Thermage
โปรแกรม Thermage (เทอมาร์จ) เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยยกกระชับผิวหย่อนคล้อย และลดริ้วรอยที่พบได้เมื่ออายุมากขึ้น รวมทั้งสลายไขมัน โดยเฉพาะบริเวณแก้มและเหนียงได้อย่างตรงจุด ช่วยให้ผิวหน้ากระชับได้รูป ผิวแน่นขึ้น หน้าเรียวขึ้นเหมาะสำหรับคนที่กลัวเข็ม กลัวการผ่าตัดครับ
ในบทความนี้ หมอจะพาไปเจาะลึกเกี่ยวกับโปรแกรม Themage พร้อมตอบคำถามที่หลายคนสงสัย Thermage คืออะไร ? ทำตำแหน่งไหนได้บ้าง ? เหมาะกับใคร ? ก่อนทำ Thermage ต้องเตรียมตัวอย่างไร ? และอีกหลาย ๆ คำถาม เพื่อจะได้เข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีนี้ ก่อนตัดสินใจทำครับ
Thermage คืออะไร ?
Thermage คือ เครื่องมือที่ช่วยในการช่วยยกกระชับผิว สลายไขมันบนใบหน้า และกระตุ้นคอลลาเจน ด้วยการยิงคลื่นวิทยุความถี่สูง (Monopolar RF) ลงไปในชั้นผิวหนัง ตั้งแต่ผิวชั้นบนจนถึงชั้นไขมัน พลังงานที่ปล่อยออกมาจะส่งผ่านความร้อนแบบ Column ทำให้สามารถสร้างความร้อนใต้ผิวหนังได้ลึกและทั่วถึงมากกว่าเครื่องมืออื่น ๆ
โดยความร้อนจะไปทำให้ผิวเกิดการหดตัว ลดเนื้อไขมัน และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ ทำให้ผิวแน่นกระชับขึ้นได้ในระยะยาว
นอกจากผลลัพธ์แล้ว เรื่องของความปลอดภัยก็มั่นใจได้ครับ เพราะเป็นเครื่องแท้ ได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา ประเทศสหรัฐอเมริกา หรือ U.S. FDA และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย.ไทย
Thermage อันตรายไหม ?
การทำ Thermage มีความปลอดภัยครับ ความถี่ของคลื่นวิทยุไม่เป็นอันตรายต่อผิวหนัง ในกรณีเกิดรอยแดงหรือบวมเล็กน้อย ถือเป็นอาการปกติจากความร้อนซึ่งเกิดขึ้นชั่วคราว หายได้เองใน 24 ชั่วโมง แต่ต้องเป็น Thermage เครื่องแท้ ถึงจะมั่นใจได้ในความปลอดภัย
อันตรายที่พบจากการทำ Thermage จะเกิดจากการใช้เครื่องปลอม เป็นเครื่องเลียนแบบ เครื่องจีน หน้าตาเครื่องถ้าคนไข้ไม่เคยเห็นมาก่อน อาจหลงเชื่อคำโฆษณาว่าเป็น Thermage ของแท้ หรือเป็นเทอร์มาจเครื่องแท้ แต่ใช้หัวยิงของปลอม ทำแล้วไม่เห็นผล หรือเกิดผลข้างเคียง เช่น ผิวไหม้ อักเสบ เกิดรอยดำ รอยบุ๋ม ผิวขรุขระ หรือใบหน้าเสียรูปทรงได้ครับ
ก่อนใช้เครื่อง Thermage จึงควรตรวจสอบก่อนครับว่าเป็นเครื่องแท้
- มีสติกเกอร์เครื่องแท้ติดอยู่หน้าคลินิก
- มีโล่ และประกาศนียบัตร ที่ออกโดย SOLTA MEDICAL
- มีสติกเกอร์เครื่องแท้ ติดไว้ด้านหน้าตัวเครื่อง
Thermage ทำตำแหน่งไหนได้บ้าง ?
Thermage ใช้ได้หลายส่วนในร่างกายทั้งหน้าและลำตัว แต่บริเวณที่นิยมใช้เทอร์มาจมากที่สุด คือ ใบหน้า และเหนียง เช่น คนที่หน้าอ้วน มีไขมันบริเวณแก้ม หรือคนที่มีเหนียงใต้คาง โดย Thermage จะช่วยลดเนื้อไขมัน ปรับผิวให้ตึงกระชับมากขึ้น กระตุ้นคอลลาเจน ทำให้ผิวแน่นขึ้น เพิ่ม skin quality (ผิวเด็ก) ริ้วรอย และรูขุมขนเล็กลงครับ
นอกจากนี้ Thermage ยังสามารถใช้ได้ผลดีกับหน้าท้อง และท้องแขน โดยแต่ละบริเวณนั้นจะใช้หัวยิงที่แตกต่างกัน ตามระดับความลึกของชั้นผิวตั้งแต่ 0-4.3 mm และไซซ์ของหัวยิงยังมีความแตกต่างกัน เพื่อให้เหมาะสมกับบริเวณที่ยิง
หน้าตอบ เนื้อไขมันน้อย ทำ Thermage ได้ไหม ?
ทำได้ครับ คนที่หน้าตอบ เนื้อไขมันน้อย อาจเกิดจากปัญหาความหย่อนคล้อยของผิวหนัง ที่เกิดจากคอลลาเจนใต้ผิวหนังเสื่อมสภาพลง เช่น แก้มหย่อนคล้อย โดยโปรแกรม Thermage จะช่วยกระตุ้นคอลลาเจน ทำให้ผิวเกิดความยืดหยุ่น ผิวแน่นกระชับและหนาขึ้นครับ
นอกจาก Thermage แล้ว ยังมีเครื่องมือยกกระชับอื่น ๆ เช่น Ulthera และ Hifu ที่สามารถกระตุ้นคอลลาเจนได้ แต่เนื่องจากใบหน้าของแต่ละคนมีความแตกต่างกัน แนวการยิงจึงไม่เหมือนกัน ต้องอาศัยแพทย์ที่มีประสบการณ์ซึ่งจะสามารถออกแบบ Vector ในการยิงได้อย่างเหมาะสม
Thermage มีกี่รุ่น ?
เครื่องทำเทอร์มาจ มีการพัฒนารุ่นใหม่ออกมาเรื่อย ๆ ครับ ตอนนี้มีอยู่ด้วยกัน 4 รุ่น หมอจะมาอัปเดต 2 รุ่นล่าสุด คือ Thermage CPT และ Thermage FLX ซึ่งเป็นรุ่นใหม่ล่าสุด พร้อมกับเปรียบเทียบข้อแตกต่างของ 2 รุ่นนี้ครับ
Thermage CPT
เป็นเครื่องรุ่นปี 2009 ใช้พลังงาน Monopolar RF หรือคลื่นวิทยุ เพื่อสร้างความร้อนให้แก่ผิวหนัง ทำให้ผิวเกิดการหดตัว และกระตุ้นคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ ทำให้ผิวแน่น และกระชับขึ้น รวมถึงช่วยสลายไขมัน
จริง ๆ ในหลักการทำงานของเครื่อง Thermage แต่ละรุ่น ไม่ค่อยแตกต่างกันครับ Thermage CPT ก็เช่นเดียวกัน แต่ถ้าเทียบความแม่นยำและผลลัพธ์แล้วถือว่าต่าง ด้วยจำนวน shot, หัว Total Tip, ระบบการทำงานงานของตัวเครื่อง, หน้าตาของเครื่อง ที่พอมีรุ่นใหม่ออกมา ก็ย่อมต้องมีการพัฒนาปรับปรุงให้มีความทันสมัย ประสิทธิภาพดีขึ้น แม่นยำ เห็นผลตรงจุดมากขึ้นครับ
Thermage FLX
เป็นเครื่องรุ่นใหม่ล่าสุดของ Thermage เจ็บน้อยกว่า Thermage CPT ซึ่งเป็นเครื่องรุ่นเก่า เพราะมีการคำนวณการปล่อยพลังงานในแต่ละจุดของใบหน้าที่แม่นยำขึ้น โดยมีเซนเซอร์วัดความร้อนบนผิว (AccuREP) เพื่อควบคุมการปล่อยพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในทุก shot ที่ยิง หัว Total Tip รุ่นใหม่ ยังทำให้การกระจายพลังงานดีขึ้นมาก ลงลึกขึ้นกว่าเดิม ใช้เวลาในการทำน้อยลง 25% ที่ V Square Clinic ใช้เครื่องรุ่นล่าสุดครับ
นอกจากนี้ยังมีหัวใหญ่สำหรับการกระชับผิวส่วนเกินตามแขน ขา และหน้าท้อง เหมาะสำหรับจุดที่มีปริมาณไขมันไม่มาก แต่มีผิวหนังส่วนเกินชั้นบนเยอะ เช่น คนที่ลดน้ำหนักแล้วผิวไม่กระชับ คนที่ดูดไขมันแล้วผิวไม่กระชับ หรือคุณแม่หลังคลอด
- Thermage Total Tip 4 cm2 หัวสีม่วง เหมาะสำหรับทำบริเวณใบหน้า เหนียง และลำคอ โดยสามารถยิงลงใต้ชั้นผิวได้ลึกกว่า Total Tip 3 cm2 ใช้เวลาในการทำน้อยลง 25% และมีความแม่นยำมากขึ้น
- Thermage Eye Tip 0.25 cm2 หัวสีเขียว เหมาะสำหรับทำบริเวณเปลือกตา และบริเวณรอบดวงตา
- Thermage Body Tip 16 cm2 หัวสีส้ม เหมาะสำหรับทำบริเวณลำตัว แขนขา หน้าท้อง
ทั้งนี้ แพทย์จะเป็นผู้ประเมินสภาพผิวและปัญหาของคนไข้ ก่อนจะเลือกใช้หัวแบบไหน เพื่อให้ได้ผลที่แม่นยำ แก้ปัญหาผิวได้ตรงจุดที่สุดครับ
จะรู้ได้อย่างไรว่าเราทำ Thermage จริง ไม่ใช่ RF
ถึงแม้ว่าเป็นเทคโนโลยีเดียวกัน แต่ประสิทธิภาพของเครื่อง ความลึก ความแม่นยำที่ลงสู่ผิวแตกต่างกันครับ แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าเราทำ Thermage จริง ๆ ไม่ได้ถูกคลินิกหลอกให้ทำ RF ? อันดับแรกให้ดูที่ตัวเครื่องก่อนเลยครับ เพราะหน้าตาเครื่องทำ RF ทั่วไปกับเครื่อง Thermage จะต่างกัน รวมถึงราคาก็ต่างกันด้วยครับ
Thermage Ulthera Hifu ต่างกันอย่างไร ? อย่างไหนดีกว่ากัน ?
Hifu Ulthera และ Thermage จะส่งพลังงานลงไปในใต้ผิว เพื่อให้เกิดความร้อน 45-70°C ในช่วงระยะเวลาหนึ่งทั้งหมด โดยแตกต่างกันที่ขนาดของจุดที่ focus
- Hifu macrofocus หรือ Hifu Ultraformer III เป็นจุดขนาด 0.5-1 mm พลังงานคงที่ คล้าย ๆ จุดไข่ปลาเล็ก ๆ เรียงกันเป็นเส้นตรงใต้ผิว ทำให้เกิดการหดของเนื้อเยื่อตามทิศทางของเส้น หมอสามารถจะออกแบบ Vector ในการยิง สามารถยิงเรียงเป็นเส้นตรงเพื่อยกกระชับผิวตามแนวที่ต้องการได้
- Ulthera เป็นจุดขนาด 1 mm ยิงลงลึกถึงใต้ผิวหนังชั้น smas (ชั้นเดียวกับการผ่าตัดดึงหน้า) ได้ผลแม่นยำ ตรงจุด เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวหน้าหย่อนคล้อย มีริ้วรอย ต้องการยกกระชับผิว ให้ดูอ่อนเยาว์ และปรับรูปหน้าให้มีกรอบหน้าชัด และผิวเรียบเนียน
- Thermage เป็นก้อนความร้อนขนาด 3-16 cm2 พลังงานจะครอบคลุมพื้นที่ได้ดีกว่าแบบจุด มีจุดเด่นในการลดชั้นไขมันที่ใบหน้า ผิวแน่นกระชับขึ้น และเพิ่ม Skin Quality (ผิวเด็ก) เหมาะสำหรับคนที่ทนความเจ็บได้ในระดับสูงจึงจะคุ้มค่าในการทำ
มีการเปรียบเทียบกันอยู่บ่อย ๆ ครับ สำหรับ 3 เครื่องนี้ เนื่องจากเป็นเครื่องมือที่ช่วยในการยกกระชับผิวได้เหมือนกัน แล้วเครื่องไหนดีกว่ากัน ? หมอสรุปอย่างนี้ครับว่า เนื่องจากแต่ละเครื่องมือจะมีจุดเด่นพิเศษเฉพาะตัว ที่ให้ผลลัพธ์การรักษาที่แตกต่างกัน
ก่อนอื่นแพทย์จะต้องประเมินปัญหา สภาพผิวหน้า ความต้องการของคนไข้ รวมถึงงบประมาณ ก่อนเลือกเครื่องมือที่เหมาะสม แก้ปัญหาได้ตรงจุด และได้ผลลัพธ์ที่ดีครับ
ข้อเสียการทำ Thermage
- อาจเกิดรอยแดงหลังทำ แต่สามารถหายได้เองใน 1-2 ชั่วโมง ไม่มีอาการแทรกซ้อนอื่น ๆ
- อาจเกิดผิวไหม้ (Burn) เพราะแพทย์อาจกำหนดคลื่นพลังงานความร้อนที่ไม่เหมาะสมกับผิวหนัง นานมากเกินไป หรือใช้เครื่อง Thermage ปลอมที่ไม่ได้คุณภาพ
- อาจเกิดใบหน้าเบี้ยว เพราะการส่งพลังงานไปกระทบกับเส้นประสาทบนใบหน้า
“ ข้อควรรู้ : การทำ Thermage ควรทำกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ ผ่านการอบรม Thermage FLX Physician Training และคลินิกที่ได้มาตรฐาน ซึ่งจะมั่นใจได้ในความปลอดภัย และผลลัพธ์ที่ออกมาครับ ”
ข้อดีการทำ thermage
Thermage มีการพัฒนาต่อเนื่องปรับปรุงให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ จึงค่อนข้างมั่นใจในประสิทธิภาพและผลลัพธ์ที่ได้ครับ
- หน้ากระชับได้รูป ผิวแน่นขึ้น ลดริ้วรอย
- สลายไขมันบริเวณใบหน้า เหนียง
- ใช้ได้ทั้ง ใบหน้า ลำคอ และลำตัว
- ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น หลังทำใช้ชีวิตได้ตามปกติ
- ผิวตึงกระชับขึ้น เห็นผลชัดเจนตั้งแต่เดือนที่ 2 ขึ้นไป
- ผลลัพธ์ยาวนาน 1-2 ปี (ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแล)
การเตรียมตัวก่อนทำ Thermage
- เตรียมผิวให้พร้อมด้วยการทาครีมบำรุงผิว หรือการทำทรีตเมนต์
- รับประทานอาหารที่ช่วยในการเสริมสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินให้กับผิว
- นอนพักผ่อนอย่างน้อยวันละ 8-10 ชั่วโมง
- 1 สัปดาห์ก่อนทำ งดรับประทานยาและวิตามินที่ทำทำให้เลือดออกง่าย
- งดการสูบบุหรี่
- งดดื่มแอลกอฮอล์ หรือดื่มคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ
ขั้นตอนการทำ Thermage
การทำ Thermage มีขั้นตอนในการทำง่าย สะดวก รวดเร็ว ไม่มีรอยแผล เริ่มจาก
- เช็ดทำความสะอาดผิวหน้าคนไข้ แปะยาชาก่อนทำประมาณ 30 นาที
- แพทย์ออกแบบตำแหน่งในการยกกระชับผิว
- เริ่มการทำ Thermage ใช้ระยะเวลาไม่นาน ประมาณ 40-90 นาที
- แพทย์ยิงพลังงานความร้อนลงชั้นผิวในบริเวณที่ต้องการ
- ระหว่างทำจะใช้ระบบสั่นและระบบปล่อยความเย็นที่หัวเครื่องมือ ทำให้คนไข้รู้สึกสบาย ลดความเจ็บปวด
- ทำจนครบตามจำนวน shot คือ 450 หรือ 900 shot
- หลังทำเห็นผลทันที 20%
สำหรับคนไข้ที่กลัวเจ็บ ฉีดยาชาเพิ่มได้ไหม ? หมออธิบายอย่างนี้ครับว่า การฉีดยาชาจะทำให้ความแม่นยำในการยิงลดลง เพราะยาชาที่เป็นน้ำไปรบกวนคุณสมบัติของเนื้อเยื่อ ทำให้เครื่อง Ultrasound และคลื่น RF (Radio Frequency) ขาดความแม่นยำ จึงทำให้ได้ผลน้อยกว่าปกติ
ส่วนการวางยาสลบนั้น ในระหว่างการใช้พลังงานหมอจะต้องดูตามความรู้สึกของคนไข้เป็นหลัก เพื่อป้องกันการเกิดความร้อนสะสมและการไหม้ของผิว ซึ่งหากคนไข้ไม่รู้สึกตัว ก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดความร้อนสะสมมากเกินไปจนผิวไหม้ขึ้นมาได้
ทั้งนี้ ในระหว่างทำ Thermage แพทย์จะสอบถามความรู้สึกร้อนของคนไข้เป็นระยะ ๆ เพื่อปรับค่าพลังงานให้เหมาะสม โดยแบ่งระดับความรู้สึกตั้งแต่ 0-4 ระดับ
- ระดับ 0-1 รู้สึกผิวสั่นอย่างเดียว แต่ไม่อุ่น = การรักษาจะได้ผลที่ต้องการน้อย
- ระดับ 2-2.5 ร้อนในระดับที่ทนได้ = ให้ผลลัพธ์หลังการรักษาที่ต้องการ
- ระดับ 3-4 ร้อนมากเกินไป = ให้ผลลัพธ์ชัดเจนกว่าระดับอื่น แต่อาจทำให้บาดเจ็บหรือเกิดผลข้างเคียงบ้างในบางรายที่ผิวแพ้ง่าย
Thermage ใช้เวลาในการทำนานไหม ?
Thermage ใช้เวลาทำประมาณ 40-90 นาที โดย Thermage 450 shot จะใช้เวลาประมาณ 40 นาที ถ้าใช้จำนวน Shot มากขึ้น เวลาก็จะเพิ่มมากขึ้น แต่ไม่เกิน 90 นาทีครับ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเทคนิคและความถนัดของแพทย์แต่ละคนด้วย
โดยเริ่มจากยิงพลังงานกระจายทั่วหน้า แบ่งตามจำนวน Shot ลงบนหน้าด้านซ้าย-ด้านขวา และเหลือจำนวน shot ไว้สำหรับจุดที่ต้องการเน้นย้ำ จากนั้นจะยิงพลังงานซ้ำเพื่อเน้นย้ำในบริเวณที่ต้องการยกกระชับเป็นพิเศษ กระตุ้นคอลลาเจน ในบริเวณที่มีความหย่อนคล้อยมาก เช่น แก้ม เหนียง กรอบหน้า
การดูแลหลังทำ Thermage
- หลังทำ Thermage สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ไม่ต้องพักฟื้น
- สามารถใช้ครีมบำรุง หรือแต่งหน้าได้ตามปกติ
- เน้นทาครีมบำรุงผิว ที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว
- เน้นทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 PA+++ ขึ้นไป
- หลีกเลี่ยงการโดดแดดจัด ๆ หลังทำประมาณ 2 สัปดาห์
- หลีกเลี่ยงความร้อน เช่น สตีม ซาวน่า 2 อาทิตย์
- งดทำทรีตเมนต์/เลเซอร์ร้อน/RF ลงผิวชั้นลึก ประมาณ 1 เดือน
Thermage ราคาเท่าไหร่ ?
โปรแกรม Thermage มีหลายราคาครับ ขึ้นอยู่กับปัญหาของคนไข้แต่ละเคส ถ้าหากต้องทำหลาย shot ราคาก็จะสูงขึ้นตามจำนวน shot ไปด้วยครับ
ราคา Thermage FLX
Thermage FLX ราคาโปรโมชั่น
โปรโมชั่น สำหรับผู้ติดตาม LINE@ และมีสติกเกอร์ “น้องดักกี้ V Square”
รอบดวงตา
- 450 shot ราคา 29,999.-
หัว FACE Tip 4.0 cm²
แก้ม+เหนียง
- 450 shot ราคา 30,000.-
ทั่วหน้า
- 900 shot ราคา 60,000.-
- รับฟรี Hifu Ultraformer III 200 Line**
- 1,800 shot ราคา 110,000.-
- รับฟรี Hifu Ultraformer III 400 Line**
หัว BODY Tip 16.0 cm²
หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา
- 2,000 shot ราคา 90,000.-
** HIfu Ultraformer III หัวยกกระชับใบหน้า
ปัจจุบันเราสามารถหาราคา Thermage ที่เหมาะสม และเปรียบเทียบราคาของแต่ละคลินิกได้โดยราคาจะไม่แตกต่างกันมากในแต่ละคลินิกครับ ถ้าหากราคาถูกเกินไปอาจใช้เครื่องที่ไม่ได้มาตรฐานหรือเครื่องเลียนแบบได้จึงต้องตรวจสอบให้มั่นใจก่อนตัดสินใจทำครับ
ทำไมจึงควรใช้ Thermage ก่อนโบท็อก ฟิลเลอร์
ในทางปฏิบัติแล้ว หมอจะแนะนำให้เติมโบท็อก ฟิลเลอร์ก่อนครับ เพราะหลังทำจะเห็นผลลัพธ์ทันที คนไข้รู้สึกพึงพอใจ จากนั้นจึงทำค่อยทำ Thermage เพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นครับ ซึ่งใครเหมาะกับหัตถการไหน แพทย์จะช่วยประเมินใบหน้าว่าในบริเวณที่ต้องการแก้ไข วิธีใดเหมาะสม หรือแนะนำให้ ทำคู่กัน 2 หรือ 3 หัตถการ เพื่อให้ได้ผลไวขึ้นได้ครับ
ทำไมจึงควรใช้ Thermage ก่อนศัลยกรรม
การทำ Thermage ไม่ใช่การผ่าตัด จึงเจ็บน้อยกว่า และไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้น ซึ่งถ้าใครที่กลัวเจ็บ กลัวการผ่าตัด หมอแนะนำให้ทำ Thermage ก่อนศัลยกรรมครับ
หรือใครที่ปัญหาผิวหย่อนคล้อย จากอายุที่มากขึ้น เส้นใยคอลลาเจนสูญเสียความยืดหยุ่น และปริมาณคอลลาเจนในชั้นผิวลดน้อยลง ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดริ้วรอยและความหย่อนคล้อย หมอส่วนใหญ่จึงนิยมนำ Thermage มาใช้แก้ไขปัญหา เพราะคนไข้ไม่ต้องเจ็บตัวจากการผ่าตัด ที่สำคัญการทำ Thermage จะกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ ซึ่งการผ่าตัดทำไม่ได้ครับ
Thermage อยู่ได้นานไหม ?
Thermage อยู่ได้นาน 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและอายุของคนไข้ หลังทำผิวกระชับขึ้นทันที 20% และค่อย ๆ ดีขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเวลาผ่านไป 2-3 เดือน เมื่อร่างกายสร้างคอลลาเจนเพิ่มขึ้น ก็จะช่วยให้ผิวกระชับขึ้นอีก ทำให้ผิวแข็งแรง กระชับและดูอ่อนกว่าวัย โดยผลลัพธ์จะเห็นชัดเจนในช่วงเดือนที่ 2-3 หลังทำ
Thermage ควรทำกี่ช็อต ?
ทำ Thermage กี่ shot ขึ้นอยู่กับปัญหา สภาพผิว และความต้องการของคนไข้ ก่อนทำหมอจะมีการประเมินก่อนทุกเคส เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
- Thermage FLX 450 shot (แก้ม+เหนียง) จะเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาความหย่อนคล้อย และไขมันสะสมไม่เยอะมาก ได้แก่ บริเวณรอบดวงตา แก้ม เหนียง และกรอบหน้า ทำให้ผิวแน่นขึ้น ตึงกระชับ กรอบหน้าชัด และริ้วรอยลดลง
- Thermage FLX 900 shot (ทั่วหน้า) จะเหมาะกับผู้ที่มีอายุมาก มีปัญหาความหย่อนคล้อย และริ้วรอยร่องลึกบนใบหน้าหลายจุดที่มองเห็นได้ชัดเจน ได้แก่ บริเวณใบหน้า ร่องแก้ม ใต้คาง และลำคอ ทำให้ริ้วรอยและร่องลึกต่าง ๆ ดูตื้นขึ้น ผิวหน้ากลับมาแน่นกระชับ อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นคอลลาเจน ทำให้หน้าดูอ่อนเยาว์
- Thermage FLX 900 shot (2 หัว และ 4 หัว) จะเหมาะกับผู้ที่ความเหี่ยวย่น และเซลลูไลท์สะสมบริเวณต้นแขน หน้าท้อง สะโพก และต้นขา
Thermage เจ็บไหม ?
จะรู้สึกเจ็บขณะทำครับ แต่เป็นความเจ็บในระดับที่ทนได้ เนื่องจากพลังงานจะส่งเข้าไปในทุกชั้นของผิว การทำ Thermage ให้ได้ผลดี จะต้องทนเจ็บได้ระดับหนึ่งถึงจะได้ผลดีและคุ้มค่า
Thermage FLX รุ่นล่าสุดนี้ จะเจ็บน้อยกว่ารุ่นเก่า (CPT) เพราะที่หัวจะมี Integrated cooling แบบใหม่ ช่วยปกป้องผิวด้านบนด้วยความเย็น ในระหว่างที่ปล่อยพลังงานออกมา ก็จะมีการปล่อยความเย็นออกมาด้วยเป็นระยะ ๆ ขณะที่ส่งความร้อนไปยังผิวชั้นลึก เพื่อลดโอกาส burn รวมทั้งมีระบบสั่น (Vibration) ทำให้รู้สึกสบายขณะทำมากขึ้น
สรุป
การทำ Thermage เป็นการใช้เทคโนโลยีที่ช่วยสลายไขมันโดยเฉพาะบริเวณแก้มและเหนียง และยกกระชับผิวที่ได้ผลคุ้มค่า เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ ผิวแน่นขึ้น ใบหน้ายกกระชับได้รูป ดูอ่อนเยาว์ขึ้น ริ้วรอยลดลง และคงผลลัพธ์อยู่ได้นาน 1-2 ปี ที่ V Square เป็นคลินิกที่ได้มาตรฐาน ทีมแพทย์มีประสบการณ์ และใช้เครื่องมือทันสมัย Thermage เครื่องแท้ มั่นใจได้ในผลลัพธ์และความปลอดภัยครับ
อ้างอิง
สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง Inbox Facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ