ร้อยไหมแบบไหนดี
ร้อยไหมแบบไหนดี ผลลัพธ์จึงออกมาคุ้มค่าและปลอดภัย สำหรับการร้อยไหมคนไข้หลายคนได้สอบถามเข้ามาบ่อยครับว่าเลือกไหมชนิดไหนดีสุด เพราะชนิดของไหมนั้นมีให้เลือกหลายแบบ มีทั้งวัสดุ, ลักษณะเส้นไหม, คุณสมบัติของไหมแต่ละชนิด รวมไปถึงราคาที่ต่างกัน
ในบทความนี้หมอจะมาให้คำตอบว่าร้อยไหมแบบไหนดี? ร้อยไหมมีกี่แบบ? แต่ละแบบต่างกันอย่างไร? รวมไปถึงการเลือกคลินิกร้อยไหมที่ไหนดี ผลลัพธ์จึงจะออกมาปลอดภัยและคุ้มค่าครับ
ร้อยไหมมีกี่แบบ
ไหมที่ใช้ในปัจจุบันจะมีด้วยกันอยู่ 2 แบบครับ คือไหมละลาย และไหมไม่ละลาย สำหรับไหมที่คลินิกส่วนใหญ่เลือกใช้จะเป็นไหมละลาย เนื่องจากเป็นไหมที่ได้รับการรับรองว่ามีความปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียงหรือภาวะแทรกซ้อนครับ ซึ่งไหมละลายที่ใช้ในปัจจุบัน เราสามารถแบ่งได้ 2 แบบ คือตามวัสดุและลักษณะของเส้นไหม ดังนี้
- PDO (Polydioxanone) ละลายหมดภายใน 4-5 เดือน เส้นสีน้ำเงิน มีอายุการใช้งานน้อยที่สุด ยืดหยุ่นปานกลาง นิ่ม ไม่เปราะ ขณะที่ร้อยจะไม่รู้สึกระคายเคือง
- PLLA (Polylactate) ละลายหมดภายใน 12-18 เดือน เส้นสีขาวใส มีจุดเด่นคือความแข็ง ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ดี แต่ขาดความยืดหยุ่น อาจจะพบปัญหา ไหมขาด ไหมทะลุได้บ่อย จึงไม่ค่อยนิยมใช้
- PCL (Polycaprolactone) ละลายหมดภายใน 18-24 เดือน เส้นสีขาวขุ่น จุดเด่นคือมีความยืดหยุ่นสูงที่สุด แข็งทน ไม่เปราะหักง่าย เส้นใหญ่ที่สุด เนื่องจากมีส่วนผสมของ PLLA ในสัดส่วนที่เหมาะสม จึงทำให้ PCL+PLLA เป็นวัสดุเส้นไหมที่ดีที่สุดในตอนนี้ และนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน
ปัจจุบันไหม PCL+PLLA เป็นวัสดุเส้นไหมที่ดีที่สุด และนิยมใช้มากที่สุดครับ เนื่องจากมีการพัฒนาคุณภาพโดยการนำไหม PCL มาผสมกับไหม PLLA ในสัดส่วนที่พอเหมาะ และจากประสบการณ์ของหมอแล้วพบว่าไหมที่ดึงหน้าได้ดีที่สุดคือ ไหมเงี่ยงใหญ่ หรือไหม PCL ซึ่งที่ V Square Clinic จะเลือกใช้ ไหมก้างปลาที่ดีที่สุดเท่านั้นครับ
1. ไหมกรวย (Silhouette Soft)
- ไหมกรวย ชื่ออื่น เช่น ไหมเทอร์โบ, ไหมโคน, ไหม Silhouette, ไหมกรวยซิลลูเอท, ไหม PGA
- เป็นไหมที่มีปมติดเป็นระยะ ๆ ลักษณะคล้ายโคนหรือกรวย
- ช่วยในการยกกระชับใบหน้า เห็นผลหลังทำทันที แต่ต้องใช้เข็มใหญ่ โอกาสบวมช้ำสูง จึงใช้เวลาพักฟื้นนานกว่าไหมเงี่ยง
- ใช้ประมาณ 2-8 เส้น ต่อการทำแต่ละบริเวณ
- อยู่ได้ 8-10 เดือน
- ข้อเสียคือมีราคาสูง เมื่อเทียบกับไหมชนิดอื่นๆ
2. ไหมเงี่ยง (Barbed threads/ Cog threads)
- ไหมเงี่ยง ชื่อทางการแพทย์คือ bidirectional barbed thread ชื่ออื่น เช่น ไหมก้างปลา, ไหมเงี่ยงกุหลาบ,ไหมก้างปลา 8D, ไหม Rose, ไหมฟันฉลาม, ไหมจระเข้, ไหมปิรันย่า, ไหมล็อค,ไหมค็อก ฯลฯ
- เป็นไหมละลายที่มีเงี่ยงยื่นออกมา แบ่งออกตามขนาดเส้นไหม คือไหมเงี่ยงใหญ่และไหมเงี่ยงเล็ก
- มีลักษณะเหมือนตะขอ มีทั้งแบบเงี่ยง 1 ทิศทางและ 2 ทิศทาง เมื่อสอดเข้าไปใต้ผิวหนัง จะดึงรั้งเนื้อเยื่อผิวได้ดี ใช้ในการยกกระชับแก้มที่หย่อน ลดแก้มตอบ เพิ่มความคมชัดให้กรอบหน้า และเป็นที่นิยม
- ใช้ประมาณ 6-12 เส้นต่อการยกกระชับแก้มทั้ง 2 ข้าง
- อยู่ได้ 4-12 เดือน ขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้
3. ไหมเกลียว (Screw Threads /Tornado Threads)
- ไหมเกลียว ชื่ออื่น เช่น ไหมสปริง, ไหมทอร์นาโด ฯลฯ
- เป็นการใช้ไหม 1-2 เส้นพันเป็นเกลียวก่อนสอดเข้าใต้ผิวหนัง เพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับเส้นไหม
- ใช้เพื่อเติมเต็มผิวที่ยุบ เป็นแอ่ง ช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนให้เรียบตึงขึ้น ช่วยปรับรูปหน้า ริ้วรอยบางจุด หรือต้องการยกแก้มบริเวณแก้มส้ม
- ใช้ประมาณ 6-8 เส้นต่อหนึ่งจุดที่ทำ
- อยู่ได้ประมาณ 8 เดือน
4. ไหมเรียบ (Mono threads)
- ไหมเรียบ ชื่ออื่น เช่น ไหมคอลลาเจน, ไหมมิราคุ, ไหมสเต็มเซล, ไหม ruby, ไหมทับทิม ฯลฯ
- เป็นไหมละลายเส้นเรียบที่ไม่มีเงี่ยงหรือเป็นเกลียว เป็นไหมชนิดแรกๆ ที่นำมาใช้
- ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนมาเติมผิวคล้ายๆ ฟิลเลอร์ ช่วยลดริ้วรอยในบางจุดช่วยให้ชั้นผิวฟูขึ้น ช่วยกระชับผิวได้เล็กน้อย
- มักใช้ร้อยเพิ่มเติมร่องใต้ตา ริ้วรอยหน้าผาก ลดความหย่อนคล้อยที่คอ
- ใช้ประมาณ 10-20 เส้นต่อหนึ่งจุดที่ทำ
- จะเห็นผลในช่วง 4-5 เดือน อยู่ได้ประมาณ 8 เดือน
5. ไหมมิ้นท์ (Mint Lift)
- ไหมมิ้นท์ เป็นไหมละลายชนิดล่าสุดที่ได้มีการพัฒนาเพื่อช่วยในเรื่องการยกกระชับหน้าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
- เส้นไหมจะมีลักษณะพิเศษคือสามารถหมุนได้ 360 องศา เพื่อช่วยในการยึดเกาะเนื้อเยื่อได้หลายทิศทาง
- ตัวไหมแข็งแรง ไม่เปราะง่าย เห็นผลดีในการยกกระชับหน้า ผ่าน อย.
- อยู่ได้ประมาณ 6-8 เดือน
6. ไหมตาข่าย (TessliftSoft)
- ไหมตาข่าย เป็นไหมละลายที่มีคุณสมบัติเด่นในเรื่องความแข็งแรงของเส้นไหม ทนแรงต้านได้ดีกว่าไหมทั่วไปถึง 80 เท่า
- การใช้ไหมตาข่าย 1 เส้น เทียบเท่ากับการร้อยไหม 2 เส้น ทำให้สามารถช่วยในเรื่องการยกกระชับและพยุงผิวที่หย่อนคล้อยได้ดี
- ผ่านการรับรองจาก CE Approved (European Conformity)
- ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เห็นผลเร็วและอยู่ได้นาน
- อยู่ได้ประมาณ 8-12 เดือน
ร้อยไหมที่ไหนดี จึงจะปลอดภัยและเห็นผลลัพธ์ที่คุ้มค่า
ร้อยไหมที่ไหนดี? V Square Clinic เป็นคลินิกปรับรูปหน้ายอดนิยมที่มุ่งเน้นและให้ความสำคัญเกี่ยวกับความปลอดภัยและคุณภาพเป็นอันดับหนึ่ง เพื่อเป็นคลินิกความงามที่ได้มาตรฐานระดับโลก ผู้รับบริการรู้สึกมั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัย
ปัจจุบัน V Square Clinic มีคลินิกเปิดให้บริการครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ และมีทีมแพทย์มากประสบการณ์คอยให้คำแนะนำการปรับรูปหน้าโดยตรง ไม่ผ่านเซลล์ เพื่อเลือกหัตถการที่เหมาะสมกับปัญหาและสภาพผิวของแต่ละคน มีการติดตามหลังการรักษาทุกเคสครับ
- V Square Clinic จะเลือกใช้ไหมที่ได้การรับรองความปลอดภัยจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และ FDA จากอเมริกา
- ทีมแพทย์มีประสบการณ์การปรับรูปหน้าโดยเฉพาะ และใช้เทคนิคเฉพาะที่ทำให้ผลลัพธ์ที่ออกมาดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด
- คลินิกเปิดให้บริการถูกต้องตามกฎหมาย ได้มาตรฐาน มีป้ายชื่อสถานพยาบาล และเลขที่ใบอนุญาต จำนวน 11 หลัก ติดไว้หน้าคลินิก มีใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล และใบอนุญาตให้ดำเนินการสถานการพยาบาล ติดไว้ในที่เปิดเผยและเห็นได้ง่ายในคลินิก
- มีหลากหลายช่องทางในการติดต่อ เพื่ออำนวยความสะดวก สามารถปรึกษาหรือสอบถามเกี่ยวกับหัตถการต่าง ๆ กับแพทย์ได้โดยตรง เช่น V Square Clinic , inbox facebook หรือ Line
- มีรีวิวที่น่าเชื่อถือจากผู้ใช้บริการจริงที่เป็นปัจจุบัน มีทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว เพื่อให้เห็นความชำนาญของแพทย์ขณะทำหัตถการ
- มีการนัดหมายติดตามผลหลังทำเคส แสดงถึงความใส่ใจและสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้บริการ
- ปรึกษาฟรี สามารถส่งรูปหน้าให้แพทย์ประเมินปัญหาก่อนได้ในเบื้องต้น ก่อนนัดหมายคิวหรือ Walk-in เข้าไปที่สาขา
สรุป
การเลือกร้อยไหมแบบไหนดีสุด หมอจะเป็นคนแนะนำให้ครับ เพราะหมอจะทำการประเมินใบหน้า และวิเคราะห์โครงหน้าของคนไข้ เพื่อเลือกชนิดของไหม จำนวนไหมที่ใช้ และมีเทคนิคการวางตำแหน่งร้อยไหมได้อย่างถูกต้อง เพื่อให้เกิดการบวมช้ำน้อยที่สุด และได้ผลออกมาดูเป็นธรรมชาติ
สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้ง 30 สาขา หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ