คลื่นวิทยุ RF ยกกระชับใบหน้า
คลื่นวิทยุ RF (Radio-Frequency) หรือคลื่นวิทยุความถี่สูง คือเทคโนโลยียกกระชับใบหน้าที่ได้รับความนิยมไม่แพ้การผ่าตัดศัลยกรรม เหมาะสำหรับคนที่ต้องการยกกระชับใบหน้า ลดริ้วรอย แก้ไขปัญหาผิวหย่อนคล้อย แต่กลัวการผ่าตัด และไม่อยากพักฟื้นนาน
ปัจจุบันเครื่อง RF ได้มีการผลิตออกมาหลายรุ่น หลายยี่ห้อให้เลือกใช้ และได้มีการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาใบหน้าได้อย่างครอบคลุม มีความปลอดภัย และมีผลข้างเคียงน้อยที่สุด
สำหรับใครที่มีข้อสงสัยว่า เครื่อง RF คืออะไร ? มีหลักการทำงานอย่างไร ? ช่วยยกกระชับใบหน้าได้จริงหรือ ? เหมาะสำหรับใครบ้าง ? หลังทำควรดูแลตัวเองอย่างไรให้ผลลัพธ์อยู่ได้นาน หมอจะมาให้คำตอบในบทความนี้ครับ
คลื่นวิทยุ RF คืออะไร ?
คลื่นวิทยุ RF คือ เทคโนโลยีความถี่คลื่นวิทยุ ที่มีการปล่อยคลื่นไฟฟ้าอ่อน ๆ โดยมีความถี่อยู่ในช่วง 0.3-0.5 MHz (เมกะเฮิรตซ์) ซึ่งเป็นเครื่องมือยกกระชับที่ได้รับการรับรองจากผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวหนัง องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (U.S. FDA) ว่ามีความปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียงต่อร่างกาย
การทำ RF สามารถใช้ยกกระชับได้หลายตำแหน่ง เช่น ใบหน้าบริเวณ หน้าผาก ระหว่างคิ้ว รอบดวงตา ร่องแก้ม รอบปาก กรอบหน้า ตลอดไปจนถึง ลำคอ เหนียงใต้คาง ต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง หลังทำผิวจะดูกระชับ หย่อนคล้อยน้อยลง ผิวดูอ่อนวัยโดยที่ไม่ต้องผ่าตัดศัลยกรรม
RF (Radio-Frequency) ทำงานอย่างไร ?
เครื่อง RF มีหลักการทำงานโดยการปล่อยคลื่นวิทยุความถี่สูง RF (Radio-Frequency) ที่มีช่วงความถี่ 0.3-0.5 MHz เข้าสู่ผิวหนังชั้นบน ผ่านแท่งโลหะหรือหัวโลหะขนาดต่าง ๆ เครื่อง RF จะทำงานโดยการนวด ผ่านชั้นผิวหนังแต่ละชั้น ได้แก่
ลักษณะโครงสร้างชั้นผิวหนัง
- ชั้นหนังกำพร้า (Epidermis) เป็นชั้นที่อยู่นอกสุด มีความหนาประมาณ 0.05-0.1 มิลลิเมตร ทำหน้าที่ปกป้องผิวจากมลพิษ แบคทีเรียและป้องกันการสูญเสียน้ำ ในชั้นนี้คลื่นวิทยุ RF จะกระตุ้นให้เกิดการแบ่งตัวของเซลล์เพิ่มขึ้น ทำให้รูขุมขนเล็กลง และขจัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ ทำให้ผิวดูกระจ่างใส เรียบเนียนขึ้น
- ชั้นหนังแท้ (Dermis) เป็นชั้นที่ความหนาและมีความยืดหยุ่น ประกอบไปด้วยคอลลาเจน (80-85%) และ อิลาสติน (2-4%) ทำหน้าที่ช่วยให้ผิวมีสุขภาพดี ดูอ่อนเยาว์ ชุ่มชื้น มีความยืดหยุ่น ดูเต่งตึง ในชั้นนี้คลื่นวิทยุ RF จะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเส้นใยอีลาสตินให้เกิดขึ้นใหม่ ทำให้ผิวดูกระชับ เต่งตึงและยืดหยุ่นขึ้น
- ชั้นไขมัน (Subcutis) เป็นชั้นที่อยู่ในสุดของชั้นผิวหนัง มีความหนาถึง 10 เซนติเมตร ทำหน้าที่กักเก็บพลังงาน และเป็นเกราะป้องกันการกระแทกให้กับอวัยวะภายใน ในชั้นนี้คลื่นวิทยุ RF จะไปสลายไขมันหรือลดการสะสมของไขมันส่วนเกิน ลดเซลลูไลต์ พร้อมกระชับสัดส่วน
- ชั้นกล้ามเนื้อส่วนบน (SMAS) เป็นชั้นผิวที่มีความสัมพันธ์กับผิวหนังและชั้นไขมันใต้ผิวหนังด้านบน มีโครงสร้างที่เป็นเนื้อเยื่อพังผืดทำหน้าที่ห่อหุ้มกล้ามเนื้อ และเป็นผิวหนังชั้นเดียวกับการผ่าตัดศัลยกรรมเพื่อดึงหน้าให้ตึง ดูกระชับขึ้น ในชั้นนี้คลื่นวิทยุ RF จะดึงชั้นผิว SMAS ให้ตึงขึ้น ส่งผลให้ผิวชั้นบนดูเต่งตึงตามไปด้วย ผลที่ตามมาคือใบหน้าของเราก็จะดูยกกระชับมากยิ่งขึ้น
- ชั้นกล้ามเนื้อใบหน้า (Muscle) เป็นชั้นที่สามารถหดตัวได้ มีความยืดหยุ่น มีความเกี่ยวข้องกับการใช้แสดงความรู้สึกทางสีหน้า และการเคี้ยวอาหาร
(หลักการทำงานของ RF (Radio-Frequency))
เมื่อคลื่นวิทยุ RF ผ่านชั้นผิวหนังแต่ละชั้นก็จะกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนรูปของพลังงานภายใน ส่งผลให้อุณหภูมิในร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลง โดยจะมีอุณหภูมิสูงขึ้นประมาณ 3-5 °C ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่ปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียงต่อร่างกาย เพราะอุณหภูมิของร่างกายจะถูกกระตุ้นให้สูงขึ้นไม่เกิน 42 °C ครับ
คลื่นวิทยุความถี่สูง RF มีกี่แบบ ?
คลื่นวิทยุ RF ที่ใช้มีหลายแบบครับ แต่ละแบบมีประสิทธิภาพและให้ผลลัพธ์ในการทำงานที่ต่างกัน ดังนี้
| Bipolar RF | ส่งพลังงาน RF แบบสองขั้ว พลังงานกระจายอยู่ในบริเวณที่ตื้นกว่าเมื่อเทียบกับ Monopolar RF |
|---|---|
| Monopolar RF | ส่งพลังงาน RF แบบขั้วเดียว โดยมีแผ่นอิเล็กโทรดรองที่ด้านล่าง ระดับพลังงานแรงและลงลึกกว่าแบบ Bipolar RF เจ็บกว่า แต่ได้ผลลัพธ์ดีกว่า และอยู่ได้นานกว่า |
| Tripolar RF | ส่งพลังงานแบบสามขั้ว (Bipolar RF+ Monopolar RF ในเครื่องเดียวกัน) ปัจจุบันไม่ค่อยได้รับความนิยม เพราะถ้าเทียบแล้ว ทำ Monopolar RF เดี่ยว ๆ ได้ผลลัพธ์ดีกว่า |
| Multipolar RF | ส่งพลังงานแบบหลายขั้ว ลงลึกกว่า Bipolar RF ควบคุมทิศทางได้ดีกว่า Monopolar RF เจ็บน้อยกว่า Monopolar RF เพราะใช้พลังงานน้อยกว่า แต่ผลลัพธ์สู้ทำ Monopolar RF เดี่ยว ๆ ไม่ได้ ปัจจุบันจึงไม่ได้รับความนิยมเช่นกัน’ |
คลื่นวิทยุความถี่สูง RF ทั่วไป กับ Thermage ต่างกันอย่างไร ?
คลื่นวิทยุความถี่สูง RF ทั่วไป (มักใช้เรียก Biopolar RF) กับ Thermage ซึ่งเป็นชื่อยี่ห้อเครื่องยกกระชับ มีหลักการทำงานโดยใช้หลักการปล่อยพลังงานความร้อนคลื่นวิทยุเหมือนกัน
ต่างกันตรงที่คลื่นวิทยุทั่วไป จะเป็นแบบ Bipolar RF เหมาะสำหรับผิวตื้น ๆ ไม่หย่อนคล้อยมากนัก ไม่เจ็บขณะทำ ผลลัพธ์อยู่ได้ไม่กี่เดือน ส่วน Thermage เป็นแบบ Monopolar RF สามารถยกกระชับผิวหน้าที่หย่อนคล้อย กำจัดไขมันส่วนเกินตามลำตัวได้ดีครับ เพราะพลังงานแรงและลงลึก ขณะทำจึงรู้สึกเจ็บ แต่ผลลัพธ์คุ้มค่าครับ อยู่ได้นานเป็นปี ๆ
Thermage Monopolar RF (Radio frequency)
มีพลังงาน 40-50°C เป็นวงกว้าง ครอบคลุมทั้งชั้นผิว
ช่วยเรื่องลดไขมัน และช่วยให้ผิวเนียนนุ่ม
Thermage จะทำงานโดยส่งผ่านพลังงานความร้อน (Monopolar RF) หรือคลื่นวิทยุเป็นก้อนความร้อนขนาด 3-16 cm2 ที่เป็นแบบขั้วเดียวลงในผิวชั้นบนจนถึงชั้นไขมัน โดยจะปล่อยพลังงานความร้อนออกมาเป็น Volumatic ทำให้สามารถสร้างความร้อนใต้ผิวหนังได้ลึกและทั่วถึงมากกว่าเครื่องมืออื่น ๆ ซึ่งความร้อนจะทำให้ผิวเกิดการหดตัว เหมือนกับการเอาเนื้อไปย่างแล้วเนื้อเกิดการหดตัว
จุดเด่น Thermage
การทำ Thermage มีจุดเด่นในการลดชั้นไขมันที่ใบหน้า ทำให้ผิวแน่นกระชับขึ้น และเพิ่ม Skin Quality (ผิวเด็ก) เหมาะสำหรับคนที่ทนความเจ็บได้ในระดับสูงจึงจะคุ้มค่าในการทำ อีกทั้งยังสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ ทำให้ผิวแน่นกระชับขึ้น เห็นผลลัพธ์นาน 1-2 ปี หลังทำไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ
เครื่อง Thermage ที่ดีที่สุดและได้รับการยอมรับ คือ Thermage FLX ที่เป็นเครื่องช่วยยกกระชับรุ่นใหม่ล่าสุด สามารถปล่อยพลังงานได้อย่างที่แม่นยำ โดยมี AccuREP เซ็นเซอร์วัดความร้อนบนผิว เพื่อควบคุมการปล่อยหลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในทุก shot พร้อมด้วยหัวทิปรุ่นใหม่ ที่ช่วยกระจายพลังงานได้ดีขึ้น และสามารถลงลึกถึงชั้นผิวขึ้นกว่าเดิม สำหรับที่ V Square Clinic เลือกใช้เครื่องรุ่นล่าสุดครับ
“ ข้อควรรู้ : การทำ Thermage ควรทำกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ ผ่านการอบรม Thermage FLX Physician Training และคลินิกที่ได้มาตรฐาน ถึงจะมั่นใจได้ในความปลอดภัย และผลลัพธ์ที่ออกมาครับ ”
คลื่นวิทยุ RF อันตรายไหม ?
การยกกระชับหน้าด้วยคลื่นวิทยุ RF เป็นเทคโนโลยีความงามที่มีความปลอดภัยครับ เพราะผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา ประเทศสหรัฐอเมริกา หรือ US-FDA และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย.ไทย เรียบร้อยแล้ว เนื่องจากความถี่ของคลื่นวิทยุ ไม่ได้ส่งผลอันตรายใด ๆ ต่อผิวหนังหรือร่างกาย ในกรณีที่เกิดรอยแดงหรือบวมเล็กน้อยหลังทำ ถือว่าเป็นอาการปกติครับ สามารถหายไปภายใน 24 ชั่วโมง
ส่วนผลข้างเคียงด้านอื่น ๆ อาจมาจากการใช้เครื่องปลอมที่ไม่ได้มาตรฐาน ผลลัพธ์ที่ได้อาจทำแล้วไม่เห็นผล ในกรณีร้ายแรงอาจทำให้เกิดความเสียหายกับผิวหน้าได้ เช่น พื้นผิวใบหน้าเกิดรอยบุ๋ม ขรุขระ ผิวหน้าไหม้ เกิดรอยดำ อักเสบ หรือใบหน้าเสียทรงได้ครับ ดังนั้นก่อนทำต้องศึกษาข้อมูลให้ดี และต้องมั่นใจก่อนว่าคลินิกนั้น ๆ ใช้เครื่องแท้ ที่ได้มาตรฐานหรือไม่
ประโยชน์ของคลื่นวิทยุ RF
- ช่วยกระชับรูขุมขน ปรับเซลล์ผิวให้เรียบเนียน กระจ่างใส แลดูอ่อนเยาว์
- ช่วยยกกระชับใบหน้า แก้ปัญหาความหย่อนคล้อย ลดริ้วรอยได้ทั่วใบหน้า เช่น ริ้วรอยหน้าผาก ระหว่างคิ้ว รอบดวงตา ร่องแก้ม รอบปาก กรอบหน้า ลำคอ เหนียงใต้คาง รวมไปถึงช่วยลดไขมันสะสมบริเวณต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง เอว สะโพก
- คลื่นวิทยุ RF ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ส่งผลให้ผิวยืดหยุ่น ดูเต่งตึง
- ช่วยปรับรูปหน้าเรียว V Shape ดูมีมิติ
ข้อจำกัดของคลื่นวิทยุ RF
- การทำ RF ไม่เหมาะสำหรับหญิงมีครรภ์ และหลังคลอดบุตร 6 เดือน
- ไม่แนะนำให้ทำในบริเวณที่มีการอักเสบ แผลถลอก หรือบริเวณที่เคยได้รับการผ่าตัดมาน้อยกว่า 6 เดือน หรือแผลผ่าตัดยังหายไม่สนิท
- ผู้ที่เป็นโรคไต หรือผู้ที่มีโรคที่เกิดจากระบบไหลเวียนเลือดผิดปกติ เช่น ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ ที่ต้องใส่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ (pacemaker)
- ผู้ที่สูญเสียความรู้สึก หรือการรับความรู้สึกบกพร่อง
คลื่นวิทยุ RF ใครบ้างที่ควรทำ
- การทำ RF เหมาะสำหรับคนที่ต้องการลดริ้วรอย ความหย่อนคล้อย กระชับใบหน้าให้เต่งตึง แต่กลัวเข็ม ไม่อยากฉีดโบท็อก ฟิลเลอร์ หรือร้อยไหม กลัวการผ่าตัด ไม่มีเวลาพักฟื้น
- ผู้ที่มีเซลลูไลต์ ไขมันส่วนเกินสะสม บริเวณที่ลดได้ยาก เช่น หน้าท้อง ต้นขา สะโพก หรือคุณแม่หลังคลอด ที่อยากจะปรับรูปร่างให้เข้าที่เร็ว กระชับขึ้น
- ผู้ที่มีเหนียงใต้คาง มีแก้มห้อย ต้องการลดแก้ม เหนียง กระชับกรอบหน้าให้ดูชัดขึ้น
- ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าเรียว V Shape
- ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวหน้า กระชับรูขุมขน ปรับใบหน้ากระจ่างใส แลดูอ่อนเยาว์ขึ้น
การดูแลตัวเอง หลังใช้คลื่นวิทยุความถี่สูง RF
หลังยกกระชับหน้าด้วย คลื่นวิทยุ RF อาจมีผิวแดง ชมพูระเรื่อ หรือบวมเล็กน้อย สามารถหายได้เอง ประมาณ 1-2 ชั่วโมง หลังจากนั้นสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ โดยไม่ต้องพักฟื้น และปฏิบัติตัวดังนี้
- งดการทำทรีตเมนต์ ขัดผิว หรือทำเลเซอร์อื่น ๆ ประมาณ 2 สัปดาห์
- หลีกเลี่ยงปัจจัยต่าง ๆ ที่อาจทำให้ผิวกลับมาหย่อนคล้อยและเกิดริ้วรอยได้อีก เช่น แสงแดด การสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อให้ผิวได้ฟื้นฟูอย่างเต็มที่
- พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำมาก ๆ
สรุป คลื่น RF เทคโนโลยียกกระชับหน้าตึง ไม่ต้องผ่าตัดดึงหน้า
การทำ RF สามารถช่วยยกกระชับใบหน้าให้ดูเต่งตึง ลดริ้วรอยก่อนวัย ปรับผิวให้ดูกระจ่างใส และช่วยลด volume ของใบหน้า ทำให้หน้าเรียวขึ้น อีกทั้งยังช่วยสลายไขมันสะสม เหมาะสำหรับคนที่ไม่อยากผ่าตัด เพราะกลัวเจ็บ หรือกลัวเข็ม ไม่มีเวลาพักฟื้น
การเลือกเครื่องคลื่นวิทยุ RF แท้ และทำโดยหมอที่มีประสบการณ์ก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กันครับ เพราะหากคลินิกใช้เครื่องมือที่ไม่ได้มาตรฐาน เครื่องจะให้พลังงานที่ไม่สม่ำเสมอ ก็อาจทำให้ผิวไหม้ หน้าเปลี่ยนรูปได้ การทำ Thermage FLX หรือคลื่นวิทยุ RF ที่เห็นผลปลอดภัย ควรเลือกทำกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน และทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์เท่านั้นครับ
สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้ง 30 สาขา หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ
