Thermage Flx กับ CPT
Thermage หรือเทอร์มาจ เป็นเครื่องมือยกกระชับ แก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย สลายไขมันสะสมใต้ผิวได้ชัดเจนที่สุด จนถึงปัจจุบันมีการผลิตออกมาแล้วทั้งหมด 4 รุ่นครับ โดย 2 รุ่นล่าสุดที่มีการใช้กันในคลินิกเสริมความงามชั้นนำ คือ Thermage FLX กับ CPT ในบทความนี้หมอจะพาไปดูความเหมือนและความแตกต่างระหว่าง 2 รุ่นนี้ เลือกรุ่นไหนดีกว่ากันครับ
Thermage Flx กับ CPT ต่างกันอย่างไร ?
Thermage FLX กับ CPT คือชื่อรุ่นของเครื่องมือเทอร์มาจ โดยเป็น 2 รุ่นล่าสุดที่ผลิตออกมา ผ่านการรับรองมาตรฐานจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (U.S. FDA) จึงมั่นใจได้ในเรื่องของความปลอดภัย แต่ถึงแม้จะเป็นเครื่องเทอร์มาจยกกระชับเหมือนกัน แต่ทั้ง 2 รุ่นพัฒนาออกมาห่างกันถึง 9 ปี จึงมีความแตกต่างกัน ดังนี้ครับ
1. จำนวนตารางเซนติเมตรต่อหัว
Thermage FLX หัวทิปขนาด 4 ตารางเซนติเมตร มีจำนวน shot อยู่ที่ 900 shot ส่วน Thermage CPT หัวทิปขนาด 3 ตารางเซนติเมตร มีจำนวน shot อยู่ที่ 1,200 shot แต่รวมตารางเซนติเมตรต่อหัวจะเท่ากัน
2. หน้าจอแสดงผล
Thermage fLX กับ CPT มีหน้าจอแสดงผล ซึ่งจะแสดงให้เห็นว่าใช้ไปแล้วกี่ shot แต่ Thermage FLX เป็นรุ่นที่ผลิตออกมาล่าสุดกว่า จึงพัฒนาให้เป็นหน้าจอแสดงผลแบบ Touch Screen
3. ขนาดและอายุการใช้งานของหัวทิป
Thermage FLX มีขนาดหัวทิปที่ใหญ่กว่า และมีอายุการใช้งานของหัวทิปอยู่ที่ 2 ชั่วโมง ด้วยความที่เครื่อง Thermage FLX สามารถคำนวณการปล่อยพลังงานในแต่ละจุดของใบหน้าได้แม่นยำขึ้น จึงใช้เวลาในการทำน้อยลง 25% เมื่อเทียบกับรุ่น CPT ที่มีอายุการใช้งานของหัวทิปอยู่ที่ 4 ชั่วโมง จึงใช้เวลานานกว่า
4. การประเมินผล
Thermage FLX มีเซ็นเซอร์วัดความร้อนบนผิว (AccuREP) เพื่อควบคุมการปล่อยหลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในทุก shot ที่ยิง มีความแม่นยำ และปรับพลังงานแบบเรียลไทม์ ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น ต่างจาก Thermage CPT ที่ต้องอาศัยประสบการณ์และความชำนาญของแพทย์ในการใช้เครื่อง เพื่อประเมินผลครับ
5. ระบบเย็นและระบบสั่น
Thermage FLXมีระบบ Pre and Post Cooling ที่ช่วยป้องกันไม่ให้อุณหภูมิใต้ผิวหนังมีความร้อนสะสมมากเกินไป ด้วยการปกป้องผิวด้านบนด้วยความเย็น
ในระหว่างที่ปล่อยพลังงานออกมา จะมีการปล่อยความเย็นออกมาด้วยเป็นระยะ ๆ ขณะที่ส่งความร้อนไปยังผิวชั้นลึก เพื่อลดโอกาส Burn รวมทั้งมี Vibration ระบบสั่น ทำให้รู้สึกสบายขณะทำมากขึ้น ส่วน Thermage CPT มีแต่ระบบ Pre Cooling เท่านั้น ดังนั้นจึงขึ้นอยู่กับประสบการณ์และความชำนาญของแพทย์ในการใช้เครื่องเป็นหลัก
6.ความเจ็บ
การทำเทอร์มาจ คนไข้จะรู้สึก Warm But Tolerate คือมีความอุ่นที่ผิว แต่ไม่ได้เจ็บจนทนไม่ไหว แม้ว่าจะยังไม่มีรายงานเปรียบเทียบความเจ็บปวดของคนไข้ที่ทำ Thermage FLX กับ CPT ว่าอันไหนเจ็บกว่ากัน แต่จากที่หมอได้สอบถามจากคนไข้ที่เคยทำทั้ง Thermage FLX กับ CPT จะรู้สึกว่า Thermage FLX เจ็บน้อยกว่า เพราะเครื่องสามารถคำนวณการปล่อยพลังงานในแต่ละจุดของใบหน้าได้แม่นยำ และใช้เวลาในการทำน้อยลง 25%
7. การใช้งาน
Thermage FLX แพทย์ไม่ต้องเปลี่ยนหัวสำหรับทำตัวและทำหน้า สามารถใช้หัวเดียวกันได้เลยครับ ในขณะที่ Thermage CPT จะมีหัวสำหรับทำตัวและทำหน้าแยกกัน
Thermage FLX กับ CPT เหมือนกันตรงไหนบ้าง ?
- มีหัวทำ 3 ลักษณะเหมือนกัน คือ หัวสำหรับทำตา (Eye Tip), หัวสำหรับทำหน้า (Face Tip) และหัวสำหรับทำตัว (Body Tip) แต่ Thermage FLX เพิ่มหัวทิปขนาด 4 cm2 เป็นหัวสีม่วง เหมาะสำหรับทำบริเวณใบหน้า เหนียง และลำคอ โดยสามารถยิงลงใต้ชั้นผิวได้ลึกกว่า ใช้เวลาในการทำน้อยลง 25% และมีความแม่นยำมากขึ้น
- มี Vibration ระบบสั่นที่ช่วยลดทอนความเจ็บให้เบาบางลงระหว่างที่ทำเหมือนกัน โดย ThermageFLX จะเพิ่มระบบการสั่นขึ้นมากกว่า Thermage CPT
- มี Cooling System ที่ปล่อยความเย็นให้ผิวชั้นบนระหว่าการทำ ระหว่างทำจะรู้สึกอุ่นที่ผิว ช่วยให้ผิวไม่เสี่ยงต่อการ Burn มีหน้าจอแสดงผลจำนวน shot ที่ใช้ไปได้เหมือนกัน แต่หน้าจอของ Thermage FLX จะเป็นแบบ Touch Screen
- เครื่อง Thermage FLX กับ CPT ทั้งสองรุ่นนี้ อยู่ได้นาน 1-2 ปีเหมือนกัน แต่ถ้าเทียบจำนวน shot แล้ว Thermage FLX ยิงจำนวน shot น้อยกว่า ได้ผลลัพธ์มากกว่า แม่นยำกว่า และเจ็บน้อยกว่า ครับ
- สามารถทำซ้ำได้ปีละ 1 ครั้งเหมือนกัน
Thermage FLX กับ CPT เหมาะกับใคร ? เลือกรุ่นไหนดี ?
การทำ thermage หลัก ๆ คือจะช่วยลด volume ของใบหน้า ทำให้หน้าเรียวขึ้น จึงเหมาะกับคนที่มีไขมันบริเวณใบหน้าเยอะ ยิ้มแล้วมีความรู้สึกหน้าอูม ๆ คนที่อายุมาก มีหนังห้อยย้อย ผิวที่มีริ้วรอยย่นมาก ๆ ขาดคอลลาเจน หรือคนที่มีไขมันกองในบริเวณคาง หรือที่เราเรียกกันว่ามีเหนียง ก็จะเหมาะกับการทำ Thermage ครับ
- ลดแก้ม ลดเหนียง หน้าเรียว
- ผิวเนียนขึ้น แน่นกระชับ
- ใบหน้าดูอ่อนเยาว์
- กระตุ้นคอลลาเจน
- ยกกระชับผิว
การทำ Thermage ยังสามารถทำร่วมกับหัตถการอื่น ๆ ได้ โดยทำ Thermage ก่อน แล้วค่อยฉีดโบท็อกหรือฟิลเลอร์เพื่อแก้ปัญหาหรือเก็บรายละเอียดอีกครั้ง ซึ่งหมอจะประเมินเป็นรายเคสครับ
สำหรับใครที่กำลังคิดว่าจะเลือกเทอร์มาจรุ่นไหนดี ระหว่าง Thermage FLX กับ CPT หมอได้เปรียบเทียบความแตกต่างของ Thermage ทั้ง 2 รุ่นนี้มาเพื่อประกอบการตัดสินใจครับ
ในแง่ของประสิทธิภาพ เครื่อง Thermage FLX เป็นเครื่องรุ่นใหม่ล่าสุดที่ผลิตเมื่อปี 2018 ส่วน Thermage CPT ผลิตเมื่อปี 2009 ระยะเวลาห่างกัน 9 ปี จึงมีการพัฒนาทั้งตัวเครื่องและเทคโนโลยีให้มีความทันสมัยมากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของความแม่นยำสูง ปรับพลังงานแบบเรียลไทม์ ระยะเวลาการทำที่สั้นกว่า แต่ผลลัพธ์ที่อยู่ได้นาน 1-2 ปีครับ ที่ V Square Clinic จึงเลือกใช้รุ่นนี้ครับ
Thermage FLX กับ CPT ราคาแตกต่างกันไหม ?
ในปัจจุบันเราสามารถหา Thermage ราคาที่เหมาะสม และเปรียบเทียบราคาของแต่ละที่ได้ง่าย ๆ ราคาจะไม่แตกต่างกันมากในแต่ละคลินิกครับ ราคาต่อครั้ง Thermage FLX แพงกว่า CPT อย่างน้อย 2 -3 เท่า ถ้าหากราคาถูกเกินไปอาจใช้เครื่องที่ไม่ได้มาตรฐานหรือเครื่องเลียนแบบได้ จึงต้องตรวจสอบให้มั่นใจก่อนตัดสินใจครับ
โปรแกรม Thermage รุ่น FLX
โปรโมชั่นสำหรับผู้ติดตาม LINE@ และมีสติ๊กเกอร์ “น้องดักกี้ V Square”
EYE Tip 0.25 cm²
- รอบดวงตา
- 450 shot ราคา 29,999.-
FACE Tip 4.0 cm²
- แก้ม+เหนียง
- 450 shot ราคา 30,000.-
- ทั่วหน้า
- 900 shot ราคา 60,000.-
- รับฟรี Hifu Ultraformer III 200 Line**
- 1,800 shot ราคา 110,000.-
- รับฟรี Hifu Ultraformer III 400 Line**
BODY Tip 16.0 cm²
- Body
- 2,000 shot ราคา 90,000.-
สรุป
Thermage เป็นเครื่องมือที่เน้นแก้ไขปัญหาผิวหย่อนคล้อย ช่วยลดไขมันสะสมใต้ผิวได้ชัดเจน โดย Thermage FLX เจ็บน้อยกว่า Thermage CPT ซึ่งเป็นรุ่นเก่า คำนวณการปล่อยพลังงานในแต่ละจุดของใบหน้าได้แม่นยำขึ้น และใช้เวลาในการทำน้อยลง 25% ครับ
ข้อดีของ Thermage FLX
- ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น หลังทำสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ
- ใช้เวลาทำไม่นาน ประมาณ 40-90 นาที
- ผิวตึงกระชับทันทีและจะเห็นผลชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ตั้งแต่เดือนที่ 2 ขึ้นไ
- เห็นผลยาวนาน 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการบำรุงผิวแต่ละบุคคล
นอกจาก Thermage FLX แล้ว ยังมีเครื่องมือยกกระชับใบหน้าอื่น ๆ ที่สามารถแก้ปัญหาปัญหาผิวหย่อนคล้อยและลดริ้วรอยได้ครับ โดยแพทย์จะประเมินปัญหาและเลือกวิธีการรักษาแก้ปัญหาได้ตรงจุด เหมาะสมกับงบประมาณ และได้ผลลัพธ์ที่ดีครับ
อ้างอิง
สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้ง 30 สาขา หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ