Sculptra
Sculptra เป็นอีกหนึ่งหัตถการที่ช่วยเรื่องงานผิวโดยเฉพาะ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการตามเทรนด์ของคนในปัจจุบัน ที่ต้องการมีผิวสวยอย่างเป็นธรรมชาติ รักษาผิวที่อ่อนเยาว์ และชะลอการเกิดริ้วรอย
ในบทความนี้หมอจะมาสรุปข้อควรรู้ก่อนฉีด ว่า Sculptra คืออะไร ? ตัวยาทำงานอย่างไร ? ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ฉีดจุดไหนได้บ้าง เห็นผลมากแค่ไหน และเมื่อเทียบกับหัตถการงานผิวอื่น ๆ มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร ?
Sculptra คืออะไร ?
Sculptra คือ สารละลายคล้ายเจล PLLA (poly-L-lactic acid) ที่ผลิตจากสารธรรมชาติ โดยสังเคราะห์มาจากพืช ไม่ตกค้างในร่างกาย เมื่อถูกดูดซึมจะออกฤทธิ์กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน (Collagen Biostimulator)
โดย Sculptra จะกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน Type 1 ขึ้นตามกระบวนการธรรมชาติได้ถึง 66.5% ทำให้ผิวแน่นกระชับขึ้น อิ่มฟู ช่วยคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิว และยกกระชับบริเวณผิวหย่อนคล้อย รวมถึงจะช่วยปรับปรุงคุณภาพผิวให้ดียิ่งขึ้นได้ โดยผลลัพธ์จะอยู่ได้นาน 1-2 ปี
คอลลาเจน สำคัญอย่างไร ?
Collagen เป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่เป็นส่วนประกอบของผิวหนังถึง 75% คอลลาเจนในผิวหนัง มีหน้าที่ในการยกพยุงโครงสร้างผิว ทำให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่น และมีส่วนช่วยในการซ่อมแซมผิวหนังหากเกิดการบาดเจ็บ แต่เมื่ออายุมากขึ้น (อายุ 25 ปีขึ้นไป) คอลลาเจนในผิวหนังจะลดลงประมาณ 1.5% ทุกปี ส่งผลต่อการแก่ของผิว
ดังนั้นในวงการความงามจึงมีผลิตภัณฑ์ และหัตถการมากมายที่ถูกคิดค้นและผลิตมาเพื่อเสริมสร้างคอลลาเจน กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทดแทนคอลลาเจน หรือช่วยพยุงชั้นผิวแทน เช่น ฟิลเลอร์, เมโสหน้าใส, Rejuran หรือครีมต่าง ๆ ที่มีส่วนประกอบของไฮยาลูรอน เพราะคอลลาเจนถือเป็นคีย์หลักที่สำคัญในการชะลอความแก่ของผิว
อ่านบทความเพิ่มเติม : 10 วิธี แก้หน้าเหี่ยว ย่น วิธีไหนเห็นผลเร็ว ช่วยลดริ้วรอยได้ชัดเจน
กระบวนการทำงานของ Sculptra
ตัวยา Sculptra จะถูกผสมด้วย Sterile Water และฉีดเข้าไปในผิวชั้นใน (Subcutis) PLLA จะเข้าไปออกฤทธิ์ในเซลล์ กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำโดยดึงเซลล์ Macrophages มาล้อมรอบอนุภาคของ Sculptra และทำให้ Fibroblast ซึ่งเป็นเซลล์ต้นกำเนิดที่สร้างคอลลาเจนและอีลาสติน เข้ามารวมตัวกันมากขึ้น กระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนที่ออกมาจากเซลล์ร่างกายของเราเอง
เมื่อเวลาผ่านไป Sculptra จะค่อย ๆ สลายไป แต่การสะสมของคอลลาเจนยังคงอยู่ จึงทำให้เห็นผลลัพธ์ได้ยาวนาน ช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับโครงสร้างผิวภายใน ลดริ้วรอย ช่วยฟื้นฟูผิวที่หย่อนคล้อย เพิ่ม Volume ให้ผิว และทำให้ผิวกลับมาดูอ่อนเยาว์อีกครั้ง
“ ข้อควรรู้ : sculptra เป็นสารตัวแรก ที่ได้รับการอนุมัติในการใช้กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน จาก USFDA ตั้งแต่ปี 1999 และใช้อย่างแพร่หลายทั่วโลก จึงมั่นใจได้ว่ามีความปลอดภัยสูง”
Sculptra ของแท้ดูอย่างไร ?
เพื่อให้การฉีด Sculptra ได้ผลลัพธ์ที่ดีและมีประสิทธิภาพมากที่สุด ก่อนฉีดคนไข้ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่า Sculptra ที่นำมาฉีดเป็นของแท้ โดยขอตรวจสอบกับทางคลินิกที่ฉีดครับ
Sculptra ปริมาณหนึ่งขวดสามารถฉีดได้ถึง 10 ซีซี สามารถกระจายไปตามจุดสำคัญที่ใช้ในการยกกระชับใบหน้าได้อย่างทั่วถึง
เปรียบเทียบ Sculptra กับวิธีอื่น ๆ
ในหมวดหัตถการที่ช่วยเรื่องงานผิวที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน มีจุดเด่นและข้อดี-ข้อเสียแตกต่างกันไปเมื่อเทียบ Sculptra ที่มีส่วนประกอบสำคัญเป็น PLLA หมอจะสรุปประโยชน์ของแต่ละหัตถการมาให้ดังนี้
- ฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว
เป็นการฉีดสารเติมเต็ม Hyaluronic acid (HA) ที่มีขนาดโมเลกุลเล็ก เนื้อบาง เข้าไปใต้ผิวหนังบริเวณที่มีปัญหา ช่วยเพิ่มและกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ให้ผิวได้ยาวนาน ทำให้ผิวเรียบเนียน มีน้ำมีนวล แก้ปัญหาผิวแห้ง หน้าอิ่มฟู ฉ่ำวาว และเห็นผลการเปลี่ยนแปลงทันที เช่น ฟิลเลอร์ Belotero Revive, Juvederm Volite, Restylane Vital Light
*สาร PLLA จะรักษาปริมาตรได้ดีกว่า Hyaluronic Acid และสลายช้ากว่า ทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานกว่า
อ่านบทความเพิ่มเติม : ฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว เติมความชุ่มชื้น บำรุงผิวเปล่งปลั่ง ดูสุขภาพดี
- เมโสหน้าใส
เป็นการฉีดวิตามินผิว โดยใช้สารสกัดที่มีประโยชน์เข้าสู่ผิวโดยตรง จะเข้าไปบำรุง ฟื้นฟูผิวที่เสื่อมสภาพและแก้ปัญหาต่าง ๆ บนผิวหน้า ทำให้ผิวชุ่มชื้น ขาวกระจ่างใสมากขึ้น ทั้งนี้เมโสหน้าใสก็มีหลายสูตรครับ ยี่ห้อที่ได้รับความนิยมเช่น มาเด้คอลลาเจน ที่มีจุดเด่นเรื่องช่วยลดการอักเสบ ช่วยขับสารพิษที่สะสมและทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น
อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดเมโสหน้าใส คืออะไร ? เลือกเมโสหน้าใสสูตรไหน หน้าใสเร็วกว่าการทาครีม ?
- Rejuran
จริง ๆ แล้วรีจูรันจัดอยู่ในหมวดการฉีดเมโสหน้าใสครับ มีส่วนประกอบหลักจาก Polynucleotide (PN) ซึ่งมีคุณสมบัติเด่น คือสามารถเชื่อมต่อหลอดเลือดเล็ก ๆ ในเซลล์ (microvessel) จึงสามารถซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่เสื่อมหรือเสียหายให้ดีขึ้น ต้านการอักเสบ กระตุ้นการหลั่ง Growth Factor และช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน มีประสิทธิภาพในการฟื้นฟูผิว ช่วยให้ผิวแข็งแรง เพิ่มความชุ่มชื้น และสามารถลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ รวมถึงปรับสภาพให้ผิวฉ่ำวาว
อ่านบทความเพิ่มเติม : Rejuran คืออะไร ช่วยบำรุงผิวด้านใดบ้าง เหมาะกับใคร ฉีดกี่ครั้งเห็นผล ?
- เครื่องมือในกลุ่มเครื่องยกกระชับ
เครื่องยกกระชับ เช่น Hifu, Ulthera, Thermage จะเป็นการใช้คลื่นเสียงหรือคลื่นวิทยุ ยิงเข้าไปในชั้นผิวเพื่อให้เกิดความร้อน เมื่อเนื้อเยื่อโดนความร้อนก็จะเกิดการหดตัวแน่นขึ้น กระชับขึ้น รวมถึงสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้โดยไม่ต้องฉีด หลังทำไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น ทำได้ทั้งบริเวณใบหน้าและลำตัวครับ ส่วนใหญ่ที่นิยมก็จะเป็นบริเวณใบหน้า ลดแก้ม ลดเหนียง เก็บกรอบหน้า
หัตถการทั้ง 4 ตัวนี้ จะช่วยเรื่องผิวในส่วนที่เป็นบริเวณเซลล์ผิวหนังและแมทริกซ์ที่อยู่นอกเซลล์ (extracellular matrix) แตกต่างจาก sculptra ที่ PLLA จะเข้าไปออกฤทธิ์ในเซลล์บริเวณ Fibroblast โดยตรง ซึ่งเป็นคนละส่วนกันครับ sculptra จะช่วยกระตุ้นให้เซลล์ร่างกายผลิตคอลลาเจนออกมามากขึ้น หรือหากใครอยากทำร่วมกับหัตถการอื่น ๆ ก็สามารถปรึกษาหมอเพิ่มเติมได้ครับ เพื่อลำดับหัตถการในการทำให้เหมาะสม และได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
- Exosome
เป็นสารชีวโมเลกุลกว่า 1,000 ชนิด เช่น Growth Factors, Peptides, Amino Acids, Coenzymes, Hyaluronic Acids และโปรตีนต่าง ๆ ที่ช่วยซ่อมแซมและฟื้นฟูผิว ประโยชน์ของ exosome เช่น ช่วยเพิ่ม collagen type I 59%, เพิ่ม Hyaluronic acid บนผิว, เพิ่มไซโตไคน์ (Cytokine) และ Growth Factor สามารถลดริ้วรอย ทำให้ผิวตึงกระชับ ยับยั้งการเกิดเม็ดสี ลดฝ้า กระ จุดด่างดำ ลดรอยแผลเป็น รอยสิว กระชับรูขุมขน ผิวจะชุ่มชื้น อิ่มฟู ฉ่ำเด้ง ดูสุขภาพดี
อ่านบทความเพิ่มเติม : exosome คืออะไร ? มีประโยชน์อย่างไร แก้ปัญหาอะไรได้บ้าง ?
- Gouri
เป็นสาร Liquid PCL (Polycaprolactone) มีลักษณะเป็นของเหลวที่สามารถฉีดเข้าสู่ชั้นผิวได้โดยตรง จะออกฤทธิ์กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยฟื้นฟูผิว ทำให้ผิวดูเต่งตึงกระชับขึ้น ริ้วรอยจางลง กระจ่างใสและอิ่มฟู แต่ต้องใช้ระยะเวลาให้ตัวยาออกฤทธิ์และควรฉีดต่อเนื่อง อย่างน้อย 3 ครั้ง ในช่วงแรก จุดที่นิยมจะเป็นบริเวณใบหน้า ลำคอ หลังมือ
อ่านบทความเพิ่มเติม : Gouri คืออะไร ? ดีอย่างไร ? เหมาะกับใคร ? รวมเรื่องที่ควรรู้ก่อนฉีด
“ ข้อควรรู้ : หากคนไข้ต้องการทำมากกว่า 1 หัตถการ ควรปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์ก่อน และต้องแจ้งประวัติการทำหัตถการก่อนหน้าทุกครั้งครับ เพราะไม่ใช่ทุกหัตถการที่สามารถทำร่วมกันได้ สารที่อยู่ในยาแต่ละตัวอาจจะทำปฏิกิริยากัน ทำให้ออกฤทธิ์น้อยลง ออกฤทธิ์รุนแรงเกินไป หรือถ้าเกิดอาการแพ้ก็จะไม่ทราบว่ามาจากยาตัวไหนครับ”
Sculptra ต่างจากสารกระตุ้นคอลลาเจนตัวอื่นอย่างไร ?
จากหัวข้อก่อนหน้านี้ Sculptra ต่างจากสารกระตุ้นคอลลาเจนอื่น ๆ ในด้านสารประกอบหลักในตัวยา กลไกในการกระตุ้นคอลลาเจน และระยะเวลาการคงอยู่ของผลลัพธ์ที่อยู่ได้นานกว่า
และจากงานวิจัยพบว่า Sculptra สามารถสร้างคอลลาเจนในผิวเพิ่มขึ้นได้ถึง 66.5% ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีสารตัวไหนที่สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน Type 1 ในผิวได้เยอะเท่านี้ครับ และยังเป็น Biostimulator ตัวแรกและตัวเดียวที่ได้รับการรับรองจาก U.S. FDA
Sculptra กับ ฟิลเลอร์ ต่างกันอย่างไร ?
Sculptra กับ ฟิลเลอร์ แตกต่างกันอย่างไร หมอขออธิบายดังนี้ครับ
ฟิลเลอร์ เป็นการฉีดสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic acid เติมเต็มริ้วรอย ร่องลึกที่มีการยุบตัว ปรับโครงสร้างใบหน้า หลังทำเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ทันที โดยฟิลเลอร์จะค่อย ๆ สลายไปเองตามธรรมชาติ 6-24 เดือน
ส่วน Sculptra เป็นการฉีดสาร PLLA ที่มีคุณสมบัติกระตุ้นทำให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ตามธรรมชาติ ช่วยให้ผิวมีความกระชับ อิ่มฟู โครงสร้างผิวแข็งแรงยิ่งขึ้น จะได้ไม่เน้นการเติมปริมาตรเพียงอย่างเดียว หลังฉีดใช้เวลา 2-3 สัปดาห์ในการเห็นผล และคงผลลัพธ์ได้นาน 2 ปี
โดยจะเห็นได้ว่าหลักการทำงานของทั้งสองไม่เหมือนกัน ฟิลเลอร์คือการ “เติมเต็ม” ส่วน Sculptra คือการ “กระตุ้น”
ถ้าต้องการเติมเต็ม ปรับรูปหน้า เพิ่ม Volume ให้ผิว การฉีดฟิลเลอร์ถือว่าตอบโจทย์ แต่หากต้องการฟื้นฟูโครงสร้างผิวจากภายใน กระตุ้นคอลลาเจน Sculptra ก็ถือเป็นตัวช่วยที่ดีครับ
Sculptra เหมาะกับใคร ?
การฉีด Sculptra เหมาะกับผู้ที่ต้องการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนจากเซลล์ ที่เป็นส่วนสำคัญของการแก้ปัญหาผิวต่าง ๆ และต้องการเสริมสร้างคุณภาพผิวให้มีความแข็งแรงมากขึ้น ชะลอการเกิดริ้วรอยที่เกิดจากการแก่ของผิว และรักษาใบหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ไว้ได้นานขึ้น
- ผู้ที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไป (คอลลาเจนจะลดลงทุกปี)
- ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ
- ผู้ที่ผิวขาดความยืดหยุ่น ผิวแห้งกร้าน
- ผู้ที่มีริ้วรอยเป็นเส้นเล็ก ๆ (Static line) เกิดจากผิวแห้งและขาดคอลลาเจน
- ผู้ที่ต้องการรักษาผิวหน้าให้ดูอ่อนเยาว์
Sculptra ฉีดจุดไหนได้บ้าง ?
Sculptra ฉีดได้หลายตำแหน่งครับ โดยจะฉีดเน้นในจุดที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เช่น หน้าแก้ม (Midface) ขมับ และกรอบหน้า เพื่อเติมเต็มใบหน้าให้ยกกระชับ อิ่มฟูและดูอ่อนเยาว์
- ขมับ เป็นจุดที่หากยุบตัวลง จะทำให้ใบหน้าดูมีอายุอย่างเห็นได้ชัด การฉีด Sculptra จุดนี้จะช่วยฟื้นฟูผิวให้อิ่มฟู เต่งตึง แก้ปัญหาขมับตอบ
- หน้าแก้ม (Midface) ช่วยเพิ่มความเต่งตึงและยกกระชับผิวแก้ม แก้ปัญหาหน้าตอบ และลดเลือนริ้วรอยและร่องลึกบริเวณแก้ม ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์
- กรอบหน้า ยกกระชับผิวหย่อนคล้อยบริเวณแนวกรอบหน้า
โดยการฉีด Sculptra จะใช้เทคนิคการฉีดแบบ cross-hatch ลงใต้ชั้นผิว 1.5-2 เซนติเมตร ด้วยเข็มทู่ขนาด 22-25 G ซึ่งเป็นเทคนิคที่ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนได้ดีที่สุด
Sculptra ฉีดกี่ CC ?
การคำนวณปริมาณ CC ที่ใช้ หมอจะประเมินปัญหาและสภาพผิวของคนไข้ก่อนครับว่าควรฉีดกี่ CC ในคนที่มีปัญหาผิวไม่มาก แนะนำให้ฉีดครั้งละ 1 ขวดครับ (1 ขวด มี 10 CC) แต่หากมีปัญหาผิวในระดับมาก หรือในผู้ที่อายุ 30 ปีขึ้นไป แนะนำให้ฉีดครั้งละ 2 ขวด
ทั้งนี้ปริมาณ Sculptra ที่ใช้ในแต่ละตำแหน่ง ขึ้นอยู่กับสภาพผิว และระดับปัญหาของแต่ละคน หมอจะประเมินเป็นรายเคสไปครับ
การเตรียมตัวก่อนฉีด Sculptra
- ควรงดยาหรือวิตามินที่ทำให้เลือดไหลเวียนและหยุดไหลยาก เช่น ยาในกลุ่มแอสไพริน วิตามินอี น้ำมันปลา ฯลฯ (อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการฉีด เพื่อป้องกันอาการฟกช้ำที่อาจเกิดขึ้น)
- 1-3 วัน ก่อนการฉีด ควรงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- คนไข้ต้องไม่อยู่ในภาวะการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
- หากมีโรคประจำตัวหรือมียาที่รับประทานประจำ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนฉีด Sculptra
ขั้นตอนการฉีด Sculptra
- แพทย์จะตรวจประเมินสภาพผิว ว่าเหมาะกับการทำ sculptra หรือไม่
- แจ้งโรคประจำตัว อาการแพ้
- แจ้งยา หรือวิตามินที่ทานประจำ
- แจ้งประวัติการทำหัตถการอื่น ๆ
- ก่อนฉีดจะทำความสะอาดผิวบริเวณที่จะทำหัตถการ
- แปะยาชาบริเวณที่จะทำประมาณ 30-40 นาที
- ฉีด Sculptra ด้วยเข็มขนาดเล็ก (ระหว่างฉีดคนไข้อาจรู้สึกเล็กน้อยตอนดันยา แต่จะไม่เจ็บครับ)
หลังฉีด Sculptra ดูแลตัวอย่างไร ?
หลังฉีด sculptra สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติครับ แต่หมอจะมีข้อแนะนำในการดูแลตัวเอง เพื่อให้ตัวยาออกฤทธิ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องใช้แรงหนัก ๆ เช่น ออกกำลังกาย 2-3 วัน
- อาจมีรอยช้ำหรือบวมจากการฉีดจะค่อย ๆ หายไปเอง ทายาได้
- งดทำเลเซอร์ที่มีความร้อนสูง
- งดแต่งหน้า 24 ชั่วโมง
- งดดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมง
- งดซาวน่า 1-2 สัปดาห์
- งดออกกำลังกายหักโหม 2-3 วัน
การนวดหน้าหลังทำ sculptra เพื่อให้ได้ผลลัพธ์เต็มประสิทธิภาพ
- Step ที่ 1 ใช้นิ้วโป้งของเรานวดขมับทั้ง 2 ข้างแล้วใช้กำปั้นค่อย ๆ นวดเลื่อนจากหน้าผากไปขมับ
- Step ที่ 2 ยกนิ้วโป้งขึ้น แนบไปตรงหน้าแก้ม ทั้งสองข้าง แล้วเลื่อนจากหน้าแก้มไปข้าง ๆ แก้ม
- Stepที่ 3 ใช้อุ้งมือกดช่วงข้าง ๆ แก้ม แล้วค่อย ๆ นวดไล่จากล่างขึ้นบนไปถึงตรงโหนกแก้ม
- Step ที่ 4 ท่าสุดท้าย ทำมือคล้าย ๆกับท่าที่สอง ยกนิ้วโป้งขึ้น เริ่มจากที่คางไล่ไปตามแนวกรามกรอบหน้าด้านข้าง
ฉีด Sculptra อันตรายไหม ?
อย่างที่หมอบอกไปครับ Sculptra เป็น PLLA ที่มีสารตั้งต้นผลิตมาจากพืช จึงไม่จำเป็นต้องทดสอบการแพ้ก่อนทำการรักษา ไม่จำเป็นต้องให้ยาเพื่อเตรียมพร้อมก่อนและหลังทำการรักษา และเมื่อเวลาผ่านไปสารออกฤทธิ์จะถูกย่อยสลายและกำจัดออกจากร่างกายอย่างสมบูรณ์ไม่มีเหลือตกค้างในร่างกาย ได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (FDA) รวมถึง อย.ไทย
ข้อควรระวังการฉีด Sculptra
- ไม่เหมาะฉีดในผู้ที่มีอาการแพ้ส่วนผสมของ sculptra (PLLA, Carboxymethylcellulose (CMC), Non-pyrogenic mannitol)
- ไม่เหมาะฉีดในผู้ที่มีประวัติเคยแพ้ชนิดรุนแรง (Anaphylaxis)
- ไม่เหมาะฉีดในผู้ที่มีโรคประจำตัวภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง (Autoimmune, SLE) หรือใช้ยาในยากดภูมิคุ้มกัน
- ไม่เหมาะฉีดในผู้ที่มีประวัติการเกิดคีลอยด์หรือมีแผลเป็นนูน
- ไม่เหมาะฉีดในผู้ที่มีการติดเชื้อที่ผิวหนังหรือเกิดการอักเสบบริเวณผิวในตำแหน่งที่ทำ
- ไม่เหมาะฉีดในผู้ที่อยู่ในระหว่างตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
ฉีด Sculptra ที่ไหนดี ?
- เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข มีเลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก และตั้งอยู่ในทำเลที่ปลอดภัย ห้องทำหัตถการกว้างขวาง สว่าง สะอาด
- สามารถนำชื่อ-นามสกุล ของแพทย์ที่จะเป็นผู้ทำหัตถการไปตรวจสอบกับแพทยสภาได้ว่าเป็นแพทย์จริง และมีการรับรองว่าผ่านการเทรนนิ่งการฉีด sculptra
- มีรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง ในแหล่งที่เป็นกลาง น่าเชื่อถือ
- ใช้ sculptra ของแท้ ตรวจสอบได้กับบริษัทนำเข้า ก่อนฉีดหมอแกะกล่องใหม่ ผสมยาให้ดูต่อหน้า
- มีการแนะนำวิธีดูแลตัวเองหลังฉีด sculptra และการติดตามผล
- มีช่องทางการติดต่อคลินิกที่สะดวก เช่น เบอร์โทร, Line@, Messenger หากมีปัญหาหรือข้อสงสัย สามารถติดต่อแพทย์ได้
สรุป
การฉีด sculptra ถือเป็นอีกทางเลือกเพื่องานผิวสวยที่น่าสนใจครับ เป็น PLLA ที่สารตั้งต้นสกัดมาจากพืช ปลอดภัย ผลข้างเคียงน้อย รวมถึงผลลัพธ์ที่ได้ยังอยู่ได้ยาวนานถึง 2 ปี ถือว่ามีความคุ้มค่ากับราคาที่ต้องจ่าย และเป็นการแก้ไขปัญหาผิวด้วยการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนที่มาจากเซลล์ของเราโดยตรง ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติด้วยครับ
สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้ง 30 สาขา หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ