ยกกระชับหน้า
ปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อยเกิดได้จากหลายสาเหตุ ก่อนจะเลือกวิธียกกระชับหน้า วิธีไหนดี? ต้องรู้สาเหตุของปัญหาก่อนครับ
ในบทความนี้ หมออธิบายถึงสาเหตุที่ทำให้ใบหน้าไม่กระชับและหย่อนคล้อย วิธีการรักษาที่ได้ผล ยกกระชับหน้า วิธีไหนได้ผลดีที่สุด ? เร็วที่สุด ? ทั้งวิธียกกระชับหน้าด้วยตัวเอง วิธียกกระชับหน้าด้วยหัตถการและเครื่องมือทางการแพทย์
หน้าไม่กระชับหย่อนคล้อย เกิดจากสาเหตุอะไร ?
ปัญหาผิวไม่กระชับ หย่อนคล้อย เกิดจากหลายสาเหตุครับ ทั้งจากปัจจัยภายในและภายนอก เช่น
- อายุที่มากขึ้น เกิดจากการยืดออกของผิว เนื่องจากอีลาสตินและคอลลาเจนเสื่อมสภาพ
- กระดูกบางลงและยุบตัวลง ทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อย ตก หรือพับย่นลงมา
- ไขมันสะสมบนใบหน้า เคลื่อนตัวลงมารวมกันบริเวณช่วงล่างของใบหน้า ทำให้แก้มหย่อนคล้อย มีเหนียง คาง 2 ชั้น
- แสงแดด ความเครียด นอนดึก ดื่มน้ำน้อย รับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ ละเลยการดูแลผิว เป็นปัจจัยภายนอกที่มีผลต่อผิว
จะเห็นได้ว่าหน้าไม่กระชับ หย่อนคล้อยเกิดได้จากหลายสาเหตุ การดูแลแก้ไขปัญหามีหลายวิธี ระยะเวลาเห็นผลก็แตกต่างกันไป
ยกกระชับหน้า มีกี่แบบ ?
การยกกระชับหน้าที่นิยมทำในปัจจุบันมีด้วยกัน 2 แบบครับ คือการยกกระชับหน้าแบบผ่าตัดและการยกกระชับหน้าแบบไม่ต้องผ่าตัด โดยจะมีความแตกต่างกัน ดังนี้ครับ
การยกกระชับหน้าแบบผ่าตัด
การยกกระชับหน้าแบบผ่าตัด (Face lift) คือการศัลยกรรมผ่าตัดดึงหน้า เพื่อยกกระชับไขมันใต้ผิวและกล้ามเนื้อให้กลับไปยังตำแหน่งที่เหมาะสม ปัจจุบันนิยมใช้วิธีการผ่าตัดส่องกล้อง (Endoscopic facelift) โดยจะทำการเปิดแผลขนาด 1-2 ซม. จำนวน 3-5 จุดกระจายอยู่ในหนังศีรษะ และใช้กล้องขนาดเล็ก สอดเข้าไปเพื่อทำการผ่าตัดตกแต่งกล้ามเนื้อที่อยู่ใต้ผิวหนัง ให้ยกกระชับโดยไม่จำเป็นต้องตัดผิวหนังออกเหมือนการผ่าตัดดึงหน้าแบบเก่า
การยกกระชับหน้าแบบผ่าตัด มีข้อดีคือ ใบหน้าจะยกกระชับขึ้นทันที และจะเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงใน 2 เดือน สามารถคงผลลัพธ์ได้นานอย่างน้อย 5 ปีขึ้นไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและพฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนไข้ร่วมด้วย
สำหรับข้อเสียของการยกกระชับหน้าแบบผ่าตัด คือหลังผ่าตัดจะมีอาการบวมหรือเขียวช้ำ บางรายอาจมีภาวะแทรกซ้อน เช่น ผิวหนังขาดเลือดมาเลี้ยง, เลือดคั่ง เสียเลือด หรือการบาดเจ็บต่อเส้นประสาท และต้องทำการผ่าตัดโดยศัลยแพทย์เฉพาะทาง ร่วมกับใช้เครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย ได้มาตรฐานเท่านั้นครับ
การยกกระชับหน้าแบบไม่ผ่าตัด
การยกกระชับหน้าแบบไม่ผ่าตัด เป็นการยกกระชับหน้าที่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเห็นผลเร็ว ไม่มีเวลาพักฟื้น ต้องการใช้หน้าเลย อย่างการใช้เครื่องมือยกกระชับ เช่น Ulthera spt, Thermage, Hifu รวมไปถึงการทำทรีทเม้นท์ยกกระชับหน้าครับ
สำหรับในบทความนี้หมอจะยกตัวอย่างวิธีการยกกระชับหน้าแบบไม่ต้องผ่าตัดมาแนะนำครับ เพราะเป็นวิธีที่เห็นผลได้โดยไม่ต้องเจ็บตัวจากการผ่าตัด ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น สามารถใช้หน้าได้เลย คนไข้สามารถติดตามอ่านได้ในหัวข้อถัดไปครับ
10 วิธียกกระชับหน้าแบบไม่ต้องผ่าตัด วิธีไหนดี ?
1. ยกกระชับหน้าด้วยครีมบำรุงผิว
ยกกระชับหน้าด้วยครีมบำรุงผิวหรือสกินแคร์ เป็นตัวเลือกอันดับแรก ๆ ของใครหลายคน เพราะหาซื้อได้สะดวกและมีราคาไม่แพง ซึ่งคุณสมบัติของครีมบำรุงผิวแต่ละตัวก็จะมีความแตกต่างกัน โดยคุณสมบัติเด่น ๆ มีทั้งยกกระชับผิว ลดเลือนริ้วรอย ซ่อมแซมและกักเก็บความชุ่มชื้น ทำให้ผิวยืดหยุ่น เต่งตึง ซึ่งต้องใช้เป็นประจำและสม่ำเสมอครับถึงจะเห็นผล
2. นวดยกกระชับหน้า
การนวดหน้า เป็นวิธียกกระชับหน้าด้วยตัวเอง ช่วยกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนได้ดี ใช้มือนวดคลึงบนใบหน้าเบา ๆ เป็นประจำ ประมาณ 10-15 นาที สามารถใช้ร่วมกับครีมบำรุงผิว นวดวนเบา ๆ บริเวณแก้ม มุมปาก ร่องแก้ม ใต้คาง หน้าผาก จุดละ 4-5 ครั้ง ประมาณ 3-4 รอบ ควรนวดขึ้นด้านบน เพราะถ้าหากนวดลง อาจจะทำให้ผิวเหี่ยวและหย่อนคล้อยได้ หลังนวดจะรู้สึกว่าผิวหน้ากระชับขึ้น
3. โยคะยกกระชับหน้า
โยคะยกกระชับหน้า เป็นการยกกระชับหน้าด้วยวิธีธรรมชาติ ทำให้กล้ามเนื้อใบหน้ากระชับ กระตุ้นการไหลเวียนเลือดและคอลลาเจน ทำให้ผิวหนังยืดหยุ่น ลดการเกิดริ้วรอย ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ ศาสตร์ของโยคะมีหลายประเภท ที่นิยมกันเพื่อแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย คือ โยคะหน้าเด็ก ซึ่งต้องทำอย่างสม่ำเสมอจึงจะเห็นผลความเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจน
4. เลเซอร์ยกกระชับหน้า
เลเซอร์ยกกระชับหน้าเป็นการยกกระชับที่ใช้คลื่นวิทยุเช่นเดียวกับการทำเทอมาร์จ แต่เลเซอร์ยกกระชับหน้าจะมาในรูปแบบเข็มเลเซอร์เล็กๆ โดยมีการผสมผสานพลังงานงานแสง 2 รูปแบบ คือ Yag Laser และ Pixel Q Switch เข้าด้วยกัน สามารถลงลึกถึงชั้นผิวได้ถึง 3-4 ม.ม. ช่วยลดเม็ดสี เพิ่มความกระจ่างใส กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน พร้อมยกกระชับผิวอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ต้องทำต่อเนื่องกันอย่างน้อย 3 ครั้งเพื่อเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนครับ
ยกกระชับหน้าด้วย Hifu Macrofocus ทำได้โดยไม่ต้องรอให้ผิวหย่อนคล้อย เพราะเมื่ออายุเกิน 20 ปี ใบหน้าทุกคน 90% จะเริ่มหย่อนลง อีลาสตินเริ่มยืดออก ทำให้มีร่องใต้ตา ร่องแก้ม การทำ Hifu ยิ่งเริ่มเร็วยิ่งดี ทำให้ใบหน้ากระชับอยู่ตลอดเวลาตั้งแต่อายุน้อย ๆ
Hifu macrofocus เป็นเครื่องมือยกกระชับที่ได้รับความนิยมในคลินิกเสริมความงาม สามารถยกกระชับหน้า เหนียง คอ ต้นแขน และต้นขา กระตุ้นคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวยืดหยุ่นมากขึ้น ลดริ้วรอย กระชับรูขุมขน ผิวเนียนนุ่มขึ้น หน้าเรียบเนียนใสอย่างเป็นธรรมชาติ และดูอ่อนเยาว์ขึ้น ยิ่งทำยิ่งเห็นผลครับ
หลักการทำงานของเครื่อง Hifu จะใช้คลื่นเสียงอัลตราซาวด์ความถี่สูง หมอจะยิงพลังงานความร้อนที่ระดับ 65-70 องศาเซลเซียส ลักษณะคล้ายจุดไข่ปลาเล็ก ๆ ขนาด 0.5-1 mm เรียงกันเป็นเส้นตรงใต้ผิว เพื่อยกกระชับผิวตามแนวที่ต้องการ สามารถจัดการกับปัญหาตามระดับความลึกของชั้นผิวได้
หลังทำ Hifu หน้ากระชับขึ้น เห็นผลทันทีประมาณ 20% และเห็นผลเต็มที่ใน 2-3 เดือน ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 5-6 เดือน ที่ V Square Clinic ใช้เครื่อง Hifu Ultraformer III ซึ่งเป็นยี่ห้อที่ดีที่สุดรองจาก Ulthera ครับ
6. ยกกระชับหน้าด้วย Ulthera
Ulthera SPT คือ เครื่องมือยกกระชับผิว ด้วยพลังงานคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ หมอจะยิงพลังงานความร้อนที่มีลักษณะเป็นจุดขนาด 1 mm ลงลึกถึงผิวชั้น SMAS (Superficial Musculoaponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับการผ่าตัดดึงหน้า ที่ระดับความลึก 4.5 mm ความร้อนจะทำให้ผิวหดตัวและยกกระชับขึ้นได้โดยไม่ต้องผ่าตัด เห็นผลทันทีหลังทำประมาณ 30% และเห็นผลเต็มที่ใน 2-3 เดือน คงผลลัพธ์ได้นาน 1 ปี
Ulthera SPT เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาความหย่อนคล้อยของผิวในระดับปานกลาง-มาก ต้องการปรับรูปหน้า กระชับกรอบหน้าชัด ลดริ้วรอย และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ในบทความ Ulthera ยกกระชับ ลดริ้วรอย ใบหน้าอ่อนเยาว์ เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรก ดีอย่างไร ?
7. ยกกระชับหน้าด้วย Thermage
จุดเด่นของ Thermage คือ ช่วยสลายไขมัน ทำให้ผิวของเราแน่นกระชับขึ้นและยังช่วยปรับสภาพผิว เพิ่มผิวเด็ก (Skin Quality) ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติโดยไม่ต้องผ่าตัด เห็นผลหลังทำทันที 20% และจะเห็นผลชัดเจนเต็มที่ใน 2-3 เดือน คงผลลัพธ์ได้นาน 1-2 ปี
เทอร์มาจ เป็นเครื่องมือที่ใช้พลังงานคลื่นวิทยุความถี่สูง (Monopolar RF) หมอจะยิงส่งพลังงานความร้อนซึ่งเป็นก้อนพลังงานความร้อนขนาด 3-16 cm2 ลงในชั้นผิว ด้วยความที่ก้อนพลังงานขนาดใหญ่ ครอบคลุมใต้ชั้นผิว ลงลึกถึงชั้นไขมัน จึงเหมาะสำหรับคนที่มีไขมันบนใบหน้า โดยเฉพาะที่แก้ม และเหนียง ผิวหน้าหย่อนคล้อย และมีริ้วรอยมาก
8. ยกกระชับหน้าด้วยการร้อยไหม
การร้อยไหม คือ การใช้เข็มนำเส้นไหมละลายที่มีเงี่ยง สอดลงในชั้นผิวหนัง ผิวก็จะถูกเงี่ยงเกี่ยวขึ้นมาตามเส้นไหมในทิศทางที่ร้อยไหมเข้าไป คล้าย ๆ ตะขอเกี่ยว เป็นวิธีการยกกระชับหน้าที่เห็นผลลัพธ์ทันที จากนั้นจะค่อยๆ เห็นผลชัดเจนขึ้นตามลำดับ ใบหน้าเข้าที่ได้รูปชัดเจนประมาณ 1 เดือน โดยผิวบริเวณที่ร้อยไหมจะเกิดการสร้างเส้นใยอีลาสตินขึ้นมาช่วยประคองผิว ทำให้ผิวกระชับขึ้นและลดเลือนริ้วรอยได้
สำหรับใครที่ไม่กลัวเข็ม ไม่กลัวเจ็บ และมีปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อยมาก ๆ โดยเฉพาะแก้มหย่อนคล้อย หมอจะแนะนำการร้อยไหมซึ่งได้ผลดี และสามารถปรับรูปหน้าเรียว V Shape ใบหน้าได้สัดส่วนมากขึ้น อยู่ได้นาน 4-18 เดือนครับ
นอกจากร้อยไหมยกกระชับหน้า ร้อยไหมหน้าเรียว ร้อยไหมดึงหน้าแล้ว ยังสามารถร้อยไหมจมูก ยกสันจมูกให้คมขึ้นได้ด้วยครับ
การฉีดโบท็อก หลัก ๆ จะฉีดเพื่อลดริ้วรอยที่เกิดจากการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ เช่น รอยย่นบนหน้าผาก รอยตีนกา รอยย่นระหว่างคิ้วเวลาขมวดคิ้ว รวมถึงปรับรูปหน้าและสัดส่วน เช่น โบท็อกลดกราม โบท็อกลดกล้ามแขน ต้นขา น่อง บ่า ไหล่
ในเคสที่ต้องการยกกระชับหน้า สามารถฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้า เพื่อให้ผิวหน้าเกิดการยกกระชับ ช่วยเพิ่มมิติให้แก่ใบหน้า เห็นผลใน 2 สัปดาห์ ซึ่งมี 2 เทคนิคพิเศษด้วยกัน คือ
1. Dermolift ฉีดโบท็อกบริเวณแนวกรอบหน้าขึ้นไปด้านบน เพื่อช่วยให้ผิวกระชับขึ้น ผลลัพธ์อยู่ได้ 1-2 เดือน เหมาะที่จะทำเฉพาะช่วงเวลาที่ต้องการเห็นผลอย่างเร่งด่วนเท่านั้น ไม่ควรทำบ่อย เพราะเพิ่มโอกาสดื้อโบท็อกได้ในอนาคต
2. Nefertiti Lift ฉีดโบท็อกไปที่กล้ามเนื้อบริเวณลำคอ (Platysma) ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อส่วนที่ดึงผิวลงทำให้ใบหน้าหย่อนคล้อย หลังฉีดหน้ายกกระชับขึ้น เนื่องจากกล้ามเนื้อส่วนที่ดึงผิวขึ้นจะมีแรงมากกว่า ผลลัพธ์อยู่ได้ 3-4 เดือน
10. ยกกระชับหน้าด้วยการฉีดฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์ สารเติมเต็ม Hyaluronic acid (HA) จะช่วยให้ผิวให้อิ่มฟูขึ้น ริ้วรอยที่หย่อนคล้อย ร่องลึกต่าง ๆ ก็จะตื้นขึ้น ช่วยให้ใบหน้ายกกระชับและดูเด็กลงได้ครับ
หมอจะใช้การฉีดฟิลเลอร์ยกหน้า เติมในจุดต่าง ๆ ของใบหน้าเพื่อให้ใบหน้าดูยกกระชับขึ้น ส่วนใหญ่จะเป็นการเติมเต็มบริเวณร่องใต้ตา ร่องแก้ม มุมปาก โดยในจุดเหล่านี้ ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ฟิลเลอร์จำนวน CC มาก ๆ ก็สามารถช่วยให้ดูใบหน้าอ่อนวัยแล้วก็ยกกระชับขึ้นได้ เห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจนครับ
โดยขึ้นอยู่กับใบหน้าแต่ละคนว่ามีปัญหาในจุดใดบ้าง เนื่องจากสาเหตุของหน้าไม่กระชับหย่อนคล้อย เกิดได้หลายสาเหตุ หมอจะประเมินปัญหา สภาพผิวหน้า และเลือกฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ? ที่เหมาะสมในการแก้ปัญหา หลังฉีดฟิลเลอร์ยกหน้า เห็นผลทันทีครับ ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6-24 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ในแต่ละจุดครับ
ยกกระชับหน้าที่ไหนดี ?
ยกกระชับหน้าที่ V Square Clinic มีทั้งหัตถการและเครื่องมือทันสมัย พร้อมทีมแพทย์มากประสบการณ์ที่จะวิเคราะห์ปัญหา สภาพผิวที่แตกต่างกันในแต่ละเคส เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ปรึกษาหมอก่อนได้ครับ สามารถส่งรูปหน้าให้ประเมินในเบื้องต้นได้ทางออนไลน์ ก่อนนัดคิวเข้ามาทำหน้าที่สาขาใกล้บ้าน คลิกดูสาขา
สรุป
หน้าไม่กระชับ หย่อนคล้อย มีสาเหตุจากอายุที่มากขึ้น การยุบตัวของกระดูก ไขมันสะสมบนใบหน้า รวมถึงปัจจัยภายนอก เช่น แสงแดด ความเครียด นอนดึก ดื่มน้ำน้อย รับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ ละเลยการดูแลผิว ฯลฯ
วิธียกกระชับหน้า ไม่ว่าจะเป็นการทาครีมบำรุงผิว นวดหน้า โยคะ Hifu Ulthera Thermage ร้อยไหม โบท็อก ฟิลเลอร์ ได้ผลทั้งหมดครับ แต่ถ้าอยากได้ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว ยกกระชับหน้าด้วยวิธีทางการแพทย์ เห็นผลเร็วที่สุดครับ
สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้ง 30 สาขา หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ