radiesse (+) [Instructions for use]. Franksville, WI: Merz North America, Inc; 2023.
- Moradi A, et al. J Drugs Dermatol. 2021;20(11):1231-1238.
- Moers-Carpi M, et al. Dermatol Surg. 2007;33(suppl 2):S144-S151.
- https://radiesse.com/instructions-for-use/
สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง Inbox Facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ
