คอเหี่ยว

คอเหี่ยว ปัญหาผิวที่ต้องใส่ใจ

การมีลำคอที่เรียบเนียนและเต่งตึง นับเป็นสัญญาณที่ดีว่าผิวคอของเรายังดูอ่อนเยาว์ แต่หากลำคอเริ่มหย่อนคล้อยหรือมีริ้วรอย แม้จะดูแลผิวหน้าดีแค่ไหน หากไม่ใส่ใจบริเวณคอ ผิวก็ยังแสดงอายุออกมาได้ชัดเจน โดยเฉพาะในคนที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไปครับ

สารบัญ คอเหี่ยว


คอเหี่ยว มีลักษณะอย่างไร ?

ลักษณะคอเหี่ยว

คอเหี่ยว คือภาวะที่ลำคอสูญเสียความกระชับ ทำให้ผิวหนังบริเวณนี้ดูหย่อนคล้อย มีริ้วรอย และขาดความยืดหยุ่น ซึ่งมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัยครับ โดยเฉพาะกล้ามเนื้อแพลทิสมา (Platysma) ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อหลักบริเวณลำคออ่อนแรงลงจากการใช้งานมานาน

เมื่อเวลาผ่านไป ร่วมกับการที่ร่างกายผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินน้อยลง ผิวหนังบริเวณคอจึงเริ่มเสื่อมสภาพ ขาดความแข็งแรง และไม่สามารถคืนตัวได้ดี

ผลลัพธ์ที่ตามมาคือ คอเหี่ยวย่นและหย่อนคล้อย ซึ่งเป็นสัญญาณของผิวที่เริ่มเสื่อมถอยตามอายุ โดยมักเริ่มเห็นชัดในช่วงอายุประมาณ 30 ปีขึ้นไป และจะยิ่งชัดขึ้นหากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมครับ

ลักษณะคอเหี่ยวสามารถสังเกตได้ดังต่อไปนี้

  • ผิวลำคอมีริ้วรอย และย่นอย่างชัดเจน
  • เกิดรอยพับชัดเจนเมื่อเคลื่อนไหวหรือก้มเงยศีรษะ
  • เส้นคอหย่อนคล้อยทำให้เกิดความไม่มั่นใจในการแต่งกาย โดยเฉพาะเสื้อผ้าที่เปิดลำคอ

คอเหี่ยวสามารถกลับมาเต่งตึงได้หรือไม่ ?

คอเหี่ยว ที่เกิดจากความหย่อนคล้อยของผิว สามารถฟื้นฟูและยกกระชับให้กลับมาเต่งตึงได้ โดยไม่จำเป็นต้องผ่าตัดครับ อย่างวิธีพื้นฐานเลยคือ เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวบริเวณลำคอด้วยการทามอยเจอร์ไรเซอร์อย่างสม่ำเสมอ เพราะผิวที่แห้งกร้าน นำมาซึ่งการเกิดริ้วรอย ผิวหย่อนคล้อยได้ง่าย ส่งผลให้ผิวดูแก่ก่อนวัย

สำหรับใครที่ต้องการดูแล และมองหาวิธีรักษาคอเหี่ยวให้กลับมาเต่งตึงแบบเห็นผล ในบทความนี้หมอได้มีข้อมูลมาแชร์กันด้วยครับ


คอเหี่ยวเกิดจากอะไร ?

  • อายุที่เพิ่มขึ้น ทำให้คอลลาเจนและอีลาสตินลดลง ส่งผลให้ผิวหย่อนคล้อย โดยเฉพาะในผู้หญิงเมื่อเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน
  • การถูกแสงแดดมากเกินไป เพราะรังสียูวีทำลายเซลล์ผิว ทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย
  • การสูญเสียน้ำและความชุ่มชื้น ทำให้ผิวยิ่งแห้ง และย่นเร็วขึ้น
  • ท่านอนผิดท่า เช่น การนอนก้มหน้าหรือก้มคอ ใช้โทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ทำให้กล้ามเนื้อคอหย่อนคล้อยเร็วขึ้น ซึ่งในปัจจุบันมักเรียกว่า “Tech Neck”
  • พฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอลล์ และการขาดการดูแลผิว
  • ขาดการออกกำลังกายเฉพาะส่วน อย่างการบริหารกล้ามเนื้อลำคอ ทำให้ผิวขาดความยืดหยุ่น และเสี่ยงต่อการหย่อนคล้อย

คอเหี่ยวส่งผลอย่างไรบ้าง ?

คอเหี่ยว ส่งผลอย่างไร

แม้ปัญหาคอเหี่ยวจะไม่ได้ส่งผลร้ายแรงต่อสุขภาพร่างกาย แต่กลับส่งผลกระทบโดยตรงในด้านความงามและความมั่นใจ เช่น

  • ดูแก่กว่าวัย เพราะลำคอเป็นบริเวณที่สามารถเผยอายุของเราได้อย่างชัดเจน แม้จะดูแลผิวหน้าดี หากผิวลำคอเหี่ยวย่น หย่อนคล้อย ก็จะทำให้ดูแก่กว่าวัย
  • สูญเสียความมั่นใจในการแต่งกาย โดยเฉพาะเมื่อสวมใส่เสื้อผ้าที่เปิดช่วงลำคอ เช่น ชุดเปิดไหล่หรือเสื้อคอวี เพราะไม่อยากเผยผิวลำคอที่ไม่กระชับ ทำให้ขาดความมั่นใจในการแสดงออก
  • ส่งผลต่อบุคลิกภาพ รู้สึกไม่มั่นใจเมื่ออยู่ในที่สาธารณะหรือพบปะผู้คน เช่น การแสดงออกที่ไม่เป็นธรรมชาติ พยายามหลีกเลี่ยงการถ่ายรูป หรือรู้สึกอึดอัดเมื่อต้องแสดงความมั่นใจต่อหน้าผู้อื่น
  • เสี่ยงต่อการเกิดริ้วรอยถาวร เพราะหากปล่อยให้ผิวลำคอหย่อนคล้อยเป็นเวลานานโดยไม่ได้รับการดูแล ริ้วรอยและความหย่อนคล้อยจะยิ่งสะสม ทำให้การฟื้นฟูยากขึ้นในอนาคต
  • ส่งผลต่อการเคลื่อนไหว เมื่อผิวลำคอหย่อนคล้อยมากขึ้น การเคลื่อนไหวศีรษะ เช่น การก้มเงย อาจทำให้เกิดรอยพับลึกและรู้สึกไม่สบายผิว หากปล่อยไว้นาน อาจทำให้ผิวบริเวณนั้นหยาบกร้าน และเป็นริ้วรอยถาวรได้

ดังนั้นการดูแลปัญหาคอเหี่ยว จึงเป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญตั้งแต่เนิ่น ๆ เพราะเมื่อผิวลำคอเริ่มแสดงอาการหย่อนคล้อยหรือมีริ้วรอย การฟื้นฟูก็จะยากขึ้นตามเวลาด้วยครับ


รวมวิธีรักษาคอเหี่ยว คอย่น คอหย่อนยาน

การรักษาคอเหี่ยวมีหลายวิธีครับ ซึ่งในหัวข้อนี้หมอจะแบ่งข้อมูลออกเป็น 2 วิธีใหญ่ ๆ คือ

  1. วิธีรักษาคอเหี่ยวด้วยตัวเอง เหมาะกับคนที่ไม่ต้องการทำหัตถการ แต่มีวินัย สามารถดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งอาจต้องใช้เวลาในการเห็นผล
  2. วิธีรักษาคอเหี่ยวทางการแพทย์แบบไม่ต้องผ่าตัด เหมาะสำหรับคนที่ต้องการผลลัพธ์เร่งด่วน และไม่มีเวลามากพอในการดูแลตัวเองอย่างต่อเนื่อง วิธีนี้ช่วยยกกระชับผิวได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

วิธีรักษาคอเหี่ยวด้วยตัวเอง

วิธีรักษาคอเหี่ยวด้วยตัวเอง

1. เริ่มต้นดูแลด้วยการบำรุงผิวอย่างต่อเนื่อง

การบำรุงผิวบริเวณลำคอเป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้การดูแลผิวหน้า ควรใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ เพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น และเสริมสร้างความยืดหยุ่นให้กับผิว เพื่อให้ผิวลำคอยังคงความกระชับ ชะลอการเกิดคอเหี่ยว และคอย่นในระยะยาว

2. การใช้ครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ

รังสียูวีเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ผิวเสื่อมสภาพและเกิดริ้วรอยก่อนวัย ควรทาครีมกันแดดบริเวณลำคอทุกวัน แม้จะไม่ได้ออกจากบ้าน เพื่อปกป้องผิวจากแสงแดดและมลภาวะ

3. บริหารกล้ามเนื้อลำคอ

การบริหารกล้ามเนื้อลำคอหรือโยคะเฉพาะส่วน เช่น การเงยหน้าหมุนคอ หรือทำท่าบริหารกล้ามเนื้อแพลทิสมา (Platysma) เอียงศีรษะไปด้านหลังและเงยหน้าขึ้น ทำค้างไว้ 5 วินาที จะช่วยให้กล้ามเนื้อคอกระชับ แข็งแรง และเสริมสร้างความยืดหยุ่นของผิว

4. ปรับพฤติกรรมเพื่อลดการเกิดคอเหี่ยว

การนั่งก้มหน้าเล่นโทรศัพท์เป็นเวลานาน หรือการนอนในท่าที่กดทับลำคอ จะทำให้กล้ามเนื้อลำคออ่อนแรง และเสื่อมสภาพได้ง่าย ควรปรับท่านั่งให้ถูกต้อง และลดการใช้งานคอในท่าที่ผิด เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดริ้วรอยลึกที่แก้ไขได้ยากในอนาคต รวมถึงลดอาการ ตึง ปวดคอ และอักเสบเรื้อรัง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน

5. มาสก์บำรุงผิวลำคอ

นอกจากครีมบำรุงผิวแล้ว การใช้มาสก์ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับบริเวณลำคอ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการฟื้นฟูผิวได้อย่างล้ำลึก โดยเฉพาะมาสก์ที่มีส่วนผสมของกรดไฮยาลูโรนิกและเปปไทด์ ซึ่งช่วยให้ผิวอิ่มฟูและเรียบเนียน

6. ลดน้ำหนักอย่างถูกต้อง

การลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว อาจทำให้ผิวบริเวณลำคอหย่อนคล้อยได้ง่าย เนื่องจากผิวไม่มีเวลาปรับตัว ควรลดน้ำหนักอย่างค่อยเป็นค่อยไป และควรออกกำลังกายควบคู่กันไป เพื่อลดความเสี่ยงของปัญหาคอเหี่ยวหลังการลดน้ำหนัก

7. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิว

การบริโภคอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินซี วิตามินอี และคอลลาเจน จะช่วยเสริมสร้างสุขภาพผิวจากภายใน ทำให้ผิวบริเวณลำคอกระชับ และยืดหยุ่นได้ดีขึ้น ควรเน้นทานผัก ผลไม้ ธัญพืช และดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เพื่อสุขภาพที่ดีในระยะยาว

8. นวดกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตบริเวณลำคอ

การนวดเบา ๆ บริเวณลำคอช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและเพิ่มการลำเลียงสารอาหารให้กับผิว ทำให้ผิวได้รับการฟื้นฟูและลดความเสี่ยงต่อการหย่อนคล้อย การนวดสามารถทำได้ทุกวัน โดยใช้น้ำมันบำรุงผิวหรือน้ำมันอาร์แกนเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น


วิธีรักษาคอเหี่ยวทางการแพทย์แบบเร่งด่วน ไม่ต้องผ่าตัด

1. Thermage ยกกระชับผิว แก้คอเหี่ยว

Thermage คือ เครื่องมือที่ช่วยยกกระชับผิวด้วยการยิงคลื่นวิทยุ RF (Monopolar RF) ลงสู่ชั้นผิวลึกจนถึงชั้นไขมัน เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ พร้อมทั้งสลายไขมันสะสมส่วนเกิน ทำให้ผิวลำคอดูกระชับ เต่งตึง และลดรอยพับหรือริ้วรอยที่เกิดจากความหย่อนคล้อย

  • ข้อดี : หลังทำเห็นผลทันทีถึง 20 % และจะเห็นผลชัดเจนเต็มที่ใน 2-3 เดือน
  • ระยะเวลาคงผลลัพธ์ : 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการบำรุงผิวแต่ละบุคคล

2. Hifu แก้คอเหี่ยว

Hifu (High-Intensity Focused Ultrasound) ช่วยยกกระชับผิวด้วยการยิงคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูง ลงไปในชั้นผิวหนัง ลึกถึงชั้น SMAS เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และอีลาสตินใหม่ ทำให้ผิวลำคอยืดหยุ่นมากขึ้น โดยยี่ห้อ Hifu ที่ได้รับความนิยม ได้มาตรฐาน ราคาไม่สูงมาก ได้แก่ เครื่อง Ultraformer III และ Ultraformer MPT ครับ

  • ข้อดี : หลังทำจะเห็นผลทันที 20% จากนั้น 3-4 เดือน จะเห็นผลชัดเจนเต็มที่ ยิ่งทำยิ่งได้ผลลัพธ์ดีขึ้นครับ
  • ระยะเวลาคงผลลัพธ์ : 6 เดือน ถ้าใช้ค่าพลังงานที่สูงขึ้นอาจอยู่ได้ถึง 1 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการบำรุงผิวแต่ละบุคคล

3. Ulthera ยกกระชับคอเหี่ยว

Ulthera เป็นเทคโนโลยีที่ใช้ คลื่นอัลตราซาวด์ความถี่สูงแบบเฉพาะเจาะจง (Micro-Focused Ultrasound) ช่วยยกกระชับผิวลึกถึงชั้น SMAS โดยเน้นกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ในบริเวณลำคอ ช่วยฟื้นฟูผิวให้เต่งตึงเรียบเนียน กลับมากระชับ ลดริ้วรอยและเส้นพับบนลำคอโดยไม่ต้องผ่าตัด

  • ข้อดี : หลังทำเห็นผลทันที 30% ผลลัพธ์จะค่อย ๆ ดีขึ้นขึ้นใน 1-2 เดือน จากนั้นใน 2-3 เดือน จะเห็นผลเต็มที่
  • ระยะเวลาคงผลลัพธ์ : 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการบำรุงผิวแต่ละบุคคล

4. ฟิลเลอร์ เติมเต็มริ้วรอย แก้คอเหี่ยว คอย่น

ฟิลเลอร์คอ (Neck filler) เป็นการฉีดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) เพื่อแก้ปัญหาริ้วรอย ร่องลึกเส้นแนวยาวตามลำคอ หลังฉีดร่องลึกบริเวณคอจะตื้นขึ้น ผิวคอดูตึง และเรียบเนียน เหมาะกับคนที่ร่องแนวยาว มีรอยพับเป็นชั้น ๆ ตามลำคอ หรือผิวหย่อนคล้อย เหี่ยวย่นจากอายุที่มากขึ้น

  • ข้อดี : เห็นผลทันทีหลังฉีด
  • ระยะเวลาคงผลลัพธ์ : 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับรุ่นฟิลเลอร์ที่ใช้และการดูแลตัวเองหลังฉีด

5. โบท็อกซ์ ลดริ้วรอยและรอยพับบนลำคอ

การฉีดโบท็อกคอ หรือโบท็อกลิฟกรอบหน้า (บางคนเรียกการลิฟติ้งหน้า) การฉีดสารโบทูลินัมท็อกซิน เพื่อคลายกล้ามเนื้อแพลทิสมา (Platysma) ทำให้รอยย่นและเส้นพับที่เกิดจากการเคลื่อนไหว เช่น การก้มเงย หรือการแสดงสีหน้าลดลง ผิวจึงดูเรียบเนียนขึ้น อีกทั้งยังช่วยป้องกันไม่ให้รอยย่นเหล่านั้นกลายเป็นริ้วรอยถาวร เมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง

  • ข้อดี : เห็นผลหลังฉีด 3-4 วัน เห็นผลเต็มที่ประมาณ 1-2 อาทิตย์
  • ระยะเวลาคงผลลัพธ์ : 4-5 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อโบท็อกที่ใช้และการดูแลตัวเองหลังฉีด

6. ฉีดสารกระตุ้นคอลลาเจน (Collagen Biostimulator)

การฉีดสารกระตุ้นคอลลาเจน (Collagen Biostimulator) เป็นเทคนิคการฟื้นฟูผิวที่ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนตามธรรมชาติ ช่วยแก้ปัญหาคอเหี่ยว คอย่น และผิวหย่อนคล้อยให้กลับมาเต่งตึง ดูอ่อนเยาว์ และมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ให้ผลลัพธ์ระยะยาว โดยยี่ห้อที่ได้รับความนิยม คือ Sculptra และ Radiesse ครับ

  • ข้อดี : Sculptra เริ่มเห็นผลใน 2-3 สัปดาห์ เห็นผลชัดเจนใน 3-4 เดือน ส่วน Radiesse จะเห็นผลทันทีในบางส่วน และจะเห็นผลเต็มที่ใน 3-4 สัปดาห์
  • ระยะเวลาคงผลลัพธ์ : 2 ปี

อย่างไรก็ตาม การรักษาคอเหี่ยวในแต่ละเคสอาจต้องใช้วิธีการที่แตกต่างกัน หรือทำหัตถการหลายประเภทควบคู่กัน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด การเลือกวิธีรักษาที่เหมาะสมจะช่วยให้การลงทุนคุ้มค่าและตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างตรงจุด

ดังนั้น เบื้องต้นหมอแนะนำให้ เข้ามาปรึกษาแพทย์ เพื่อทำการประเมินสภาพผิวอย่างละเอียด พร้อมรับคำแนะนำที่เหมาะสม ตรงกับปัญหาผิวของแต่ละบุคคลครับ


วิธีการป้องกันคอเหี่ยว

  • ทาครีมกันแดดเป็นประจำ เพื่อปกป้องผิวจากรังสียูวี ลดการเกิดริ้วรอยก่อนวัย
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อรักษาความชุ่มชื้น ลดความแห้งกร้านของผิว
  • บริหารกล้ามเนื้อคอเพิ่มความกระชับ เช่น การเงยหน้า หมุนคอ
  • ใช้ครีมบำรุงผิวลำคอที่มีคอลลาเจน หรือ HA เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่น
  • ปรับท่านั่งและพฤติกรรมการใช้คอ ลดการก้มหน้ามองจอมือถือหรือคอมพิวเตอร์นาน ๆ
  • พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายซ่อมแซมผิวและฟื้นฟูคอลลาเจนอย่างเต็มที่
  • หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และแอลกอฮอล์ เพื่อป้องกันผิวเสื่อมสภาพจากสารอนุมูลอิสระ
  • นวดกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต เพื่อให้ผิวได้รับออกซิเจนและสารอาหารเพียงพอ

รักษาคอเหี่ยวราคาเท่าไหร่ ?

รักษาคอเหี่ยวราคา ขึ้นอยู่กับหัตถการที่เลือกและความต้องการของแต่ละคน แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ เพื่อรับคำแนะนำและประเมินค่าใช้จ่ายอย่างละเอียด

สำหรับที่ V Square Clinic หัตถการที่ช่วยรักษาคอเหี่ยว มีดังนี้ครับ

Thermage ราคาโปรโมชั่น

Thermage ราคา

Hifu ราคาโปรโมชั่น

Hifu ราคา

Ulthera ราคาโปรโมชั่น

3_Ulthera-SPT

ฟิลเลอร์ ราคาโปรโมชั่น

Landingpage_โปรฟิลเลอร์รวม_ใส่ราคา_MO_07MAR2025

โบท็อก ราคาโปรโมชั่น

Landingpage_Botox_ตาราง_2025

Radiesse ราคาโปรโมชั่น

Radiesse ราคา

sculptra ราคาโปรโมชั่น

sculptra ราคา

สรุป คอเหี่ยว แก้ด้วยวิธีไหนดีสุด

คอเหี่ยว เป็นปัญหาที่ไม่ควรมองข้าม เพราะผิวบริเวณลำคอสามารถบ่งบอกอายุได้อย่างชัดเจน แม้จะดูแลผิวหน้าดีเพียงใดก็ตามครับ

สำหรับใครอยากแก้ปัญหาคอเหี่ยวแบบเห็นผลเร่งด่วน การทำหัตถการทางการแพทย์ตามที่หมอได้แนะนำ อย่าง Hifu, Thermage, โบท็อกซ์ และ ฟิลเลอร์ สามารถช่วยให้ผิวคอกระชับและดูอ่อนเยาว์ขึ้นได้ครับ ทั้งนี้ควรทำควบคู่ไปกับการบำรุงผิวภายนอก ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต ก็จะช่วยให้เห็นผลลัพธ์ดีขึ้นในระยะยาวครับ


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง Inbox Facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

หมอให้คำปรึกษา_หมอ42คน

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ สามารถศึกษานโยบายความเป็นส่วนตัวและจัดการความเป็นส่วนตัว ได้ที่ปุ่มตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า