
โครงสร้างของผิวหนัง
โครงสร้างของผิวหนัง มีความสำคัญอย่างไร ? ทำไมต้องเริ่มดูแลตั้งแต่วันนี้ ถ้าอยากหน้าเด็ก มีผิวที่ดูอ่อนเยาว์ บทความนี้หมอจะพาไปเจาะลึกโครงสร้างของผิวหนัง ตั้งแต่ชั้นหนังกำพร้า ชั้นหนังแท้ ชั้นไขมัน ชั้น SMAS ปัญหาผิวหนังที่พบบ่อย รวมถึงวิธีการดูแลผิวตามโครงสร้างของผิวหนังแต่ละชั้น ต้องทำอย่างไร ? ทั้งการดูแลด้วยตัวเอง และเข้าคลินิกเสริมความงาม ควรเลือกทำหัตถการไหนดี ?
สารบัญ โครงสร้างของผิวหนัง
รู้จักโครงสร้างของผิวหนัง
ผิวหนังเป็นอวัยวะที่ใหญ่ที่สุดของร่างกายมนุษย์ ทำหน้าที่สำคัญเสมือนเกราะห่อหุ้มร่างกายและปกป้องชั้นผิวภายใน ซึ่งแบ่งออกเป็นชั้นผิวหนังต่าง ๆ เช่น ชั้นหนังกำพร้า (Eperdemis), ชั้นหนังแท้ (Dermis), ชั้นไขมัน (Subcutaneous) ประกอบรวมกันเป็น โครงสร้างของผิวหนัง ที่มีความหนาเฉลี่ยประมาณ 1.5-4.0 มิลลิเมตร
เพื่อให้เข้าใจโครงสร้างของผิวหนังมากขึ้น หมอจะพามาเจาะลึกโครงสร้างของผิวหนังแต่ละชั้นกันครับ

ผิวชั้นหนังกำพร้า
ผิวชั้นหนังกำพร้าเป็นชั้นผิวที่มองเห็นได้ เนื่องจากเป็นโครงสร้างของผิวหนังที่อยู่ชั้นนอกสุด มีความหนาเฉลี่ยประมาณ 0.4-1.5 มิลลิเมตร ทำหน้าที่เป็นด่านแรกปกป้องผิวจากสารพิษ แบคทีเรีย และการสูญเสียน้ำ
ในชั้นผิวนี้ประกอบไปด้วยเซลล์ผิวหนังที่เรียกว่า เคราติโนไซต์ (Keratinocyte) ซึ่งผลิตเคราติน (Keratin) โปรตีนสำคัญที่ช่วยให้ผิวแข็งแรงและยืดหยุ่น นอกจากนี้ยังมีเซลล์เมลาโนไซต์ (Melanocyte) ที่ผลิตเม็ดสีเมลานิน (Melanin) ซึ่งช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวีครับ
หากเจาะลึกโครงสร้างของผิวชั้นหนังกำพร้า ยังแบ่งออกเป็น 5 ชั้นย่อย เรียงจากด้านนอกสุดไปยังชั้นในสุด โดยแต่ละชั้นมีหน้าที่ ดังนี้
- Stratum Corneum หรือ Horny Layer ปกป้องผิวและช่วยรักษาความชุ่มชื้นในผิวหนัง
- Stratum Lucidum หรือ Clear Layer พบเฉพาะผิวหนังบริเวณฝ่ามือและฝ่าเท้า
- Stratum Granulosum หรือ Granular Layer ประสานให้เซลล์ยึดเกาะกัน
- Stratum Spinosum หรือ Prickle Layer ปกป้องผิวจากเชื้อโรคที่จะเข้าสู่ผิวหนัง
- Stratum Basale หรือ Basal Layer ผลิตเซลล์ผิวหนังใหม่และดันเซลล์ผิวเก่าขึ้นสู่ชั้นผิวด้านบน
ผิวชั้นหนังแท้
ชั้นหนังแท้อยู่ใต้ชั้นหนังกำพร้า เป็นชั้นที่หนาที่สุดของผิวหนัง มีความหนา 1-2 มิลลิเมตร ประกอบด้วย เนื้อเยื่อเกี่ยวพัน เซลล์ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) ที่สร้างเส้นใยคอลลาเจนและอิลาสติน ซึ่งเป็นโปรตีนสำคัญที่ทำให้ผิวแข็งแรง ยืดหยุ่น และดูอ่อนเยาว์
นอกจากนี้ยังมีไฮยาลูโรนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นสารที่ร่างกายผลิตขึ้นได้เองตามธรรมชาติ ช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้น มีต่อมไขมัน ต่อมเหงื่อ รูขุมขน และเส้นเลือดที่หล่อเลี้ยงผิวกระจายอยู่ทั่วไป
ชั้นหนังแท้ ยังแบ่งออกได้เป็น 2 ชั้นย่อย ทำหน้าที่ ดังนี้
- Stratum Papillare หรือ Upper dermis กั้นระหว่างชั้นหนังกำพร้า เสริมความแข็งแรงให้โครงสร้างของผิวหนัง ทำให้ผิวหนังตึงกระชับและยืดหยุ่น
- Stratum Reticulare หรือ The Lower Layer ผลิตของเหลวกั้นระหว่างผิวหนังชั้นไขมัน ช่วยป้องกันการแข็งตัวของเลือดและดูแลการอักเสบของผิวหนัง
ผิวชั้นไขมัน
ชั้นไขมันเป็นชั้นที่อยู่ลึกสุดของผิวหนัง มีความหนาได้ถึง 10 เซนติเมตร โดยความหนาจะขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันของแต่ละบุคคล ชั้นนี้ประกอบด้วยเซลล์ไขมันและเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน ทำหน้าที่ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายคล้ายกับฉนวนกันความร้อน นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งสะสมพลังงานสำรองของร่างกาย และช่วยดูดซับแรงกระแทก อีกทั้งยังมีบทบาทสำคัญในการยึดผิวหนังให้ติดกับกล้ามเนื้อและกระดูกเข้าด้วยกัน
ผิวชั้น SMAS
นอกจาก 3 ชั้นผิวที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ชั้น SMAS (Superficial Musculo Aponeurotic System) ก็เป็นชั้นเนื้อเยื่อที่สำคัญของกล้ามเนื้อใบหน้า มีโครงสร้างเป็นเนื้อเยื่อพังผืดห่อหุ้มกล้ามเนื้อ ทำหน้าที่รองรับและพยุงโครงสร้างของใบหน้า เมื่ออายุมากขึ้น หากชั้นผิวนี้หย่อนคล้อยจะส่งผลให้ใบหน้าดูแก่ ในการผ่าตัดศัลยกรรมยกกระชับหน้าจึงต้องทำในชั้น SMAS ซึ่งจะอยู่ใต้ชั้นไขมัน
ความสำคัญของผิวหนัง
ผิวหนังเป็นอวัยวะที่ต้องให้ความสำคัญ เพราะไม่เพียงแต่ทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันร่างกาย แต่ยังมีความสำคัญอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น ควบคุมอุณหภูมิ รับรู้ความรู้สึก ผลิตวิตามินดี นอกจากนี้ยังช่วยรักษาสมดุลของน้ำในร่างกายด้วยครับ
ความสำคัญของคอลลาเจนและอิลาสตินในผิวหนัง
ในแง่ของความอ่อนเยาว์ คอลลาเจนและอิลาสตินในผิวหนังเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องรักษาไว้ให้นานที่สุด
คอลลาเจนและอิลาสตินเป็นโปรตีนที่สำคัญซึ่งผลิตในชั้นหนังแท้ ช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่น กระชับและแข็งแรง หากระดับคอลลาเจนและอิลาสตินลดลง จะทำให้เกิดริ้วรอย ความหย่อนคล้อย รวมถึงปัญหาผิวอื่น ๆ ที่เป็นสัญญาณความแก่ตามมา

หัตถการความงามในปัจจุบัน จึงมุ่งเน้นไปที่การทดแทนหรือกระตุ้นคอลลาเจนและอิลาสติน ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการแก้ไขปัญหาผิวแทบจะทั้งหมดเลยครับ
อ่านบทความเพิ่มเติม : ประโยชน์คอลลาเจน (Collagen) และวิธีเสริมสร้างคอลลาเจนให้ร่างกาย
ปัญหาผิวหนังที่พบบ่อย

เมื่ออายุมากขึ้น ประกอบกับละเลยการดูแลผิว อาจทำให้เกิดปัญหาเหล่านี้ขึ้นได้ เช่น
- ปัญหาสิวและสิวอุดตัน
- ปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ
- ปัญหาผิวแห้งและลอกเป็นขุย
- ปัญหารูขุมขนกว้าง หลุมสิว
- ปัญหาริ้วรอย ร่องลึก
- ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ
การเข้าใจโครงสร้างของผิวจะช่วยให้สามารถดูแลและเลือกใช้หัตถการที่เหมาะสมกับปัญหา ในหัวข้อถัดไป หมอจะอธิบายเกี่ยวกับวิธีดูแลผิวตามปัญหาที่กล่าวถึงข้างต้นครับ
วิธีดูแลผิวตามโครงสร้างของผิวหนัง
การดูแลผิวควรเริ่มจากการทำความสะอาดอย่างเหมาะสม ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับประเภทผิว และไม่ลืมที่จะให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว
นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง ทาครีมกันแดดสม่ำเสมอ และใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน เช่น วิตามินซี รวมถึงพิจารณาทำหัตถการเสริมความงาม ที่สามารถแก้ปัญหาในแต่ละชั้นผิวได้อย่างตรงจุดและเห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วครับ

ปัจจุบันมีหลายหัตถการความงามที่สามารถแก้ปัญหาผิวที่พบบ่อยได้อย่างปลอดภัยและเห็นผล โดยคนไข้ที่มาพบหมอ แต่ละคนก็จะมีปัญหา มีความกังวลใจเรื่องผิวแตกต่างกันออกไป เพื่อให้ง่ายขึ้น คนไข้สามารถประเมินความต้องการของตัวเองได้ในเบื้องต้น โดยแยกตามปัญหาหรือความต้องการ ซึ่งจะสัมพันธ์กับการดูแลตามโครงสร้างของผิวหนังครับ
- มีริ้วรอย ร่องลึก เช่น ร่องใต้ตา ถุงใต้ตา ร่องแก้ม ร่องมุมปาก
- ฉีดฟิลเลอร์ เป็นการเติมเต็มไฮยาลูโรนิค แอซิด เข้าไปในชั้นผิวหนังที่เสื่อมสภาพ ทั้งในผิวชั้นตื้นและชั้นลึก โดยฟิลเลอร์จะช่วยทดแทนไขมันที่หายไปและกระดูกที่ยุบตัวลง ช่วยยกผิวที่หย่อนคล้อย เติมริ้วรอยและร่องลึกให้ตื้นขึ้น และปรับรูปหน้าให้ดูมีสัดส่วนมากขึ้น เช่น คาง ขมับ และริมฝีปาก
หมอเคยเขียนอธิบายข้อมูลเกี่ยวกับฟิลเลอร์ มัดรวมทุกข้อมูลก่อนฉีดฟิลเลอร์ฉบับเข้าใจง่าย ไว้ในบทความก่อนหน้า สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ครับ
- ฉีดฟิลเลอร์ เป็นการเติมเต็มไฮยาลูโรนิค แอซิด เข้าไปในชั้นผิวหนังที่เสื่อมสภาพ ทั้งในผิวชั้นตื้นและชั้นลึก โดยฟิลเลอร์จะช่วยทดแทนไขมันที่หายไปและกระดูกที่ยุบตัวลง ช่วยยกผิวที่หย่อนคล้อย เติมริ้วรอยและร่องลึกให้ตื้นขึ้น และปรับรูปหน้าให้ดูมีสัดส่วนมากขึ้น เช่น คาง ขมับ และริมฝีปาก
- ริ้วรอยเยอะ เช่น ริ้วรอยหน้าผาก หว่างคิ้ว ตีนกา หางตา
- ฉีดโบท็อก จะทำในผิวหนังชั้นตื้น เพื่อเข้าไปคลายกล้ามเนื้อ ทำให้ผิวไม่เกิดรอยพับบริเวณที่แสดงสีหน้า ช่วยลดริ้วรอยบนใบหน้าได้เร็วกว่าการใช้ครีมหรือเซรั่ม รวมทั้งปรับรูปหน้า เช่น ฉีดโบท็อกลดกราม ลดขนาดกล้ามเนื้อกราม ทำให้ใบหน้าดูเล็กลง หรือ ฉีดโบท็อกลิฟต์กรอบหน้า ทำให้กรอบหน้าชัด ใบหน้ามีมิติมากขึ้น
- ผิวแห้ง ขาดน้ำ ลอกเป็นขุย รูขุมขนกว้าง ผิวไม่เรียบเนียน
- ฉีดฟิลเลอร์ Skin Booster ช่วยปรับสภาพผิวให้ดูสุขภาพดี โดยจะฉีดในผิวชั้นตื้นหรือชั้นผิวหนังแท้ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ทำให้ผิวอิ่มน้ำ เปล่งปลั่ง ลดริ้วรอยเล็ก ๆ ผิวเรียบเนียนขึ้น โดยฟิลเลอร์ในกลุ่มสกินบูสเตอร์ที่ได้รับความนิยม เช่น
- ผิวแก่ หย่อนคล้อย ขาดคอลลาเจน
- ฉีด Collagen Biostimulator หรือสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ปัจจุบันมีหลายตัวครับ เช่น Sculptra, Radiesse, Gouri แตกต่างกันที่ส่วนประกอบ เทคนิคการฉีด ปัญหาและสภาพผิวของคนไข้ โดยกระบวนการทำงานหลัก ๆ จะเข้าไปกระตุ้นเซลล์ให้สร้างคอลลาเจน ฟื้นฟูโครงสร้างชั้นลึกใต้ผิว ปรับปรุงคุณภาพผิวในหลายด้าน เช่น ความยืดหยุ่น ริ้วรอย ความกระจ่างใส ช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์
- มีริ้วรอยเล็ก ๆ หลุมสิวตื้น หน้าโทรม ผิวไม่กระจ่างใส ฉ่ำวาว (Glasskin)
- ฉีด Rejuran เป็นสารสกัด Polyneucleotide (PN) ที่ได้จาก DNA ของปลาแซลมอน สามารถฟื้นฟูผิวล้ำลึกถึงโครงสร้างของผิวหนังชั้นหนังแท้ โดยจะเข้าไปกระตุ้นให้ผิวหลั่ง Growth Factor เพื่อซ่อมแซมตัวเองอย่างเร่งด่วน ปรับสภาพผิวทั่วหน้า ใต้ตา หน้าผาก ร่องแก้ม ร่องมุมปาก รวมถึงลำคอ หลังมือ ให้ชุ่มชื้น เรียบเนียน สีผิวสม่ำเสมอ ริ้วรอยลดลง ผิวแข็งแรงขึ้นครับ
- ผิวแพ้ง่าย มีสิว ผดผื่น หมองคล้ำ รูขุมขนกว้าง
- ฉีดเมโสหน้าใส เป็นการบำรุงผิวเร่งด่วน ด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ ที่ดูดซึมได้ยากจากการทาครีมทั่วไป เมื่อฉีดเข้าไปในผิวชั้นหนังแท้โดยตรง จะทำให้ผิวแข็งแรง ชุ่มชื้น ขาวใส
เมโสหน้าใสมีหลายยี่ห้อครับ จุดเด่นแตกต่างกัน ดังนี้- Made Collagen เน้นลดสิว ลดผื่น ขับสารพิษให้ผิวแข็งแรงขึ้น
- Filorga เน้นงานผิวเนียนนุ่ม เติมความชุ่มชื้นให้ผิวอิ่มน้ำ
- Revs NCFS เน้นให้ความชุ่มชื่น ผิวอิ่มน้ำ ฉ่ำวาว
- Tensonez เน้นผิวหน้าขาวใส ลดฝ้า ลดจุดด่างดำ
- Neo-Glutanex Glow เน้นขาวใส ลดความหมองคล้ำ เพิ่มความชุ่มชื้น
- Alpha arbutin เน้นลดฝ้า ลดจุดด่างดำ ปรับเม็ดสีผิว
- ฉีดเมโสหน้าใส เป็นการบำรุงผิวเร่งด่วน ด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ ที่ดูดซึมได้ยากจากการทาครีมทั่วไป เมื่อฉีดเข้าไปในผิวชั้นหนังแท้โดยตรง จะทำให้ผิวแข็งแรง ชุ่มชื้น ขาวใส
- หน้าบาน แก้มเยอะ มีเหนียง คางสองชั้น
- ฉีดเมโสแฟต เป็นการฉีดตัวยาที่มีฤทธิ์ในการสลายไขมันเข้าไปในชั้นไขมันใต้ผิวหนัง เพื่อกระตุ้นการเผาผลาญและสลายไขมันสะสมเฉพาะจุด โดยเฉพาะบริเวณแก้ม เหนียง ช่วยปรับรูปหน้าให้ดูเรียวขึ้น กรอบหน้าชัดขึ้น โดยหลังฉีดไขมันจะสลายตัว 10-15% หากต้องการเห็นผลเร็วขึ้น หมอแนะนำเป็น LIPO VSQ ซึ่งเห็นผลกว่าแฟตทั่วไป 5 เท่า ตัวยามีความเข้มข้น สลายไขมัน พร้อมยกกระชับผิวครับ
- หน้าตก ผิวย้วย หย่อนคล้อย ไม่กระชับ กรอบหน้าไม่ชัด มีริ้วรอย
ถ้าไม่อยากฉีดหน้า เพราะกลัวเข็ม ก็สามารถเลือกฟื้นฟูผิวหน้าได้ด้วยเครื่องยกกระชับ ซึ่งสามารถจะยกกระชับหน้า ปรับรูปหน้าเรียว V-Shape กระตุ้นคอลลาเจน เพิ่ม Skin Quality ทำให้ผิวยืดหยุ่น เต่งตึง เรียบเนียน ดูอ่อนเยาว์
โดยในกลุ่มเครื่องยกกระชับมีหลายตัวครับ พลังงานที่ใช้แตกต่างกัน ลงลึกถึงครอบคลุมทุกชั้นผิว เช่น Hifu Ultraformer III, Ultraformer MPT และ Ulthera SPT พลังงานลงลึกถึงขั้น SMAS สามารถดึงหน้าได้โดยไม่ต้องผ่าตัด หรือ Thermage FLX พลังงานลงลึกถึงชั้นไขมัน สลายไขมันบริเวณแก้ม เหนียง ได้ตรงจุดครับ
สรุป โครงสร้างของผิวหนัง ความสำคัญ และการดูแล
โครงสร้างของผิวหนังประกอบด้วยชั้นผิวที่ทำหน้าที่แตกต่างกัน แต่ทุกชั้นผิวมีความสำคัญที่ต้องดูแล เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาผิวตามมา ไม่ว่าจะเป็นปัญหาผิวจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น หรือจากการละเลยการดูแลผิว การเข้าใจโครงสร้างของผิวหนัง จะช่วยให้สามารถดูแลผิวได้อย่างถูกวิธีไม่ว่าจะเป็นการดูแลด้วยตัวเอง หรือเข้าคลินิกเสริมความงามให้หมอดูแล เพื่อให้ผิวดูสุขภาพดี และคงความอ่อนเยาว์ไว้ได้นานที่สุดครับ
สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง Inbox Facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ
